“ส่งโล่นั่นมาเป็นเครื่องสังเวย หรือไม่ก็สละชีวิตของพวกเจ้าคนใดคนหนึ่ง!” มอนสเตอร์กระทิงจ้องไปที่หานเซิ่น
“พวกเราไม่ใช่เครื่องสังเวยของเจ้า แต่เจ้ายังขอให้พวกเรามอบบางสิ่งที่มีค่าให้กับเจ้า นั่นเป็นอะไรที่ไม่เหมาะสมเลยสักนิดเดียว”
หานเซิ่นมองเห็นว่าสติปัญญาของมอนสเตอร์กระทิงตัวนี้ไม่ได้สูงมากนัก เขาสามารถบอกได้ว่ามันหวาดกลัวโล่เมดูซ่าส์เกซ ด้วยเหตุนั้นเขาจึงเลิกพูดดีๆกับมัน
หลังจากที่มอนสเตอร์กระทิงได้ยินสิ่งที่หานเซิ่นพูด มันก็เริ่มจะโกรธ แต่ก่อนที่มันจะได้ทำอะไร หานเซิ่นก็พูดต่อไปว่า
“เอาแบบนี้เป็นอย่างไง พวกเรามาเดิมพันกัน ถ้าเจ้าเป็นฝ่ายชนะ ข้าจะมอบโล่นี้ให้กับเจ้า”
“เจ้าต้องการจะเดิมพันอะไร?” มอนสเตอร์กระทิงถาม
หานเซิ่นรู้สึกประหลาดใจเมื่อเห็นว่าเจ้ามอนสเตอร์กระทิงดูจะสนใจข้อเสนอของเขา เขาคิดไม่ถึงจริงๆว่าเจ้ามอนสเตอร์กระทิงจะยอมตกลง ตอนแรกเขาแค่ต้องการจะถ่วงเวลาและล้วงข้อมูลจากมอนสเตอร์กระทิงเท่านั้น แต่ดูเหมือนว่าเจ้ามอนสเตอร์กระทิงจะสนใจการเดิมพันจริงๆ
‘สิ่งมีชีวิตระดับเทพเจ้านี่พูดคุยได้ง่ายกว่าที่คิดเอาไว้’
แต่หานเซิ่นยังไม่กล้าจะประมาท เขาคิดอยู่ชั่วครู่ หลังจากนั้นเขาก็ถามขึ้นมา “ข้าควรจะเรียกเจ้าว่าอะไร?”
“อะไรก็ได้ตามใจเจ้า” มอนสเตอร์กระทิงพูด
“ข้าจะเรียกเจ้าว่าพี่กระทิง นี่พี่กระทิงเคยเล่นโยนเหรียญหรือเปล่า?” หานเซิ่นถาม
“โยนเหรียญคืออะไร?” มอนสเตอร์กระทิงถามด้วยความสงสัย
เมื่อโอกาสมาปรากฏอยู่ตรงหน้า หานเซิ่นก็รีบนำเอาเหรียญออกมาและอธิบาย
“เหรียญนี้มีสองด้าน ด้านหนึ่งเป็นหมายเลข และอีกด้านหนึ่งเป็นรูปหัวคน ข้าจะเขย่าเหรียญในมือ และพี่กระทิงต้องเดาว่ามันเป็นด้านหมายเลขหรือรูปหัวคนในตอนที่ข้าเผยเหรียญออกมา ถ้าพี่กระทิงเดาได้ถูกต้อง ข้าก็จะมอบโล่ให้กับพี่กระทิงเป็นเครื่องสังเวย นั่นฟังดูเป็นยังไง?”
“เอาสิ ถ้าอย่างนั้นก็มาเริ่มกันเลย” มอนสเตอร์กระทิงพูด เสียงของมันเบาลงกว่าในตอนแรกที่มันปรากฏตัวออกมา
หานเซิ่นหัวเราะและพูด “พี่กระทิง นี่เป็นการเดิมพัน พวกเราทั้งคู่ต้องวางบางสิ่งสำหรับเดิมพัน ข้าเสนอโล่นี้ แต่ถ้าพี่กระทิงเป็นฝ่ายแพ้ พี่กระทิงจะมอบอะไรให้กับข้า?”
หานเซิ่นกำลังทดสอบว่าจะต่อรองกับมอนสเตอร์กระทิงตัวนี้ได้มากแค่ไหน เขาไม่ได้ต้องการอะไรจากอีกฝ่าย และถ้ามอนสเตอร์กระทิงโกรธขึ้นมา หานเซิ่นก็จะไม่ขออะไรอีก
น่าประหลาดใจที่มอนสเตอร์กระทิงนั้นนำบางสิ่งออกมา
ปัง!
มอนสเตอร์กระทิงโยนสิ่งนั่นลงตรงหน้าหานเซิ่น มันร่วงลงไปและเกิดเป็นหลุมลึกบนพื้น หานเซิ่นก้มลงไปมองและเห็นว่ามันเป็นหินอัญมณีที่มีสายฟ้ากักเก็บอยู่ภายใน มันมีขนาดพอๆกับไข่ไก่เท่านั้น แต่สายฟ้าที่อยู่ภายในนั้นสว่างไสวอย่างมาก ดูเหมือนกับว่ามันพร้อมจะระเบิดได้ทุกเมื่อ มันมีพลังงานที่น่าสะพรึงกลัวอยู่ภายในอัญมณีเล็กๆนั่น
“ข้าใช้จีโนคอร์สายฟ้านี้ในการเดิมพัน” เสียงของมอนสเตอร์กระทิงดังก้อง
“นี่คือจีโนคอร์เทพเจ้า?” หานเซิ่นตกใจ เขาไม่ได้คาดคิดว่ามอนสเตอร์กระทิงจะเดิมพันด้วยของที่มีค่าขนาดนั้น
จีโนคอร์เทพเจ้าเป็นสมบัติที่มีแค่ซีโน่เจเนอิคระดับเทพเจ้าเท่านั้นที่จะสร้างขึ้นมาได้ พวกมันถูกเรียกว่าเป็นสมบัติ แต่พวกมันแตกต่างไปจากสมบัติซีโน่เจเนอิค จีโนคอร์เทพเจ้านั้นสามารถละลายเข้าไปในร่างกายและมอบพลังของจีโนคอร์ให้กับคนๆนั้นโดยตรง
โดยปกติแล้วสมบัติซีโน่เจเนอิคจำเป็นต้องใช้พลังของผู้ใช้ แต่จีโนคอร์เทพเจ้าสามารถถูกใช้โดยคนที่ดูดซับมันเข้าไปในร่างกายได้อย่างง่ายดาย ราวกับว่ามันเป็นหนึ่งในวิชาจีโนของพวกเขา
ด้วยเหตุนั้นจีโนคอร์เทพเจ้าจึงถูกรู้จักในชื่อสกิลจีโนคอร์ พวกมันเป็นอะไรที่มีประโยชน์มากๆ แต่มีเพียงแค่ซีโน่เจเนอิคระดับเทพเจ้าเท่านั้นที่จะสร้างพวกมันขึ้นมาได้ ด้วยเหตุนั้นจีโนคอร์เทพเจ้าจึงถือว่าเป็นสมบัติที่มีค่ามากๆ
ถึงแม้ผู้คนจะฆ่าซีโน่เจเนอิคระดับเทพเจ้าตัวหนึ่งได้ แต่ซีโน่เจเนอิคระดับเทพเจ้าส่วนใหญ่ก็มักจะทำลายจีโนคอร์ของตัวเองก่อนที่จะสิ้นใจ พวกมันจะไม่ยอมปล่อยให้ศัตรูได้จีโนคอร์ของพวกมันไป
“พี่กระทิงนี้ใจกว้างจริงๆ” หานเซิ่นเกือบจะน้ำตาไหลออกมา ตอนนี้เมื่อมอนสเตอร์กระทิงเดิมพันบางสิ่งที่มีค่ามากๆ หานเซิ่นก็จำเป็นต้องสงบจิตใจและคิดดูดีๆก่อนที่จะตอบกลับไป
จีโนคอร์เทพเจ้าจะถูกแบ่งเป็นขั้นๆ และมอนสเตอร์กระทิงตัวนี้จะต้องอยู่เหนือขั้นพริมิทีฟอย่างแน่นอน ถ้าเขาได้รับจีโนคอร์เทพเจ้าของมันไป เขาก็จะได้รับพลังที่เทียบเท่ากับมอนสเตอร์กระทิง และในเมื่อมันเป็นวิชาจีโน นั่นจะเป็นสิ่งที่ดีมากๆ
“อะไร? นั่นมันยังไม่เพียงพออย่างนั้นหรอ?” มอนสเตอร์กระทิงเห็นหานเซิ่นจ้องไปที่จีโนคอร์เทพเจ้าอย่างนิ่งเงียบ มันจึงคิดว่าหานเซิ่นอาจจะต้องการบางสิ่งเพิ่มอีก
ถึงแม้มอนสเตอร์กระทิงจะไม่ได้มีสติปัญญาสูงมากนัก แต่มันก็ฉลาดกว่าซีโน่เจเนอิคส่วนใหญ่ แต่เมื่อเทียบกับเผ่ามนุษย์หรือเวรี่ไฮแล้ว เจ้ามอนสเตอร์กระทิงนั้นมีจิตใจเหมือนเด็กเจ็ดถึงแปดขวบเท่านั้น
มันรู้ว่าโล่เมดูซ่าส์เกซเป็นสิ่งของที่ทรงพลังมากๆ และมันก็รู้ว่าจีโนคอร์ของมันไม่สามารถเทียบชั้นกับโล่ของหานเซิ่นได้ นั่นเป็นเหตุผลที่มันถามว่ายังจำเป็นต้องใช้อะไรอย่างอื่นอีกหรือเปล่า
“ถ้าถามข้า มันก็ยังเป็นอะไรที่ไม่ค่อยยุติธรรม แต่เห็นแก่พี่กระทิง ข้าจะยอมรับมัน” หานเซิ่นพูดขณะที่ดูเขินอายเล็กน้อย
เขาไม่ได้คาดคิดว่ามอนสเตอร์กระทิงที่น่ากลัวจะถูกหลอกได้ง่ายขนาดนี้ มันทำให้เขาสงสัยว่าตัวเองกำลังฝันไปหรือเปล่า เขาไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าในโลกนี้มีซีโน่เจเนอิคที่พูดด้วยง่ายแบบนี้อยู่
“ถ้าอย่างนั้นพวกเราก็มาเริ่มกันเลย!” มอนสเตอร์กระทิงพูดขณะที่จ้องอย่างใจจดใจจ่อไปที่เหรียญในมือหานเซิ่น
ครั้งหนึ่งมอนสเตอร์กระทิงตัวนี้เคยดูยิ่งใหญ่และน่ากลัว แต่ตอนนี้ภาพลักษณ์ของมันหายไปจากจิตใจของหานเซิ่นโดยสมบูรณ์ หานเซิ่นยกเหรียญขึ้นและยิ้ม
“พี่กระทิงดูดีๆนะ ด้านนี้คือหมายเลขและด้านนี้คือรูปภาพ”
หลังจากนั้นหานเซิ่นก็ประกบมือเข้าด้วยกันและเริ่มเขย่าพวกมันไปมา ขณะที่หานเซิ่นเขย่ามืออยู่นั้น เขาก็ใช้พลังของอาณาเขตตงเสวียนเพื่อตรวจดูว่ามอนสเตอร์กระทิงพยายามจะขโมยข้อมูลใดๆเกี่ยวกับเหรียญหรือเปล่า
อาณาเขตตงเสวียนไม่ได้ทรงพลังเหมือนอย่างมอนสเตอร์กระทิง แต่มันทำให้หานเซิ่นมองเห็นการหมุนของฟันเฟืองทั้งหมดที่อยู่ใกล้เคียง เขาอาจจะไม่สามารถหยุดการหมุนของฟันเฟืองจักรวาลประหลาดได้ แต่เขาจะสังเกตเห็นมัน
แต่หานเซิ่นดูจะประเมินความซื่อตรงของมอนสเตอร์กระทิงต่ำเกินไป เจ้ามอนสเตอร์ไม่ได้พยายามจะแอบดูเหรียญเลยแม้แต่นิดเดียว ท้ายที่สุดหานเซิ่นก็หยุดเขย่ามือและยกมันขึ้นต่อหน้ามอนสเตอร์กระทิง เจ้ามอนสเตอร์มองไปที่มือของหานเซิ่นและทำการตัดสินใจอย่างลังเล ดูเหมือนกับว่ามันกำลังจะคาดเดาว่าด้านบนของเหรียญจะเป็นภาพหรือเป็นหมายเลข
‘มอนสเตอร์กระทิงตัวนี้เติบโตมาในครอบครัวผู้ดีหรือยังไง? ทำไมมันถึงได้ซื่อตรงขนาดนี้?’ หานเซิ่นไม่เคยคิดว่ามันจะมีซีโน่เจเนอิคแบบนี้อยู่ด้วย
“หมายเลข” ในที่สุดมอนสเตอร์กระทิงก็พูดออกมา หลังจากที่ลังเลอยู่นาน
“พี่กระทิง พี่กระทิงแน่ใจเหรือว่าเหรียญจะแสดงหมายเลขน่ะ? เมื่อพี่กระทิงทำการตัดสินใจแล้ว พี่กระทิงจะเปลี่ยนใจทีหลังไม่ได้นะ” หานเซิ่นพูดขณะที่ยิ้มให้กับมอนสเตอร์กระทิง
“ถ้าอย่างนั้นข้าจะเลือกรูปภาพ” มอนสเตอร์กระทิงพูด มันเปลี่ยนใจจริงๆ
“พี่กระทิงแน่ใจอย่างนั้นหรอว่ามันเป็นรูปภาพ? ตอนนี้พี่กระทิงแน่ใจแล้วใช่ไหม?” หานเซิ่นยิ้ม
“ใช่ มันเป็นรูปภาพ ข้าจะไม่เปลี่ยนใจ” มอนสเตอร์กระทิงพูดขณะที่กัดฟันแน่น
หานเซิ่นเปิดมือและเผยให้เห็นว่ามันเป็นด้านหมายเลยที่หงายหน้าอยู่ หานเซิ่นมองไปที่มอนสเตอร์กระทิงและพูด
“น่าเสียดายจริงๆพี่กระทิง พี่กระทิงควรจะเชื่อในสัญชาตญาณแรกของตัวเอง”
ถึงแม้หานเซิ่นจะยังคงดูใจเย็น แต่ร่างกายของเขาตึงเครียดและเตรียมตัวจะรับการโจมตี ถ้ามอนสเตอร์กระทิงเข้าทำร้ายเขาหลังจากที่แพ้การเดิมพัน หานเซิ่นก็จะตอบสนองได้ในทันที เขากลัวว่ามอนสเตอร์กระทิงจะไม่ยอมรับผลการเดิมพัน
แต่มอนสเตอร์กระทิงเพียงแค่จ้องมองไปที่เหรียญอยู่สักพัก ก่อนที่จะพูดขึ้นมา “อีกครั้งหนึ่ง”
ถ้ามอนสเตอร์กระทิงไม่ได้มีพลังชีวิตที่น่ากลัว หานเซิ่นก็คงจะไม่เชื่อว่ามันเป็นซีโน่เจเนอิคระดับเทพเจ้าขั้นสูง