“เผ่าเวรี่ไฮมีหนทางที่จะพาเจ้าเข้าไปในก็อตแอเรีย แต่ภายในนั้นชื่อเสียงอาจจะเป็นสิ่งที่ทำร้ายเจ้า” อวี้ซ่านซินพูดพร้อมกับหัวเราะ
“ชื่อเสียงของข้าจะเกี่ยวข้องอะไรกับการเข้าไปในก็อตแอเรีย?” หานเซิ่นไม่เข้าใจ
รอยยิ้มของอวี้ซ่านซินเป็นอะไรที่น่ากลัว เขาพูดกับหานเซิ่น
“ในก็อตแอเรีย มันมีอะไรมากกว่าแค่ซีโน่เจเนอิคระดับเทพเจ้าขั้นพริมิทีฟ และแม้แต่ครึ่งเทพที่แข็งแกร่งที่สุดก็จะพบว่าตัวเองเป็นลำดับล่างสุดของห่วงโซ่อาหารภายในก็อตแอเรีย การฆ่าซีโน่เจเนอิคในก็อตแอเรียเป็นเรื่องที่ยากมากๆ ถึงแม้เจ้าจะฆ่าพวกมันได้ เจ้าก็ไม่ควรเข้าไปในก็อตแอเรียอยู่ดี เอาท์เตอร์สกายมีซีโน่เจเนอิคอยู่มากมาย ความจริงแล้วพวกมันคงจะมีกันอยู่มากกว่าภายในก็อตแอเรียซะอีก ด้วยเหตุนั้นตัวไหมจึงไม่มีความจำเป็นต้องไปล่าซีโน่เจเนอิคในก็อตแอเรีย”
“ถ้าอย่างนั้นทำไมพวกเขาถึงพาพวกเราไปที่นั่น?” หานเซิ่นถามด้วยความสับสน
อวี้ซ่านซินหัวเราะ “นั่นมันง่ายมากๆ พวกเขาต้องการให้พวกเราต่อสู้กับยอดฝีมือระดับเทพเจ้าคนอื่น”
เมื่อหานเซิ่นได้ยินแบบนั้น เขาก็เกือบจะหัวเราะอย่างไม่อยากจะเชื่อ
“ไม่มีทาง! ยอดฝีมือระดับเทพเจ้าคนอื่นเป็นอะไรรับมือได้ยากยิ่งกว่าซีโน่เจเนอิคระดับเทพเจ้าซะอีก ถ้ายังฆ่าซีโน่เจเนอิคระดับเทพเจ้าไม่ได้ แบบนั้นข้าจะรับมือกับยอดฝีมือระดับเทพเจ้าได้ยังไงกัน?”
“เป็นคำถามที่ดี โดยปกติแล้วพวกเราไม่มีพลังพอจะต่อสู้กับยอดฝีมือระดับเทพเจ้าของเผ่าพันธุ์อื่น แต่เผ่าเวรี่ไฮทำให้สถานการณ์มันต่างออกไปเล็กน้อย” อวี้ซ่านซินพูดด้วยรอยยิ้ม
ตอนนี้หานเซิ่นเข้าใจแล้ว ทางเผ่าเวรี่ไฮมีจุดประสงค์ที่จะให้พวกเขาต่อสู้กับยอดฝีมือระดับเทพเจ้าจากเผ่าพันธุ์อื่น มันถือเป็นการฝึกฝนอย่างหนึ่ง
เมื่อคำนึงถึงความสำคัญของตัวไหมเผ่าเวรี่ไฮ ยอดฝีมือระดับเทพเจ้าจากเผ่าพันธุ์อื่นก็จะออมมือให้ พวกเขาจะไม่ฆ่าตัวไหมอย่างหานเซิ่น
แบบนั้นตัวไหมก็จะสามารถต่อสู้กับนักสู้จากเผ่าพันธุ์ต่างๆได้อย่างสบายใจ พวกเขาจะได้รับประสบการณ์มากขึ้นจากการทำแบบนั้น มันเหมือนกับว่าพวกเขาจะใช้ยอดฝีมือระดับเทพเจ้าจากเผ่าพันธุ์อื่นเป็นคู่ซ้อม มีเพียงแค่เผ่าเวรี่ไฮที่จะกล้าทำอะไรแบบนี้
“แล้วถ้าเกิดพวกเราไปเจอกับยอดฝีมือระดับเทพเจ้าที่ไม่ได้เคารพต่อเผ่าเวรี่ไฮล่ะ? แบบนั้นพวกเราจะทำยังไง?” หานเซิ่นถามด้วยความสับสน
ไม่ว่าเผ่าเวรี่ไฮจะยิ่งใหญ่สักแค่ไหน มันก็ไม่มีทางที่ทุกคนในจักรวาลจะเคารพพวกเขาเหมือนกันหมด ถ้าหานเซิ่นไปเจอกับคนที่ไม่ชอบเผ่าเวรี่ไฮเข้า การเดินทางเข้าไปในก็อตแอเรียก็จะเป็นอะไรที่อันตราย
อวี้ซ่านซินเอียงหัวและพูด “นี่เจ้าลืมไปแล้วหรือว่าตัวไหมคืออะไร? สำหรับเผ่าเวรี่ไฮ พวกเราถือเป็นเครื่องมือ ถ้าเครื่องมือหนึ่งพัง พวกเขาก็แค่หาอันใหม่มาเปลี่ยน”
หลังจากหยุดไปสักครู่ อวี้ซ่านซินก็พูดต่อ “แถมยอดฝีมือระดับเทพเจ้าหลายคนรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้ ถ้าพวกเขาปฏิเสธคำขอของเผ่าเวรี่ไฮ มันก็จะสร้างปัญหากับพวกเขา พวกเขาหลายคนอยากจะส่งสอนบทเรียนให้กับพวกเราที่ถูกเลือกโดยเผ่าเวรี่ไฮ พวกเขาอาจจะไม่ฆ่าพวกเรา แต่พวกเขาชื่นชอบการทำให้พวกเราต้องทุกข์ทรมาน ในตอนที่เจ้าไปที่นั่น เจ้าต้องระวังตัวให้ดี”
“นั่นหมายความว่าพวกเราจะเข้าไปในคอร์แอเรียเพื่อถูกซ้อมอย่างนั้นหรอ?” หานเซิ่นยิ้มแห้งๆ
“นั่นไม่ได้ไกลจากความเป็นจริง แต่การต่อสู้แบบนี้จะช่วยให้จิตใจของพวกเราแข็งแกร่งขึ้นและยังช่วยพัฒนาความสามารถในการต่อสู้ของพวกเรา ตัวไหมครึ่งเทพมากมายกลายเป็นระดับเทพเจ้าจากการต่อสู้ภายในก็อตแอเรีย ข้าเดาว่านั่นถือเป็นข้อดีอย่างหนึ่งของเรื่องนี้”
อวี้ซ่านซินยักไหล่ หลังจากนั้นเขาก็โบกมือลาหานเซิ่น “ข้าต้องขอตัวล่ะ เจ้าจำเป็นต้องรีบทำงานที่ท่านผู้นำมอบหมายให้ เวลาสี่ปีนั้นไม่ถือว่าเป็นเวลาที่ยาวหรือสั้น แต่ยังไงก็ตามเจ้าก็ควรจะทำมันให้เสร็จโดยเร็วที่สุด”
ไม่นานหลังจากที่อวี้ซ่านซินจากไป หลี่เคอเอ๋อและเอ็กซ์ควิสิทก็มาที่ทะเลสาบอันเดอร์เวิลด์ พวกเธอมาเพื่อบอกหานเซิ่นว่าเขาจำเป็นต้องไปในก็อตแอเรียเพื่อฝึกฝน
หานเซิ่นเตรียมตัวเตรียมใจเอาไว้แล้ว ดังนั้นเขาจึงตอบตกลงในทันที แต่เพราะแบบนี้ หานเซิ่นจึงไม่มีโอกาสไปพบกับฮอไรซอนทอลอีวิลอีกครั้ง
การเข้าไปในก็อตแอเรียนั้นเหมือนกับการเข้าไปในคอร์แอเรีย คนๆหนึ่งจะต้องสร้างโซ่สสารขึ้นมา หลังจากนั้นพวกเขาก็จะสามารถเปิดประตูไปสู่ก็อตแอเรียได้ หานเซิ่นและตัวไหมส่วนใหญ่ยังไม่สามารถสร้างโซ่สสารขึ้นมาได้ แต่เผ่าเวรี่ไฮมีจีโนฟลูอิดที่จะช่วยให้สร้างโซ่สสารขึ้นมาได้ในเวลาช่วงสั้นๆ
แถมเวรี่ไฮยังสามารถใช้การเชื่อมต่อพิเศษกับตัวไหมเพื่อตามตัวไหมเข้าไปในก็อตแอเรียได้
แต่เนื่องจากการสร้างจีโนฟลูอิดนี้เป็นเรื่องยาก ตัวไหมแต่ละคนจึงได้รับพวกมันเพียงแค่คนละสามขวด นั่นหมายความว่าจนกว่าจะหานเซิ่นกลายเป็นระดับเทพเจ้า เขาก็จะสามารถไปในก็อตแอเรียได้เพียงสามครั้ง ดังนั้นทุกครั้งที่เขาเข้าไปในก็อตแอเรีย เขาจะต้องอยู่ที่นั่นให้นานที่สุด
หลังจากที่หานเซิ่นใช้จีโนฟลูอิดขวดแรก พลังของเขาไม่ได้เพิ่มขึ้น แต่การเปลี่ยนเริ่มเกิดขึ้นทั่วร่างกายของเขา และเขาก็สามารถสร้างโซ่สสารขึ้นมาได้
ความจริงแล้วมันเป็นเพียงแค่ของจำลอง มันมีโครงสร้างของโซ่สสาร แต่มันยังขาดพลังของระดับเทพเจ้า ความแข็งแกร่งส่วนตัวของหานเซิ่นไม่ได้เพิ่มขึ้นหลังจากที่ดื่มมันเข้าไป
กระบวนการเปิดประตูไปสู่ก็อตแอเรียเป็นเหมือนกับการเปิดประตูสู่คอร์แอเรีย มันแตกต่างเพียงแค่เรื่องที่หลี่เคอเอ๋อและเอ็กซ์ควิสิทสามารถเข้าไปในประตูเดียวกับหานเซิ่นได้
“ก็อตแอเรียดูเหมือนกับจักรวาลปกติ” หานเซิ่นพบตัวเองยืนอยู่บนทุ่งหญ้า เขามองไปรอบๆ และเขาก็คิดว่าก็อตแอเรียและจักรวาลดูเหมือนกัน
ความแตกต่างที่ใหญ่ที่สุดคือความจริงที่ดินแดนรอบๆตัวเขายืดออกไปไกล จนดูเหมือนจะไม่มีที่สิ้นสุด
“เจ้าเพิ่งมาที่ก็อตแอเรีย ดังนั้นเจ้ายังไม่คุ้นเคยกับที่แห่งนี้”
หลี่เคอเอ๋อพูด “ในตอนที่เจ้าได้เห็นก็อตสปิริตสตอร์ม เจ้าจะรู้สึกตัวว่าก็อตแอเรียนั้นน่ากลัวขนาดไหน”
“ก็อตสปิริตสตอร์มคืออะไร?” หานเซิ่นถาม
“โดยปกติแล้วในก็อตแอเรียไม่มีซีโน่เจเนอิค พวกมันจะแสดงตัวในตอนที่ก็อตสปิริตสตอร์มปรากฏออกมา ซีโน่เจเนอิคจะปรากฏกายในก็อตสปิริตสตอร์มเท่านั้น และนั่นแสดงถึงความเป็นจริงที่โหดร้ายของก็อตแอเรีย ถ้ามันไม่มีก็อตสปิริตสตอร์ม สถานที่แห่งนี้ก็เหมือนกับเป็นสถานที่พักร้อนแห่งหนึ่ง” หลี่เคอเอ๋อหัวเราะ
ขณะที่พวกเขากำลังพูดคุยกัน มีใครบางคนบินผ่านท้องฟ้ามาทางพวกเขา หานเซิ่นมองไปที่คนๆนั้นและสังเกตเห็นว่าอีกฝ่ายคือเอ็กซ์ตรีมคิงระดับเทพเจ้าคนหนึ่ง
“เจ้าคือเอ็กซ์ตรีมคิงที่ชื่อเป่าเหลียนใช่ไหม?” เอ็กซ์ควิสิทถาม
“เจ้าเป็นใคร?” เอ็กซ์ตรีมคิงระดับเทพเจ้าคนนั้นมองเอ็กซ์ควิสิทด้วยความสับสน
“พวกเราเอ็กซ์ควิสิทและหลี่เคอเอ๋อมาจากเผ่าเวรี่ไฮ ยินดีที่ได้รู้จัก” เอ็กซ์ควิสิทและหลี่เคอเอ๋อทักทายชายคนนั้น
เมื่อเป่าเหลียนได้ยินคำว่า “เวรี่ไฮ” ก็ดูเหมือนเขาจะนึกบางสิ่งขึ้นได้ เขายิ้มและถาม
“พวกเจ้าทั้งสองเป็นคนเผ่าเวรี่ไฮ? พวกเจ้าต้องการอะไรอย่างนั้นหรอ?”
ถึงเป่าเหลียนจะพูดแบบนั้น แต่เขามองไปที่หานเซิ่นแทน เห็นได้ชัดว่าเขารู้ว่าหลี่เคอเอ๋อกับเอ็กซ์ควิสิทต้องการอะไร และเขาก็จดจำหานเซิ่นได้เช่นกัน
มันเป็นเรื่องยากที่คนเผ่าเอ็กซ์ตรีมคิงจะลืมเลือนหานเซิ่น เพราะยังไงซะเขาก็ได้ฆ่าองค์ชายหนึ่งคน เอาชนะผู้อาวุโสและลักพาตัวบุตรชายคนโปรดของราชาไป๋ มันมีผู้คนมากมายในจักรวาลที่อาจจะจำหานเซิ่นไม่ได้ในแว็บแรก แต่เอ็กซ์ตรีมคิงส่วนใหญ่จำหานเซิ่นได้เป็นอย่างดี ความเกลียดชังที่พวกเขามีต่อหานเซิ่นนั้นฝังลึกในหัวใจของพวกเขา
‘ได้ยินมาว่าหานเซิ่นกลายเป็นตัวไหมของเผ่าเวรี่ไฮ ไม่อยากเชื่อเลยว่าเขาจะมาปรากฏตัวในก็อตแอเรียเร็วขนาดนี้ นี่ถือเป็นโอกาสดีสำหรับเรา’ เป่าเหลียนคิดกับตัวเอง