“ข้าเคยได้ยินมาว่าคริสตัลไลเซอร์นั้นเป็นเผ่าพันธุ์ที่พึ่งพาเทคโนโลยี ไม่อยากเชื่อเลยว่าร่างกายของพวกเขาจะแข็งแกร่งถึงขนาดนี้”
จิ้งจอกหญิงพูดด้วยความแปลกใจ “และนั่นไม่ใช่ข้อดีเพียงอย่างเดียวของเขา พละกำลังทางกายภาพเป็นเพียงแค่หนึ่งในเหตุผลที่ทำให้เขาแข็งแกร่ง เขาไม่ใช่สิ่งมีชีวิตไร้สมองที่จะต่อสู้โดยใช้พละกำลังเพียงอย่างเดียว”
“เจ้ายังคิดว่าจะเอาชนะเขาได้อยู่ไหม?” จิ้งจอกผู้หญิงพูดขณะที่มองไปที่เชลด้วยความสนใจ
“ข้าจะไม่แพ้” เชลยังคงดูสงบนิ่งเหมือนเดิมในตอนที่เขาพูดออกมา
ครึ่งเทพทั้งสี่คนไม่รู้ว่าจะทำยังไงดี ถึงแม้พวกเขาจะร่วมมือกัน แต่พวกเขาก็ยังไม่สามารถเอาชนะหานเซิ่นได้ นอกจากนั้นหานเซิ่นยังกำลังเป็นฝ่ายที่ได้เปรียบ
พวกเขาถือเป็นหนึ่งในครึ่งเทพที่เก่งกาจที่สุด โดยปกติแล้วพวกเขาจะเอาชนะครึ่งเทพได้อย่างสบายๆ แต่ทว่าตอนนี้พวกเขากำลังจะแพ้ในการต่อสู้แบบสี่รุมหนึ่ง และคู่ต่อสู้ของพวกเขาก็เป็นแค่ระดับราชันขั้นที่เก้าเท่านั้น
หลี่เคอเอ๋อและเอ็กซ์ควิสิทก็แปลกใจเช่นเดียวกัน พวกเธอสัมผัสได้ถึงความแข็งแกร่งของหานเซิ่น พวกเธอได้รับประสบการณ์เสมือนกับว่าพวกเธอกำลังเป็นคนที่ต่อสู้แบบเดียวกันกับเขา
สิ่งที่น่าแปลกก็คือเรื่องที่หานเซิ่นไม่มีความสนใจจะทำการต่อสู้ด้วยวิชาจีโนและพละกำลัง มันเหมือนกับว่าเขากำลังเล่นเกมส์หมากรุก การมองดูเขาเดินหมากนั้นเป็นเรื่องง่าย และการเดินแต่ละตาก็ไม่ได้ยุ่งยากอะไร แต่การจะรวมการเดินหมากทั้งหมดเข้าด้วยกันเพื่อจำลองยุทธวิธีของเขาขึ้นมานั้นเป็นเรื่องที่ยากมากๆ มันไม่ใช่สิ่งที่จะลอกเลียนได้จากการมองดูเพียงอย่างเดียว
“วิธีการต่อสู้นี้คล้ายคลึงกับเวรี่ไฮเซ้นส์ แต่หานเซิ่นฝึกแค่วิชาใต้นภา เขาไม่ได้อ่านตำราไร้อักษรทั้งหมดด้วยซ้ำ แต่เขาก็ทำเรื่องทั้งหมดนี่ได้ พรสวรรค์ของเขาเป็นอะไรที่น่ากลัวจริงๆ” หลี่เคอเอ๋อพูด
เอ็กซ์ควิสิทพยักหน้าและพูด “นี่ถือเป็นเรื่องที่ดี มันจะช่วยให้พวกเราเชี่ยวชาญในวิชาเวรี่ไฮเซ้นส์มากขึ้น”
ปัง!
กระสุนพุ่งไปถูกแขนของมนุษย์ตั๊กแตนและระเบิดด้วยพลังที่น่ากลัวของเบรกซิกซ์สกาย มันส่งมนุษย์ตั๊กแตนกระเด็นออกไป พวกเขาทั้งสี่ไม่ได้เหมือนกับกรู มันมีช่องโหว่ในวิธีการต่อสู้ของพวกเขา ดังนั้นเมื่อหานเซิ่นพบโอกาสที่จะสร้างระยะห่างระหว่างเขากับคู่ต่อสู้ได้ เขาก็เริ่มเหนี่ยวไกออกไป
ในตอนแรกหานเซิ่นอยู่ใกล้กับคู่ต่อสู้มากเกินกว่าจะใช้พลังของเบรกซิกซ์สกายได้ เนื่องจากกลัวว่าจะระเบิดตัวเองไปด้วย ด้วยเหตุนั้นเขาจึงใช้วิชาจีโนที่มีพลังทำลายล้างน้อยกว่าเป็นเชื้อเพลิง แต่ตอนนี้เมื่อเขาสร้างระยะห่างได้แล้ว เขาก็ไม่จำเป็นต้องกังวลอีกต่อไป
กระสุนถูกยิงออกไป และพลังที่น่ากลัวก็ระเบิดใกล้ๆกับครึ่งเทพทั้งสี่คน พวกเขายกมือขึ้นปิดหัวของตัวเองขณะที่วิ่งหนีเอาตัวรอดราวกับหนู พวกเขาไม่กล้าเข้าไปใกล้หานเซิ่นอีกต่อไป
กระสุนที่อัดแน่นไปด้วยพลังของเบรกซิกซ์สกายนั้นไม่ใช่สิ่งที่พวกเขาจะทนรับได้ ตอนนี้พวกเขาไม่กล้าจะต่อสู้อีกต่อไป พวกเขาพยายามจะวิ่งให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้เพื่อจะออกจากรัศมีการโจมตีของหานเซิ่น
หานเซิ่นไม่ได้ไล่ตามไป เขารอคอยจนกระทั่งคู่ต่อสู้ออกไปไกลมากพอก่อนที่เขาจะประสานมือของตัวเองเข้าด้วยกัน เขาเปลี่ยนปืนคู่ให้กลายเป็นปืนไรเฟิล
หานเซิ่นยกปืนไรเฟิลขึ้นและเล็งไปที่มนุษย์ตั๊กแตน หลังจากนั้นเขาก็เหนี่ยวไก
ปัง!
กระสุนลูกหนึ่งพุ่งผ่านอากาศไป มนุษย์ตั๊กแตนรู้สึกได้ถึงพลังที่กำลังตรงเข้ามา แต่เขารู้ว่าไม่สามารถใช้แขนป้องกันมันได้
ก่อนหน้านี้ที่เขาใช้แขนป้องกันพลังของหานเซิ่นได้นั้นเป็นเพราะพลังเสริมจากอาณาเขตของเอ็กซ์ตรีมคิง แต่ตอนนี้เมื่อพวกเขาหนีกันไปคนละทิศละทาง มันก็ไม่มีใครกล้าจะต่อสู้โดยปราศจากการสนับสนุนของคนอื่น
ทันใดนั้นมนุษย์ตั๊กแตนก็กางปีกออกและพาเขาหนีไปกว่าหนึ่งกิโลเมตรในชั่วพริบตา เขาคิดว่านั่นจะทำให้หลบกระสุนได้สำเร็จ แต่กระสุนนั้นเปลี่ยนวิถีกลางอากาศและพุ่งตามเขาไป แถมมันยังดูเหมือนจะเร่งความเร็วขึ้นอีกด้วย
ใบหน้าของมนุษย์ตั๊กแตนซีดเผือก เขาพยายามจะบินวนไปวนมา แต่ไม่ว่าเขาจะเคลื่อนที่ไปในทิศทางไหน การโจมตีของหานเซิ่นก็ยังคงติดตามเขาราวกับกระสุนตรวจจับความร้อน ความเร็วของมันเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องขณะที่มันไล่ตามเขา ถ้ายังเป็นแบบนี้ต่อไปมันก็จะตามมนุษย์ตั๊กแตนทันในที่สุด
มนุษย์ตั๊กแตนกัดฟันและหนีลงไปในหลุมหลังภูเขาลูกหนึ่ง หลังจากนั้นเขาก็หันกลับมาจ้องภูเขาที่อยู่ด้านหลัง
ปัง!
กระสุนเจาะทะลุภูเขาเข้ามาโดยที่ไม่ระเบิด และในชั่วพริบตามันก็มาอยู่ตรงหน้ามนุษย์ตั๊กแตน มนุษย์ตั๊กแตนนั้นเตรียมตัวจะรับแรงระเบิดในตอนที่กระสุนชนเข้ากับภูเขา แต่กระสุนนั้นไม่ได้ระเบิดออก ซึ่งทำให้เขารู้สึกตกใจ
มนุษย์ตั๊กแตนยกแขนขึ้นมาป้อง เขาใส่พลังทั้งหมดเข้าไปในแขนของตัวเองเพื่อจะตั้งรับกระสุนที่เข้ามา
ปัง!
กระสุนพุ่งทะลุแขนของมนุษย์ตั๊กแตนไปได้อย่างง่ายดาย หลังจากนั้นมันก็พุ่งตรงเข้าไปที่หัวของมนุษย์ตั๊กแตนและระเบิดออกมา
ขณะที่ร่างของมนุษย์ตั๊กแตนล้มลงไปกับพื้น ตัวไหมคนอื่นและผู้ชมที่ดูอยู่ก็รู้สึกสยดสยอง
มนุษย์ตั๊กแตนเป็นหนึ่งในครึ่งเทพที่แข็งแกร่งที่สุดในจักรวาล แต่กระสุนของหานเซิ่นเพิ่งจะฆ่าเขา ขณะที่เขาพยายามจะหนีอย่างสุดชีวิต กระสุนนั้นเป็นอะไรที่แปลกประหลาด จนทำให้ผู้คนที่ได้เห็นมันรู้สึกตกใจไปตามๆกัน
“อาวุธจีโนของเขาคืออะไรกันแน่? ทำไมมันถึงได้แปลกประหลาดและทรงพลังขนาดนั้น? มันพุ่งผ่านทั้งภูเขาและแขนของมนุษย์ตั๊กแตน แต่มันก็ยังฆ่าเขาได้สำเร็จ!” หลี่เสวี่ยเฉิงแปลกใจ
“มันไม่สำคัญว่าเขาจะแข็งแกร่งสักแค่ไหน เขายังคงไม่แข็งแกร่งเท่ากับระดับเทพเจ้า” แต่ถึงจะพูดอย่างนั้น ใบหน้าของหลี่อวี้เจินกำลังทรยศคำพูดของเขา
ผู้อาวุโสโอเพ่นสกายหัวเราะออกมา “พลังทำลายล้างนั่นทำให้เขาใกล้เคียงกับสิ่งมีชีวิตระดับเทพเจ้า! ก่อนหน้านี้มันอาจจะดูเหมือนเป็นไปไม่ได้ที่จะเอาชนะเชล แต่ในตอนนี้เชลถูกลดลงมาสู่ระดับราชัน และด้วยพลังที่หานเซิ่นเพิ่งจะแสดงออกมา มันก็มีโอกาสสูงที่เขาจะเป็นผู้ชนะ”
ทุกคนตกใจกับกระสุนที่น่าสะพรึงกลัวของหานเซิ่น ครึ่งเทพอีกสามคนที่เหลือวิ่งหนีอย่างรวดเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ พวกเขากลัวว่าหานเซิ่นจะยิงใส่พวกเขาด้วยเช่นกัน
หานเซิ่นแค่อยากจะลองใช้วิชาฮาร์ทคอนเน็คชั่น แต่ในการทำแบบนั้นทำให้เขาต้องสูญเสียพลังทั้งหมดไป เขาไม่มีพลังเหลือพอที่จะยิงกระสุนแบบนั้นอีกลูก
“ซีโน่เจเนอิคตั๊กแตนเบรกสเปชระดับราชันกลายพันธุ์ถูกฆ่า ยีนซีเจเนอิคกลายพันธุ์ถูกค้นพบ คุณได้รับวิญญาณอสูรตั๊กแตนเบรกสเปช”
‘นี่เราเพิ่งจะเริ่มฝึกมันได้ไม่นาน แต่วิชาฮาร์ทคอนเน็คชั่นก็ทรงพลังถึงขนาดนี้แล้วหรอเนี่ย? น่าเสียดายที่วิชาจีโนนี้ใช้พลังมากเกินไป มันคงจะต้องใช้เวลาอีกสักพักก่อนที่เราจะใช้มันได้อีกครั้ง’
ถึงแม้หานเซิ่นจะได้ยินเสียงประกาศ แต่เขาก็ไม่กล้าจะไปสนใจมัน เขารู้ว่ากำลังถูกจับตามองโดยเอ็กซ์ควิสิทและหลี่เคอเอ๋อ
ร่างกายตั๊กแตนเบรกสเปชถูกเอาไปโดยเวรี่ไฮหญิงคนหนึ่ง ด้วยเหตุนั้นหานเซิ่นจึงไม่มีโอกาสจะเก็บยีนซีโน่เจเนอิคมา
‘เมื่อคำนึงถึงพลังที่เราเพิ่งจะแสดงออกมา มันคงจะไม่มีใครเข้ามายุ่งกับเราสักพักหนึ่ง’ หานเซิ่นคิดกับตัวเอง แต่หลังจากนั้นจู่ๆก็มีคนๆหนึ่งปรากฏตัวออกมา
“เชล?” หลี่เคอเอ๋อและเอ็กซ์ควิสิทอุทานออกมาพร้อมกันเมื่อเห็นคนๆนั้น
พวกเธอรู้ว่าหานเซิ่นกำลังเหนื่อยล้า และเขาจำเป็นต้องใช้เวลาเพื่อพักฟื้น เขาไม่สามารถต่อสู้อย่างเต็มกำลังได้ แต่ตอนนี้เชลปรากฏตัวขึ้นตรงหน้าของเขา
เมื่อเห็นเชล หานเซิ่นก็หัวเราะและพูด “นี่เจ้ารีบร้อนจะต่อสู้กับข้าขนาดนั้นเลย?”
“เจ้าต้องใช้เวลานานแค่ไหนในการฟื้นพลัง?” เชลถามหานเซิ่น
“สิบชั่วโมง” หานเซิ่นตอบ
“ดี ข้าจะให้เจ้าได้พักเป็นเวลาสิบชั่วโมง ถ้าใครกล้าเข้ามาใกล้ ข้าจะจัดการกับพวกเขาเอง” เชลนั่งลงใกล้ๆ เขามีผมสีทองและใบหน้าสี่เหลี่ยม มันทำให้ดูแข็งแกร่งและกล้าหาญ