เป่าเหลียนไม่ได้คิดจะฆ่าหานเซิ่นต่อหน้าคนเผ่าเวรี่ไฮ แต่เขาต้องการจะใช้โอกาสนี้เพื่อส่งสอนบทเรียนให้กับหานเซิ่น
แต่เป่าเหลียนรู้ว่าหานเซิ่นมีโล่เมดูซ่าส์เกซอยู่ แม้แต่เหมิงเลี่ยก็ยังถูกแช่แข็ง ทางเอ็กซ์ตรีมคิงต้องใช้ทรัพยากรจำนวนมากเพื่อช่วยเหมิงเลี่ยจากการต่อสู้ในครั้งนั้น แถมเป่าเหลียนก็เป็นแค่ระดับเทพเจ้าขั้นพริมิทีฟ เขาไม่กล้าจะพยายามเผชิญหน้ากับโล่เมดูซ่าส์เกซ
“พวกเราพาหานเซิ่นมาที่ก็อตแอเรียเพื่อฝึกฝน ข้าหวังว่าเจ้าจะชี้แนะอะไรสักอย่างสองอย่างให้กับเขา” หลี่เคอเอ๋อพูด
“ถ้าพวกเจ้าขอข้าแบบนั้น ข้าก็คงจะปฏิเสธพวกเจ้าไม่ได้ แต่ถ้าพวกเราใช้อาวุธ ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งก็อาจจะได้รับบาดเจ็บ ข้าจึงขอเสนอให้พวกเราไม่ใช่สมบัติซีโน่เจเนอิค พวกเจ้าคิดยังไงกับเรื่องนี้?” เป่าเหลียนพูดด้วยรอยยิ้ม
“ข้าเห็นด้วย” เอ็กซ์ควิสิทรู้ถึงสิ่งที่เป่าเหลียนกำลังคิด แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ยังคงตอบรับข้อเสนอของเขา
ถ้าพวกเธอไม่ตอบตกลง เป่าเหลียนก็คงปฏิเสธที่จะต่อสู้กับหานเซิ่น และถ้าต่อสู้โดยใช้สมบัติซีโน่เจเนอิค หานเซิ่นก็คงจะไม่ได้รับประสบการณ์จากการต่อสู้รมากนัก สำหรับหลี่เคอเอ๋อและเอ็กซ์ควิสิทแล้ว นั่นขัดกับจุดประสงค์ที่พวกเธอพาหานเซิ่นมาที่นี่
ส่วนในเรื่องที่เป่าเหลียนอาจจะพยายามฆ่าหานเซิ่น เอ็กซ์ควิสิทไม่ได้เป็นกังวล เป่าเหลียนนั้นเป็นเพียงแค่ระดับเทพเจ้าขั้นพริมิทีฟ ถึงแม้หานเซิ่นจะไม่สามารถใช้สมบัติซีโน่เจเนอิคได้ เขาก็ยังมีก็อตส์วอนเดอร์อยู่ แค่วิชานั้นก็เป็นอะไรที่มากพอแล้ว และด้วยการที่พวกเธอทั้งสองดูการต่อสู้อยู่ใกล้ๆ มันก็เป็นไปไม่ได้ที่หานเซิ่นจะถูกฆ่า
หานเซิ่นไม่มีความเห็นกับเรื่องนี้ เขาอยากจะรู้เหมือนกันว่าตอนนี้ความแข็งแกร่งของตัวเองแตกต่างกับยอดฝีมือระดับเทพเจ้าขั้นพริมิทีฟมากน้อยแค่ไหน
เมื่อเห็นว่าเอ็กซ์ควิสิทตอบตกลง เป่าเหลียนก็ยิ้มและพูด
“ถ้าเป็นแบบนั้น ข้าก็จะช่วยพวกเจ้า”
หานเซิ่นรู้ว่าเป่าเหลียนกำลังคิดอะไรอยู่เช่นเดียวกัน แต่เขาไม่ได้พูดอะไรเกี่ยวกับเรื่องนั้น เขาเดินเข้าไปหาเป่าเหลียนและสังเกตชายคนนั้นก่อนที่จะถามขึ้นมา
“เจ้ามีความเกี่ยวข้องอะไรกับเป่าฉิน?”
เมื่อหานเซิ่นพูดชื่อเป่าฉิน ใบหน้าของเป่าเหลียนก็ดูเย็นชาขึ้นมา “เป่าฉินเป็นสมาชิกในตระกูลของข้า”
“อ้า พวกเจ้าเป็นคนตระกูลเดียวกัน? นั่นเป็นเรื่องดี ข้าไม่มีโอกาสได้สะสางกับเขา แต่ถ้าพวกเจ้าเป็นครอบครัวเดียวกับเขา ข้าก็จะถือโอกาสล้างแค้นผ่านเจ้า ถือซะว่ามันเป็นบาปของตระกูล” หานเซิ่นพูด
“แน่นอนว่าข้ารู้สึกเหมือนกัน ว่าแต่เจ้าหมายความว่ายังไงที่ว่าล้างแค้นน่ะ?” เป่าเหลียนหัวเราะ
“ข้าแค่คิดว่ามันเหมาะสมที่พวกเราจะต่อสู้เพื่อชีวิตของตัวเอง เจ้าไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องกฎ ใช้ทุกอย่างที่เจ้ามี เพราะยังไงซะความเป็นความตายก็ขึ้นอยู่กับชะตากรรม” หานเซิ่นพูด
“เจ้าคิดจะใช้โล่เมดูซ่าส์เกซต่อสู้กับข้าอย่างนั้นหรอ?”
เป่าเหลียนมองหานเซิ่นและพูดเสียงแข็ง เขาไม่คิดว่าหานเซิ่นโง่พอจะปล่อยให้ตัวเองถูกเขาฆ่าแบบนั้น
หานเซิ่นไม่ได้พูดอะไร เขาถอดเซ็ตอะพอลโลและส่งมันให้กับหลี่เคอเอ๋อ หลังจากนั้นเขาก็ส่งโล่เมดูซ่าส์เกซให้เธอเช่นกัน
“เหมือนอย่างที่เจ้าเสนอก่อนหน้านี้ ข้าจะไม่ใช่สมบัติ แต่เจ้าจะใช้อะไรก็ได้ตามที่ต้องการ” หานเซิ่นพูดกับเป่าเหลียน
เป่าเหลียนมองหานเซิ่นด้วยความสับสน เขาไม่รู้ว่าหานเซิ่นคิดอะไรอยู่ แต่ไม่ว่ามันจะคืออะไร มันก็ดูเหมือนกับว่าหานเซิ่นกำลังจะฆ่าตัวตาย แต่หานเซิ่นไม่ได้ดูเหมือนคนที่ต้องการจะตาย ด้วยเหตุนั้นเป่าเหลียนจึงเชื่อว่าเขาต้องมีลูกไม้บางอย่างซ่อนอยู่
“อะไรกัน? นี่ระดับเทพเจ้าของเอ็กซ์ตรีมคิงกลัวการต่อสู้มือเปล่ากับครึ่งเทพคนหนึ่งอย่างนั้นหรอ?” หานเซิ่นมองเป่าเหลียนด้วยรอยยิ้ม
“ข้าแค่กลัวว่าพวกเจ้าทั้งสองคนอาจจะไม่เห็นด้วย” เป่าเหลียนพูดขณะที่มองไปที่เอ็กซ์ควิสิทและหลี่เคอเอ๋อ
“ถ้านี่เป็นการตัดสินใจของเขา พวกเราก็จะไม่เข้าไปแทรกแซง” เอ็กซ์ควิสิทพูด
เธอและหลี่เคอเอ๋อสามารถอ่านจิตใจของหานเซิ่นได้ ดังนั้นพวกเธอไม่จำเป็นต้องรอให้หานเซิ่นอธิบาย
“ถ้าแบบนั้นอย่าโทษว่าข้าไม่เคารพต่อเผ่าเวรี่ไฮ”
ดวงตาของเป่าเหลียนเรืองแสงออกมา เขามองไปที่หานเซิ่นขณะที่โซ่สสารคลี่ออกรอบๆตัวของเขาราวกับกลีบดอกไม้
หานเซิ่นไม่เคลื่อนไหว แต่เขาปลดปล่อยพลังของวิชาเรื่องราวของยีนออกมามากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เขามองไปที่เป่าเหลียนและพูด
“เชิญลงมือ ถ้าเจ้าปล่อยให้ข้าเป็นฝ่ายลงมือก่อน ข้ากลัวว่าเจ้าจะไม่มีโอกาสได้ตอบโต้”
“ถ้าเจ้าอยากตายมากนัก ข้าจะทำให้เจ้าสมหวังเอง”
เป่าเหลียนโกรธจัดเมื่อได้ยินคำพูดอวดดีของหานเซิ่น เขาดูอาฆาต แต่เขาไม่ได้สูญเสียการควบคุมตัวเอง เขากางนิ้วออกและมองไปที่หานเซิ่น
โซ่สสารดอกบัวขนาดยักษ์ปรากฏถัดไปจากหานเซิ่น กลีบของดอกบัวเปิดออกราวกับว่ามันพร้อมจะคว้าตัวหานเซิ่น
หานเซิ่นเทเลพอร์ตออกไป เขาหลบการโจมตีไปดั่งสายลม
พลังของเป่าเหลียนดูเหมือนกับดอกไม้ที่กำลังบาน ที่ไหนก็ตามที่เขาโจมตีไป ดอกบัวก็จะปรากฏขึ้นมา ทำให้ดูเหมือนกับว่าหานเซิ่นกำลังเต้นระบำอยู่ท่ามกลางทะเลดอกไม้
หานเซิ่นสงบนิ่ง เขาเดินทางไปรอบๆทะเลดอกไม้โดยไม่ถูกทำร้าย
“พลังในการต่อสู้ของหานเซิ่นพัฒนาขึ้น เป่าเหลียนที่เป็นระดับเทพเจ้าไม่แม้แต่จะทำให้เขาเหงื่อตก” หลี่เคอเอ๋อพึมพำ เธอรู้สึกตกใจหลังจากที่ได้อ่านจิตใจของหานเซิ่น
เอ็กซ์ควิสิทพยักหน้าและพูด “ดูเหมือนว่าการต่อสู้กับเรดบลัดเดม่อนจะช่วยให้เขาเติบโตขึ้น น่าเสียดายที่พวกเราไม่ได้เห็นการต่อสู้นั้น ไม่อย่างนั้นมันก็คงจะช่วยพวกเราได้มาก”
“ไม่เป็นอะไร พวกเราจะได้พบกับยอดฝีมือมากมายภายในก็อตแอเรีย มันยังมีโอกาสอีกมากให้พวกเราได้เรียนรู้จากเขา” หลี่เคอเอ๋อพูด
“มันไม่เหมือนกัน การต่อสู้กับเรดบลัดเดม่อนนั้นเป็นการต่อสู้เพื่อชีวิตที่แท้จริง ส่วนในก็อตแอเรีย ยอดฝีมือคนอื่นจะออมมือให้กับหานเซิ่นเพราะเห็นแก่เผ่าเวรี่ไฮ”
เอ็กซ์ควิสิทหยุดไปชั่วครู่ หลังจากนั้นเธอก็พูดต่อ “แต่การต่อสู้นี้คงจะช่วยหานเซิ่นได้พอสมควร ถ้าเจ้าและข้าตั้งใจดูมัน พวกเราก็ต้องได้รับบางสิ่งจากมัน”
หลี่เคอเอ๋อพยักหน้า หลังจากนั้นพวกเธอก็หยุดพูด พวกเธอพยายามโฟกัสไปที่ความรู้สึกของหานเซิ่นและเรียนรู้เกี่ยวกับการทำงานของมันในระหว่างการต่อสู้
หัวใจของเป่าเหลียนเต้นรัว เขารู้สึกตัวว่าไม่มีวิธีที่จะหยุดหานเซิ่น ความเร็วและพลังของเขาเหนือกว่าหานเซิ่น แต่ไม่ว่าเขาจะโจมตีไปตรงไหน หานเซิ่นก็สามารถเทเลพอร์ตไปยังที่ปลอดภัยได้
หานเซิ่นรู้สึกผิดหวังอย่างมากกับคู่ต่อสู้ เขาเผชิญหน้ากับเทพเจ้าขั้นพริมีทีฟ แต่เป่าเหลียนอ่อนแอกว่าเรดบลัดเดม่อนอย่างมาก ถึงพลังของเป่าเหลียนและเรดบลัดเดม่อนจะอยู่ในระดับเดียวกัน แต่จิตใจและประสบการณ์การต่อสู้ของเป่าเหลียนนั้นด้อยกว่ามาก
“เรดบลัดเดม่อนมีจิตใจของเทพเจ้าขั้นทรูก็อตจริงๆ มันแตกต่างไปจากเทพเจ้าขั้นพริมิทีฟธรรมดาๆโดยสิ้นเชิง”
ตอนนี้หานเซิ่นรู้สึกตัวว่ากำลังต่อสู้กับระดับเทพเจ้าขั้นพริมิทีฟของแท้ ถึงแม้เขาจะไม่ได้แข็งแกร่งกว่า แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายที่ระดับเทพเจ้าขั้นพริมิทีฟธรรมดาจะจัดการหานเซิ่นได้ ถ้าวิชาจีโนทั้งสี่ของหานเซิ่นเลื่อนสู่ระดับครึ่งเทพเมื่อไหร่ เขาก็คงจะเอาชนะเทพเจ้าขั้นพริมิทีฟธรรมดาได้อย่างง่ายดาย
เป่าเหลียนไม่สามารถทำอะไรหานเซิ่นได้ ใบหน้าของเขาแดงก่ำด้วยความโกรธและความอับอาย เขาเป็นระดับเทพเจ้าของเอ็กซ์ตรีมคิง แต่เขาไม่สามารถทำอะไรหานเซิ่นที่ตัวเปล่าได้ มันเป็นอะไรที่น่าอับอายถ้าผู้คนรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้
เป่าเหลียนเห็นเอ็กซ์ควิสิทและหลี่เคอเอ๋อจ้องมองการต่อสู้ด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึก เขาคิดกับตัวเอง ‘ถ้าหานเซิ่นอยากตายมากนัก ข้าก็จะฆ่าเขา ถึงแม้เขาจะเป็นคนของเผ่าเวรี่ไฮ’
ด้วยความคิดนั้น เป่าเหลียนไม่ลังเลอีกต่อไป หน้าผากของเขาเรืองแสงแห่งเทพออกมา ดอกบัวสีขาวดอกหนึ่งปรากฏขึ้นระหว่างคิ้วของเขา และมันก็เริ่มจะหมุนเป็นวงกลม
“ในที่สุดเขาก็ใช้มันสักที ว่าแต่ร่างกายแห่งราชันของเป่าเหลียนทำอะไรได้กัน?” หานเซิ่นรู้อยู่แล้วว่าเรื่องแบบนี้จะเกิดขึ้น เขาจึงมองดูเป่าเหลียนอย่างตั้งใจ