“หานเซิ่นนั้นไม่เลวเลยจริงๆ มันน่าประทับใจที่คริสตัลไลเซอร์คนหนึ่งอยู่ในนั้นได้ถึงครึ่งชั่วโมง เขาคือตัวอย่างที่หาได้ยากมากๆ” หลี่ชุนชิวพูดขณะที่จ้องไปในน้ำ
แต่หลังจากผ่านไปอีกครั้งชั่วโมง หานเซิ่นก็ยังคงไม่โผล่ออกมาจากสระแห่งความโชคดี ตอนนี้แม้แต่ใบหน้าของหลี่ชุนชิวก็ดูตกตะลึง
“มันผ่านไปหนึ่งชั่วโมงแล้ว แต่เขายังคงไม่กลับออกมา… มันควรจะมีแค่สิ่งมีชีวิตระดับเทพเจ้าขั้นพริมิทีฟที่ทำได้หนิ?” เชลพูดด้วยความแปลกใจ
หลี่ชุนชิวพยักหน้าและพูด “ตามทฤษฎีของพวกเรา นอกซะจากพวกเขาจะกระตุ้นให้เกิดภาพนิมิต อย่างนานที่สุดครึ่งเทพก็ควรจะอยู่ได้แค่ครึ่งชั่วโมงเท่านั้น ระดับเทพเจ้าขั้นพริมิทีฟจะอยู่ได้หนึ่งชั่วโมง…”
เสียงของหลี่ชุนชิวขาดหายไป เขากำลังสงสัยว่าทำไมหานเซิ่นถึงได้ใช้เวลานานนัก และทำไมหานเซิ่นถึงยังคงไม่ขึ้นมา
แม้แต่ตัวหานเซิ่นเองก็กำลังสับสนไม่ต่างไปจากพวกเขา ในตอนนี้หานเซิ่นดูดซับพลังเข้าไปยิ่งกว่าที่ร่างกายของเขาใช้ไปก่อนหน้านี้ และเขาก็ไม่ได้หยุดเพียงแค่นั้น เขารู้สึกว่ายังสามารถดูดซับเข้าไปได้อีก มันเหมือนกับว่าระบบประสาทของเขาบกพร่อง เขาเลยไม่รู้สึกอิ่ม
“ยีนระดับเทพเจ้า +1 ยีนระดับเทพเจ้าทั้งหมด: 30/100”
ทันใดนั้นก็เสียงดังขึ้นในหัวของหานเซิ่น มันทำให้เขารู้สึกตกใจ เมื่อเขาได้ยินสิ่งที่มันพูด เขาก็รู้สึกดีใจ
“ว้าว! น้ำในสระแห่งความโชคดีเพิ่มยีนระดับเทพเจ้าของเราได้ นี่มันเป็นเหมือนที่เวรี่ไฮสันนิษฐานไว้จริงๆหรอเนี่ย? น้ำในสระแห่งความโชคดีนี้เกิดขึ้นเพราะยีนของซีโน่เจเอนอิคละลายไปกับน้ำ…”
หานเซิ่นประหลาดใจ มันเป็นเวลานานมากแล้วที่เขาไม่ได้รับยีนระดับเทพเจ้า เขาไม่อยากเชื่อเลยว่าจะได้รับพวกมันที่นี่
หานเซิ่นเคยพยายามจะดูดซับยีนซีโน่เจเนอิคระดับเทพเจ้า แต่เขาไม่สามารถย่อยพวกมันได้ แต่ทว่ายีนในน้ำพวกนี้สามารถดูดซับเข้าไปได้อย่างไม่มีปัญหาอะไร
ในตอนนี้หานเซิ่นไม่สนใจว่าจะต้องอยู่ใต้น้ำนานสักแค่ไหน นี่เป็นโอกาสดีของเขา ดังนั้นเขาจะไม่หยุดจนกระทั่งมันไม่มีที่ว่างให้เขาดูดซับเข้าไปได้อีก
“ยีนระดับเทพเจ้า +1 ยีนระดับเทพเจ้าทั้งหมด: 40/100…”
ไม่นานหลังจากนั้นหานเซิ่นก็ได้ยินเสียงประกาศอีกครั้ง
หลังจากที่ได้ยินเสียงประกาศอีกครั้ง หานเซิ่นก็พยายามจะดูดซับพลังของสระแห่งความโชคดีมากยิ่งกว่าเดิม ร่างกายของเขาจมลึกลงไปในสระมากขึ้นเรื่อยๆ และยิ่งเขาลงไปลึกเท่าไร พลังชีวิตของสระแห่งความโชคดีก็เข้มข้นขึ้นตามไปด้วย
หานเซิ่นลอยตัวอยู่ในสระแห่งความโชคดีและยังคงดูดซับพลังเข้าไปเท่าที่จะทำได้ เชลและหลี่ชุนชิวยังคงยืนอยู่ด้านนอก สีหน้าของพวกเขาดูไม่สู้ดีนัก พวกเขารอมากว่าสองชั่วโมงแล้ว แต่พวกเขาก็ยังไม่เห็นวี่แววว่าหานเซิ่นจะกลับขึ้นมา
นั่นถือเป็นปัญหาใหญ่ เชลเป็นระดับเทพเจ้า ในตอนที่เขาลงไปในสระแห่งความโชคดี เขากระตุ้นให้เกิดภาพนิมิตขึ้นมา แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็อยู่ได้แค่สองชั่วโมงเท่านั้น
ตอนนี้หานเซิ่นอยู่ในน้ำเกือบจะนานเท่ากับเชล และมันก็ยังคงไม่มีวี่แววว่าเขาจะกลับออกมา นี่เป็นอะไรที่แปลกมากๆ
“ร่างกายของหานเซิ่นควรจะเป็นระดับครึ่งเทพ มันมีขีดจำกัดพลังที่เขาจะดูดซับเข้าไปได้ ถึงแม้พลังทั้งหมดจะมีประโยชน์ต่อเขา พวกมันก็ควรจะเติมร่างกายของเขาจนเต็มแล้วในตอนนี้ อย่างนั้นทำไมเขาถึงยังอยู่ข้างในนั่นอีก?” เชลถามด้วยเสียงกระซิบ
หลี่ชุนชิวมองลงไปในน้ำโดยที่ไม่พูดอะไร เขาพยายามจะคาดเดาถึงสิ่งที่เกิดขึ้นกับหานเซิ่น เขาคำนึงถึงความเป็นไปได้ต่างๆ แต่เขาไม่คิดว่าพวกมันทั้งหมดจะเป็นอะไรที่สมเหตุสมผล เขาคิดว่านอกซะจากหานเซิ่นจะกลายเป็นระดับเทพเจ้า ปานนี้พลังของสระแห่งความโชคดีก็ควรจะอัดแน่นจนร่างกายของเขาระเบิดไปแล้ว
แต่ถ้าหานเซิ่นกลายเป็นระดับเทพเจ้าภายในสระแห่งความโชคดี พวกเขาก็ควรจะสังเกตเห็นอะไรบ้าง และสระแห่งความโชคดีก็ไม่ควรจะนิ่งเงียบเหมือนอย่างที่เป็นอยู่ในตอนนี้
และมันก็เป็นไปไม่ได้ที่หานเซิ่นจะตายอยู่ข้างในเช่นกัน มันเคยมีคนที่ตายอยู่ในสระแห่งความโชคดีเนื่องจากดูดซับพลังเข้าไปมากเกินไป แต่ในตอนที่พวกเขาตาย พลังที่ถูกดูดซับเข้าไปก็จะระเบิดอย่างรุนแรง เชลและหลี่ชุนชิวจะสัมผัสถึงมันได้ ถ้ามีอะไรแบบนั้นเกิดขึ้น
“นี่เขากำลังทำอะไรอยู่ข้างในนั้น?” หลี่ชุนชิวไม่สามารถเก็บความสงสัยเอาไว้ได้อีกต่อไป ถึงแม้เขาจะเป็นผู้รับผิดชอบสระแห่งความโชคดี แต่เขาก็ไม่สามารถลงไปในสระเพื่อตรวจดูว่าเกิดอะไรขึ้นได้
สระแห่งความโชคดีมีพลังอยู่มหาศาล แค่ส่วนประกอบของมันก็เป็นอะไรที่ซับซ้อนเกินไป เมื่อคนๆหนึ่งถึงขีดจำกัดที่พวกเขาจะทนได้และออกมาจากสระ พวกเขาก็จะเริ่มขับพลังที่เป็นภัยออกมา แต่ถึงอย่างนั้นคอร์ยีนของพวกเขาก็จะได้รับผลกระทบจากมันไปตลอดการ พวกเขาจะต้องใช้ชีวิตร่วมกับผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นตั้งแต่นั้นไป
ผลข้างเคียงจะไม่ส่งผลอะไรกับร่างกายของคนๆนั้น แต่ถ้าคนๆนั้นต้องการจะเข้าไปในสระแห่งความโชคดีอีกครั้ง ความเร็วที่พลังจะไหลเข้าไปในร่างกายของพวกเขาก็จะเพิ่มขึ้นอย่างมาก ด้วยเหตุนั้นการลงไปในน้ำอีกครั้งจึงเป็นอะไรที่อันตรายอย่างมาก
ดังนั้นคนปกติจะได้รับผลประโยชน์จากการลงไปในสระแห่งความโชคดีแค่ครั้งแรกเท่านั้น การลงไปในสระแห่งความโชคดีอีกครั้งจะทำให้ผลข้างเคียงนั้นเลวร้ายยิ่งกว่าเดิม และยิ่งหลายๆครั้งเข้า คนๆนั้นก็จะไม่สามารถสัมผัสกับน้ำของสระแห่งความโชคดีได้อีกต่อไป
นั่นคือสถานการณ์ของหลี่ชุนชิวในตอนนี้ เขาอยากจะลงไปในสระเพื่อดูว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ แต่เขาไม่สามารถทำแบบนั้นได้
เชลเพิ่งจะลงไปในสระแห่งความโชคดี ดังนั้นเขาไม่สามารถลงไปอีกครั้งได้เช่นเดียวกัน พวกเขาทั้งคู่ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากมองดูจากขอบสระ พวกเขาหวังว่าหานเซิ่นจะกลับออกมาโดยเร็ว เพื่อที่พวกเขาได้จะรู้ว่าหานเซิ่นทำอะไรอยู่ในนั้นกันแน่
“ยีนระดับเทพเจ้า +1 ยีนระดับเทพเจ้าทั้งหมด: 56/100”
หานเซิ่นยังคงดูดพลังของสระแห่งความโชคดีเข้าไปอย่างบ้าคลั่ง ยีนระดับเทพเจ้าของเขาเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
“นี่ฉันกำลังจะกลายเป็นระดับเทพเจ้า?” หานเซิ่นตื่นเต้นขึ้นมา ถ้าเขากลายเป็นระดับเทพเจ้า อย่างนั้นในสายตาของจักรวาลนี้ เขาก็จะเป็นบุคคลที่มีอำนาจพอจะเริ่มต้นเผ่าพันธุ์ของตัวเอง นั่นหมายความว่าเขาจะเป็นตัวแทนเผ่ามนุษย์และไปต่อสู้เพื่อแย่งชิงตะเกียงในจีโนฮอลล์ มนุษย์จะสามารถกลายเป็นเผ่าพันธุ์ชั้นสูง
การต่อสู้กับเผ่าเอ็กซ์ตรีมคิงหรือเผ่าพันธุ์ที่ใหญ่โตอย่างเผ่านภาคงจะเป็นไปไม่ได้ เขาต้องหาเผ่าพันธุ์ชั้นสูงที่มีระดับเทพเจ้าอยู่ในเผ่าแค่ไม่กี่คน หรือไม่ก็เผ่าที่ไม่มีระดับเทพเจ้าเลย แบบนั้นหานเซิ่นถึงจะมั่นใจว่าสามารถเอาชนะเผ่าพันธุ์เหล่านั้นได้
แน่นอนว่าทุกเผ่าพันธุ์ชั้นสูงมีสายสัมพันธ์ของตัวเองอยู่ หานเซิ่นไม่สามารถเริ่มทำสงครามกับเผ่าพันธุ์ไหนก็ได้ ยกตัวอย่างเช่นเผ่ารีเบท ถ้าใครพยายามจะทำสงครามแย่งชิงตะเกียงกับพวกเขา คนๆนั้นก็จำเป็นต้องคิดเกี่ยวกับการตอบสนองของปราสาทนภาซะก่อน
แต่หานเซิ่นไม่จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับเรื่องนั้นมากจนเกินไป เขาแค่จำเป็นต้องหาเผ่าพันธุ์ชั้นสูงสักเผ่าที่เป็นพันธมิตรกับเอ็กซ์ตรีมคิง หลังจากนั้นก็แย่งตะเกียงในจีโนฮอลล์ของพวกเขามา หานเซิ่นกับเผ่าเอ็กซ์ตรีมคิงนั้นบาดหมางกันอยู่แล้ว ดังนั้นการต่อสู้กันเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้
“ยีนระดับเทพเจ้า +1 ยีนระดับเทพเจ้าทั้งหมด: 98/100”
ขณะที่เวลาผ่านไป ยีนระดับเทพเจ้าของหานเซิ่นก็เพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ หานเซิ่นสัมผัสได้ถึงพลังที่สะสมภายในตัวของเขา มันมีความเปลี่ยนแปลงที่กำลังเกิดขึ้นในร่างกายของเขา
ความเปลี่ยนแปลงนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับวิชาจีโนของเขา มันเป็นร่างกายของหานเซิ่นเองที่กำลังเปลี่ยนแปลง มันเป็นกระบวนการที่หานเซิ่นไม่สามารถบรรยายได้ เนื้อหนัง กระดูก อวัยวะภายในและเซลล์ทุกเซลล์ในร่างกายของเขากำลังเกิดความเปลี่ยนแปลง
“ยีนระดับเทพเจ้า +1 ยีนระดับเทพเจ้าทั้งหมด: 100/100… ร่างเทพเริ่มการวิวัฒนาการ…”
เมื่อยีนระดับเทพเจ้าครบหนึ่งร้อย หานเซิ่นก็รู้สึกราวกับว่าร่างกายของเขาเป็นดอกไม้ที่กลีบแต่ละกลีบกำลังร่วงหล่นลงมาตามๆกัน เขารู้สึกเหมือนกับงูที่กำลังลอกคราบ และถึงแม้มันจะเป็นอะไรที่แปลกประหลาด มันก็รู้สึกดีอย่างน่าอัศจรรย์