เสียงของหานเซิ่นไม่ได้ดังมากนัก แต่เวรี่ไฮและตัวไหมทุกคนกำลังจับจ้องไปที่การต่อสู้ พวกเขาได้ยินทุกสิ่งที่หานเซิ่นพูด
“เขาบ้าไปแล้ว คำพูดเหล่านั้นเหมาะสมกับเขา” หลี่อวี้เจินพูดอย่างไม่พอใจ
เขาจะต้องบ้าไปแล้ว และมันไม่ใช่แค่หลี่อวี้เจินคนเดียวที่คิดแบบนั้น แม้แต่ผู้อาวุโสโอเพ่นสกายและคนอื่นๆที่อยากให้หานเซิ่นชนะก็เชื่อว่าทุกอย่างที่เขาพูดเป็นอะไรที่บ้าเกินไป
วิถีคือจักรวาล จักรวาลคือวิถี ในตอนที่พวกเขาคำนึงถึงคำพูดของหานเซิ่น มันดูเหมือนกับว่าเขากำลังพูดว่าชีวิตของเขาคือเหตุผลของการมีอยู่ของจักรวาล ถ้าเขาตายไป จักรวาลก็จะตายไปพร้อมกับเขา
ตลอดประวัติศาสตร์ที่ยาวนาน แม้แต่ยอดฝีมือระดับเทพเจ้าขั้นทรูก็อตก็ไม่กล้าจะพูดอะไรแบบนั้น มันมียอดฝีมือระดับเทพเจ้าขั้นทรูก็อตอยู่ไม่มากนัก แต่มันจะมีอยู่จำนวนหนึ่งในทุกยุคสมัย ยอดฝีมือระดับเทพเจ้าขั้นทรูก็อตมีอยู่กี่คนนั้นเป็นเรื่องที่ไม่มีใครรู้ แต่ในตอนที่พวกเขาตายนั้น จักรวาลไม่ได้ตายไปพร้อมกับพวกเขา และในตอนนี้หานเซิ่นเป็นเพียงแค่คนที่เพิ่งจะกลายเป็นครึ่งเทพเท่านั้น
ความจริงแล้วคำพูดนั้นไม่เหมาะจะถูกเรียกว่าบ้า พวกมันเป็นคำพูดที่โง่เขลา
แต่ผู้คนเข้าใจสิ่งที่หานเซิ่นหมายถึงผิดไป คำว่า “เรา” ที่เขาพูดนั้นไม่ได้หมายถึงตัวเอง เขาหมายถึงทุกสิ่งทุกอย่าง
ทุกคนเหมือนกับหมากตัวหนึ่ง พวกเขาถูกควบคุมโดยชะตากรรม แต่ถ้าปราศจากตัวหมาก กระดานหมากรุกก็ไร้ความหมาย มันไม่สำคัญว่ากระดานหมากรุกจะดีสักแค่ไหน มันก็เป็นเพียงแค่วัตถุที่ไร้ค่า หมากนั้นจะนำไปสู่เหตุกาณ์ต่างๆ และการเดินแต่ละตาก็จะนำไปสู่วิถีทาง
ในตอนที่หานเซิ่นเข้าใจความหมายของเรื่องนี้ เขาก็ดูมีความสุขอย่างมาก และมันเป็นเพราะความสำราญนั้นที่ทำให้เขาพูดออกมา
ผู้คนคิดว่าหานเซิ่นเป็นบ้าและโง่เขลา มีเพียงแค่หลี่เคอเอ๋อและเอ็กซ์ควิสิทเท่านั้นที่เข้าใจถึงสิ่งที่หานเซิ่นรู้สึกจริงๆ ดวงตาของพวกเธอเต็มไปด้วยความดีใจและความประหลาดใจ
เมื่อหานเซิ่นได้รับความเข้าใจ พวกเธอก็เข้าใจด้วยเช่นกัน พวกเธอจมอยู่ในประสงค์ของวิชาใต้นภา ประสงค์นั้นแรงกล้าขนาดที่พวกเธอจะเห็นบางสิ่งแบบนี้เฉพาะกับเวรี่ไฮที่แข็งแกร่งไม่กี่คนเท่านั้น แต่ในวันนี้ภายใต้อิทธิพลของประสงค์นั่น พวกเธอได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ แบบนั้นพวกเธอจะไม่รู้สึกดีใจและประหลาดใจได้ยังไง?
“ความเข้าใจนี้เป็นสิ่งที่อยู่เหนือสิ่งที่ยอดฝีมือระดับเทพเจ้าทั่วไป…”
หลี่เคอเอ๋อมีสีหน้าที่ซับซ้อน เธอรู้สึกดีใจ แต่เธอก็ไม่อยากจะเชื่อสิ่งที่กำลังได้เห็น หานเซิ่นเป็นเพียงแค่ครึ่งเทพ แต่แล้วเขากลับเข้าใจประสงค์ของวิชาใต้นภาได้สำเร็จ
หานเซิ่นเรียนรู้ทั้งหมดนี่ด้วยตัวเขาเอง ก่อนหน้านี้เขาแค่ใช้มีด แต่ตอนนี้มีดของเขาผสมไปด้วยความเข้าใจและความรู้ของเขา
ก่อนหน้านี้ถึงแม้หานเซิ่นจะเอาตัวรอดจากการโจมตีของเชลได้ แต่ชีวิตของเขาก็ดูเหมือนกับว่าถูกแขวนอยู่พบเส้นด้าย
แต่ตอนนี้ทุกอย่างเปลี่ยนไป หานเซิ่นยังคงถูกไล่ต้อนโดยเชล แต่ผู้ชมสัมผัสได้ว่าเขาผ่อนคลายมากกว่าเดิม แม้แต่ในสถานการณ์แบบนี้ เขาก็ยังคงดูผ่อนคลาย เขาไม่ได้รู้สึกหวาดกลัวหรือกังวลใจเลยสักนิดเดียว
หานเซิ่นใช้มือเหมือนกับเป็นมีด วิชามีดที่เขาใช้ให้ความรู้สึกว่าพวกมันมีรูปธรรม และมันทำให้ผู้คนรู้สึกราวกับว่าเขาจงใจทำให้พวกมันดูเป็นแบบนั้น แต่ในตอนนี้หานเซิ่นสามารถใช้วิชาได้ดั่งใจโดยไม่ต้องบังคับ มันเหมือนกับว่าทุกการโจมตีของเขาถูกปล่อยออกไปอย่างมั่วๆ แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังคงต่อสู้ต่อไปด้วยการเคลื่อนไหวที่แม่นยำเช่นเดิม
“ท้องผ้าและผืนดินเป็นกระดานหมากรุก และเราเป็นตัวหมาก ทุกลมหายใจและทุกสัมผัสคือวิถีหนึ่ง”
หานเซิ่นจมอยู่ภายใต้ประสงค์ของวิชาใต้นภาอย่างสมบูรณ์ ขณะที่ความรู้ในวิชาของเขาเพิ่มขึ้น การโจมตีของเขาก็ดูมั่วยิ่งกว่าเดิม แต่ในขณะเดียวกันมันดูเหมือนกับว่าจักรวาลกำลังชักนำการเคลื่อนไหวของเขา
เชลรู้สึกแย่ ถึงแม้หานเซิ่นจะไม่ได้ทำให้เขาตกอยู่ในอันตรายอะไร แต่เชลก็ยังรู้สึกใจคอไม่ดีราวกับว่าทุกอย่างนั้นผิดพลาด
เชลไม่สามารถบอกได้ว่าอะไรกันแน่ที่ผิดพลาด แต่ในตอนนี้ทุกสิ่งเกี่ยวกับการต่อสู้ทำให้เขารู้สึกแปลกๆ
ภูเขาก็ผิด ก้อนหินก็ผิด ทุกสิ่งผิดไปหมด มันให้ความรู้สึกราวกับว่าตอนนี้โลกทั้งใบกำลังต่อต้านเขา ขณะที่หานเซิ่นเคลื่อนไหวอย่างไหลลื่น มันเหมือนกับว่าทุกสิ่งกำลังสนับสนุนหานเซิ่น เชลไม่รู้ว่าควรจะทำยังไง
“นี่มัน… นี่มันสกายแอนด์บีอิ้งคอมบิเนชั่นหนึ่งในเทคนิคของเวรี่ไฮเซ้นส์หนิ?” หลี่ชุนชิวและคนอื่นๆที่ศึกษาเวรี่ไฮเซ้นส์มองไปที่หานเซิ่นราวกับว่าพวกเขาเห็นผี ดวงตาของพวกเขาเบิกกว้าง
เมื่อฝึกฝนเวรี่ไฮเซ้นส์ ผู้ฝึกก็จะสามารถฝึกสกายแอนด์บีอิ้งคอมบิเนชั่นได้ โดยการเชื่อมต่อวิชาร่วมกับจักรวาล ท้องฟ้าและผืนดิน ผู้ฝึกจะสามารถใช้มันเพื่อยืมพลังของจักรวาล
แต่พลังนั้นจะใช้ได้เฉพาะผู้ที่ฝึกเวรี่ไฮเซ้นส์เท่านั้น มีเพียงแค่พวกเขาที่ควรจะทำสิ่งที่หานเซิ่นกำลังทำอยู่ได้ เอ็กซ์ควิสิทเรียนรู้มันได้เพียงแค่ผิวเผินเท่านั้น เธอยังไม่ได้เชี่ยวชาญในการใช้สกายแอนด์บีอิ้งคอมบิเนชั่น
หานเซิ่นไม่เคยศึกษาวิชาเวรี่ไฮเซ้นส์ แต่วิชามีดของเขาให้ผลลัพธ์เดียวกันกับสกายแอนด์บีอิ้งคอมบิเนชั่น นั่นจะไม่ทำให้หลี่ชุนชิวและคนอื่นตกใจได้ยังไง
เหล่าคนที่ฝึกเวรี่ไฮเซ้นส์รู้สึกตกตะลึง ถึงแม้เขาจะตัดขาดจากอารมณ์ความรู้สึกแล้ว หลี่ชุนชิวก็อดไม่ได้ที่จะอึ้งไป
“หนุ่มคนนี้แปลกจริงๆ…” ผู้อาวุโสโอเพ่นสกายพึมพำ
เขาและผู้อาวุโสหลี่ฉียวี่ไม่ได้ฝึกเวรี่ไฮเซ้นส์ แต่ถึงอย่างนั้นพวกเขาก็มีประสบการณ์มากมาย และถึงพวกเขาจะไม่ได้ฝึกเวรี่ไฮเซ้นส์ด้วยตัวเอง แต่พวกเขาก็รู้เกี่ยวกับมันเป็นอย่างดี
ในตอนนี้วิชามีดของหานเซิ่นคล้ายคลึงกับสกายแอนด์บีอิ้งคอมบิเนชั่นของเวรี่ไฮเซ้นส์ นั่นทำให้พวกเขารู้สึกตกใจ
ในจักรวาลนี้ ต้นไม้ทุกต้น ภูเขาทุกลูก น้ำทุกหยดและแม้แต่ฝุ่นผงกับแบคทีเรีย พวกมันทุกอย่างดูมีความหมายในสายตาของหานเซิ่น มันเหมือนกับว่าทุกอย่างมีการเชื่อมต่อบางอย่างกับวิชามีดของเขา
“ทุกอย่างในโลกนี้เป็นตัวหมาก ตัวหมากแต่ละตัวจะถูกใช้ในทางใดทางหนึ่ง และการรวมตัวหมากทุกตัวเข้าด้วยกันจะเกิดเป็นเกมส์หมากรุกเกมส์หนึ่ง ตัวหมากที่ไม่เชื่อมต่อกันนั้นจริงๆแล้วเชื่อมต่อกัน หมากทุกตัวจะส่งผลกับเกมส์ และสิ่งที่เราจำเป็นต้องทำก็คือกลายเป็นตัวหมากที่จะเปลี่ยนรูปเกมส์ๆนี้” หานเซิ่นพยายามทำความเข้าใจ
“เราไม่จำเป็นต้องมีพลังที่พิเศษ เราแค่จำเป็นต้องมีพลังที่จำเป็น ถ้าเราไปว่ายน้ำ เราจะเป็นปลา ถ้าเราไปบนท้องฟ้า เราจะเป็นนก เราจะไปพร้อมกับจักรวาล ท้องฟ้าและผืนดิน และเราจะช่วยท้องฟ้า ผืนดินและจักรวาล”
วิชามีดของหานเซิ่นกลายอะไรที่ยากจะคาดเดามากขึ้นเรื่อยๆ และการโจมตีที่ดูมั่วๆนั้นก็สร้างปัญหาให้กับเชลอย่างมาก
เวรี่ไฮหลายคนที่เยาะเย้ยหานเซิ่นตอนนี้เงียบสนิทไป หานเซิ่นควรจะเป็นฝ่ายที่เสียเปรียบ แต่ตอนนี้เขาดูไม่ลำบากลำบนเลยแม้แต่นิดเดียว
การโจมตีของเชลเป็นฝ่ายที่ดูติดขัดแทน พวกมันไม่ได้ไหลลื่นอีกต่อไปแล้ว
“น่าสนใจมาก เขาใช้วิชาใต้นภาเพื่อสร้างสกายแอนด์บีอิ้งคอมบิเนชั่นขึ้นมา… เหล่าผู้อาวุโสของเวรี่ไฮคงจะเป็นบ้าด้วยความอิจฉา…”
ขณะที่อวี้ซ่านซินมองดูวิชามีดของหานเซิ่น เขาก็ยิ้มอย่างแปลกประหลาดและไม่สามารถอ่านได้