Super God Gene – ตอนที่ 2705

“ถึงแม้เจ้าจะทนต่อความเจ็บปวดได้ แต่เจ้าจะมองดูคนของเจ้ากระเสือกกระสนอย่างไร้ประโยชน์ไปตลอดชีวิตอย่างนั้นหรอ? เจ้าต้องการให้พวกเขาทุกข์ทรมานอยู่ในที่แห่งนี้ราวกับซากศพเดินได้หรือยังไง?”
ราชาจุนมองลงมาที่ยักษ์และพูด

 

ฮอไรซอนทอลยังคงถูกทรมานอย่างต่อเนื่อง แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังหัวเราะออกมา
“ถึงแม้ทุกคนจะทอดทิ้งข้า แต่พวกเขาก็จะไม่ยอมรับเบรกสกาย แบบนั้นมันจะสำคัญอะไร พวกเจ้าต้องการสุดยอดยีนอย่างนั้นสินะ? แต่เสียใจด้วย ข้าจะไม่มอบมันให้ใครทั้งนั้น”

 

หานเซิ่นรู้สึกแปลกใจที่ได้ยินแบบนั้น ในที่สุดสุดยอดยีนอันลึกลับก็ถูกพูดถึงอีกครั้ง

 

สีหน้าของราชาจุนยังคงไม่เปลี่ยนแปลง เขามองไปที่ฮอไรซอนทอลอีวิลอย่างสงบนิ่งและพูด
“เจ้าจะยอมสังเวยตัวเองและคนของเจ้าเพื่อความลับที่มีค่ามากที่สุดของผู้นำเซเคร็ด นั่นเป็นคุ้มค่าจริงๆอย่างนั้นหรอ? เจ้าถูกทรมานอยู่ที่นี่ และพวกพ้องของเจ้าก็จะตายอยู่ที่นี่กับเจ้า ตอนนี้ผู้นำเซเคร็ดอยู่ที่ไหน? นี่เขาเคยคิดจะช่วยเจ้าบ้างไหม? นี่เขาเคยทำอะไรให้กับเผ่าเบรกสกายบ้าง?”

 

“ไม่จำเป็นต้องพูดอะไรมากกว่านั่น ไม่มีใครล้วงความลับของสุดยอดยีนจากข้าได้ ก่อนหน้านี้พระเจ้าแห่งนภาก็ล้มเหลวไปแล้ว และเจ้าราชาจุนก็จะล้มเหลวเช่นเดียวกัน” ฮอไรซอนทอลอีวิลพูดเย้นหยัน

 

ราชาจุนหัวเราะใส่ฮอไรซอนทอลอีวิล เขาไม่ได้สูญเสียความเยือกเย็นไป เขาพูดขึ้นว่า
“ข้ามีเวลามากมาย เจ้าควรจะลองคิดเกี่ยวกับมันให้ดี แต่ที่ข้ามาในวันนี้ก็เพราะข้ามีเรื่องบางอย่างอยากจะบอกกับเจ้า ข้าจะไปจากที่นี่สักพัก ในตอนที่ข้ากลับมา ข้าจะมอบของขวัญอย่างหนึ่งให้กับเจ้า มันจะทำให้เจ้าประหลาดใจ และข้าคิดว่าเจ้าควรจะต้องตารอดูมัน”

 

“นั่นหมายความว่ายังไง?” ฮอไรซอนทอลอีวิลถามพร้อมกับขมวดคิ้ว

 

“เจ้าจะรู้เองเมื่อเจ้าได้เห็นมัน และข้ารับประกันได้เลยว่าเจ้าต้องประหลาดใจมากๆ”
ราชาจุนยิ้มอย่างแปลกๆ หลังจากนั้นเขาก็หันหลังและบินไปหาดวงอาทิตย์ที่ดูเหมือนกับนาฬิกา ก่อนจะหายตัวไป

 

หลังจากผ่านไปสักพัก ฮอไรซอนทอลอีวิลก็พูดกับหานเซิ่น
“ตอนนี้เจ้าออกมาได้แล้ว”

 

หานเซิ่นออกมาจากเส้นผมของฮอไรซอนทอลอีวิลด้วยความรู้สึกโล่งใจ โชคดีที่ราชาจุนไม่ได้รู้สึกถึงตัวตนของหานเซิ่น

 

หลังจากที่ราชาจุนจากไป ชุดเกราะคริสตัลสีดำก็กลับไปอยู่ในสถานะสงบนิ่งดังเดิม

 

“เจ้าเป็นแค่ระดับราชัน เจ้ามาที่นี่ได้ยังไง?”
ฮอไรซอนทอลอีวิลถามหานเซิ่น ในสายตาของเขาระดับครึ่งเทพและระดับราชันนั้นเหมือนๆกัน

 

หานเซิ่นบอกฮอไรซอนทอลอีวิลเกี่ยวกับลูกบาศก์สี่แกะ และเมื่อฮอไรซอนทอลอีวิลได้ยินคำอธิบายของหานเซิ่น เขาก็ขมวดคิ้ว
“ลูกบาศก์สี่แกะเป็นสมบัติที่มาจากโลกปฏิสสาร นั่นเป็นอะไรที่ค่อนข้างแปลก บางทีนั่นอาจจะเป็นเหตุผลที่มันส่งเจ้ามาที่นี่”

 

“ที่นี่เป็นสถานที่แบบไหนกัน? แล้วชายคนนั้นคือใครอย่างนั้นหรอ?” หานเซิ่นถาม

 

ฮอไรซอนทอลอีวิลไม่ได้ตอบคำถามของหานเซิ่น เขาแค่ถามคำถามของตัวเอง “บอกข้าเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับจักรวาลในตอนนี้มา”

 

หานเซิ่นพยายามอดทนและเริ่มบรรยายเกี่ยวกับจักรวาลในทุกวันนี้ ฮอไรซอนทอลอีวิลฟังทุกคำพูดของเขาและถามหลากหลายคำถาม ใบหน้าของเขาดูกังวลขึ้นเรื่อยๆเมื่อการสนทนาดำเนินต่อไป

 

ที่สุดแล้วฮอไรซอนทอลอีวิลก็มองขึ้นไปยังดวงอาทิตย์บนท้องฟ้าและทำท่าบอกให้หานเซิ่นหยุดพูด
“เวลาของข้าใกล้หมดแล้ว เจ้าควรจะกลับมาใหม่ในวันพรุ่งนี้”

 

หานเซิ่นกำลังจะพูดต่อ แต่หลังจากนั้นเขาก็ได้ยินเสียงระฆัง เขาเงยหน้าขึ้นและสังเกตเห็นว่ามันผ่านไปสิบสองชั่วโมงแล้ว

 

เสาโลหะหยุดหมุนและแสงของมันก็เลือนหายไป มันกลับไปดูเหมือนกับเสาโลหะธรรมดาๆอีกครั้ง ดวงตาของฮอไรซอนทอลอีวิลค่อยๆปิดลงและเขาก็เข้าสู่สภาวะหลับไหลไป ไม่ว่าหานเซิ่นจะพยายามปลุกเขายังไง มันก็ไม่มีการตอบสนองกลับมา

 

ไม่นานหลังจากนั้นหานเซิ่นก็ได้ยินเสียงพวกยักษ์ที่กำลังตรงมาทางเขา พวกมันไม่ได้เห็นหานเซิ่น พวกมันแค่กลับมาเพื่อขุดภูเขาต่อ

 

ในตอนที่หานเซิ่นเห็นแบบนั้น เขาก็รู้สึกเห็นอกเห็นใจขึ้นมา ตอนนี้เขาอยากจะรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้มากยิ่งกว่าเดิม

 

“เบรกสกายเหล่านี้พยายามขุดภูเขาทุกวันๆ พวกเขาพยายามจะช่วยอัลฟ่าของพวกเขา แต่มันเป็นงานที่ไม่มีวันทำสำเร็จ ใครก็ตามที่ทำเรื่องนี้จะต้องเป็นคนที่ชั่วร้ายเหนือจินตนาการ การฆ่าพวกเขาเป็นเรื่องง่ายๆ แต่คนๆนั้นกลับทำให้พวกเขาต้องมีชีวิตอยู่อย่างเจ็บปวดไปตลอดชีวิต มันเป็นอะไรที่น่ากลัว”
หานเซิ่นถอนหายใจ เขาไม่อยากจะอยู่ที่นั่นนานเกินความจำเป็น ดังนั้นเขาจึงบินกลับไปที่ลูกบาศก์สี่แกะ

 

ในตอนที่เขากลับไปที่ทะเลสาบอันเดอร์เวิลด์ เขาก็เห็นเป่าเอ๋อและหมูน้อยสิบหกตัวรอคอยเขาอยู่ที่นั่น

 

“เอ็กซ์ควิสิทและหลี่เคอเอ๋อได้มาที่นี่ในตอนที่พ่อไม่อยู่หรือเปล่า?” หานเซิ่นถามขณะที่อุ้มเป่าเอ๋อขึ้นมา

 

“ไม่” เป่าเอ๋อส่ายหัว

 

หานเซิ่นพยักหน้า นั่นหมายความว่าเขามีเรื่องที่ต้องกังวลน้อยลงไปหนึ่งเรื่อง เขาลองเก็บลูกบาศก์สี่แกะเข้าไปในหอคอยแห่งโชคชะตา และพบว่าามารถเก็บมันเข้าไปข้างในได้อย่างไม่มีปัญหาอะไร นั่นทำให้เขาถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งใจ

 

‘ถ้ามีโอกาสอีกครั้งในอนาคต เราควรกลับไปหาฮอไรซอนทอลอีวิลคนนั้น บางทีเราอาจจะได้รู้ความลับบางอย่างจากเขา จากสิ่งที่ราชาจุนพูด ดูเหมือนว่าฮอไรซอนทอลอีวิลจะมีความเกี่ยวข้องกับผู้นำเซเคร็ด’
หานเซิ่นคิดกับตัวเอง หลังจากนั้นเขาก็เริ่มคิดหาวิธีที่จะเอาล้วงความลับจากฮอไรซอนทอลอีวิล

 

นั่นไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ฮอไรซอนทอลอีวิลอยู่ที่นั่นมานานแค่ไหนไม่มีใครรู้ แต่เขาก็ยังคงไม่บอกความลับกับราชาจุน หานเซิ่นเป็นเพียงแค่คนแปลกหน้าคนหนึ่ง การจะสร้างความเชื่อใจระหว่างพวกเขาเป็นเรื่องที่ยากมากๆ

 

หานเซิ่นฝึกฝนที่ริมทะเลสาบอยู่ครึ่งวัน เขาตั้งใจจะรอให้ผ่านไปสิบสองชั่วโมงก่อนที่เขาจะกลับไปที่ดินแดนปริศนานั่นอีกครั้ง แต่ก่อนที่เวลานั้นจะมาถึง เขาก็เห็นใครบางคนบินเข้ามาหาเขา

 

“มิสเตอร์อวี้” หานเซิ่นพูดเมื่อเห็นว่าคนๆนั้นเป็นใคร อวี้ซ่านซินกำลังขี่นกกระเรียนมาทางเขา

 

อวี้ซ่านซินลงจากนกกระเรียนและเดินเข้ามาหาหานเซิ่นด้วยรอยยิ้ม
“สิ่งที่ท่านผู้นำต้องการให้เจ้าทำ มันคืบหน้าไปถึงไหนแล้ว?”

 

“หมายความว่ายังไง? ผู้นำปราสาทนภาไม่ได้ขอให้ข้าทำอะไรสักหน่อย” หานเซิ่นพูดโดยแกล้งทำเป็นว่าประหลาดใจ

 

อวี้ซ่านซินพยักหน้าและพูด “เจ้าเป็นคนระมัดระวังตัวจริงๆ แต่เจ้าจำเป็นต้องหาผู้หญิงคนนั้นให้พบโดยเร็ว”

 

หลังจากที่ได้ยินแบบนั้น หานเซิ่นก็เชื่อว่าอวี้ซ่านซินคงจะรู้ถึงสิ่งที่ผู้นำปราสาทนภาขอให้เขาทำจริงๆ เขายกมือขึ้นเพื่อยอมแพ้และพูด
“ตั้งแต่มาถึงเอาท์เตอร์สกาย ข้ายังไม่มีโอกาสได้พบเจอเวรี่ไฮมากนัก แบบนั้นข้าจะไปหาเป้าหมายเจอได้ยังไง?”

 

หานเซิ่นคิดอยู่ในใจ ‘ถึงแม้ฉันจะได้เจอเวรี่ไฮครบทุกคนแล้ว แต่ฉันก็ปลดเสื้อผ้าพวกเขาเพื่อมองหาปานรูปหัวใจไม่ได้อยู่ดี’

 

“นี่เป็นสถานการณ์ที่ยุ่งยาก แต่ข้าเชื่อว่าเจ้าจะทำได้สำเร็จ” อวี้ซ่านซินพูดด้วยรอยยิ้ม

 

“หมายความว่ายังไง? ถ้าแบบนั้นทำไมไม่ทำมันด้วยตัวเอง?” หานเซิ่นขมวดคิ้ว

 

“นี่เป็นงานของเจ้า ไม่ใช่ของข้า ข้ามีเรื่องอื่นต้องทำ”
อวี้ซ่านซินยิ้มและพูดต่อ “ถ้าเจ้าไม่มีเรื่องอะไรแล้ว ในอีกไม่กี่วันเอ็กซ์ควิสิทและหลี่เคอเอ๋อจะพาเจ้าไปที่ก็อตแอเรีย เจ้าควรจะปฏิบัติตัวดีๆ”

 

“ก็อตแอเรีย? ข้าเป็นแค่ครึ่งเทพ แล้วข้าจะไปที่ก็อตแอเรียได้ยังไง?” หานเซิ่นถาม

 

หานเซิ่นเคยได้ยินเกี่ยวกับก็อตแอเรียมาก่อน มันเป็นซีโน่เจเนอิคสเปชที่คล้ายคลึงกับคอร์แอเรีย แต่ในขณะที่คอร์แอเรียนั้นมีเพียงแค่ระดับราชันเท่านั้นที่จะเข้าไปได้ ก็อตแอเรียก็เป็นซีโน่เจเนอิคสเปชสำหรับระดับเทพเจ้า

Super God Gene

Super God Gene

ในยุคสมัยที่วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของมนุษย์ถูกพัฒนาจนถึงระดับสูง ในที่สุดมนุษยชาติก็ได้ค้นพบวิธีการเทเลพอร์ต แต่เมื่อพวกเขาทดลองเทเลพอร์ต กลับพบว่าพวกเขาไม่ได้ถูกส่งไปในอนาคต อดีตหรือสถานที่อื่นๆที่มนุษย์รู้จัก แต่มันคือโลกที่แตกต่างโดยสิ้นเชิง สถานที่ลึกลับนี่ถูกเรียกว่า ‘ก็อด เเซงชัวรี่’ ที่นี่มีสิ่งมีชีวิตประหลาดอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก แต่เมื่อมนุษย์ลองกินสิ่งมีชีวิตประหลาดเข้าไป ร่างกายของพวกเขาพัฒนาขึ้นและยังเพิ่มอายุขัยขึ้นด้วย มันคือก้าวที่ยิ่งใหญ่ของมนุษย์ชาติในการวิวัฒนาการเพื่อสร้างยุคสมัยที่ยิ่งใหญ่ “ด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ถูกฆ่า คุณได้รับวิญญาณอสูรด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ เมื่อกินเนื้อของด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ คุณมีโอกาสได้รับ 0 ถึง 10 Geno Point โดยการสุ่ม” The future unfolded on a magnificent scale into the Interstellar Age. Humanity finally solved the space warp technology, but when humanity transported themselves into the other end, they discovered that place neither had a past nor future, nor was there any land under the starry skies…… The mysterious sanctuary was actually a world filled with countless tyrannical unusual organisms. Humanity faced their great leap in evolution, starting the most glorious and resplendant new era under the starry skies. “Slaughtered the God Blood organism ‘Black Beetle’. Received the God Blood Black Beetle’s Beast Soul. Used the God Blood Black Beetle’s flesh. Randomly obtaining 0 to 10 points of God Gene(s).”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset