Super God Gene – ตอนที่ 2687

ใบหน้าของหลี่เสวี่ยเฉิงและหลี่อวี้เจินเปลี่ยนเป็นสีเขียว พวกเขารู้สึกว่ากำลังจะเป็นบ้า ดวงตาของเขาแดงกล่ำ และพวกเขากำมือของตัวเองแน่นโดยที่ไม่รู้สึกตัวว่าเล็บนั้นจิกลงไปในฝ่ามือ พวกเขาดูเหมือนกับคนบ้าสองคนขณะที่มองดูการต่อสู้ของหานเซิ่น

 

“เป็นไปไม่ได้…นี่มันเป็นไปไม่ได้…” พวกเขารู้สึกราวกับว่าถูกรัดคอ

 

ครึ่งเทพคนหนึ่งต่อสู้กับระดับเทพเจ้าโดยที่ไม่ตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบ มันทำให้พวกเขารู้สึกกังวลใจเกี่ยวกับผลที่จะออกมามากขึ้นเรื่อยๆ พวกเขากลัวว่าฝันร้ายอาจจะเป็นจริงขึ้นมา และพวกเขาจะพ่ายแพ้การเดิมพันในครั้งนี้

 

“ไม่มีทาง… มันไม่มีทางที่ระดับครึ่งเทพจะเอาชนะระดับเทพเจ้าในการต่อสู้แบบนี้ได้… แถมระดับเทพเจ้าคนนี้ก็ไม่ใช่ใครอื่นแต่เป็นเชล… ข้าเชื่อว่าเชลจะเป็นฝ่ายชนะ…” หลี่อวี้เจินพูดอย่างช้าๆขณะที่กัดฟันแน่น มันเหมือนกับว่าเขากำลังพูดกับตัวเองเช่นเดียวกันกับหลี่เสวี่ยเฉิง ดวงตาของเขายังคงจับจ้องไปที่หน้าจอตรงหน้า

 

เชลขมวดคิ้วเล็กน้อย ถึงแม้เขาจะยังเป็นคนที่ควบคุมสถานการณ์ แต่เขาก็รู้สึกว่ามันมีบางสิ่งผิดปกติ ทุกการเคลื่อนไหวของหานเซิ่นดูเหมือนจะถูกชักนำโดยเทพ เชลพบว่ามันยากลำบากที่จะโต้กลับการฟันที่ดูทำไปอย่างลวกๆของหานเซิ่น การฟันธรรมดานั้นมีประสิทธิภาพเกินกว่าที่ควรจะเป็น ไม่ว่าเขาจะวิเคราะห์เทคนิคของหานเซิ่นยังไง เชลก็ไม่เข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้น

 

เชลไม่ใช่บุคคลที่จะนอนรอความพ่ายแพ้ ดังนั้นในตอนที่เขารู้สึกว่ามีบางสิ่งผิดปกติ เขาก็ทำการตัดสินใจที่ดีที่สุด เปลวเพลิงนรกรอบๆร่างกายของเขาลุกโชนขึ้น เขาเลือกจะเมินเฉยต่อการโจมตีของหานเซิ่นและพุ่งตรงเข้าไปหาคู่ต่อสู้ของเขา

 

“ไม่สำคัญว่าเจ้าจะชำนาญในวิชาสักแค่ไหน พลังของเจ้าก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของข้า พลังของข้าจะบดขยี้เจ้าและวิชาของเจ้าไปพร้อมกัน ข้าจะรวบรวมพลังที่มากพอจะทำลายวิชาของเจ้า” เชลเป็นเหมือนกับเทพปีศาจ เขานำพาโซ่สสารที่น่ากลัวไปพร้อมกับเขาขณะที่เขาพุ่งเข้าไปหาคู่ต่อสู้

 

มีดลมปราณของหานเซิ่นฟันไปถูกตัวของเชล แต่โซ่สสารบดขยี้พวกมัน หานเซิ่นไม่สามารถตัดผ่านโซ่สสารเพื่อสร้างความเสียหายกับร่างกายของเชลได้

 

แต่หานเซิ่นไม่ได้แตกตื่น ร่างกายของเขาลอยจากข้างหนึ่งไปยังอีกข้างหนึ่งเหมือนกับก้อนเมฆ พลังที่เชลรวบรวมในการโจมตีนั้นมหาศาล แต่เขาไม่สามารถทำร้ายหานเซิ่นได้ มันเหมือนกับการมองดูเรือลำเล็กๆโต้คลื่นลูกใหญ่

 

คลื่นลูกใหญ่ซัดผ่านไปอย่างรุนแรง แต่พวกมันไม่สามารถพลิกเรือลำเล็กๆให้คว่ำได้

 

ร่างกายของหานเซิ่นเต็มเปี่ยมไปด้วยพลังงานจากจิตแห่งมีด เชลพยายามโจมตีใส่หานเซิ่นอย่างไม่หยุด แต่เขาไม่แม้แต่จะทำให้เสื้อผ้าของหานเซิ่นยับได้

 

ปี้ซีมองดูการต่อสู้กับหานเซิ่นและเชลขณะที่อ้าปากค้าง “นี่เชลจะ…”

 

เขากำลังสงสัยว่าเชลจะเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ แต่เขารู้สึกตัวว่าไม่ควรจะพูดอะไรแบบนั้นออกไปต่อหน้าหลี่ชุนชิว ด้วยเหตุนั้นเขาจึงกลืนคำพูดของตัวเองลงไป

 

“ข้ากลัวว่าเขาจะพ่ายแพ้ เชลนั้นแข็งแกร่ง แต่เขามาจากเผ่าพันธุ์เล็กๆ เขามีเวลาฝึกฝนไม่มากนัก ถ้ามันมีเวลาอีกสักสามปีให้เขาฝึกฝน บางทีเขาคงจะไม่ตกอยู่ในสถานการณ์แบบนี้” หลี่ชุนชิวพูดขึ้นมา

 

ปี้ซีพยักหน้า “หานเซิ่นคนนั้นโชคดีจริงๆ จิตแห่งมีดของเขาเป็นบางสิ่งที่ค่อนข้างพิเศษ มันปลดปล่อยออร่าของสกายแอนด์บีอิ้งคอมบิเนชั่น”

 

“นั่นไม่ใช่สกายแอนด์บีอิ้งคอมบิเนชั่น เขาแค่ทำตามประสงค์ของท้องฟ้า” หลี่ชุนชิวพูด

 

“เมื่อเทียบกับพี่ใหญ่แล้ว เขายังไม่เท่าไหร่ แต่เมื่อเทียบกับคนธรรมดาทั่วไป เขาถือว่าน่าประทับใจอย่างมาก” ปี้ซีพูดหลังจากที่คิดอยู่ชั่วครู่

 

หลี่ชุนชิวพยักหน้าและพูด “เอ็กซ์ควิสิทและหลี่เคอเอ๋อใช้หานเซิ่นในฐานะตัวไหมร่วมกัน ภายนอกเผ่าเวรี่ไฮ อัจฉริยะแบบนี้หาได้ยากมากๆ”

 

ตอนนี้ผู้อาวุโสโอเพ่นสกายดูผ่อนคลายอย่างมาก เขายิ้มและพูด
“ระดับเทพเจ้าแล้วยังไง? ถึงแม้เจ้าจะเป็นระดับเทพเจ้า เจ้าก็ยังเป็นฝ่ายแพ้อยู่ดี สายตาของข้านี่ไม่เลวเลย”

 

ผู้อาวุโสหลี่ฉียวี่มองเขาด้วยสายตาดูถูก ในตอนที่เชลกลายเป็นระดับเทพเจ้า ผู้อาวุโสโอเพ่นสกายดูเหมือนกับว่าเขาเพิ่งจะเห็นพ่อแม่ของตัวเองเสียชีวิต แต่แน่นอนว่าผู้อาวุโสหลี่ฉียวี่ไม่ได้พูดเรื่องนั้นออกมา

 

ขณะที่การต่อสู้ดำเนินต่อไป เวรี่ไฮหลายคนก็เริ่มจะสังเกตเห็นว่าสถานการณ์ของหานเซิ่นเริ่มจะดีขึ้นเรื่อยๆ เชลต่อสู้อย่างโหดร้าย แต่เขาก็ยังไม่สามารถสร้างความเสียหายกับหานเซิ่นได้

 

“วิชามีดของหานเซิ่นนั้นดีมากๆ”

“มันมากกว่าคำว่าดี วิชามีดนั้นเป็นวิชาระดับสูงสุด มันสมเป็นวิชามีดจากเผ่านภาจริงๆ”

“แน่นอนอยู่แล้ว เผ่านภาเคยเป็นส่วนหนึ่งของเผ่าพันธุ์พวกเรา”

“ถ้าหานเซิ่นได้อันดับที่หนึ่งขึ้นมาจริงๆ ข้าอยากจะเห็นเหลือเกินว่าใบหน้าของหลี่เสวี่ยเฉิงจะเป็นยังไง”

“ข้ายังไม่คิดว่าเขาจะชนะ วิชามีดของหานเซิ่นนั้นสุดยอด แต่พลังของเขายังด้อยกว่าเชล เชลทำร้ายเขาไม่ได้ แต่เขาก็ทำร้ายเชลไม่ได้เช่นกัน ถ้าการต่อสู้นี้มีเวลาจำกัดก็คงจะจบลงโดยไม่มีผู้ชนะ แต่ถ้าพวกเขาต่อสู้กันไปเรื่อยๆ แรงของหานเซิ่นที่เป็นแค่ครึ่งเทพก็คงจะหมดก่อน”

“ใครจะไปรู้? มันอาจจะไม่ได้เป็นแบบนั้นก็ได้”

“ฮ่าๆ! ถ้าหานเซิ่นได้อันดับที่หนึ่งจริงๆ ใบหน้าของหลี่เสวี่ยเฉิงคงจะเป็นอะไรที่ตลกน่าดู”

“มันไม่ใช่แค่หลี่เสวี่ยเฉิงคนเดียว หลี่อวี้เจินเองก็ลงเรือลำเดียวกันกับเขา ถ้าไม่ใช่เพราะหลี่อวี้เจิน หลี่เสวี่ยเฉิงก็คงจะรู้ก่อนล่วงหน้าว่าการประลองไม่อนุญาตให้ใช้สมบัติ”

“ข้าหวังว่าหานเซิ่นจะเป็นฝ่ายชนะ หลังจากนั้นข้าอยากจะเห็นใบหน้าของเจ้าสองคนนั้น กล้าดียังไงมาหลอกพวกเรา”

 

ในตอนนี้ใบหน้าของหลี่เสวี่ยเฉิงและหลี่อวี้เจินก็เป็นอะไรที่ดูตลกมากแล้ว ดวงตาของพวกเขาเกือบจะหลุดออกมาจากเบ้าขณะที่พวกเขาจ้องมองวิดีโอการต่อสู้

 

“เขาจะไม่แพ้… เชลจะไม่พ่ายแพ้การประลองนี้… เขาจะชนะ เขาจะชนะ…”
พวกเขาทั้งคู่กำลังจะเป็นบ้า ปากของพวกเขาพูดประโยคเหล่านั้นซ้ำๆ ความกังวลใจของพวกเขาเพิ่มขึ้นเรื่อยๆทุกวินาทีที่ผ่านไป

 

“ท้องฟ้าและผืนดินเป็นเหมือนกับเกมส์หมากรุกที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นเหมือนกับมีด และพวกมันทั้งหมดมีวิถีหนึ่ง เชล เจ้าลองลิ้มรสมีดใต้นภาของข้าดู”
จิตแห่งมีดของหานเซิ่นเป็นเหมือนกับภูเขาไฟที่ไม่สามารถกักเก็บลาวาเอาไว้ได้อีกต่อไป มันปะทุออกมาราวกับน้ำพุขนาดใหญ่ หานเซิ่นใช้มือของเขาเป็นเหมือนกับมีดและฟันไปในทิศทางของเชล

 

“ดี” เชลมีพลัง แต่เขาไม่มีหนทางไหนที่จะใช้มัน ตอนนี้เมื่อหานเซิ่นต้องการจะต่อสู้กันตรงๆ นี่ก็เป็นอะไรที่สมบูรณ์แบบสำหรับเขา โซ่สสารมารวมตัวกันที่หมัดของเขา และเขาก็ชกหมัดออกไปปะทะกับการโจมตีของหานเซิ่น

 

มิติอวกาศสั่นไหวและแตกกระจายภายใต้แรงของหมัดเชล โซ่สสารนั้นดูเหมือนกับสิงโตปีศาจที่ฉีกผ่านความเป็นจริงรอบๆตัวของเขา ปากสิงโตกลายเป็นหลุมดำขนาดใหญ่ที่พยายามจะกลืนกินหานเซิ่นเข้าไป

 

แต่หานเซิ่นไม่ได้หลบ มือของเขาฟันลงมาโดยที่ไม่มีมีดลมปราณปรากฏขึ้นรอบๆมือของเขา มือของเขาฟันลงมาในท่าตัดที่เรียบง่าย

 

ภาพนั้นทำให้ผู้ชมเต็มไปด้วยความสับสน ขณะที่พวกเขามองดูต่อไป พวกเขาก็เห็นภูเขาทุกลูก แม่น้ำทุกสาย ใบหญ้าทุกใบ ดอกไม้ทุกดอกและต้นไม้ทุกต้นที่อยู่ภายในหุบเขาก็กลายเป็นมีดแสง มีดแสงต่างๆนาๆทุกรูปแบบทั่วหุบเขาสว่างไสวขึ้นมา จู่ๆดูเหมือนว่าดินแดนที่อยู่รอบๆทำขึ้นมาจากมีดแสง และพวกมันทั้งหมดก็พุ่งเข้ามาจู่โจมเชล

 

มีดแสงนับไม่ถ้วนมาประจบกันและตรงเข้าไปหาเชลกับสิงโตปีศาจของเขา

 

เชลรวบรวมพลังจากโซ่สสารของเขา เขาไม่หวาดกลัวต่อมีดแสงของระดับราชัน แต่เขารู้สึกตัวช้าเกินไปว่าพวกมันมีจำนวนมากเกินไป พลังของหมัดสิงโตปีศาจและโซ่สสารถูกทำลายท่ามกลางมีดแสงนั้น

Super God Gene

Super God Gene

ในยุคสมัยที่วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของมนุษย์ถูกพัฒนาจนถึงระดับสูง ในที่สุดมนุษยชาติก็ได้ค้นพบวิธีการเทเลพอร์ต แต่เมื่อพวกเขาทดลองเทเลพอร์ต กลับพบว่าพวกเขาไม่ได้ถูกส่งไปในอนาคต อดีตหรือสถานที่อื่นๆที่มนุษย์รู้จัก แต่มันคือโลกที่แตกต่างโดยสิ้นเชิง สถานที่ลึกลับนี่ถูกเรียกว่า ‘ก็อด เเซงชัวรี่’ ที่นี่มีสิ่งมีชีวิตประหลาดอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก แต่เมื่อมนุษย์ลองกินสิ่งมีชีวิตประหลาดเข้าไป ร่างกายของพวกเขาพัฒนาขึ้นและยังเพิ่มอายุขัยขึ้นด้วย มันคือก้าวที่ยิ่งใหญ่ของมนุษย์ชาติในการวิวัฒนาการเพื่อสร้างยุคสมัยที่ยิ่งใหญ่ “ด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ถูกฆ่า คุณได้รับวิญญาณอสูรด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ เมื่อกินเนื้อของด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ คุณมีโอกาสได้รับ 0 ถึง 10 Geno Point โดยการสุ่ม” The future unfolded on a magnificent scale into the Interstellar Age. Humanity finally solved the space warp technology, but when humanity transported themselves into the other end, they discovered that place neither had a past nor future, nor was there any land under the starry skies…… The mysterious sanctuary was actually a world filled with countless tyrannical unusual organisms. Humanity faced their great leap in evolution, starting the most glorious and resplendant new era under the starry skies. “Slaughtered the God Blood organism ‘Black Beetle’. Received the God Blood Black Beetle’s Beast Soul. Used the God Blood Black Beetle’s flesh. Randomly obtaining 0 to 10 points of God Gene(s).”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset