“นั่นเป็นอัญมณีที่งดงามมากๆ” เป่าเป๋อพูด ขณะที่เธอจ้องไปที่อัญมณีในมือของพระเจ้าแห่งความว่างเปล่า ดวงตาของเธอเปล่งประกายด้วยความสนใจ
พระเจ้าแห่งความว่างเปล่ายิ้มที่มุมปาก เขาดูอวดดีขณะที่พูดขึ้นว่า
“หนูต้องการมันไหม? แค่พูดว่าหนูต้องการมันและมันจะเป็นของหนู”
“จริงอย่างนั้นหรอ?” เป่าเอ๋อดูประหลาดใจ เธอจ้องไปที่พระเจ้าแห่งความว่างเปล่าอย่างไม่อยากจะเชื่อ
“แน่นอน ตราบใดที่หนูพูดสิ่งที่ต้องการออกมา สาวน้อยน่ารักอย่างหนูก็จะมีทุกอย่างที่หนูใฝ่ฝัน”
“ลุงเป็นคนดีจริงๆ!” เป่าเอ๋อพูดด้วยความตื่นเต้น
พระเจ้าแห่งความว่างเปล่าหัวเราะ เขาถืออัญมณีไว้ตรงหน้าเป่าเอ๋อและยิ้ม
“แค่พูดออกมาว่าหนูต้องการมัน หลังจากนั้นอัญมณีนี่จะตกเป็นของหนู”
เป่าเอ๋อมองไปที่อัญมณีด้วยความปรารถนา และเธอก็ค่อยๆเอื้อมมือออกไปหาอัญมณี
พระเจ้าแห่งความว่างเปล่าซ่อนรอยยิ้มเหยียดหยามขณะที่คิดกับตัวเอง
‘ผู้หญิงทุกคนเป็นเหมือนกันหมด ไม่สำคัญว่าพวกนางจะเป็นเด็กหรือคนชรา พวกนางก็รักสิ่งที่เป็นประกายกันทุกคน’
แต่จู่ๆเป่าเอ๋อก็ดึงมือกลับ และพูดด้วยใบหน้าที่ดูผิดหวัง “ความจริงแล้วหนูไม่ต้องการมัน”
“อะไรกัน? ทำไมจู่ๆหนูถึงไม่ต้องการมัน?” พระเจ้าแห่งความว่างเปล่าถามด้วยความประหลาดใจ เขาตกใจกับการเปลี่ยนใจอย่างกะทันหันของเป่าเอ๋อ
“แม่เคยบอกว่าไม่ควรรับสิ่งของจากคนแปลกหน้า”
เป่าเอ๋อพูดอย่างจริงจัง แต่ดวงตาของเธอยังคงมองไปที่อัญมณี ดูเหมือนกับว่าเธอพยายามจะห้ามตัวเองจากการเอื้อมมือออกไปคว้ามัน
พระเจ้าแห่งความว่างเปล่าพูดด้วยรอยยิ้ม “แน่นอนว่าหนูจะรับสิ่งของจากคนแปลกหน้าไม่ได้ แต่ลุงไม่ใช่คนแปลกหน้า ลุงเป็นเพื่อนสนิทของพ่อหนู แบบนั้นหนูรับของจากลุงได้ถูกไหม?”
“ลุงเป็นเพื่อนสนิทของพ่อหนู?” เป่าเอ๋อถาม
“ใช่แล้ว พวกเราเป็นเพื่อนที่สนิทกันมากๆ” พระเจ้าแห่งความว่างเปล่าพูด
“ถ้าลุงเป็นเพื่อนสนิทของพ่อ แบบนั้นพวกเราก็ไม่ใช่คนแปลกหน้ากัน!” เป่าเอ๋อพูดอย่างดีใจ
“แน่นอนว่าไม่ใช่!” พระเจ้าแห่งความว่างเปล่าพูดพร้อมกับส่ายหัว
“ขอบคุณลุงมาก ถ้าอย่างนั้นหนูก็จะรับอัญมณีนั่นเอาไว้” เป่าเอ๋อยื่นมือออกไปรับอัญมณีที่อยู่ในมือของพระเจ้าแห่งความว่างเปล่า
ขณะที่เธอยื่นมือออกมา พระเจ้าแห่งความว่างเปล่าก็ไม่แน่ใจว่าควรจะปล่อยมันไปหรือควรจะถือมันเอาไว้ เป่าเอ๋อนั้นไม่ได้กล่าวคำอธิษฐานออกมา ตอนนี้ถ้าเธอเอามันไป พระเจ้าแห่งความว่างเปล่าก็จะไม่ได้อะไรเป็นการตอบแทน
พระเจ้าแห่งความว่างเปล่าไม่ตอบสนอง ซึ่งทำให้เป่าเอ๋อมองเขาด้วยความสับสน
“นี่ลุงไม่ต้องการมอบอัญมณีให้กับหนูอย่างนั้นหรอ? ถ้าอย่างนั้นก็ไม่เป็นไร ยังไงซะแม่หนูก็บอกว่าไม่ควรขโมยสิ่งของของคนอื่น”
คำพูดของเป่าเอ๋ออาจจะฟังดูดี แต่ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยความดูถูก เธอคิดว่าพระเจ้าแห่งความว่างเปล่านั้นขี้เหนียวที่ไม่ยอมมอบอัญมณีให้กับเธอ
“อะแฮ่ม อะแฮ่ม หนูยังไม่ได้บอกลุงเลยว่าหนูต้องการมันหรือเปล่า” พระเจ้าแห่งความว่างเปล่าพูด ตอนนี้เขาดูไม่ค่อยสบายใจ
“ลุง อัญมณีนี้ดูจะสำคัญต่อลุงมาก ลุงควรจะเก็บมันเอาไว้” หลังจากที่พูดจบ เป่าเอ๋อก็หันกลับเพื่อจะจากไป
ถึงแม้เป่าเอ๋อจะไม่ได้พูดอะไรมากกว่านั้น แต่เธอมีใบหน้าที่ดูถูกขณะที่เธอหันไป มันทำให้พระเจ้าแห่งความว่างเปล่ารู้สึกหดหู่ยิ่งกว่าเดิม
เขาเป็นพระเจ้าแห่งความว่างเปล่า แต่เขาถูกดูหมิ่นโดยเด็กตัวเล็กๆคนหนึ่ง
“เป่าเอ๋อ หนูอย่าเพิ่งไป! ลุงจะมอบอัญมณีนี้ให้กับหนูในฐานะของขวัญ ตอนนี้หนูเอามันไปจากลุงได้เลย”
พระเจ้าแห่งความว่างเปล่าไม่ได้สนใจอะไรอัญมณีนั่น และการมอบมันให้กับเป่าเอ๋ออาจจะทำให้เขาได้รับความเชื่อใจจากเธอ เขาไม่คิดจะปล่อยให้เธอจากไปง่ายๆ
“ลุงจะมอบมันให้หนูจริงๆ? ลุงจะไม่คิดถึงมันอย่างนั้นหรอ?” เป่าเอ๋อมองไปที่พระเจ้าแห่งความว่างเปล่าด้วยความสงสัย
“สำหรับลุงแล้ว อัญมณีนี่เป็นเพียงแค่ก้อนหินก้อนหนึ่ง มันไร้ค่าเมื่อเทียบกับสิ่งของอื่นๆที่ลุงครอบครอง” พระเจ้าแห่งความว่างเปล่าวางอัญมณีลงในมือของเป่าเอ๋อ
“ขอบคุณลุงมาก ลุงเป็นคนดี” เป่าเอ๋อรับอัญมณีด้วยรอยยิ้ม
“ลุงดีใจที่หนูชอบมัน” พระเจ้าแห่งความว่างเปล่ายิ้มตอบ แต่เขากำลังคิดกับตัวเอง
‘ข้าก็กลัวว่านางจะไม่รับมันไปซะอีก ตอนนี้เมื่อนางเริ่มติดนิสัยรับสิ่งของจากข้า นี่ก็ควรจะเป็นอะไรที่ง่ายขึ้น’
เป่าเอ๋อดูจะชอบอัญมณีนั่นมากๆ เธอเล่นกับมันอย่างสนุกสนาน
หลังจากนั้นพระเจ้าแห่งความว่างเปล่าก็ล้วงเข้าไปในกระเป๋าและนำเอาอัญมณีที่ใหญ่โตกว่าอันแรกออกมา
“เป่าเอ๋อ หนูไม่คิดว่าอัญมณีนี้งดงามยิ่งกว่าหรอ? หนูชอบมันไหม?”
เป่าเอ๋อมองไปที่อัญมณีในมือของพระเจ้าแห่งความว่างเปล่า มันใหญ่โตเท่ากับกำปั้นของผู้ใหญ่ เธอกระพริบตาปริบๆก่อนจะพูดขึ้นว่า
“มันใหญ่เกินไป หนูจะดูเหมือนเป็นคนหัวสูงถ้าหนูมีมัน หนูชอบอันนี้มากกว่า”
หลังจากนั้นเป่าเอ๋อก็กลับไปเล่นกับอัญมณีในมือและเลิกให้ความสนใจพระเจ้าแห่งความว่างเปล่า
พระเจ้าแห่งความว่างเปล่ารู้สึกหดหู่ เขาคิดว่าการเสนออัญมณีที่ใหญ่โตและงดงามกว่าจะทำให้เป่าเอ๋อเชื่อในตัวเขา แต่ทว่าอัญมณีนั่นกลับทำให้เขาถูกเมินแทน
‘ดูเหมือนว่าการใช้อัญมณีจะดึงดูดนางไม่ได้อีกต่อไป’ พระเจ้าแห่งความว่างเปล่าเริ่มคิดหาแผนการใหม่
“เป่าเอ๋อ หนูดูนี่สิ” พระเจ้าแห่งความว่างเปล่านำบางสิ่งออกมาให้เธอดู
เป่าเอ๋อเงยหน้าขึ้นมาและเห็นว่าพระเจ้าแห่งความว่างเปล่ากำลังถือกระจกทองแดงอยู่ กระจกนั่นมีความยาวแค่สิบเซนติเมตร และมันก็ดูบอบบางมากๆ
ด้านหน้าของกระจกดูเรียบเนียนและแวววาว ด้านหลังของกระจกเป็นเส้นที่กระจายออกจากจุดศูนย์กลางของกระจกไปยังมุมต่างๆเหมือนกับเป็นหน้าปัดของนาฬิกา สัญลักษณ์ประหลาดบางอย่างสลักอยู่ในช่องว่างระหว่างเส้นแต่ละเส้น
“นี่คืออะไร?” เป่าเอ๋อถามพระเจ้าแห่งความว่างเปล่าด้วยความสงสัย
“นี่คือกระจกสตาร์เกจ มันเป็นสมบัติระดับเทพเจ้าขั้นทรูก็อต มันจะทำให้หนูมองเห็นอดีตและอนาคต”
พระเจ้าแห่งความว่างเปล่าพูดอวดกระจกโบราณ ถึงแม้เขาจะโอ้อวดความสามารถของมัน กระจกนี้ก็เป็นอะไรที่ค่อนข้างพิเศษจริงๆ พระเจ้าแห่งความว่างเปล่าเคยต้องการกระจกนี้อย่างมาก และเขาก็ต้องใช้ความพยายามอย่างหนักกว่าจะได้มันมา
พระเจ้าแห่งความว่างเปล่าและราชาจุนกล่วงอ้างว่าตัวเองเป็นพระเจ้า แต่พวกเขาไม่สามารถสร้างบางสิ่งขึ้นมาจากความว่างเปล่าได้ ทุกอย่างที่พวกเขาใช้หรือควบคุมเป็นสิ่งที่มีอยู่ในจักรวาลอยู่แล้ว พวกเขาไม่สามารถเสกสิ่งของขึ้นมาอย่างตามใจชอบได้
กระจกสตาร์เกจบานนี้เป็นสมบัติที่พระเจ้าแห่งความว่างเปล่าได้มาจากยอดฝีมือระดับเทพเจ้าขั้นทรูก็อตเมื่อหลายพันล้านปีก่อน เขาต้องใช้เวลาเป็นร้อยๆปีก่อนที่ยอดฝีมือระดับเทพเจ้าขั้นทรูก็อตคนนั้นจะทำการอธิษฐาน และหลังจากที่ยอดฝีมือคนนั้นทำการอธิษฐาน พระเจ้าแห่งความว่างเปล่าก็ขโมยอายุขัยและกระจกสตาร์เกจมา
พระเจ้าแห่งความว่างเปล่าภาคภูมิกับความสำเร็จของเขา มันมีพระเจ้าหลายคนที่พยายามจะหลอกยอดฝีมือระดับเทพเจ้าขั้นทรูก็อตคนนั้น แต่พวกเขาล้มเหลว พระเจ้าแห่งความว่างเปล่าทำได้สำเร็จและได้รับสมบัติมา ดังนั้นถึงแม้กระจกนี้อาจจะไร้ประโยชน์สำหรับเขา แต่พระเจ้าแห่งความว่างเปล่าก็ยังคงพกมันไปไหนมาไหนด้วย ตอนนี้มันเป็นสิ่งที่เหมาะที่สุดที่จะใช้หลอกเป่าเอ๋อ
“กระจกนั่นทรงพลังขนาดนั้นเลย?” เป่าเอ๋อดูค่อยไม่เชื่อ
“แน่นอนอยู่แล้ว หนูดูนี่” พระเจ้าแห่งความว่างเปล่าพูด เขากดมือลงกับกระจกสตาร์เกจและควบคุมสัญลักษณ์บนด้านหลังของมัน
บนผิวของกระจกโบราณมีแสงกระพริบขึ้นมา และหลังจากผ่านไปสักพัก แสงนั่นก็ค่อยๆกลายเป็นภาพที่ไม่เสถียรเหมือนกับทีวีเก่า
ภาพในกระจกมีต้นไม้ดาราตั้งอยู่ และมันก็มีด้วงดาราฝูงใหญ่แห่กันมาที่ต้นไม้ราวกับคลื่นทะเล หานเซิ่นกำลังต่อสู้กับดวงดาราเหล่านั้น
เมื่อสังเกตดูดีๆ เป่าเอ๋อก็รู้สึกตัวว่ามันเป็นภาพตอนที่หานเซิ่นเข้ารับการทดสอบเพื่อรับผลไม้ดารา