เมื่อกลับไปที่ดินแดนของเวรี่ไฮ หลี่เคอเอ๋อและเอ็กซ์ควิสิทก็นั่งปรึกษากัน พวกเธอทั้งคู่ดูงุนงงและไม่แน่ใจถึงสิ่งที่เกิดขึ้น
“พี่สาม พี่บอกว่าในตอนที่พี่ตื่นขึ้นมา ก็อตสปิริตสตอร์มก็ได้หายไปแล้วอย่างนั้นหรอ?” หลี่เคอเอ๋อถามอย่างไม่อยากจะเชื่อ
สีหน้าของเอ็กซ์ควิสิทดูแปลกๆ “นั่นเป็นสิ่งที่หานเซิ่นบอกกับข้า”
“แปลกจริงๆ ด้วยจิตใจของพี่สาม พี่ควรจะไม่หมดสติถึงแม้พี่จะหมดแรง นั่นไม่ควรจะเป็นไปได้ พี่สามจะหมดสติจากความเหนื่อยล้าและจู่ๆก็อตสปิริตสตอร์มจะหายไปได้ยังไงกัน? นี่เป็นอะไรที่แปลก…”
หลี่เคอเอ๋อดูเหมือนจะไม่เชื่อ หลังจากหยุดไปชั่วครู่ เธอก็พูดต่อไปว่า “แต่ทว่าพวกเราโชคดีที่เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นมา ไม่อย่างนั้นพี่สามกับหานเซิ่นก็คงจะตกอยู่ในอันตรายร้ายแรง”
หลี่เคอเอ๋อไม่ได้สงสัยในตัวหานเซิ่น เธอสามารถสัมผัสถึงจิตใจของหานเซิ่นได้ และเธอก็ไม่ได้สัมผัสถึงความผิดปกติอะไรในหัวของเขา ถ้าเขาวางแผนการชั่วร้ายบางอย่าง เธอก็ควรจะสัมผัสถึงมันได้
แต่เอ็กซ์ควิสิทยังคงสงสัยในตัวหานเซิ่น เธอจำได้อย่างชัดเจนว่าเขาทุบเธอจนหมดสติไป และที่สำคัญยิ่งกว่านั้นในตอนที่หานเซิ่นทำให้เธอหมดสติ เธอไม่สามารถสัมผัสได้ถึงสิ่งที่หานเซิ่นกำลังคิด นั่นทำให้เอ็กซ์ควิสิทสงสัยเกี่ยวกับจิตใจของหานเซิ่น ตอนนี้เธอกังวลว่าจะไม่สามารถสัมผัสถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในหัวของเขาทั้งหมดได้ ไม่อย่างนั้นถึงแม้เธอจะหมดสติไป เธอก็ควรจะรู้อยู่ดีว่าหานเซิ่นกำลังทำอะไร และเธอก็ควรจะหลีกเลี่ยงการถูกทุบได้แต่แรกด้วย
และก็อตสปิริตสตอร์มก็ควรจะติดตามหานเซิ่นต่อไป ทำไมจู่ๆมันถึงได้ถอยกลับไป? ไม่ว่าจะดูยังไงมันก็ประจวบเหมาะเกินไป
“หานเซิ่น…นี่เขาทำอะไรกันแน่?” เอ็กซ์ควิสิทรู้สึกสงสัยในตัวหานเซิ่น แต่เธอไม่ได้พูดเรื่องนั้นกับหลี่เคอเอ๋อ
เมื่อหานเซิ่นมีเวลาอยู่ตามลำพัง เขาก็เอาจีโนคอร์เทพเจ้าทั้งหกอันออกมาและเริ่มตรวจเช็คพวกมัน
จากจีโนคอร์เทพเจ้าทั้งหกอัน สามอันเป็นธาตุสายฟ้า สองอันเป็นธาตุไฟและอีกหนึ่งอันเป็นธาตุน้ำแข็ง
ในตอนที่สิ่งมีชีวิตส่วนใหญ่ดูดซับจีโนคอร์ พวกเขามักจะเลือกอันที่มีธาตุเหมาะสมกับตัวเอง ไม่อย่างนั้นพวกมันอาจจะสร้างความเสียหายกับร่างกายของพวกเขา
แต่ธาตุในร่างกายของหานเซิ่นนั้นสมดุลมากๆ มันไม่มีธาตุไหนที่โดดเด่นกว่าธาตุอื่นและเขาก็มีอยู่ทุกธาตุ ด้วยเหตุนั้นเขาไม่จำเป็นต้องเลือกว่าจะดูดซับธาตุไหนเข้าไป เขาสามารถดูดซับจีโนคอร์ได้ทุกธาตุ
“เราควรจะเก็บจีโนคอร์ธาตุสายฟ้าทั้งสามอันเอาไว้ให้กับจิ้งจอกสีเงิน ถ้ามันดูดซับจีโนคอร์ทั้งสามนี่เข้าไป การวิวัฒนาการของมันก็ควรจะถูกกระตุ้นให้เร็วยิ่งขึ้น และมันยังจะได้รับพลังเสริมอีก” หานเซิ่นเก็บจีโนคอร์ธาตุสายฟ้าทั้งสามอันไป
มันมีจีโนคอร์ธาตุไฟสองอันและธาตุน้ำแข็งอีกหนึ่งอัน ขณะที่เขาจ้องมองไปที่จีโนคอร์ทั้งสาม หานเซิ่นก็ดูลังเล สุดท้ายเขาก็เลือกจีโนคอร์ธาตุน้ำแข็ง เพราะยังไงซะวิชากายหยกของเขาก็เกี่ยวข้องกับธาตุน้ำแข็ง มันจึงเหมาะสมกับเขามากกว่า
หานเซิ่นหยิบจีโนคอร์ธาตุน้ำแข็งขึ้นมา มันมีขนาดพอๆกับกำปั้นเท่านั้น แต่มันดูเหมือนกับเพชรขนาดใหญ่ที่มีเหลี่ยมนับไม่ถ้วน มันส่องประกายระยิบระยับอย่างสวยงาม
ภายในจีโนคอร์มีเกล็ดหิมะอยู่ และด้วยเหตุผลบางอย่างเกล็ดหิมะเหล่านั้นดูเหมือนจะเรียงกันเป็นร่างกายสีขาวที่โปร่งใส มันเหมือนกับสาวหิมะจากตำนาน
‘ได้ยินมาว่ามีแค่ระดับเทพเจ้าเท่านั้นที่จะดูดซับจีโนคอร์เข้าไปได้ แต่เราจะทำมันในตอนนี้ได้ไหมนะ?’ ขณะที่ถือจีโนคอร์น้ำแข็งเอาไว้ หานเซิ่นก็ใช้วิชากายหยกและพยายามจะดูดซับพลังของจีโนคอร์
ผลลัพธ์ที่ออกมาเป็นอะไรที่น่าผิดหวัง กายหยกไม่สามารถดูดซับพลังของจีโนคอร์ได้ จีโนคอร์ธาตุน้ำแข็งยังคงนิ่งสนิทอยู่ในฝ่ามือของเขา
“วิธีง่ายๆไม่ได้ผล แบบนั้นเราก็คงต้องลองวิธีที่ยากกว่า”
หานเซิ่นใส่จีโนคอร์น้ำแข็งเข้าไปในปากและกลืนมันเข้าไป หลังจากนั้นเขาใช้วิชาคอนซูมพยายามจะดูดซับจีโนคอร์ให้ได้
ในตอนที่วิชาคอนซูมเริ่มทำงาน หานเซิ่นก็รู้สึกได้ถึงพลังอันหนาวเย็นระเบิดภายในท้องของเขา มันแช่แข็งท้องของของเขา หลังจากนั้นมันก็เริ่มกระจายไปตามส่วนอื่นๆทั่วร่างกาย
ในชั่วพริบตาร่างกายทั้งร่างของหานเซิ่นก็กลายเป็นน้ำแข็ง ทั้งร่างของเขาห่อหุ้มด้วยชั้นน้ำแข็งหนา หานเซิ่นรู้สึกตกใจ เขารีบใช้กายหยกอย่างเต็มกำลังเพื่อจะต่อสู้กับพลังอันหนาวเย็น
กายหยกมีความต้านทานต่อความหนาวเย็น แต่ถึงอย่างนั้นเชลล์ของหานเซิ่นก็ยังช้าลงอย่างมาก มันทำให้หานเซิ่นรู้สึกราวกับว่าเขาต้องการจะหลับไหล เปลือกตาของเขาเริ่มหนักราวกับว่าเขาไม่ได้นอนมาหลายวัน
ในสภาพเซื่องซึมนั้น หานเซิ่นได้ยินเสียงแผ่วเบาของผู้หญิงมากระซิบที่ข้างหูของเขา “หลับ..”
เสียงกระซิบนั้นเกือบจะทำให้หานเซิ่นหลับไป ถึงแม้กายหยกของเขาจะกำลังทำงานอยู่ แต่เขาก็ไม่สามารถทำสมาธิเพื่อใช้มันต่อไปได้
“โอ้ไม่นะ! พลังที่หนาวเย็นมีผลทำให้ผ่อนคลาย…” หานเซิ่นรู้สึกตัวถึงสิ่งที่เกิดขึ้น ถ้าเขาเกิดหลับไปตอนนี้ มันก็มีโอกาสที่เขาจะไม่ตื่นขึ้นมาอีก
“เราจะหลับไม่ได้… เราจะหลับไม่ได้ ไม่ว่ายังไงก็ตาม… ถ้าเราเกิดหลับไป เซลล์ทั้งร่างกายของเราก็จะถูกแช่แข็ง และมันจะเป็นเรื่องยากที่เราจะตื่นขึ้นมาอีกครั้ง” หานเซิ่นเตือนตัวเอง เขาบอกตัวเองให้ใช้วิชากายหยกต่อไป
ถึงแม้เขาจะรู้ตัวว่าไม่สามารถหลับได้ แต่เขาก็อ่อนล้าขึ้นเรื่อยๆ เขาสามารถหลับไปได้ทุกเมื่อ
ร่างกายของเขาอ่อนแรงลง และเขาจำเป็นต้องใช้จิตใจที่เข็มแข็งเพื่อคงสติเอาไว้ เขาไม่สามารถปล่อยให้ตัวเองหลับไปได้ ไม่ว่ายังไงก็ตาม
ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าไหร่ ก่อนที่หานเซิ่นจะรู้สึกว่าความอ่อนล้าเริ่มจางหายไป เขารู้สึกตื่นตัวมากขึ้นเรื่อยๆ ในที่สุดความหนาวเย็นก็ลดลงไป และร่างกายของเขาก็เริ่มกลับมาอุ่นอีกครั้ง
หานเซิ่นรู้ว่าตัวเองผ่านส่วนที่ยากที่สุดได้แล้ว แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าเขาจะชะล่าใจได้ เขายังคงใช้วิชากายหยกต่อไปเพื่อดูดซับพลังของจีโนคอร์น้ำแข็ง
ขณะที่กายหยกดูดซับพลังนั้นเข้าไป หานเซิ่นก็สังเกตว่ามันไม่ได้แสดงความเปลี่ยนแปลงใดๆ พลังของจีโนคอร์ถูกดูดซับเข้าไป แต่มันไม่ได้ละลายเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของกายหยกอย่างที่เขาคิดเอาไว้ ดูเหมือนว่ามันจะเป็นพลังอิสระภายในร่างกายของหานเซิ่นแทน
หานเซิ่นลืมตาขึ้นมา และเขาก็สะดุ้ง มันมีสัญลักษณ์เกล็ดหิมะบนผิวทั่วร่างกายของเขาเหมือนกับเป็นรอยสัก
หานเซิ่นสัมผัสได้ถึงพลังภายในตัว และเขาก็รู้ว่าสามารถควบคุมมันได้ แต่เขาไม่สามารถใช้มันเหมือนกับวิชาจีโนทั่วไป หรือรวมพลังของมันเข้ากับวิชาจีโนอื่นของตัวเองได้
“จีโนคอร์เทพเจ้าเป็นอะไรที่ลึกลับจริงๆ ในตอนนี้มันเหมือนกับว่าเรามีวิชาระดับเทพเจ้าธาตุน้ำแข็งอยู่ ไม่รู้ว่าวิชาธาตุน้ำแข็งนี้ทำอะไรได้ แต่มันคงจะเกี่ยวกับพลังหนาวเย็นที่ทำให้หลับใหลอย่างนั้นสินะ”
หานเซิ่นรู้ว่าถ้าเขาใช้พลังนั้น มันก็จำเป็นต้องใช้เวลาเพื่อชาร์จพลังกลับคืนมาอีกครั้ง มันไม่เหมือนกับวิชาจีโนของตัวเขาเองที่จะใช้มากแค่ไหนก็ได้ตราบใดที่เขายังมีพลังงานเหลืออยู่
“เราควรจะลองทดสอบมันกับใครดี?” หานเซิ่นคำนึงถึงเรื่องนั้น แต่เขาไม่สามารถหาเป้าหมายที่เหมาะสมได้ ด้วยเหตุนั้นเขาจึงเลิกคิดเกี่ยวกับมันไปก่อน เขารู้สึกตัวว่าไม่ได้เข้าไปเยี่ยมฮอไรซอนทอลอีวิลมาสักพักหนึ่งแล้ว ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจกลับไปที่สถานที่ลึกลับนั่นเพื่อพบกับฮอไรซอนทอลอีวิลอีกครั้ง