Super God Gene – ตอนที่ 2690

“พวกเราตกมันได้อีกครั้ง!” หานเซิ่นแปลกใจ เขาคิดเกี่ยวกับลูกบาศก์สี่แกะที่ร่วงกลับลงไปด้วยใบหน้ายิ้มๆอย่างน่าขนลุก และมองไปที่หัวของแกะที่ถูกตกขึ้นมา

 

หานเซิ่นผงะด้วยความประหลาดใจ แกะทองแดงนี้มีคิ้วที่ต่ำกว่าและดวงตาก็ปิดอยู่ พวกมันดูเหมือนกับพระสงฆ์ที่กำลังทำสมาธิ พวกมันไม่ได้ยิ้มอย่างน่าขนลุกเหมือนกับก่อนหน้านี้

 

“นี่สีหน้าของหัวแกะทั้งสี่ต่างไปจากเดิมอย่างนั้นหรอ?”
หานเซิ่นสงสัยกับตัวเอง หลังจากนั้นเขาก็ได้ยินเสียงดังขึ้นมา เส้นไหมอันเดอร์เวิลด์ขาดอีกครั้งหนึ่ง

 

หานเซิ่นมองดูลูกบาศก์สี่แกะจมกลับลงไปอย่างรวดเร็ว ครั้งนี้เขาเห็นหัวแกะทองแดงอย่างชัดเจน ตอนนี้สีหน้าทำสมาธิของพวกมันได้หายไปแล้ว แกะทั้งสี่ยิ้มอย่างน่าขนลุกอีกครั้ง มันเหมือนกับว่าพวกมันหลี่ตาเพื่อมองมาที่พวกเขา

 

“เจ้าสิ่งนั้นมีชีวิต?” หานเซิ่นตั้งคำถามอย่างสงสัย แต่ก่อนที่เขาจะได้ตรวจสอบมันมากกว่านั้น ลูกบาศก์สี่แกะก็หายไปในทะเลสาบอีกครั้งหนึ่ง

 

“นี่มันแปลกจริงๆ ทำไมพวกเราถึงตกของสิ่งเดิมได้ถึงสองครั้งติดต่อกัน? และทำไมเจ้าสิ่งนั้นถึงดูเหมือนกับว่ามีชีวิต? นี่จริงๆแล้วมันมีสิ่งมีชีวิตอยู่ในโลกปฏิสสารด้วยอย่างนั้นหรอ?” หานเซิ่นครุ่นคิด เขาไม่ได้รู้อะไรเกี่ยวกับทะเลสาบอันเดอร์เวิลด์มากนัก ดังนั้นเขาจะต้องรอให้หลี่เคอเอ๋อและเอ็กซ์ควิสิทกลับมา

 

หลังจากนั้นเป่าเอ๋อก็ตกลูกบาศก์สี่แกะขึ้นมาได้อีกหลายครั้ง แต่พวกเขาไม่สามารถดึงมันขึ้นมาจากทะเลสาบได้ เส้นไหมอันเดอร์เวิลด์นั้นมักจะขาดซะก่อน และทำให้ลูกบาศก์สี่แกะร่วงกลับลงไปในทะเลสาบ

 

ส่วนทางด้านหานเซิ่น เขายังคงตกได้แต่ขยะที่ไร้ประโยชน์

 

สัญลักษณ์บนรูปปั้นหยกเรืองแสงขึ้นมา และทำให้หานเซิ่นรู้ตัวว่าหลี่เคอเอ๋อกับเอ็กซ์ควิสิทกำลังกลับมา ไม่นานหลังจากนั้นเขาก็เห็นพวกเธอเทเลพอร์ตมาถึงชายฝั่งของทะเลสาบ

 

“หานเซิ่น ข้าเข้าใจว่าเจ้าอยากจะล่าซีโน่เจเนอิคมาโดยตลอดใช่ไหม? พวกเราได้เตรียมสถานที่ที่เหมาะสมสำหรับเจ้า มันมีซีโน่เจเนอิคระดับเทพเจ้าขั้นพริมิทีฟให้เจ้าล่าได้อย่างปลอดภัย เจ้าจะมีโอกาสได้จัดการซีโน่เจเนอิคตามลำพัง” หลี่เคอเอ๋อพูดด้วยรอยยิ้ม

 

“มันมีสถานที่ดีๆแบบนั้นอยู่ด้วยอย่างนั้นหรอ? ทำไมพวกเจ้าไม่บอกข้าให้เร็วกว่านี้?” หานเซิ่นถามขณะที่มองไปที่หลี่เคอเอ๋อด้วยความสงสัย

 

“ก่อนการประลองระหว่างตัวไหม มันเป็นสถานที่ที่เจ้าไม่มีสิทธิ์จะเข้าไป แต่ตอนนี้เมื่อเจ้าได้รับอันดับที่หนึ่งในการประลอง ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป” หลี่เคอเอ๋ออธิบาย

 

“แบบนี้นี่เอง” หลังจากนั้นหานเซิ่นก็นึกย้อนไปถึงลูกบาศก์สี่แกะ ดังนั้นเขาจึงถามพวกเธอเกี่ยวกับเรื่องนั้น

 

เมื่อพวกเธอได้ยินเรื่องราว ใบหน้าของทั้งหลี่เคอเอ๋อและเอ็กซ์ควิสิทก็เปลี่ยนเป็นสีเทา เอ็กซ์ควิสิทมองมาที่หานเซิ่นและถาม “ลูกบาศก์สี่แกะที่เจ้าตกขึ้นมาได้… มันมีความสูงสามถึงสี่เมตรใช่ไหม?”

 

เอ็กซ์ควิสิทเริ่มบรรยายเกี่ยวกับลูกบาศก์สี่แกะที่เธอกำลังคิด และปรากฏว่ามันเป็นสิ่งเดียวกับที่หานเซิ่นได้เห็น

 

“ใช่ ลูกบาศก์อันนั้นแหละ มันมีปัญหาอย่างนั้นหรอ?”
หานเซิ่นถามเมื่อสังเกตเห็นสีหน้าของพวกเธอ เขารู้ว่ามันต้องมีอะไรไม่ชอบมาพากลกับเรื่องนี้

 

หลี่เคอเอ๋อและเอ็กซ์ควิสิทมองหน้ากัน หลังจากนั้นเอ็กซ์ควิสิทก็พูดขึ้นว่า “ลูกบาศก์สี่แกะนั่นเป็นสิ่งที่พวกเราเวรี่ไฮเคยตกได้มาก่อน…”

 

หลังจากพูดแบบนั้น เอ็กซ์ควิสิทก็เงียบไป

 

“แล้วหลังจากนั้นล่ะ?” หานเซิ่นถาม

 

“ให้ข้าอธิบาย” หลี่เคอเอ๋อมองไปที่หานเซิ่นด้วยใบหน้าแปลกๆและพูด
“คนของพวกเราเคยตกได้ลูกบาศก์สี่แกะมาก่อน แต่สิ่งนั้นไม่ใช่ลางของความโชคดี เวรี่ไฮทุกคนที่ตกลูกบาศก์สี่แกะขึ้นมาได้มักจะประสบกับความโชคร้ายบางอย่าง”

 

หานเซิ่นตกใจ เขาขมวดคิ้วและถาม “เกิดอะไรขึ้นกับพวกเขา? นี่พวกเขาได้รับบาดเจ็บหรือถูกฆ่าตายอย่างนั้นหรอ?”

 

หลี่เคอเอ๋อส่ายหัว “พวกเขาไม่ได้บาดเจ็บหรือถูกฆ่า จากประวัติศาสตร์ของเผ่าเวรี่ไฮ มันมีเวรี่ไฮสามคนที่ตกลูกบาศก์สี่แกะขึ้นมาได้ หนึ่งในพวกเขาคือผู้ก่อตั้งเผ่านภาและปราสาทนภา”

 

“นั่นเป็นเรื่องดีไม่ใช่หรอ? ทำไมเจ้าถึงบอกว่านั่นเป็นความโชคร้าย?”
หานเซิ่นไม่เข้าใจว่าเธอพยายามจะบอกอะไร การสร้างเผ่าพันธุ์หนึ่งที่กลายเป็นเผ่าพันธุ์ที่ยิ่งใหญ่ขึ้นมาได้นั้นถือเป็นเรื่องดี แบบนั้นทำไมพวกเธอถึงบอกว่านั่นเป็นความโชคร้าย?”

 

หลี่เคอเอ๋อยิ้มแห้งๆและพูดต่อ “เวรี่ไฮคนที่สองที่ตกลูกบาศก์สี่แกะขึ้นมาได้นั้นมีบางสิ่งเกิดขึ้นกับเขา มันทำให้เขาฆ่าพ่อแม่ของตัวเอง หลังจากนั้นเขาก็ทรยศเผ่าเวรี่ไฮ”

 

หลังจากหยุดไปชั่วครู่ หลี่เคอเอ๋อก็พูด “คนที่สามที่ตกลูกบาศก์สี่แกะขึ้นมานั้นขโมยสมบัติที่สำคัญของเผ่าเวรี่ไฮ หลังจากนั้นเขาก็หายตัวไป เขาหายตัวไปที่ไหนนั้นไม่มีใครรู้”

 

“เจ้าจะบอกว่าเวรี่ไฮคนที่ตกลูกบาศก์สี่แกะขึ้นมาได้จะทรยศเผ่าเวรี่ไฮอย่างนั้นหรอ” ตอนนี้หานเซิ่นเข้าใจแล้วว่าทำไมการตกลูกบาศก์สี่แกะขึ้นมาได้ถึงเป็นลางของความโชดร้าย

 

“ถึงแม้มันจะไม่มีหลักฐาน แต่มันก็มีบันทึกที่ยืนยันว่าลูกบาศก์สี่แกะนั้นเกี่ยวข้องกับทั้งสามคน” เอ็กซ์ควิสิทยิ้มแห้งๆ

 

หานเซิ่นไออย่างเก้ๆกังๆ “ข้าไม่ใช่คนเผ่าเวรี่ไฮ วันหนึ่งข้าจะจากไป นั่นไม่ได้หมายความว่าข้าทรยศพวกเจ้าถูกไหม?”

 

เอ็กซ์ควิสิทเงียบไปสักพัก หลังจากนั้นเธอก็พูดขึ้นว่า “เวรี่ไฮทั้งสามคนเคยตกลูกบาศก์สี่แกะขึ้นมาได้เพียงแค่ครั้งเดียว พวกเขาไม่เคยเห็นมันอีกหลังจากนั้น แต่เจ้าดูเหมือนจะตกมันขึ้นมาได้ถึงหกครั้ง ถึงแม้เรื่องการทรยศอาจจะเป็นเพียงแค่การคาดเดา แต่สิ่งนี้ถูกคำนึงว่าเป็นสิ่งต้องห้ามสำหรับเผ่าพันธุ์ของพวกเรา เจ้าและเป่าเอ๋อไม่ควรพูดถึงเรื่องที่พวกเจ้าตกลูกบาศก์สี่แกะขึ้นมาได้อีก”

 

หานเซิ่นพยักหน้า ในตอนแรกเขาคิดว่ามันอาจจะเป็นสิ่งที่มีประโยชน์ เขาไม่ได้รู้ว่าจริงๆแล้วมันถือเป็นลางร้าย เขาจะไม่พูดถึงสิ่งที่ตกขึ้นมาได้กับใครอีก

 

แต่ถึงจะพูดแบบนั้น เขาก็ไม่ได้รู้จักใครคนอื่นในเผ่าพันธุ์เวรี่ไฮ ดังนั้นถึงแม้เขาอยากจะบอกใครสักคน มันก็ไม่มีใครที่เขาสามารถบอกได้

 

“ไปกันเถอะ พวกเจ้าทั้งคู่ควรจะไปจากทะเลสาบอันเดอร์เวิลด์สักพัก”
เอ็กซ์ควิสิทพูดกับพวกเขา หลังจากนั้นเธอก็เทเลพอร์ตหานเซิ่นและเป่าเอ๋อออกไปจากทะเลสาบ

 

หานเซิ่นถามหลี่เคอเอ๋อเกี่ยวกับสถานที่ที่พวกเขากำลังมุ่งหน้าไป มันเป็นสถานที่ที่ถูกรู้จักกันในชื่อเจลเดม่อนฮอลล์ และเขาก็ถามเกี่ยวกับซีโน่เจเนอิคที่สามารถล่าได้ เขาได้รู้ว่าสถานที่แห่งนั้นเคยเป็นเพียงแค่ถ้ำๆหนึ่ง แต่เผ่าเวรี่ไฮได้สร้างปราสาทขึ้นบนถ้ำๆนั้น

 

แต่การเรียกสิ่งก่อสร้างนั่นว่า “ปราสาท” อาจจะเป็นอะไรที่ผิดไปหน่อย ในความจริงแล้วมันเหมือนกับคุกมากกว่า มันมีซีโน่เจเนอิคตัวหนึ่งอาศัยอยู่ในถ้ำใต้เจลเดม่อนฮอลล์มาเป็นเวลายาวนาน ซีโน่เจเนอิคตัวนี้ขาดพลังที่จะหนีออกมาจากคุก แต่เมื่อเวลาผ่านไป มันก็ได้เรียนรู้วิธีการสร้างร่างโคลนที่จะเข้าไปในปราสาทที่อยู่เหนือถ้ำได้สำเร็จ ร่างโคลนที่ถูกสร้างขึ้นเป็นระดับเทพเจ้าขั้นพริมิทีฟ เผ่าเวรี่ไฮนั้นจำเป็นต้องส่งคนไปในเจลเดม่อนฮอลล์เป็นระยะๆเพื่อฆ่าร่างโคลนและทำให้แน่ใจว่าซีโน่เจเนอิคตัวนั้นจะหนีออกมาไม่ได้

 

หลี่เคอเอ๋อและเอ็กซ์ควิสิทได้จัดการเรื่องเอกสารการขออนุญาตเข้าไปล่าในเจลเดม่อนฮอลล์เรียบร้อยแล้ว ตอนนี้เมื่อคำขอของพวกเธอได้รับการอนุมัติ หานเซิ่นก็ได้รับโอกาสให้ล่าซีโน่เจเนอิคระดับเทพเจ้าตามลำพัง

 

‘ซีโน่เจเนอิคระดับเทพเจ้าขั้นพริมิทีฟอย่างนั้นหรอ? เราควรจะทดสอบพลังของเซ็ตอะพอลโลกับมัน และเรายังจะได้รับยีนซีโน่เจเนอิคมาด้วย นั่นเป็นการยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว’ หานเซิ่นคิดอย่างมีความสุข

 

วิญญาณอสูรเสื้อคลุมวิญญาณราชานกยูงและธนูงูหกคอร์นั้นไม่ใช่สิ่งที่หานเซิ่นจะนำออกมาใช้ได้ ขณะที่หลี่เคอเอ๋อหรือเอ็กซ์ควิสิทยังอยู่รอบๆ เขาไม่อยากให้พวกเธอรู้สึกตัวว่าวิญญาณอสูรและสมบัติซีโน่เจเนอิคนั้นแตกต่างกัน

 

เซ็ตอะพอลโลที่เขาได้รับมาใหม่นี้จะช่วยเหลือหานเซิ่นอย่างมากในการเก็บความลับของเขา

 

พวกเขาทั้งสี่เดินทางไปที่เจลเดม่อนฮอลล์ ที่นั่นหลี่เคอเอ๋อรับตัวเป่าเอ๋อจากหานเซิ่นเพื่อให้เขาเข้าไปล่าในเจลเดม่อนฮอลล์ตามลำพัง พวกเธอจะรอคอยอยู่ด้านนอก

 

หานเซิ่นไม่ได้หวาดระแวงอะไร เขาคิดว่าพวกเธอแค่ต้องการจะได้รับประสบการณ์การต่อสู้ของเขามากขึ้น และนั่นเป็นเหตุผลที่พวกเธอขอให้เขาไปฆ่าร่างโคลนของซีโน่เจเนอิค ด้วยเหตุนั้นหานเซิ่นจึงเปิดประตูเข้าไปสู่เจลเดม่อนฮอลล์อย่างไม่ลังเล

Super God Gene

Super God Gene

ในยุคสมัยที่วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของมนุษย์ถูกพัฒนาจนถึงระดับสูง ในที่สุดมนุษยชาติก็ได้ค้นพบวิธีการเทเลพอร์ต แต่เมื่อพวกเขาทดลองเทเลพอร์ต กลับพบว่าพวกเขาไม่ได้ถูกส่งไปในอนาคต อดีตหรือสถานที่อื่นๆที่มนุษย์รู้จัก แต่มันคือโลกที่แตกต่างโดยสิ้นเชิง สถานที่ลึกลับนี่ถูกเรียกว่า ‘ก็อด เเซงชัวรี่’ ที่นี่มีสิ่งมีชีวิตประหลาดอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก แต่เมื่อมนุษย์ลองกินสิ่งมีชีวิตประหลาดเข้าไป ร่างกายของพวกเขาพัฒนาขึ้นและยังเพิ่มอายุขัยขึ้นด้วย มันคือก้าวที่ยิ่งใหญ่ของมนุษย์ชาติในการวิวัฒนาการเพื่อสร้างยุคสมัยที่ยิ่งใหญ่ “ด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ถูกฆ่า คุณได้รับวิญญาณอสูรด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ เมื่อกินเนื้อของด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ คุณมีโอกาสได้รับ 0 ถึง 10 Geno Point โดยการสุ่ม” The future unfolded on a magnificent scale into the Interstellar Age. Humanity finally solved the space warp technology, but when humanity transported themselves into the other end, they discovered that place neither had a past nor future, nor was there any land under the starry skies…… The mysterious sanctuary was actually a world filled with countless tyrannical unusual organisms. Humanity faced their great leap in evolution, starting the most glorious and resplendant new era under the starry skies. “Slaughtered the God Blood organism ‘Black Beetle’. Received the God Blood Black Beetle’s Beast Soul. Used the God Blood Black Beetle’s flesh. Randomly obtaining 0 to 10 points of God Gene(s).”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset