เหตุการณ์ในเจลเดม่อนฮอลล์ยังคงไม่คลี่คลาย ฝ่ายตรวจยังคงไม่ได้ข้อสรุปออกมา แต่พวกเขาสงสัยว่าการบ้าคลั่งของเรดบลัดเดม่อนนั้นอาจจะเกี่ยวข้องกับบลัดแมร์โรว์จีโนฟลูอิด ก่อนหน้าไม่มีใครรู้ว่าบลัดแมร์โรว์จีโนฟลูอิดจะก่อให้เกิดเรื่องแบบนี้ เนื่องจากบลัดแมร์โรว์จีโนฟลูอิดมักจะเป็นสิ่งที่ถูกมอบให้หลังจากที่จีโนฟลูอิดสำหรับการรักษาแบบธรรมดาถูกใช้จนหมด ดังนั้นเรื่องทั้งหมดนี่จึงดูเหมือนกับว่ามันเป็นแค่เรื่องบังเอิญ
แต่หานเซิ่นไม่คิดว่าเรื่องนี้เป็นแค่เรื่องบังเอิญ เขาเชื่อว่าเหตุการณ์ทั้งหมดนี้จะต้องเกี่ยวข้องกับหลี่อวี้เจินและหลี่เสวี่ยเฉิง
แต่มันไม่มีหลักฐานอะไรที่เชื่อมโยงไปถึงหลี่เสวี่ยเฉิง และนั่นหมายความว่าหานเซิ่นไม่สามารถทำอะไรได้
‘น่าเสียดายที่ร่างโคลนของเรดบลัดเดม่อนจะใช้เวลาอีกหกเดือนถึงจะเกิดขึ้นมาใหม่ ไม่อย่างนั้นเราก็จะไปฆ่ามันอีกครั้ง บางทีนั่นอาจจะช่วยให้เรารู้ว่าวิญญาณอสูรที่ไม่สมบูรณ์คืออะไร’ หานเซิ่นคิดกับตัวเองขณะที่ตกปลาอยู่ที่ทะเลสาบอันเดอร์เวิลด์ ทันใดนั้นเขาก็ได้ยินเสียงเป่าเอ๋อตะโกน
“พ่อ! หนูตกหัวแกะได้อีกแล้ว” เป่าเอ๋อตะโกนขณะที่ดึงเส้นไหมอันเดอร์เวิลด์
หานเซิ่นมองไปทางเป่าเอ๋อและเห็นว่าเธอตกลูกบาศก์สี่แกะขึ้นมาได้จริงๆ ครึ่งหนึ่งของมันโผล่ขึ้นมาให้เห็นผ่านก้อนเมฆของทะเลสาบ
หานเซิ่นเคยชินกับเหตุการณ์แบบนี้แล้ว เป่าเอ๋อมักจะตกลูกบาศก์สี่แกะได้อยู่บ่อยๆ แต่เธอไม่เคยนำมันขึ้นมาจากทะเลสาบได้เลย เมื่อไหร่ก็ตามที่ลูกบาศก์สี่แกะเกือบจะถูกดึงขึ้นจนพ้น เส้นไหมอันเดอร์เวิลด์ก็มักจะขาด และลูกบาศก์สี่แกะก็จะจมกลับลงไปในเมฆหมอกอีกครั้งหนึ่ง
หลังจากที่ตกมันได้หลายต่อหลายครั้ง แต่ไม่สามารถดึงมันขึ้นมาได้ เป่าเอ๋อก็เริ่มจะโกรธ ขณะที่เธอมองดูลูกบาศก์สี่แกะกำลังจะร่วงกลับลงไปในทะเลสาบ เธอตัดสินใจลองวิธีใหม่ เธอเรียกน้ำเต้าของเธอออกมา
เธอเล็งน้ำเต้าไปทางลูกบาศก์สี่แกะที่กำลังจมลงไป หลังจากนั้นเธอก็ตบด้านบนของน้ำเต้าเบาๆเพื่อปลดปล่อยพลังประหลาดออกมา มันเหมือนกับว่าบ่วงบาศที่มองไม่เห็นถูกโยนไปคล้องรูปบาศก์สี่แกะ และมันก็ดึงลูกบาศก์สี่แกะกลับมา
หานเซิ่นมองเป่าเอ๋อด้วยความตกใจ สิ่งต่างๆในทะเลสาบอันเดอร์เวิลด์นั้นเป็นอะไรที่พิเศษมากๆ โดยปกติแล้วมีเพียงแค่เส้นไหมอันเดอร์เวิลด์เท่านั้นที่จะส่งผลกระทบต่อพวกมัน พลังอย่างอื่นไม่สามารถทำอะไรสิ่งที่อยู่ในทะเลสาบอันเดอร์เวิลด์ได้
จนกว่าสิ่งของชิ้นนั้นจะถูกดึงขึ้นมาจากทะเลสาบอันเดอร์เวิลด์ได้สำเร็จ มันก็ไม่ควรมีพลังไหนที่มีผลต่อพวกมัน หานเซิ่นเคยลองพยายามใช้พลังของตัวเองเพื่อจเอาลูกบาศก์สี่แกะขึ้นมาจากทะเลสาบ แต่มันไม่ได้ผล
แต่น้ำเต้าของเป่าเอ๋อดูเหมือนจะได้ผล มันสามารถดึงลูกบาศก์สี่แกะขึ้นมาได้ แต่โชคร้ายที่เป่าเอ๋อไม่มีพลังเพียงพอ เธอดูลำบากลำบนที่จะดึงลูกบาศก์สี่แกะขึ้นมาจากหมอกเมฆ
เขาไม่รู้ว่ามันเป็นภาพลวงตาหรือเปล่า แต่เขารู้สึกเหมือนกับว่าลูกบาศก์สี่แกะกำลังใช้พลังของมันเองเพื่อดึงตัวเองกลับลงไปในทะเลสาบ
เป่าเอ๋อจับน้ำเต้าเอาไว้แน่น และน้ำหนักของลูกบาศก์สี่แกะก็เริ่มจะลากร่างกายของเธอไปที่ทะเลสาบ หัวใจของหานเซิ่นเต้นรัวๆ เขารีบเทเลพอร์ตไปจับตัวเธอเอาไว้
หานเซิ่นสัมผัสได้ว่ามีพลังประหลาดบางอย่างพยายามจะดึงร่างของเป่าเอ๋อและตัวเขาลงไปทางทะเลสาบ
“เป็นพลังที่น่ากลัวอะไรขนาดนี้!” หานเซิ่นไม่มีเวลามามัวคิด เขารีบเรียกเสื้อคลุมวิญญาณราชานกยูงออกมาและใช้พลังทั้งหมดเพื่อจะปักหลักอยู่กับที่ ขาของเขาเจาะลงไปในพื้นริมทะเลสาบ
แต่มันก็ยังคงไม่เพียงพอ แม้แต่วิญญาณอสูรที่ทรงพลังก็ไม่สามารถต่อต้านพลังที่ดึงร่างของเขาเข้าไปใกล้ทะเลสาบได้ ขาของหานเซิ่นค่อยๆลากเป็นทางยาวบนพื้น
หานเซิ่นกับเป่าเอ๋อใช้พลังทั้งหมด และใบหน้าของเป่าเอ๋อก็เปลี่ยนเป็นสีแดงเข้ม แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ไม่สามารถต่อสู้กับพลังนั้นได้ ไม่ว่าเธอจะพยายามมากสักแค่ไหน เธอกำลังจะตกลงไปในทะเลสาบ
หานเซิ่นกำลังจะบอกให้เป่าเอ๋อเก็บน้ำเต้าไป แต่ทันใดนั้นก็มีพลังใหม่ดึงเขาจากด้านหลัง หานเซิ่นหันกลับไปมองและเห็นว่าเป็นหมูน้อยทั้งสิบหกตัว พวกมันเรียงแถวกันขณะที่หมูแต่ละตัวจะงับหางของหมูตัวข้างหน้า หมูน้อยที่อยู่หน้าสุดงับเสื้อคลุมวิญญาณอสูรของหานเซิ่นและพยายามดึงเขากลับไป
สัญลักษณ์ลึกลับบนหน้าผากของหมูน้อยแต่ละตัวเรืองแสงขึ้นมา และพลังประหลาดก็แพร่กระจายในหมู่พวกมัน
หานเซิ่นรู้สึกแปลกใจ พลังระดับนี้ควรจะอยู่เหนือสิ่งมีชีวิตระดับราชันธรรมดาๆ ถึงแม้เขาจะสวมใส่ชุดเกราะวิญญาณราชานกยูง แต่เขาก็ยังคงถูกดึงไปทางทะเลสาบ แต่หมูน้อยทั้งสิบหกตัวดูเหมือนจะต้านพลังที่ดึงพวกเขาได้ นั่นเป็นอะไรที่แปลกมากๆ
แต่หานเซิ่นไม่ได้คิดเกี่ยวกับมันมากนัก เพราะยังไงซะเขาและเป่าเอ๋อก็ใช้กำลังทั้งหมดของตัวเอง บางทีพวกเขาอาจจะขนาดพลังเสริมอีกเพียงแค่นิดเดียว และนั่นเป็นสิ่งที่ถูกมอบโดยหมูน้อยทั้งสิบหกตัว จริงๆแล้วสิ่งมีชีวิตตัวน้อยนี้อาจจะไม่ได้แข็งแกร่งขนาดนั้น
ลูกบาศก์สี่แกะใกล้จะถูกดึงขึ้นมาจากทะเลสาบ และหานเซิ่นก็เห็นใบหน้าของแกะทองแดงที่กำลังขึ้นมาเหนือเมฆ พวกมันดูเหมือนกับว่ากำลังหวาดกลัว
“ดีมาก! ให้ฉันดึงแกขึ้นมาดูสิว่าแกคืออะไรกันแน่”
เมื่อรู้สึกตัวว่าการชักเย่อใกล้จะจบลงแล้ว หานเซิ่นก็เริ่มตื่นเต้นขึ้นมา
ทุกครั้งที่พวกเขาดึงมันขึ้นมาไม่สำเร็จ หัวแกะก็จะเย้ยหยันเขา และนั่นทำให้หานเซิ่นรู้สึกไม่พอใจเท่าไหร่
ในจังหวะที่ลูกบาศก์สี่แกะถูกดึงขึ้นมาจากทะเลสาบ หานเซิ่น เป่าเอ๋อและหมูน้อยทั้งสิบหกตัวก็ถูกส่งลอยออกไปด้านหลัง
ปัง!
ลูกบาศก์สี่แกะที่สูงสามถึงสี่เมตรบินขึ้นมาจากเมฆหมอก มันร่วงลงบนพื้นดินและด้านล่างของมันก็จมลงไปในพื้น
“ในที่สุดก็ดึงแกขึ้นมาได้! นี่แกคืออะไรกัน?” หานเซิ่นดีใจ เขาลุกขึ้นจากพื้นและเดินเข้ามาหาลูกบาศก์สี่แกะ
เป่าเอ๋อและหมูน้อยก็รีบมาดูมันเช่นกัน พวกเขาเข้าล้อมลูกบาศก์สี่แกะเอาไว้
หลังจากที่เดินวนรอบๆ หานเซิ่นก็ยืนยันได้ว่าลูกบาศก์สี่แกะดูเหมือนกับรูปปั้นทองแดงธรรมดาๆ เขาไม่สามารถสัมผัสถึงพลังชีวิตใดๆจากมัน มันดูเหมือนกับวัตถุที่ไม่มีชีวิตชิ้นหนึ่ง
หานเซิ่นมองไปที่ใบหน้าของแกะทั้งสี่ตัวและเห็นว่าใบหน้าของมันดูเหมือนเดิม พวกมันกำลังปิดตาลงเหมือนกับพระสงฆ์ที่กำลังทำสมาธิ พวกมันไม่ได้กำลังเย้ยหยันใคร
“แปลกจริงๆ สาบานว่าเห็นสีหน้าอื่นบนใบหน้าของพวกมัน ทำไมตอนนี้ใบหน้าของพวกมันถึงไม่มีการเปลี่ยนแปลง?”
หานเซิ่นใช้วิญญาณอสูรผีเสื้อเนตรม่วงเพื่อมองดูมัน แต่เขาไม่เห็นอะไรที่ผิดปกติ พลังย้อนเวลาของวิญญาณอสูรผีเสื้อเนตรม่วงดูเหมือนจะไม่ได้ผลกับมัน
“เจ้าสิ่งนี้มีชีวิตหรือไม่มีกันแน่?” หานเซิ่นสงสัย ถึงแม้มันจะไม่ได้ตอบสนองใดๆ แต่หานเซิ่นก็ไม่เชื่อว่ารูปปั้นนี่จะเป็นเพียงแค่วัตถุทองแดงธรรมดาๆ
หานเซิ่นลองชกหมัดออกไปใส่ลูกบาศก์สี่แกะและพบว่ารูปปั้นไม่ได้รับความเสียหายเลยแม้แต่นิดเดียว เมื่อหานเซิ่นเห็นแบบนั้น เขาก็รู้สึกมั่นใจว่านี่ไม่ใช่แค่วัตถุทองแดงธรรมดาๆ
ด้วยพลังของเขาแม้แต่สมบัติซีโน่เจเนอิคระดับราชันก็จะแตกเป็นเสี่ยงๆ แต่ลูกบาศก์สี่แกะนี้กลับไม่เป็นอะไรเลย นั่นหมายความว่าวัสดุของมันจะต้องเป็นอะไรที่พิเศษ
เป่าเอ๋อกระโดดขึ้นมาลูกบาศก์สี่แกะเพื่อจะดูมันใกล้ๆ หลังจากนั้นเธอก็พูดขึ้นด้วยความประหลาดใจ “พ่อ มันมีปลาสองตัว!”
“ปลา?” หานเซิ่นถาม เขาบินขึ้นไปเหนือลูกบาศก์สี่แกะ ด้านบนของลูกบาศก์สี่แกะนั้นเต็มไปด้วยน้ำและมันมีปลาทองสองตัวอยู่ภายใน พวกมันเป็นสีดำและขาว