ในตอนที่หานเซิ่นลงไปในสระแห่งความโชคดี เขารู้สึกราวกับว่าตัวเองกระโดดลงไปในน้ำพุร้อน ความร้อนไหลผ่านรูขุมขนของเขาและแพร่กระจายไปทั่วร่างกายของเขา
หานเซิ่นยิ้มกว้างกับความรู้สึกนั้น ความร้อนที่เข้ามาในร่างกายของเขาเป็นพลังชีวิตอย่างหนึ่ง สระแห่งความโชคดีควรจะส่งเสริมยีนของเขา แต่ลำพังแค่พลังชีวิตของมันก็เป็นประโยชน์กับเขาอย่างมากแล้ว
ภายใต้พลังชีวิตที่หลั่งไหลเข้ามานั้น หานเซิ่นรู้สึกว่าร่างกายของเขาเต็มเปี่ยมไปด้วยพลังงาน มันเหมือนกับว่าเขาสามารถเล่นไพ่นกกระจอกติดต่อกันสามวันโดยไม่รู้สึกเหนื่อย
แต่พลังชีวิตที่บริสุทธิ์นั้นยังคงไม่ก่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงภายในร่างกายของหานเซิ่น หานเซิ่นทำจิตใจให้ว่างเปล่าและเริ่มใช้ศาสตร์ตงเสวียนเพื่อดูดซับพลังชีวิตของสระแห่งความโชคดีเข้าไป
หลังจากที่หานเซิ่นเริ่มใช้ศาสตร์ตงเสวียน เขาก็รู้สึกว่ามันมีกระแสของพลังงานพุ่งพล่านเข้ามาในตัวของเขาอย่างไม่หยุด มันทำให้ทุกเซลล์ในร่างกายของเขาเริ่มเกิดความเปลี่ยนแปลง
เพียงแค่ไม่กี่วินาทีต่อมา หานเซิ่นก็รู้สึกได้ถึงความเปลี่ยนแปลงในศาสตร์ตงเสวียน ศาสตร์ตงเสวียนเริ่มแสดงสัญญาณของการรวมทั้งเก้าขั้นเป็นหนึ่งเดียว
“สุดยอด! มันสุดยอดเกินไปแล้ว! สระแห่งความโชคดีนี่สุดยอดอย่างไม่น่าเชื่อ”
หานเซิ่นทั้งตกใจและดีใจ พลังงานที่สระแห่งความโชคดีมอบให้กับเขานั้นมากกว่าที่เขาคาดคิดเอาไว้มาก
‘ถ้ารู้ว่ามีสระที่เต็มเปี่ยมไปด้วยทรัพยากรแบบนี้อยู่ เราก็คงจะหาทางมาที่นี่ให้เร็วกว่านี้ การกลายเป็นระดับเทพเจ้านั้นเป็นอะไรที่ง่ายยิ่งกว่าการถูตัวเอง ถ้าเรามาที่นี่เร็วกว่านี้ วิชาจีโนทั้งสี่ตัวของเราก็คงจะกลายเป็นระดับครึ่งเทพไปนานแล้ว มันจะช่วยลดปัญหาของเราลงไปมาก’
หานเซิ่นคิดขณะที่ยังคงใช้ศาสตร์ตงเสวียนเพื่อดูดพลังงานเข้าไปเรื่อยๆ
จังหวะต่อมา หานเซิ่นก็รู้สึกราวกับว่าร่างกายของเขาระเบิดด้วยพลัง มันเหมือนกับว่าฟันเฟืองจักรวาลนับไม่ถ้วนหมุนร่วมกับศาสตร์ตงเสวียน แรงของฟันเฟืองเหล่านั้นผลักดันฟันเฟืองของศาสตร์ตงเสวียนและช่วยให้เขากลายเป็นระดับครึ่งเทพได้สำเร็จ
หานเซิ่นประหลาดใจ แต่เขาไม่มีเวลาจะมาตรวจเช็คความแตกต่างจากการที่ศาสตร์ตงเสวียนเลื่อนไปสู่ระดับครึ่งเทพ เขาเริ่มใช้วิชากายหยกต่อในทันที เขาต้องการใช้พลังชีวิตอันมหาศาลรอบตัวเพื่อเป็นพลังเสริมให้กับกายหยกเช่นเดียวกัน
ทุกอย่างเป็นไปอย่างราบรื่น เนื่องจากสระแห่งความโชคดีมอบพลังงานที่มากมายให้กับหานเซิ่น ในตอนที่กายหยกดูดซับพวกมันเข้าไป หานเซิ่นก็สามารถรวมทั้งเก้าขั้นให้เป็นหนึ่งเดียวได้อย่างไร้การติดขัด
ร่างกายทั้งร่างของหานเซิ่นเปลี่ยนไปเป็นหยกน้ำแข็ง ทันใดนั้นเขาก็ดูเหมือนกับรูปปั้น ขณะที่กายหยกยังคงเกิดความเปลี่ยนแปลง ร่างกายของเขาก็ดูเหมือนกับคริสตัลมากขึ้นเรื่อยๆ มันเปล่งรัศมีราวกับเพชร
ชั้นหยกฉีกตัวเองออกจากร่างกายของหานเซิ่นทีละชั้นๆ และขณะที่มันลอกออกไป เนื้อหนังของหานเซิ่นก็ถูกสร้างขึ้นใหม่ มันเหมือนกับว่าเขากำจัดเนื้อหนังเก่าของตัวเองออกไปและใส่เนื้อหนังใหม่เข้าไปแทน
“มันเพิ่มระดับขึ้นแล้วหรอเนี่ย?” หานเซิ่นแทบไม่อยากจะเชื่อสิ่งที่เกิดขึ้น การเลื่อนระดับของศาสตร์ตงเสวียนและกายหยกนั้นง่ายดายที่สุดในโลก และมันยังคงมีพลังชีวิตหลั่งไหลเข้ามาในร่างกายของเขาเพิ่มอีกเรื่อยๆ มันเหมือนกับว่าเขาคาดหวังที่จะเจอกับหยาดฝน แต่ตอนนี้แม่น้ำทั้งหลายกำลังไหลลงมาใส่เขา มันมากมายเกินไป
“บางสิ่งผิดปกติ… บางสิ่งจะต้องผิดปกติแน่ๆ…” หานเซิ่นยังคงดูดซับพลังงานเหล่านั้นเข้าไป แต่เขาไม่สามารถเข้าใจสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นได้
จากการวิเคราะห์ของเวรี่ไฮ สระแห่งความโชคดีนั้นเกิดขึ้นจากยีนของพวกซีโน่เจเนอิคที่มารวมอยู่ด้วยกัน มันเป็นการผสมผสาน ด้วยเหตุนั้นส่วนประกอบของน้ำในสระแห่งความโชคดีจึงเป็นอะไรที่ค่อนข้างซับซ้อน
ในตอนที่สิ่งมีชีวิตปกติลงมาในสระแห่งความโชคดี พวกเขาจะดูดซับแค่พลังที่เข้ากันกับยีนของพวกเขาเข้าไปเท่านั้น พลังที่เข้ากันไม่ได้จำเป็นต้องถูกขับออกไป ไม่อย่างนั้นมันก็จะสร้างความเสียหายต่อร่างกายของพวกเขา
ยกตัวอย่างเช่น ถ้ามีสิ่งมีชีวิตที่ฝึกวิชาธาตุไฟมาที่สระแห่งความโชคดี มันก็จำเป็นต้องขับพลังธาตุน้ำที่มันดูดซับเข้าไปออกมาให้หมด ไม่อย่างนั้นธาตุที่ขัดแย้งก็จะสร้างความเสียหายกับสิ่งมีชีวิตธาตุไฟนั้น
เนื่องจากพลังส่วนใหญ่ในสระแห่งความโชคดีนั้นไม่เหมาะสมกับผู้คนส่วนใหญ่ ดังนั้นคนๆหนึ่งจะไม่สามารถใช้เวลาอยู่ในสระน้ำได้เป็นเวลานาน เมื่อพลังที่ขัดแย้งเข้าไปในร่างกายถึงระดับที่เป็นอันตราย พวกเขาก็จำเป็นต้องขึ้นจากสระแห่งความโชคดี และเมื่อพวกเขาออกไปจากสระแล้ว พวกเขาก็ต้องขับพลังที่เป็นภัยทั้งหมดออกไปอย่างระมัดระวัง
ถ้าคนในสระกระตุ้นให้เกิดภาพนิมิตขึ้นมา ภาพนิมิตก็จะช่วยขับพลังธาตุอื่นออกไปและดึงดูดพลังที่มีประโยชน์มาให้คนๆนั้น ด้วยเหตุนั้นในตอนที่เกิดภาพนิมิตขึ้น คนที่อยู่ในสระจึงสามารถดูดซับพลังของสระแห่งความโชคดีได้มากกว่าปกติ พลังที่เป็นอันตรายจะเข้าไปเพียงแค่นิดหน่อยเท่านั้น ซึ่งทำให้คนที่กระตุ้นให้เกิดภาพนิมิตนั้นได้รับผลประโยชน์จากสระแห่งความโชคดีมากกว่าคนอื่น
แต่ตอนนี้สถานการณ์ของหานเซิ่นเป็นอะไรที่แปลก เขาดูดซับพลังของสระแห่งความโชคดีมาสักพักหนึ่งแล้ว ภาพนิมิตยังคงไม่เกิดขึ้นมา แต่พลังที่เขาดูดซับเข้าไปก็ดูเหมือนจะเข้ากันได้กับร่างกายของเขาเป็นอย่างดี มันไม่มีพลังไหนที่เป็นภัยกับเขาเหมือนอย่างทฤษฎีบอก มันเหมือนกับว่าทั้งสระแห่งความโชคดีนั้นมีแค่พลังที่บริสุทธิ์อยู่เท่านั้น พลังทุกหยดที่ถูกดูดซับเข้าไปนั้นจะช่วยให้วิชาจีโนของเขาก้าวหน้าขึ้น
หานเซิ่นกลืนกินราวกับวาฬและดูดเหมือนกับยุง เขาดูดซับพลังงานเข้าไปมากขึ้นเรื่อยๆ เขาเอาพลังเข้าไปมากซะจนเขาเกือบจะหวาดกลัว
‘เราดูดซับพลังเข้าไปเป็นจำนวนมาก ทำไมมันถึงไม่มีอะไรมาหยุดความก้าวหน้าของเรา มันเหมือนกับว่าเราจะดูดซับพลังเข้าไปมากเท่าไรก็ได้ นี่มันแปลกจริงๆ’ หานเซิ่นคิดอย่างกระวนกระวายใจเล็กน้อย
มันเหมือนกับว่าเขาไปกินสเต็กบุฟเฟ่ต์ที่คนส่วนใหญ่กินสเต็กได้แค่สามจานเท่านั้นก่อนที่จะรู้สึกอิ่ม ขณะที่หานเซิ่นกินไปแล้วมากกว่าสิบจาน และเขาก็ยังคงกินต่อไปอย่างไม่หยุด ท้องของเขาดูเหมือนกับว่ามีที่ว่างอย่างไม่จำกัด
‘นี่มันเป็นเพราะร่างกายของเราไม่มีธาตุพิเศษ ทำให้เราดูดซับพลังธาตุไหนเข้าไปก็ได้อย่างนั้นหรอ? นั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้การสถานการณ์แบบนี้ขึ้นอย่างนั้นใช่ไหม?’ หานเซิ่นคิดกับตัวเอง
ถึงแม้คำอธิบายนี้จะดูไม่น่าเชื่อ แต่การที่มีของดีแบบนี้กำลังเข้ามาในปากของเขานั้นไม่ใช่บางสิ่งที่เขาจะปฏิเสธได้
‘พลังงานนี่มันมากมายจริงๆ ถ้าเราดูดซับมันเข้าไปเรื่อยๆ เราจะกลายเป็นระดับเทพเจ้าเลยไหมนะ?’
หานเซิ่นทั้งหวาดหวั่นและยินดีกับความคิดนั่น ‘ถ้าเป็นแบบนั้นจริง นั่นจะเป็นอะไรที่ยอดเยี่ยมมากๆ’
หานเซิ่นใช้เรื่องราวของยีนอย่างเต็มกำลัง ตลอดหลายปีที่เขาฝึกมันมา วิชาจีโนนี้มักจะเรียกร้องทรัพยากรมากกว่าที่เขาจะมีให้กับมัน เขาไม่รู้ว่าจะหาโอกาสแบบนี้ได้อีกครั้งเมื่อไหร่ถ้าเขาไม่ใช้ประโยชน์จากมันในตอนนี้
ขณะที่หานเซิ่นกำลังดูดซับพลังจากสระแห่งความโชคดีอย่างบ้าคลั่ง เชลและหลี่ชุนชิวก็กำลังรอดูความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นจากด้านนอกสระแห่งความโชคดี
พลังชีวิตของสระแห่งความโชคดียังคงมหาศาลเหมือนอย่างเคย น้ำของสระกำลังหมุนวนเหมือนกับวังวน แต่นอกจากเรื่องนั้นแล้ว มันก็ไม่มีอะไรที่แปลกประหลาด พวกเขายังคงไม่เห็นหานเซิ่นขึ้นมาสู่ผิวน้ำ
“มันผ่านไปครึ่งชั่วโมงแล้ว ทำไมหานเซิ่นยังไม่ขึ้นมาอีก?” เชลถามด้วยความสับสน
สำหรับระดับราชันที่ไม่ได้กระตุ้นให้เกิดภาพนิมิต ครึ่งชั่วโมงควรจะเป็นเวลานานที่สุดแล้วที่พวกเขาจะทนได้ แม้แต่ครึ่งเทพที่แข็งแกร่งก็จะได้รับความเสียหายถ้าพวกเขาอยู่ในสระนานกว่านั้น
แต่หานเซิ่นที่ไม่ได้กระตุ้นให้เกิดภาพนิมิตยังคงไม่โผล่ขึ้นมาจากสระแห่งความโชคดี มันไม่ใช่แค่เชลคนเดียวเท่านั้นที่รู้สึกสงสัยเกี่ยวกับเรื่องนี้ หลี่ชุนชิวเองก็รู้สึกเหมือนกัน