Super God Gene – ตอนที่ 2735

มนตราปรากฏตัวตรงหน้าหานเซิ่นในร่างหญิงสาว หลังจากนั้นเธอก็เข้ามาในร่างกายของหานเซิ่นและรวมเป็นหนึ่งกับเขา ไม่นานร่างกายของหานเซิ่นก็เกิดการเปลี่ยนแปลงที่น่าอัศจรรย์ขึ้น

 

หลังจากที่เขารวมร่างกับมนตราสำเร็จแล้ว โครงสร้างในร่างกายของหานเซิ่นก็เปลี่ยนไปอย่างมาก เขาต้องการใช้ร่างกายที่เปลี่ยนแปลงไปเพื่อเปลี่ยนเส้นทางของวิชาจีโนทั้งสี่ เขาหวังว่าการทำแบบนั้นจะช่วยให้วิชาจีโนทำงานร่วมกันได้อย่างไม่เกิดความขัดแย้ง

 

แต่หลังจากที่มนตรารวมเข้ากับร่างกายของเขา หานเซิ่นก็สังเกตได้ถึงความเปลี่ยนแปลง วิชาจีโนทั้งสี่ของเขาออกนอกเส้นทางที่ถูกกำหนดเอาไว้และพลังของมันเริ่มกระจัดกระจายไปทั่ว ในความยุ่งเหยิงนี้พลังของวิชาจีโนทั้งสี่รั่วไหลออกไปอย่างอิสระ พวกมันเริ่มจะหาเส้นทางใหม่เพื่อหมุนเวียนพลังของตัวเอง และการค้นหาเส้นทางอย่างกะทันหันของพวกมันก็สร้างสมดุลชั่วคราวขึ้นมา แต่หานเซิ่นแทบจะตามสิ่งที่เกิดขึ้นในร่างกายไม่ทัน พลังของวิชาจีโนทั้งสี่นั้นไหลเวียนไปทุกหนทุกแห่ง

 

ในสถานการณ์ที่โกลาหล หานเซิ่นไม่มีทางเลือกอื่น เขาจำเป็นต้องใช้วิชาจีโนทั้งสี่ต่อไป มันเป็นโอกาสเดียวที่เขาจะวิวัฒนาการได้สำเร็จ

 

หานเซิ่นต้องประหลาดใจเมื่อค้นพบว่าหลังจากที่เขารวมร่างกับมนตรา ความเข้ากันได้ของพลังก็ดูเหมือนจะเพิ่มขึ้น พลังของวิชาจีโนทั้งสี่ทำงานร่วมกันโดยที่ไม่เกิดความขัดแย้ง

 

โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องราวของยีน หลังจากที่หานเซิ่นรวมร่างกับมนตรา พลังของเรื่องราวของยีนก็ดูสงบลงมาก มันเหมือนกับทะเลสาบที่เงียบสงบ และที่ไหนก็ตามที่พลังไหลผ่าน ความโกลาหลก็จะจางหายไปอย่างช้าๆ บริเวณไหนในร่างกายของเขาที่ไม่มีพลังอยู่ก็ค่อยๆถูกเติมเต็ม

 

พลังของศาสตร์ตงเสวียนนั้นตอบสนองอย่างเป็นเอกลักษณ์ยิ่งกว่า มันแยกตัวออกไปจากร่างกายของหานเซิ่นและกังขังพลังงานส่วนใหญ่เอาไว้ในชุดเกราะตงเสวียน ระหว่างชุดเกราะตงเสวียนและหานเซิ่น มันมีวงจรพิเศษที่กำลังไหลเวียน

 

เลือดและกระดูกกลายเป็นกำลังหลักของหานเซิ่น ขณะที่โซ่สสารถูกสร้างขึ้นมา พวกมันก็ผลักดันร่างกายของหานเซิ่นไปสู่ระดับเทพเจ้า

 

ในที่สุดวิชาจีโนทั้งสี่ก็สามารถสร้างโซ่สสารขึ้นอีกครั้ง ขณะที่ร่างกายของหานเซิ่นเองก็กำลังพยายามจะวิวัฒนาการ

 

หานเซิ่นรู้ว่าตัวเองมาถึงจุดที่สำคัญที่สุด ถ้าเขาล้มเหลวอีกครั้ง เขาก็ไม่รู้ว่าจะทนต่อความเจ็บปวดได้อีกครั้งหรือเปล่า วิชาจีโนทั้งสี่สร้างโซ่สสารของมันขึ้นมา พลังที่พลังที่แตกต่างกันละลายและเข้าไปในร่างกายของหานเซิ่น

 

หานเซิ่นไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ เขาเอนไปด้านหลังและคำรามขึ้นไปสู่ท้องฟ้า เซลล์ในร่างกายของเขาเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว

 

ในจังหวะนั้นวิชาจีโนทั้งสี่ที่แตกต่างกันก็สร้างความสอดคล้องที่อัศจรรย์ขึ้นมา ขณะที่โครงสร้างของพวกมันกลายเป็นหนึ่ง พลังของพวกมันก็ลุกโชนขึ้นราวกับไฟที่ถูกจุดขึ้นจากไม้ขีด

 

พลังของพวกมันไม่ได้รวมเป็นหนึ่งเดียวกันจริงๆ แต่ตอนนี้พวกมันเป็นเหมือนกับเครื่องจักรที่ประกอบด้วยสี่ส่วน ถึงแม้พวกมันจะยังคงเป็นพลังที่แตกต่างกัน แต่พวกมันก็ทำงานร่วมกันได้เหมือนเป็นพลังเดียวกัน

 

หานเซิ่นรู้สึกราวกับว่าเขากำลังจะเลื่อนระดับขึ้น ความรู้สึกนั่นเป็นอะไรที่ยากจะบรรยาย โซ่สสารสีดำที่ลอยขึ้นจากร่างกายของหานเซิ่นและทำให้เขาดูเหมือนกับเทพปีศาจซีโน่เจเนอิคที่น่ากลัว แม้แต่ตัวตนของเขาก็ดูเหมือนกับซีโน่เจเนอิคตัวหนึ่ง

 

“ร่างเทพวิวัฒนาการเสร็จสิ้น ร่างยีนต่อสู้เลื่อนสู่ระดับเทพเจ้า…”

 

ในตอนที่หานเซิ่นได้ยินเสียงประกาศ เขาก็เช็คข้อมูลของตัวเอง

 

หานเซิ่น: ร่างกายเทพเจ้าสปิริตขั้นสุดยอด
ยีนต่อสู้ : ซีโน่เจเนอิค (ขั้นพริมิทีฟ)
ระดับ: เทพเจ้า
เปอร์เซ็นต์: 0%
อายุขัย: 2658

 

“วิชาจีโนทั้งสี่ของเรารวมเป็นหนึ่งอย่างนั้นหรอ?”
หานเซิ่นเห็นว่าร่างยีนต่อสู้ของเขาถูกระบุแค่“ซีโน่เจเนอิค” สี่ร่างยีนต่อสู้ที่เคยถูกระบุไว้ก่อนหน้านี้ได้หายไปแล้ว

 

หานเซิ่นรู้สึกตกใจ เขาลองเรียกมนตราออกมา และในตอนที่เขาทำแบบนั้นเขาก็รู้สึกราวกับว่าสมดุลบางอย่างภายในร่างกายพังทลาย พลังของเขาแตกแยกออกจากกัน และทำให้พลังโดยรวมของเขาอ่อนแอลง

 

ถึงแม้พลังของเขาจะอ่อนแอลงไป แต่เขาก็ไม่ได้ถูกลดระดับลงจากระดับเทพเจ้า เขายังคงมีพลังของโซ่สสารอยู่

 

หานเซิ่นมองดูข้อมูลของตัวเองอีกครั้ง และเขาก็สังเกตเห็นว่าร่างยีนต่อสู้ของเขาถูกแยกออกเป็นสี่อย่างเหมือนที่เขาคุ้นเคย

 

เลือดกลายพันธุ์(ขั้นพริมิทีฟ) กายหยก(ขั้นพริมิทีฟ) ศาสตร์ตงเสวียน(ขั้นพริมิทีฟ) มนตรา(ขั้นพริมิทีฟ)
ร่างยีนต่อสู้ทั้งสี่ของเขาเป็นเหมือนเดิม พวกมันทั้งหมดเลื่อนสู่ระดับเทพเจ้าขั้นพริมิทีฟ และร่างยีนต่อสู้ซีโน่เจเนอิคนั้นได้หายไปแล้ว

 

“แปลกจริงๆ” หานเซิ่นส่ายหัวกับความแปลกประหลาดของสถานการณ์ แต่ก่อนที่เขาจะระบุได้ว่าเกิดอะไรขึ้น รูปปั้นหยกก็เริ่มจะสั่นไหว

 

นั่นบอกให้เขารู้ว่าหลี่เคอเอ๋อและเอ็กซ์ควิสิทกำลังเดินทางมา หานเซิ่นจึงรีบว่ายขึ้นจากสระแห่งความโชคดี

 

ในตอนที่หานเซิ่นขึ้นมาจากน้ำ เขาก็เห็นหลี่เคอเอ๋อและเอ็กซ์ควิสิทยืนอยู่ใกล้กับประตูของห้องโถง เชลและหลี่ชุนชิวก็อยู่ที่นี่ด้วย ทั้งสี่คนจ้องมองมาที่เขา

 

“เจ้ากลายเป็นระดับเทพเจ้าจริงๆ?” เอ็กซ์ควิสิทและหลี่เคอเอ๋อมองหานเซิ่นด้วยความตกใจ

 

ในตอนที่พวกเธอได้ยินข่าวจากหลี่ชุนชิว พวกเธอก็รีบมาที่นี่ ทันทีที่พวกเธอมาถึง พวกเธอก็เห็นหานเซิ่นออกมาจากสระแห่งความโชคดี พวกเธอสัมผัสได้ถึงโซ่สสารถที่แผ่รัศมีออกมาจากร่างกายของหานเซิ่น เขากลายเป็นระดับเทพเจ้าเรียบร้อยแล้ว

 

หลี่ชุนชิวมองไปที่หานเซิ่นอย่างแปลกๆ เขารอคอยให้หานเซิ่นออกมาเป็นเวลานาน และนั่นเป็นเหตุผลที่เขาไปเรียกเอ็กซ์ควิสิทกับหลี่เคอเอ๋อมาที่นี่ เขาต้องการให้พวกเธอสัมผัสจิตใจของหานเซิ่นและหาว่ามันเกิดอะไรขึ้นภายในสระแห่งความโชคดี

 

แต่ใครจะไปรู้ว่าทันทีที่หลี่เคอเอ๋อและเอ็กซ์ควิสิทมาถึง หานเซิ่นก็ออกมาจากสระ และเขาก็ออกมาพร้อมกับพลังระดับเทพเจ้าอีกด้วย นี่เป็นอะไรที่แปลกเกินไป หลี่ชุนชิวไม่สามารถคาดเดาได้ว่าหานเซิ่นทำแบบนั้นได้ยังไง

 

ครึ่งเทพคนหนึ่งอยู่ในสระแห่งความโชคดีนานถึงเจ็ดชั่วโมง เขากระตุ้นให้เกิดภาพนิมิตนับไม่ถ้วน นอกจากนั้นเขายังกลายเป็นระดับเทพเจ้าได้สำเร็จ นั่นไม่ได้อยู่ในความคาดหมายของหลี่ชุนชิว

 

“หานเซิ่น เจ้ากลายเป็นระดับเทพเจ้าแล้วสินะ?” เชลถามหานเซิ่น

 

หานเซิ่นพูดกับหลี่ชุนชิว “ขอบคุณมากที่มอบโอกาสให้กับข้า ถ้าไม่ได้เข้าไปในสระแห่งความโชคดี ข้าก็ไม่รู้ว่าอีกนานแค่ไหนที่จะเลื่อยไปสู่ระดับเทพเจ้า”

 

“ดีมาก ตอนนี้เจ้าและข้าก็ต่อสู้กันได้อย่างยุติธรรม” ดวงตาของเชลลุกเป็นไฟขึ้นมา

 

“ที่นี่คงไม่เหมาะจะต่อสู้” หานเซิ่นเองก็อยากจะลองทดสอบพลังระดับเทพเจ้าเช่นกัน แต่ที่นี่คือสระแห่งความโชคดี มันไม่เหมาะสมที่จะต่อสู้กันที่นี่

 

“ไปที่หุบเขา” หลี่ชุนชิวพูด หลังจากนั้นเขาก็เทเลพอร์ตไป

 

เอ็กซ์ควิสิทและหลี่เคอเอ๋อเข้ามาล้อมหานเซิ่นเอาไว้ พวกเธอมองเขาด้วยความโกรธและพูด
“ทำไมเจ้าถึงได้วิวัฒนาการเป็นระดับเทพเจ้าโดยที่ไม่บอกพวกเรา?”

 

“ข้าไม่ได้คาดคิดว่าจะกลายเป็นระดับเทพเจ้าภายในสระแห่งความโชคดี เรื่องทั้งหมดเป็นแค่อุบัติเหตุเท่านั้น”
หานเซิ่นพูดอย่างบริสุทธิ์ใจ เขาแค่หวังจะเพิ่มระดับวิชาโลหิตชีพจรและกายหยกไปสู่ระดับครึ่งเทพ เขาไม่ได้คาดคิดว่าตัวเองจะกลายเป็นระดับเทพเจ้าภายในสระแห่งความโชคดีแบบนั้น

 

การกลายเป็นระดับเทพเจ้าเป็นสิ่งที่หานเซิ่นเองก็ประหลาดใจเช่นกัน

 

“ไปกันเถอะ! ให้พวกเราดูหน่อยว่าเจ้าแข็งแกร่งขึ้นแค่ไหนเมื่อเจ้ากลายเป็นระดับเทพเจ้า”
เอ็กซ์ควิสิทวางมือบนไหล่ของหานเซิ่นและเทเลพอร์ตตามหลี่ชุนชิวไปที่หุบเขา

Super God Gene

Super God Gene

ในยุคสมัยที่วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของมนุษย์ถูกพัฒนาจนถึงระดับสูง ในที่สุดมนุษยชาติก็ได้ค้นพบวิธีการเทเลพอร์ต แต่เมื่อพวกเขาทดลองเทเลพอร์ต กลับพบว่าพวกเขาไม่ได้ถูกส่งไปในอนาคต อดีตหรือสถานที่อื่นๆที่มนุษย์รู้จัก แต่มันคือโลกที่แตกต่างโดยสิ้นเชิง สถานที่ลึกลับนี่ถูกเรียกว่า ‘ก็อด เเซงชัวรี่’ ที่นี่มีสิ่งมีชีวิตประหลาดอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก แต่เมื่อมนุษย์ลองกินสิ่งมีชีวิตประหลาดเข้าไป ร่างกายของพวกเขาพัฒนาขึ้นและยังเพิ่มอายุขัยขึ้นด้วย มันคือก้าวที่ยิ่งใหญ่ของมนุษย์ชาติในการวิวัฒนาการเพื่อสร้างยุคสมัยที่ยิ่งใหญ่ “ด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ถูกฆ่า คุณได้รับวิญญาณอสูรด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ เมื่อกินเนื้อของด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ คุณมีโอกาสได้รับ 0 ถึง 10 Geno Point โดยการสุ่ม” The future unfolded on a magnificent scale into the Interstellar Age. Humanity finally solved the space warp technology, but when humanity transported themselves into the other end, they discovered that place neither had a past nor future, nor was there any land under the starry skies…… The mysterious sanctuary was actually a world filled with countless tyrannical unusual organisms. Humanity faced their great leap in evolution, starting the most glorious and resplendant new era under the starry skies. “Slaughtered the God Blood organism ‘Black Beetle’. Received the God Blood Black Beetle’s Beast Soul. Used the God Blood Black Beetle’s flesh. Randomly obtaining 0 to 10 points of God Gene(s).”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset