Super God Gene – ตอนที่ 2708

ในตอนที่ดอกบัวบานออก เป่าเหลียนเป็นเหมือนกับพระพุทธเจ้าที่นั่งบนอากาศ ดวกบัวกลายเป็นเงาที่ห่อหุ้มร่างกายของเขา มันเหมือนกับว่าเขาเป็นสิ่งมีชีวิตเหนือธรรมชาติที่กำเนิดจากดอกบัว

 

หานเซิ่นสัมผัสได้ถึงออร่าประหลาดที่ปลดปล่อยออกมาจากร่างกายของเป่าเหลียน แม้แต่หานเซิ่นก็ยังต้องชื่นชมเขา
“ร่างกายแห่งราชันของเอ็กซ์ตรีมคิงนั้นน่ากลัว เพียงแค่ใช้ร่างกายแห่งราชันก็ทำให้พลังของเขาเพิ่มขึ้นหลายเท่า ระดับเทพเจ้าของเผ่าพันธุ์อื่นไม่มีทางจะต่อสู้กับระดับเทพเจ้าของเอ็กซ์ตรีมคิงได้”

 

ขณะที่หานเซิ่นกำลังคิดอยู่นั้น เป่าเหลียนก็หลับตาและพูด
“ข้าไม่อยากจะฆ่าเจ้า แต่ดูเหมือนเจ้าจะแสวงหาความตาย อย่าได้มาโทษข้าทีหลัง”

 

“ถ้าเจ้ามีพลังก็แสดงมันออกมา ไม่อย่างนั้นก็เลิกพูดจาไร้สาระ” หานเซิ่นพูด

 

เป่าเหลียนไม่ได้พูดอะไรอีก เขาลืมตาขึ้นมาและมองมาที่หานเซิ่น

 

ในจังหวะที่หานเซิ่นถูกมองโดยเป่าเหลียน เขาก็รู้สึกได้ถึงพลังงานประหลาดรอบๆตัว แต่พลังงานใหม่นี้คืออะไรนั้น หานเซิ่นยังสามารถระบุได้ มันเหมือนกับว่าอยู่ตรงนี้ แต่มันไม่ได้อยู่ตรงนี้

 

หลังจากนั้นเป่าเหลียนก็หันหลังกลับและเริ่มจะวิ่งหนีไป

 

“พวกเรายังไม่ได้ตัดสินผู้ชนะ เจ้ากำลังจะไปไหน?” หานเซิ่นพูดพร้อมกับขมวดคิ้ว

 

“เจ้ากำลังจะตาย กลับไปเตรียมงานศพเถอะ” เป่าเหลียนพูดขณะที่หนีไป เขาวิ่งหายไปจากสายตาในเวลาเพียงไม่นาน

 

หานเซิ่นอยากจะตามเป่าเหลียนไป แต่พลังประหลาดที่ไม่สามารถตรวจจับได้นั้นกำลังทำให้เขารู้สึกแย่

 

เนื่องจากเอ็กซ์ควิสิทและหลี่เคอเอ๋อยังคงอยู่ใกล้ๆ หานเซิ่นจึงไม่อยากใช้วิชาจีโนอื่นเพื่อกำจัดผลของมัน เขามองไปที่พวกเธอและถาม
“พวกเจ้าเห็นไหมว่าเป่าเหลียนใช้พลังแบบไหนกับข้า?”

 

หลี่เคอเอ๋อส่ายหัว “เป่าเหลียนเป็นทายาทของราชาเป่าที่เป็นผู้ปกครองเอ็กซ์ตรีมคิงคนก่อน ในตอนนี้ราชาไป๋เป็นคนที่ขึ้นของบัลลังก์ ราชาเป่าไม่ได้ทรงพลังมากนัก ด้วยเหตุนั้นเขาจึงไม่ได้มีชื่อเสียงโด่งดัง”

 

“บอกได้ไหมว่ามันเป็นพลังธาตุอะไร?” หานเซิ่นถาม

 

เอ็กซ์ควิสิทตรวจเช็คร่างกายของหานเซิ่น หลังจากผ่านไปสักพักเธอก็พูดขึ้นมา
“เวรี่ไฮนั้นเชี่ยวชาญเรื่องการสัมผัสถึงธาตุของพลัง แต่ว่าพลังของเป่าเหลียนเป็นอะไรที่แปลกมากๆ แม้แต่ข้าก็บอกไม่ได้ว่าเขาใช้พลังธาตุอะไร มันให้ความรู้สึกเหมือนกับเป็นพลังเหตุกรรม แต่นั่นก็ไม่ใช่ซะทีเดียว”

 

หานเซิ่นขมวดคิ้วเมื่อพบว่าทั้งเอ็กซ์ควิสิทและหลี่เคอเอ๋อไม่สามารถระบุสิ่งที่พวกเธอเพิ่งจะเห็นได้ เขาใช้พลังของเรื่องราวของยีนเพื่อตรวจสอบร่างกายตัวเอง แต่เขาก็ไม่เห็นอะไรที่ผิดปกติ

 

ร่างกายของเขาดูเหมือนจะไม่ได้รับผลกระทบอะไร มันไม่ได้มีบาดแผลที่ถูกซ่อนหรืออะไรทำนองนั้น เขาไม่รู้เลยว่าพลังของเป่าเหลียนทำอะไรได้

 

“นี่เป่าเหลียนเล่นตลกกับเราอย่างนั้นหรอ?” หานเซิ่นเช็คร่างกายของตัวเองซ้ำสองเพื่อทำให้แน่ใจว่าทุกอย่างปกติดี

 

เอ็กซ์ควิสิทและหลี่เคอเอ๋อใช้วิธีการต่างๆตรวจสอบหานเซิ่น แต่พวกเธอก็ไม่ได้รู้อะไรเพิ่ม

 

หานเซิ่นสัมผัสได้ถึงพลังบางอย่างรอบตัวเขา แต่มันไม่สามารถขจัดออกไปได้ หานเซิ่นรู้ว่ามันมีบางสิ่งผิดปกติ

 

ขณะที่หานเซิ่นพยายามอย่างเต็มที่ที่จะหลีกเลี่ยงการใช้อาณาเขตตงเสวียน ทันใดนั้นเขาก็ได้ยินเสียงที่น่ากลัวดังมาจากบนท้องฟ้า

 

พวกเขาทั้งสามคนเงยหน้าขึ้นไปมองอย่างพร้อมเพรียงกัน ท้องฟ้าที่แจ่มใสกลายเป็นท้องฟ้าที่มืดครึ้มและเต็มไปด้วยก้อนเมฆ ในชั่วพริบตาท้องฟ้าก็ดูมืดมิด

 

“ก็อตสปิริตสตอร์มมาถึงแล้ว พวกเราจำเป็นต้องไปจากที่นี่” เอ็กซ์ควิสิทและหลี่เคอเอ๋อดูตกใจ พวกเธอรีบพาหานเซิ่นไปด้วยใช้กาแล็กซี่เทเลพอร์ต พวกเธออยากจะออกห่างจากก็อตสปิริตสตอร์มให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

 

เอ็กซ์ควิสิทและหลี่เคอเอ๋อเป็นเพียงแค่ครึ่งเทพ ที่พวกเธอกล้าเข้ามาในดินแดนแห่งนี้ก็เป็นเพราะความจริงที่ว่าพวกเธอมีพลังของก็อตส์วอนเดอร์ พวกเธอสามารถใช้มันเพื่อหลีกเลี่ยงบริเวณที่เกิดก็อตสปิริตสตอร์มได้

 

ไม่อย่างนั้นด้วยพลังของพวกเธอในตอนนี้ มันก็คงใช้เวลาเพียงไม่นานก่อนที่ซีโน่เจเนอิคระดับเทพเจ้าจะฆ่าพวกเธอ

 

หลังจากการใช้กาแล็กซี่เทเลพอร์ต หานเซิ่นก็พบว่าตัวเองมาอยู่ในทะเลทรายแห่งหนึ่ง เขาไม่รู้ว่าตัวเองถูกเทเลพอร์ตมาไกลขนาดไหน แต่บนท้องฟ้านั้นไม่ได้มีก็อตสปิริตสตอร์มอีกต่อไปแล้ว

 

แต่ก่อนที่พวกเขาจะได้ทำอะไร พวกเขาก็ได้ยินเสียงฟ้าร้องที่น่ากลัวดังขึ้น และก้อนเมฆก็เริ่มเข้าปกคลุมท้องฟ้าอีกครั้ง

 

“ทำไมพวกเราถึงได้โชคร้ายขนาดนี้? พวกเรามาเจอกับก็อตสปิริตสตอร์มอีกครั้ง” เอ็กซ์ควิสิทพูดพร้อมกับขมวดคิ้ว

 

“พวกเราไม่มีเวลาจะมากังวลเกี่ยวกับเรื่องนั้นในตอนนี้ รีบไปกันเถอะ” หลี่เคอเอ๋อพูด

 

ถ้าพวกเขาถูกลากเข้าไปในก็อตสปิริตสตอร์ม มันก็มีโอกาสแปดสิบถึงเก้าสิบเปอร์เซ็นต์ที่พวกเขาจะถูกฆ่าตาย

 

พวกเขาทั้งสามใช้กาแล็กซี่เทเลพอร์ตอีกครั้ง พวกเขาไปปรากฏตัวในสถานที่อื่น แต่ทันทีที่พวกเขาไปถึง บนท้องฟ้าก็แสดงวี่แววของการเกิดก็อตสปิริตสตอร์มอีกครั้งหนึ่ง

 

ครั้งนี้แม้แต่หานเซิ่นเองก็รู้สึกว่ามีบางสิ่งผิดปกติ เขาหลี่ตาลงและเขาพูด
“คงไม่ได้เป็นเพราะพลังของเป่าเหลียนที่ทำเป็นแบบนี้หรอกใช่ไหม?”

 

“นั่นเป็นไปไม่ได้ เป่าเหลียนเป็นแค่ระดับเทพเจ้าขั้นพริมิทีฟ พลังของเขาอ่อนแอเกินกว่าที่จะส่งผลกระทบต่อก็อตสปิริตสตอร์ม และการควบคุมยิ่งไม่ต้องพูดถึงเลย เขาอยู่ในระดับเทพเจ้าขั้นต่ำที่สุด แม้แต่ขั้นทรูก็อตก็เรียกก็อตสปิริตสตอร์มไม่ได้” หลี่เคอเอ๋อพูด

 

พวกเขาทั้งสามใช้กาแล็กซี่เทเลพอร์ตอีกครั้ง แต่หลังจากทำการเทเลพอร์ตหลายต่อหลายครั้ง พวกเขาก็รู้สึกตัวว่าก็อตสปิริตสตอร์มมักจะก่อตัวขึ้นที่ไหนก็ตามที่พวกเขาไป

 

“ข้าคงจะพูดถูก มันต้องเป็นเพราะพลังของเป่าเหลียนที่ส่งผลให้ก็อตสปิริตสตอร์มก่อตัวขึ้นรอบๆพวกเรา”
ถึงแม้ความเป็นไปได้นั่นจะเป็นอะไรที่ยากจะเชื่อได้ แต่มันก็ดูเหมือนจะไม่มีคำอธิบายอื่นๆ

 

ก่อนหน้าที่พวกเขาจะพบกับเป่าเหลียน มันไม่ได้มีก็อตสปิริตสตอร์มตามหลอกหลอนพวกเขาแบบนี้ เห็นได้ชัดว่ามันต้องเกี่ยวข้องกับพลังของเป่าเหลียน

 

หลี่เคอเอ๋อและเอ็กซ์ควิสิทพบว่าเรื่องนี้เป็นอะไรที่ยากจะเชื่อ เพราะยังไงซะเป่าเหลียนก็เป็นแค่ระดับเทพเจ้าขั้นพริมิทีฟ ความคิดที่ว่าเขาสามารถควบคุมก็อตสปิริตสตอร์มได้นั้นเป็นอะไรที่เหลือเชื่อ แต่นี่คือความจริงที่ปรากฏอยู่ตรงหน้า พวกเธอไม่มีทางเลือกนอกจากยอมรับความเป็นจริง

 

“ก็อตสปิริตสตอร์มมาถึงรวดเร็วเกินไป พวกเราไม่มีเวลาพอจะเปิดประตูเพื่อออกไปจากก็อตแอเรีย และถ้าพวกเราพยายามจะใช้กาแล็กซี่เทเลพอร์ตต่อไป ที่สุดแล้วพลังของพวกเราก็จะหมด” หลี่เคอเอ๋อพูด

 

กาแล็กซี่เทเลพอร์ตนั้นใช้พลังงานมาก และยิ่งเทเลพอร์ตไปไกลมากเท่าไหร่ พวกเขาก็ต้องเสียพลังงานมากเท่านั้น แต่การจะเทเลพอร์ตในระยะใกล้ๆก็ไม่เพียงพอที่จะทำให้พวกเขาปลอดภัย

 

หานเซิ่นศึกษาเกี่ยวกับก็อตวอนเดอร์เรียบร้อยแล้ว แต่เขายังคงไม่ได้เรียนรู้เกี่ยวกับการเทเลพอร์ต และนั่นทำให้พวกเธอต้องใช้พลังงานมากยิ่งกว่าเดิม

 

ถ้าพวกเธอยังใช้กาแล็กซี่เทเลพอร์ตแบบนั้นต่อไป พวกเธอก็มีพลังงานพอที่จะทำการเทเลพอร์ตอีกยี่สิบถึงสามสิบครั้งเท่านั้น และเนื่องจากพลังงานที่สูญเสียไป ระยะทางที่พวกเธอเธอเทเลพอร์ตได้ก็จะสั้นลงเรื่อยๆ

 

“หลี่เคอเอ๋อ เจ้าเทเลพอร์ตไปที่อื่น เอ็กซ์ควิสิท เจ้าเทเลพอร์ตไปกับข้า หลังจากนั้นพวกเราไปเจอกันอีกครั้งในการเทเลพอร์ตครั้งต่อไป” หานเซิ่นพูด

 

พวกเธอรู้ถึงสิ่งที่หานเซิ่นกำลังคิดอยู่ พวกเธอไม่ได้คัดค้าน และพวกเธอก็ทำตามที่เขาบอก

 

ด้วยการทำแบบนั้น พวกเขาสามารถยืนยันได้ว่าปัญหาคือหานเซิ่นจริงๆ หลังจากที่หลี่เคอเอ๋อไปที่อื่นตามลำพัง เธอไม่ได้เจอกับก็อตสปิริตสตอร์มอีกครั้ง

 

หลังจากที่เอ็กซ์ควิสิทและหานเซิ่นเทเลพอร์ตไป พวกเขาก็เจอเข้ากับก็อตสปิริตสตอร์มในทันที

 

“ดูเหมือนว่าเราจะประเมินยอดฝีมือระดับเทพเจ้าคนนั้นต่ำเกินไป”
หานเซิ่นต้องยอมรับความล้มเหลวในครั้งนี้ เขาเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ เป่าเหลียนที่เป็นแค่ยอดฝีมือระดับเทพเจ้าขั้นพริมิทีฟนั้นทำให้เขาตกอยู่ในสถานการณ์ที่เลวร้าย

 

นี่เป็นสถานการณ์ที่อันตรายมากสำหรับหานเซิ่น เอ็กซ์ควิสิทและหลี่เคอเอ๋อตามเขามาที่นี่ ดังนั้นถึงพวกเธอจะเปิดประตูเพื่อออกไปได้ แต่หานเซิ่นไม่สามารถออกไปพร้อมกับพวกเธอได้ เขาจำเป็นต้องเปิดประตูเพื่อออกไปเอง แต่ทว่าเมื่อดูจากเวลาที่จำเป็นต้องใช้ในการเปิดประตู และเวลาที่ก็อตสปิริตสตอร์มก่อตัวขึ้น เขาจะถูกดูดเข้าไปพายุก่อนที่เขาจะออกไปจาก็อตแอเรียได้

 

ในตอนนี้เขามาถึงทางตัน นอกซะจากก็อตสปิริตสตอร์มจะหยุดไล่ตามเขา ไม่อย่างนั้นเขาก็จะถูกดูดเข้าไปข้างใน เมื่อคิดเกี่ยวกับซีโน่เจเนอิคระดับเทพเจ้านับไม่ถ้วนที่อยู่ในพายุเหล่านั้น หานเซิ่นก็รู้สึกปวดหัวขึ้นมา

Super God Gene

Super God Gene

ในยุคสมัยที่วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของมนุษย์ถูกพัฒนาจนถึงระดับสูง ในที่สุดมนุษยชาติก็ได้ค้นพบวิธีการเทเลพอร์ต แต่เมื่อพวกเขาทดลองเทเลพอร์ต กลับพบว่าพวกเขาไม่ได้ถูกส่งไปในอนาคต อดีตหรือสถานที่อื่นๆที่มนุษย์รู้จัก แต่มันคือโลกที่แตกต่างโดยสิ้นเชิง สถานที่ลึกลับนี่ถูกเรียกว่า ‘ก็อด เเซงชัวรี่’ ที่นี่มีสิ่งมีชีวิตประหลาดอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก แต่เมื่อมนุษย์ลองกินสิ่งมีชีวิตประหลาดเข้าไป ร่างกายของพวกเขาพัฒนาขึ้นและยังเพิ่มอายุขัยขึ้นด้วย มันคือก้าวที่ยิ่งใหญ่ของมนุษย์ชาติในการวิวัฒนาการเพื่อสร้างยุคสมัยที่ยิ่งใหญ่ “ด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ถูกฆ่า คุณได้รับวิญญาณอสูรด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ เมื่อกินเนื้อของด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ คุณมีโอกาสได้รับ 0 ถึง 10 Geno Point โดยการสุ่ม” The future unfolded on a magnificent scale into the Interstellar Age. Humanity finally solved the space warp technology, but when humanity transported themselves into the other end, they discovered that place neither had a past nor future, nor was there any land under the starry skies…… The mysterious sanctuary was actually a world filled with countless tyrannical unusual organisms. Humanity faced their great leap in evolution, starting the most glorious and resplendant new era under the starry skies. “Slaughtered the God Blood organism ‘Black Beetle’. Received the God Blood Black Beetle’s Beast Soul. Used the God Blood Black Beetle’s flesh. Randomly obtaining 0 to 10 points of God Gene(s).”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset