Super God Gene – ตอนที่ 2716

“น่าเสียดายที่ตอนนี้เรากลับเข้าไปในก็อตแซงชัวรี่ไม่ได้ ไม่อย่างนั้นเราจะป้อนคริสตัลนี่ให้กับมอนสเตอร์ตัวหนึ่ง หลังจากนั้นเราก็จะยืนยันได้ว่านี่เป็นคริสตัลสีดำแบบเดียวกับที่เราเจอเมื่อนานมาแล้วหรือเปล่า” หานเซิ่นพูดกับตัวเอง

 

ทันใดนั้นดวงตาของหานเซิ่นก็เป็นประกายขึ้นมา “ถึงเราจะลองทดสอบกับมอนสเตอร์ของก็อตแซงชัวรี่ไม่ได้ แต่ในจักรวาลแห่งนี้ก็มีซีโน่เจเนอิคอยู่ ถ้าเราจับมาสักตัวและลองใช้มันทดสอบคริสตัลนี้ มันก็อาจจะได้ผลลัพธ์เหมือนกัน”

 

เมื่อหานเซิ่นตัดสินใจได้แล้ว เขาก็ไม่จำเป็นต้องไปไหนไกลเพื่อหาหนูทดลอง เขาแค่ต้องไปจับด้วงดาราระดับราชันจากต้นไม้ดารามา

 

หลังจากนั้นไม่นานหานเซิ่นก็ไปถึงต้นไม้ดารา แต่ถึงจะใช้เวลาค้นหาอยู่ครึ่งวัน เขาก็ยังหาด้วงดาราไม่เจอเลยสักตัว

 

“ดูเหมือนว่าด้วงดาราจะยังไม่กลับมา” หานเซิ่นพึมพำกับตัวเอง
“ดูเหมือนว่าเราต้องไปหาซีโน่เจเนอิคจากที่อื่น”

 

หลังจากนั้นหานเซิ่นก็รู้สึกตัวว่ามีใครบางคนกำลังเข้ามาหาต้นไม้ดารา ในตอนที่คนๆนั้นเข้ามาใกล้ หานเซิ่นก็จำได้ว่าเขาคือกรูจากเผ่าเอ็กซ์ตรีมคิง

 

“นี่คือต้นไม้ดารา ถ้าไม่มีคำสั่งของท่านผู้นำ เจ้าจะเข้ามาที่นี่ไม่ได้” หานเซิ่นพูดขณะที่เข้ามาขวางทางกรู

 

ความจริงแล้วหานเซิ่นไม่จำเป็นต้องเตือนชายคนนั้น มันมีผนึกอยู่รอบๆต้นไม้ดาราเรียบร้อยแล้ว ถ้าสิ่งมีชีวิตอื่นเข้าใกล้ต้นไม้โดยไม่ได้รับอนุญาต เสียงสัญญาณเตือนก็จะดังขึ้นมา

 

“ข้าไปตามหาเจ้าที่ทะเลสาบอันเดอร์เวิลด์ แต่ข้าไม่เห็นเจ้าที่นั่น ดังนั้นข้าจึงคิดว่าเจ้าอาจจะมาอยู่ที่นี่ ดูเหมือนว่าข้าจะคิดถูก” กรูพูด

 

“ทำไมเจ้าถึงตามหาข้า?” หานเซิ่นถามอย่างระมัดระวัง

 

หานเซิ่นมีความบาดหมางที่ฝังลึกกับเผ่าเอ็กซ์ตรีมคิง ถ้าคนของเอ็กซ์ตรีมคิงอย่างกรูมาตามหาเขา นั่นก็เป็นเหตุผลที่เพียงพอจะทำให้เขาระวังตัว

 

กรูยิ้มออกมา “ได้โปรดอย่าเข้าใจผิด ข้าไม่ได้มีจุดประสงค์ร้ายอะไร คนของข้าอาจจะมีเรื่องบาดหมางกับเจ้า แต่ไม่ใช่พวกเราทุกคนจะคิดว่ามันเป็นเรื่องที่ต้องสะสางด้วยการหลั่งเลือด”

 

หานเซิ่นรู้ในทันทีว่ากรูหมายความว่าอะไร ภายในเผ่าเอ็กซ์ตรีมคิงมีอยู่หลายฝ่าย ซึ่งฝ่ายที่เป็นใหญ่ที่สุดคือตระกูลไป๋ที่ถูกนำโดยราชาไป๋ และมันยังมีฝ่ายของตระกูลเป่าที่หานเซิ่นเพิ่งจะคุ้นเคยเมื่อไม่นานมานี้ ถึงแม้ตระกูลเป่าจะไม่ใช่ราชวงศ์ที่แท้จริงอีกต่อไป แต่พวกเขาก็ยังคงมีอิทธิพลภายในเผ่าเอ็กซ์ตรีมคิงอยู่ และมันยังมีกลุ่มอื่นๆอยู่อีกเช่นกัน สถานการณ์ทางการเมืองของเผ่าเอ็กซ์ตรีมคิงค่อนข้างซับซ้อน และเนื่องจากเป็นเพียงแค่คนนอก หานเซิ่นจึงไม่มีวันเข้าใจถึงสถานการณ์ของพวกเขา

 

หานเซิ่นไม่รู้ว่ากรูเป็นคนของฝ่ายไหนกันแน่ แต่ฟังดูเหมือนกับว่าคนของเขาไม่ได้คิดจะก่อปัญหาให้กับหานเซิ่น หรืออย่างน้อยๆพวกเขาก็ไม่ได้สนใจเรื่องความขัดแย้ง

 

“ถ้าอย่างนั้นเจ้ามีเรื่องอะไร?” หานเซิ่นเกือบจะฆ่ากรูในการประลอง เขาจึงไม่คิดว่ากรูจะใจกว้างพอจะลืมเรื่องทั้งหมดนั้น

 

กรูดูจริงจังขณะที่พูดขึ้นมา “ข้าพบซีโน่เจเนอิคระดับเทพเจ้าขั้นพริมิทีฟที่อยู่ตามลำพัง แต่ข้าไม่มั่นใจว่าจะฆ่ามันได้ ดังนั้นข้าจึงหวังว่าพวกเราจะร่วมมือกันฆ่ามัน”

 

“นั่นฟังดูไม่ใช่ความคิดที่ดี” หานเซิ่นพูดหลังจากที่ลังเลอยู่ชั่วครู่

 

พวกเขาทั้งสองไม่ได้มีความเชื่อใจต่อกัน นอกจากนั้นพวกเขายังเป็นศัตรูกันอีก และถึงแม้พวกเขาจะเป็นมิตรต่อกัน มันก็เป็นเรื่องยากอยู่ดีที่จะตัดสินใจเรื่องส่วนแบ่งที่ได้รับจากการล่าซีโน่เจเนอิคระดับเทพเจ้า

 

กรูเห็นว่าหานเซิ่นกำลังกังวลเกี่ยวกับอะไร ดังนั้นเขาพูดขึ้นว่า
“เจ้าอาจจะไม่เชื่อข้า แต่ข้าไม่ได้มีประสงค์ร้ายกับเจ้าจริงๆ บอกตามตรงข้านับถือเจ้า นั่นเป็นเหตุผลที่ข้ามาชวนเจ้าไปล่าซีโน่เจเนอิคด้วยกัน ข้าทำมันด้วยตัวเองไม่ได้ และข้าก็อยากจะเห็นวิชามีดของเจ้าอีกครั้ง ข้าอยากจะเรียนรู้จากเจ้า ส่วนในเรื่องการแบ่งสิ่งที่ได้รับจากการล่า ไม่ว่ารางวัลอะไรก็ตามที่พวกเราได้รับ พวกเราจะแบ่งมันคนละครึ่ง”

 

หานเซิ่นมองไปที่กรูโดยไม่พูดอะไร เขายังคงลังเล

 

มันอาจจะมีคนที่ไม่ได้สนใจอะไรในเรื่องนั้น แต่ทว่าหานเซิ่นไม่รู้ว่ากรูรู้สึกแบบนั้นจริงๆหรือเปล่า มันอาจจะเป็นกลอุบายเพื่อแก้แค้นก็ได้ ด้วยเหตุนั้นหลังจากที่ใช้เวลาคิดเกี่ยวกับมันดีๆแล้ว หานเซิ่นก็ตัดสินใจที่จะปฏิเสธคำชวนของกรู
“ต้องขอโทษด้วย แต่ข้ามีเรื่องอื่นต้องไปทำ ข้าไปล่าซีโน่เจเนอิคร่วมกับเจ้าไม่ได้”

 

กรูดูผิดหวัง แต่เขาเข้าใจว่าหานเซิ่นกังวลเกี่ยวกับอะไร เขาพยักหน้าและพูด
“ถ้าอย่างนั้นข้าก็จะไม่พยายามเจ้า แต่ถ้าเจ้าเกิดเปลี่ยนใจขึ้นมา เจ้ามาหาข้าได้เสมอ”

 

หลังจากมองดูกรูจากไป หานเซิ่นก็นำเอาแผนที่ของเอาท์เตอร์สกายออกมา ดินแดนของเอาท์เตอร์สกายนั้นกว้างใหญ่เกินกว่าจะถูกแสดงโดยแผนที่เล็กๆ ดังนั้นมีเพียงแค่ดินแดนส่วนเล็กๆเท่านั้นที่ถูกวาดเอาไว้ นั่นรวมถึงส่วนที่เป็นที่อยู่อาศัยของเวรี่ไฮ ต้นไม้ดาราและทะเลสาบอันเดอร์เวิลด์ สถานที่เหล่านั้นเป็นสถานที่หานเซิ่นคุ้นเคยเรียบร้อยแล้ว

 

แต่บนแผนมีเครื่องหมายหลายตัวที่หานเซิ่นไม่เคยเห็นเคยก่อน ซึ่งพวกมันบอกถึงสถานที่ที่ซีโน่เจเนอิคที่น่ากลัวถูกพบเห็น

 

หานเซิ่นตรวจดูแผนที่อยู่สักพัก และเขาก็พบสถานที่หนึ่งที่อยู่ใกล้ๆกับต้นไม้ดารา ซึ่งมันถูกเรียกว่าแม่น้ำจันทร์เพ็ญ เขาตัดสินใจจะไปที่นั่นเพื่อจับซีโน่เจเนอิคระดับราชันสักตัวกลับมาลองทดสอบคริสตัลสีดำ

 

หานเซิ่นเคยคิดจะกลืนคริสตัลสีดำเข้าไปเพื่อทดสอบมันด้วยตัวเอง แต่เขาเชื่อว่าการเสี่ยงทำอะไรแบบนั้นเป็นอะไรที่โง่เขลา

 

ในเอาท์เตอร์สกายมีซีโน่เจเนอิคที่น่ากลัวอยู่มากมาย แต่สถานที่ที่อยู่ใกล้ๆกับที่อยู่อาศัยของเวรี่ไฮมักจะมีแค่ซีโน่เจเนอิคระดับราชันหรือต่ำกว่า แม่น้ำจันทร์เพ็ญเป็นหนึ่งในสถานที่แบบนั้น มันไม่มีซีโน่เจเนอิคระดับเทพเจ้าอยู่ที่นั่น แต่มันมีซีโน่เจเนอิคระดับราชันอาศัยอยู่มากมาย ซึ่งมันเหมาะสมสำหรับให้หานเซิ่นจับตัวมาใช้เป็นหนูทดลอง

 

หานเซิ่นบินไปที่แม่น้ำจันทร์เพ็ญ ภูมิประเทศใกล้ๆกับแม่น้ำเป็นเนินเตี้ยๆที่กระจายออกไปจากแม่น้ำ ทันทีที่หานเซิ่นมาถึงแม่น้ำจันทร์เพ็ญ เขาก็สังเกตเห็นเรดซีโน่เจเนอิคตัวหนึ่งกำลังยืนอยู่บนหน้าผา สิ่งมีชีวิตที่ขาวเหมือนกับหิมะตัวนั้นกำลังมองลงไปในลำธาร

 

หานเซิ่นมองตามสายตาของมันไป แต่มันมีเพียงแค่เมฆที่อยู่ข้างล่างนั้น พวกมันหนาแน่นเกินกว่าจะมองทะลุไปได้

 

ขณะที่หานเซิ่นกำลังสงสัยอยู่นั้น เขาก็เห็นความเคลื่อนไหวภายในหมู่เมฆ มันมีซีโน่เจเนอิคตัวใหม่ที่ดูเหมือนกับสิ่งที่ผสมระหว่างปลาและงูบินออกมาจากก้อนเมฆ

 

ซีโน่เจเนอิคตัวนี้ดูเหมือนกับงูขนาดยักษ์ที่มีเขาอยู่บนหัว มันไม่ได้มีอุ้งเท้า แต่มีปีกกางออกมาจากหลังของมัน มันดูเป็นสิ่งมีชีวิตที่แปลกประหลาดมากๆ ในตอนที่มันบินออกมาจากก้อนเมฆ มันก็ส่งเสียงร้องใส่แรดที่อยู่บนหน้าผา

 

ไม่นานหลังจากนั้นแรดและงูบินได้ก็ต่อสู้กัน หานเซิ่นเห็นว่าพวกมันทั้งคู่ไม่ได้แข็งแกร่งอะไรมาก พวกมันเป็นแค่ระดับราชันขั้นที่สองหรือสามเท่านั้น การต่อสู้นี้จึงไม่ได้ดูน่าสนใจอะไร แต่หานเซิ่นมีแผนที่จะรอคอยจนกระทั่งหนึ่งในพวกมันบาดเจ็บ ก่อนที่เขาจะเข้าไปจับหนึ่งในพวกมันมาทำการทดสอบ

 

แต่หลังจากที่หานเซิ่นมองดูพวกมันไปสักพัก เขาก็รู้สึกแปลกใจ

 

ผิวของแรดนั้นหนามากๆ และมันก็มีพลังในการเปลี่ยนร่างกายให้กลายเป็นหิน แต่พลังอาณาเขตของเจ้างูประหลาดเองก็น่าประหลาดใจเช่นเดียวกัน

 

เจ้างูประหลาดนั้นมีสีขาว ร่างกายของมันไม่ได้ทำขึ้นมาจากหยกเหมือนกับแรด แต่มันเรืองแสงเบลอๆ แสงนั่นก่อตัวเป็นผนึกขนาดใหญ่รอบตัวของมัน

 

ภายในผนึกไม่ว่าแรดจะสร้างความเสียหายได้มากขนาดไหน เจ้างูก็สามารถรักษาพวกมันทั้งหมดได้ ความจริงแล้วบาดแผลของมันฟื้นตัวรวดเร็วซะจนดวงตาของหานเซิ่นแทบจะมองไม่ทัน

 

“มันมีพลังอาณาเขตในการรักษา?” หานเซิ่นพึมพำกับตัวเอง พลังอาณาเขตแบบนั้นถือว่าหาได้ยาก

 

“หานเซิ่น ทำไมเจ้ามาอยู่ที่นี่?” ในขณะที่หานเซิ่นกำลังดูการต่อสู้อยู่นั้น เขาก็รู้สึกตัวว่ามีใครบางคนกำลังบินเข้ามาทางเขา คนๆนั้นโบกมือให้กับเขาจากระยะไกล เมื่อคนๆนั้นเข้ามาใกล้ หานเซิ่นก็สังเกตเห็นว่าอีกฝ่ายคือกรู

 

“ข้ามาที่นี่เพื่อทำธุระบางอย่าง ทำไมเจ้าถึงมาที่นี่?” หานเซิ่นถาม

 

“ซีโน่เจเนอิคระดับเทพเจ้าที่ข้าพูดถึงอยู่ที่นี่ ในเมื่อเจ้าบอกว่ามีธุระ ข้าก็เลยคิดจะลองมาจัดการกับมันดู ข้าไม่ได้คาดคิดว่าจะได้มาเจอกับเจ้าที่นี่ มันเป็นเรื่องบังเอิญจริงๆ” กรูยิ้ม

Super God Gene

Super God Gene

ในยุคสมัยที่วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของมนุษย์ถูกพัฒนาจนถึงระดับสูง ในที่สุดมนุษยชาติก็ได้ค้นพบวิธีการเทเลพอร์ต แต่เมื่อพวกเขาทดลองเทเลพอร์ต กลับพบว่าพวกเขาไม่ได้ถูกส่งไปในอนาคต อดีตหรือสถานที่อื่นๆที่มนุษย์รู้จัก แต่มันคือโลกที่แตกต่างโดยสิ้นเชิง สถานที่ลึกลับนี่ถูกเรียกว่า ‘ก็อด เเซงชัวรี่’ ที่นี่มีสิ่งมีชีวิตประหลาดอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก แต่เมื่อมนุษย์ลองกินสิ่งมีชีวิตประหลาดเข้าไป ร่างกายของพวกเขาพัฒนาขึ้นและยังเพิ่มอายุขัยขึ้นด้วย มันคือก้าวที่ยิ่งใหญ่ของมนุษย์ชาติในการวิวัฒนาการเพื่อสร้างยุคสมัยที่ยิ่งใหญ่ “ด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ถูกฆ่า คุณได้รับวิญญาณอสูรด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ เมื่อกินเนื้อของด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ คุณมีโอกาสได้รับ 0 ถึง 10 Geno Point โดยการสุ่ม” The future unfolded on a magnificent scale into the Interstellar Age. Humanity finally solved the space warp technology, but when humanity transported themselves into the other end, they discovered that place neither had a past nor future, nor was there any land under the starry skies…… The mysterious sanctuary was actually a world filled with countless tyrannical unusual organisms. Humanity faced their great leap in evolution, starting the most glorious and resplendant new era under the starry skies. “Slaughtered the God Blood organism ‘Black Beetle’. Received the God Blood Black Beetle’s Beast Soul. Used the God Blood Black Beetle’s flesh. Randomly obtaining 0 to 10 points of God Gene(s).”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset