Super God Gene – ตอนที่ 2702

เสียงระฆังดังก้องไปทั่วมหาสมุทร มันแปลกมากๆที่จะได้ยินเสียงดังก้องขนาดนี้ในสถานที่ที่ก่อนหน้านี้เงียบสนิท

 

“ห้าครั้ง… หกครั้ง…” หานเซิ่นนับเสียงระฆังอยู่ในใจ เขานับไปจนถึงเลขสิบสองก่อนที่เสียงระฆังจะเงียบไป

 

หลังจากที่เสียงระฆังหยุดไป ประตูของปราสาทก็เปิดออก บางส่วนของปราสาทดูเหมือนจะถูกสร้างขึ้นจากโลหะที่ทันสมัย ขณะที่บางส่วนดูเก่าแก่อย่างมาก แต่ไม่ว่าลักษณะภายนอกของพวกมันจะเป็นยังไง ประตูของปราสาททุกหลังก็เปิดออกอย่างพร้อมเพรียงกัน ราวกับว่าพวกมันถูกเปิดโดยระบบอัตโนมัติ

 

ในตอนที่ประตูของปราสาทเปิดออก สัมผัสของชีวิตก็กลับมาสู่มหาสมุทรที่ก่อนหน้านี้ดูรกร้างว่างเปล่า

 

แม้แต่คนที่เกือบจะหูหนวกก็ยังได้ยินเสียงฝีเท้าเหล่านั้น ทุกฝีเท้าเป็นเหมือนกับแผ่นดินไหวเล็กๆ

 

เสียงฝีเท้าที่เหมือนกับแผ่นดินไหวดึงดูดสายตาของหานเซิ่นไปทางปราสาท และไม่นานเขาก็เห็นบางสิ่งออกมาจากประตูปราสาท

 

ยักษ์ตัวสูงกว่าหนึ่งร้อยเมตรก้าวออกมา ถึงแม้มันจะตัวใหญ่ แต่มันก็ไม่ได้ดูเชื่องช้าเลยแม้แต่น้อย มันเคลื่อนไหวร่างกายที่ใหญ่มหึมาด้วยความสง่างาม

 

หานเซิ่นขมวดคิ้ว ขณะที่สังเกตกุญแจมือที่คล้องแขนและขาของยักษ์อยู่ ดวงตาของยักษ์ดูขาดความมีชีวิตชีวามากๆ ราวกับว่ามันกำลังเหม่อลอย

 

หานเซิ่นรู้สึกตัวอย่างรวดเร็วว่ายักษ์นั่นไม่ใช่แค่ตนเดียวที่ออกมา ตอนนี้ด้านหน้าทุกปราสาทในมหาสมุทรมียักษ์ออกมายืนอยู่

 

ยักษ์ตนอื่นเองก็ถูกล่ามเช่นเดียวกัน และดวงตาของพวกมันก็ดูไร้ชีวิตชีวา พวกมันยืนอยู่ตรงหน้าปราสาทอย่างเงียบๆ

 

“พวกมันมีร่างกายที่ใหญ่โตขนาดนั้น แต่พวกมันกลับไม่จมลงไป ทั้งๆที่พวกมันกำลังยืนอยู่บนทะเล ถึงอย่างนั้นกระแสน้ำก็ดูเหมือนจะกำลังเคลื่อนพวกมันไป พวกมันทั้งหมดถูกดึงไปในทิศทางเดียวกัน” หานเซิ่นลังเล เขาไม่แน่ใจว่าควรจะตามไปดีหรือเปล่า

 

หานเซิ่นเคยไปเยือนสถานที่ที่แปลกประหลาดมากมาย ดังนั้นถึงสถานที่แห่งนี้จะแปลกมากๆ แต่หานเซิ่นก็ไม่ได้สั่นคลอน แต่ทว่าสิ่งที่ทำให้เขาประหลาดใจคือการมีอยู่ของยักษ์เหล่านั้น

 

ยักษ์แต่ละตนปล่อยออร่าที่หนักแน่นออกมา หานเซิ่นจึงสงสัยว่าพวกมันเป็นระดับเทพเจ้าหรือเปล่า

 

แต่ขณะที่หานเซิ่นคิดเกี่ยวกับมัน เขาก็รู้สึกตัวว่าเห็นยักษ์สองร้อยถึงสามร้อยตน ถ้าพวกมันทั้งหมดเป็นระดับเทพเจ้า เขาก็ไม่อาจจะจินตนาการได้ว่าเผ่าพันธุ์ไหนที่มีระดับเทพเจ้าอยู่มากมายขนาดนี้

 

ที่น่าสะพรึงกลัวยิ่งกว่านั้นคือความจริงที่ยักษ์เหล่านี้ถูกปฏิบัติเหมือนกับนักโทษ แขนและขาของพวกมันถูกล่ามและมีบางสิ่งผิดปกติในดวงตาของพวกมัน ใครกันจะขังเหล่ายักษ์ได้แบบนี้?

 

หานเซิ่นอยากจะตามไปเพื่อหาความจริง แต่เขาคิดว่ามันเป็นอะไรที่อันตรายเกินไป ถ้าบางสิ่งสามารถกักขังยักษ์เหล่านี้ได้ มันก็อาจจะสัมผัสได้ถึงตัวตนของหานเซิ่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าเขาตามไป

 

‘อย่าดีกว่า เราควรรีบหาทางออกไปจากที่แห่งนี้’ หานเซิ่นอุ้มเป่าเอ๋อขึ้นมา

 

“พ่อจะไม่ตามไปดูหรอ?” เป่าเอ๋อถามขณะที่มองดูเหล่ายักษ์ที่เคลื่อนไปกับกระแสน้ำ

 

“ตอนนี้มันอันตรายเกินไป พวกเราควรหาทางออกไปจากที่นี่ก่อน”
หานเซิ่นตอบ หลังจากนั้นเขาก็เดินเข้าไปหาลูกบาศก์สี่แกะ เขาจำได้ว่าเป่าเอ๋อเหยียบบนหัวแกะตัวหนึ่ง ก่อนที่วังวนจะก่อตัวขึ้นมาและพาพวกเขามายังสถานที่แห่งนี้

 

“ตอนนี้พวกเราต้องลองเสี่ยงดู” หานเซิ่นบอกให้พวกหมูน้อยลงไปในสระน้ำบนลูกบาศก์สี่แกะ หลังจากนั้นเขาก็จะตามพวกมันลงไปพร้อมกับเป่าเอ๋อ

 

เมื่อเท้าของหานเซิ่นเหยียบลงบนหัวแกะทองแดง ปลาทองทั้งสองตัวก็เริ่มว่ายอย่างบ้าคลั่ง และน้ำในลูกบาศก์ก็ก่อตัวเป็นวังวนอีกครั้งหนึ่ง

 

“พวกเราจะต้องกลับไป” หานเซิ่นรู้สึกได้ถึงแรงดึงดูดที่ออกมาจากลูกบาศก์ หลังจากนั้นเขาและเป่าเอ๋อก็ถูกดูดเข้าไปในวังวน พวกหมูน้อยเองก็ถูกดูดเข้าไปเช่นเดียวกัน

 

ในตอนที่น้ำหยุดลง หานเซิ่นก็ออกมาจากลูกบาศก์ เขารู้สึกดีใจเมื่อเห็นว่าตัวเองกลับมาที่ริมทะเลสาบอันเดอร์เวิลด์อีกครั้ง

 

‘นี่ลูกบาศก์สี่แกะเป็นเครื่องเทเลพอร์ตอย่างนั้นหรอ? ถ้าเป็นแบบนั้นมันส่งพวกเราไปที่ไหนกันแน่ แล้วยักษ์เหล่านั้นคืออะไรกัน?’
หานเซิ่นมองไปที่ลูกบาศก์สี่แกะ ขณะที่ครุ่นคิดคำถามเหล่านี้
‘ถ้ารูปปั้นหัวแกะอันนี้มีความสามารถในการเทเลพอร์ต หัวแกะที่เหลือจะทำอะไรได้ พวกมันจะทำงานต่างออกไปหรือว่าพวกมันจะส่งเราไปในสถานที่อื่นที่ไม่ใช่ทะเลนั่นกัน?’

 

ยิ่งหานเซิ่นคิดเกี่ยวกับมัน ความอยากรู้ของเขาก็เพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ แต่เขาไม่อยากจะเสี่ยง ถ้าสัญชาตญาณของเขาถูกต้องเกี่ยวกับเรื่องที่ยักษ์เหล่านั้นเป็นระดับเทพเจ้า สถานที่ที่พวกเขาเทเลพอร์ตไปก็ต้องเป็นสถานที่ที่อันตรายมากๆ

 

เมื่อดูจากเรื่องนั้น หานเซิ่นก็เชื่อว่าหัวแกะทองแดงที่เหลือก็คงจะพาเขาไปในสถานที่ที่อันตรายเช่นเดียวกัน

 

ถึงหานเซิ่นจะแข็งแกร่งและมีพรสวรรค์ แต่เขาก็ยังคงมีข้อเสีย เขาเป็นคนที่ขี้สงสัยเกินไป เขารู้ว่าทะเลที่เต็มไปด้วยเหล่ายักษ์นั้นอันตรายแค่ไหน แต่ตอนนี้เมื่อเขาค้นพบสถานที่ปริศนา มันก็ทำให้เขาจะเป็นบ้า ถ้าเขาไม่ไปดูและเปิดเผยความลับของมัน

 

“เป่าเอ๋อ หนูรอพ่ออยู่ที่นี่” หานเซิ่นวางเปล่าเอ๋อลง เขาคิดจะกลับไปที่นั่นตามลำพัง

 

“พ่อ หนูจะไปกับพ่อด้วย” เป่าเอ๋อจับขาของหานเซิ่นเอาไว้

 

“ที่แห่งนั้นอันตรายเกินไป พ่อจะไปดูลาดเลาก่อน ถ้ามันเป็นสถานที่ที่สนุก พ่อจะกลับมาพาหนูไปด้วย” หานเซิ่นปลอบเป่าเอ๋ออยู่สักพัก ก่อนที่เธอจะยอมปล่อยเขาไป

 

หานเซิ่นพาเป่าเอ๋อออกห่างจากลูกบาศก์สี่แกะ ก่อนที่เขาจะกลับไปใช้มือกดที่หัวของแกะทองแดง

 

ปลาทองทั้งสองเริ่มว่ายเป็นวงกลมเหมือนกับครั้งก่อน พวกมันสร้างวังวนขึ้นในน้ำและดูดหานเซิ่นเข้าไปข้างใน

 

ในตอนที่หานเซิ่นออกมาจากลูกบาศก์สี่แกะ เขาก็พบว่าตัวเองมายืนอยู่บนทะเลที่กว้างใหญ่อีกครั้ง ตอนนี้ยักษ์ทั้งหมดได้หายไปแล้ว เขามองไปยังดวงอาทิตย์ที่เป็นนาฬิกาและเห็นว่ามันผ่านไปแค่ไม่กี่นาทีเท่านั้น

 

ตูม!

 

ทันใดนั้นหานเซิ่นก็ได้ยินเสียงระเบิดดังมาจากทางที่เหล่ายักษ์หายตัวไป เขาสัมผัสได้ถึงพลังมหาศาลจากทิศทางนั้น

 

ขณะที่พลังสั่นสะเทือนอากาศโดยรอบ สีหน้าของหานเซิ่นก็เปลี่ยนไป เขาคิดกับตัวเอง
‘คลื่นกระแทกนั่น… มันเหมือนกับวิชาเบรกซิกซ์สกาย ยักษ์พวกนั้นคือเผ่าเบรกสกายในตำนานอย่างนั้นหรอ?’

 

เบรกซิกซ์สกายเป็นวิชาจีโนลับของเผ่าเบรกสกาย เผ่าเดสทรอยเยอร์เป็นหนึ่งในเผ่าพันธุ์ที่มีสายเลือดของเบรกสกายอยู่ในตัว แต่พวกเขาไม่ได้แข็งแกร่งเหมือนอย่างเผ่าเบรกสกายในอดีต

 

ตำนานบอกเอาไว้ว่าเผ่าเบรกสกายไม่สามารถสืบพันธ์ได้ ซึ่งทำให้จำนวนของพวกเขาลดน้อยลงเรื่อยๆ ถ้าพวกเขาต้องการจะสืบสายเลือดของตัวเอง พวกเขาจำเป็นต้องผสมพันธุ์กับเผ่าพันธุ์อื่นเพื่อสร้างลูกผสมอย่างเผ่าเดสทรอยเยอร์

 

ถ้ายักษ์เหล่านั้นเป็นเผ่าเบรกสกายจริงๆ แบบนั้นตำนานเกี่ยวกับการสูญพันธุ์ของเผ่าเบรกสกายก็อาจจะไม่เป็นความจริง

Super God Gene

Super God Gene

ในยุคสมัยที่วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของมนุษย์ถูกพัฒนาจนถึงระดับสูง ในที่สุดมนุษยชาติก็ได้ค้นพบวิธีการเทเลพอร์ต แต่เมื่อพวกเขาทดลองเทเลพอร์ต กลับพบว่าพวกเขาไม่ได้ถูกส่งไปในอนาคต อดีตหรือสถานที่อื่นๆที่มนุษย์รู้จัก แต่มันคือโลกที่แตกต่างโดยสิ้นเชิง สถานที่ลึกลับนี่ถูกเรียกว่า ‘ก็อด เเซงชัวรี่’ ที่นี่มีสิ่งมีชีวิตประหลาดอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก แต่เมื่อมนุษย์ลองกินสิ่งมีชีวิตประหลาดเข้าไป ร่างกายของพวกเขาพัฒนาขึ้นและยังเพิ่มอายุขัยขึ้นด้วย มันคือก้าวที่ยิ่งใหญ่ของมนุษย์ชาติในการวิวัฒนาการเพื่อสร้างยุคสมัยที่ยิ่งใหญ่ “ด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ถูกฆ่า คุณได้รับวิญญาณอสูรด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ เมื่อกินเนื้อของด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ คุณมีโอกาสได้รับ 0 ถึง 10 Geno Point โดยการสุ่ม” The future unfolded on a magnificent scale into the Interstellar Age. Humanity finally solved the space warp technology, but when humanity transported themselves into the other end, they discovered that place neither had a past nor future, nor was there any land under the starry skies…… The mysterious sanctuary was actually a world filled with countless tyrannical unusual organisms. Humanity faced their great leap in evolution, starting the most glorious and resplendant new era under the starry skies. “Slaughtered the God Blood organism ‘Black Beetle’. Received the God Blood Black Beetle’s Beast Soul. Used the God Blood Black Beetle’s flesh. Randomly obtaining 0 to 10 points of God Gene(s).”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset