“ถ้าไม่มีใครเข้าใจความหมายเบื้องหลังการวาดนั่น แล้วมันมีประโยชน์อะไรที่จะไปที่นั่น?” หานเซิ่นถามอย่างไม่เข้าใจ
เอ็กซ์ควิสิทยิ้มและพูด “ถึงแม้การวาดนั้นจะเป็นสิ่งที่ไม่มีใครเข้าใจ แต่ภาพวาดก็มีจิตวิญญาณและพลังของบรรพบุรุษอยู่ แค่ใช้เวลาศึกษามันและเจ้าก็จะได้ประโยชน์”
ตอนนี้ในที่สุดหานเซิ่นก็เข้าใจ เอ็กซ์ควิสิทและหลี่เคอเอ๋อต้องการให้เขาได้ประสบกับศิลปะของระดับเทพเจ้าขั้นทรูก็อต เพราะสุดท้ายมันจะมีประโยชน์ต่อพวกเธอ ประสบการณ์จะเป็นประโยชน์ต่อพวกเขาทุกคน ดังนั้นมันไม่ใช่ความคิดที่เลวร้ายอะไร
แต่ภาพบนกำแพงโบราณเป็นสิ่งที่ถูกทิ้งไว้โดยบรรพบุรุษของเวรี่ไฮ โดยปกติแล้วคนนอกจะไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าไปใกล้ แต่หานเซิ่นและตัวไหมคนอื่นจะสามารถไปที่นั่นได้เป็นเวลาหนึ่งเดือนหลังจากที่เลื่อนขึ้นสู่ระดับเทพเจ้า กฎนั้นยังห้ามเป่าเอ๋อจากการไปที่นั่น ถึงแม้เธอจะเป็นสมาชิกในครอบครัวของหานเซิ่นก็ตาม
เอ็กซ์ควิสิทและหลี่เคอเอ๋อต้องไปที่กำแพงโบราณพร้อมกับหานเซิ่น ดังนั้นพวกเธอไม่สามารถอยู่ดูแลเป่าเอ๋อได้
แต่หานเซิ่นถามเป่าเอ๋อแล้ว และเธอก็ยินดีจะอยู่ที่ต้นไม้ดารา ดังนั้นหานเซิ่นจึงให้เธอรอเขาอยู่ที่นั่น ด้วยการที่มีซีโน่เจเนอิคอยู่มากมาย เป่าเอ๋อก็คงจะไม่เบื่อจนเกินไป
หลังจากที่ทั้งสามคนจากไป แม็กแคกหกหูก็เริ่มจะรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมา
แม็กแคกหกหูแตกต่างไปจากซีโน่เจเนอิคตัวอื่น สติปัญญาของมันสูงพอจะแกล้งทำเป็นเชื่อฟังหานเซิ่นในฐานะเจ้านาย แต่ความจริงแล้วมันก็แค่รอโอกาส
แต่ร่างกายของมันยังคงมีพันธสัญญาอยู่ และแม็กแคกหกหูก็ไม่มีหนทางจะลบล้างมันได้ ถ้ามันหนีไปโดยที่ไม่ลบล้างพันธสัญญาซะก่อน มันก็คงจะถูกกดขี่โดยพลังของพันธสัญญา หานเซิ่นจะสามารถเข้าครอบงำจิตใจของมันได้อย่างง่ายดาย ถึงแม้เขาจะอยู่ห่างออกไปจากระบบจักรวาลที่เจ้าลิงซ่อนตัวอยู่ก็ตาม เจ้าลิงจะตกอยู่ในความเจ็บปวดจนกระทั่งต้องทำตามที่หานเซิ่นต้องการ
“ถ้าเราต้องการอิสระที่แท้จริง เราก็ต้องทำลายพันธสัญญา” ดวงตาของแม็กแคกหกหูเรืองแสง และมันก็จ้องมองไปที่เป่าเอ๋ออย่างขะมักเขม้น
แม็กแคกหกหูรู้ว่าเป่าเอ๋อเป็นลูกสาวของหานเซิ่น มันเห็นได้ชัดว่าเธอสำคัญต่อหานเซิ่นอย่างมาก ตอนนี้หานเซิ่นต้องไปจากที่นี่และเขาจะไม่กลับมาเป็นเวลาหนึ่งเดือนเต็มๆ
“ถ้าเราจับตัวนาง เราก็จะใช้นางเพื่อข่มขู่หานเซิ่นได้” แม็กแคกหกหูรู้สึกว่าโอกาสของมันมาถึงแล้ว
“ซีโน่เจเนอิคตัวอื่นอาจจะทำตามคำสั่งของนาง แต่ในหมู่พวกมันมีระดับเทพเจ้าขั้นพริมิทีฟแค่ตัวเดียว พวกมันไม่มีโอกาสจะเอาชนะเราได้ แต่ถึงจะพูดแบบนั้น เราก็ไม่มีความจำเป็นต้องต่อสู้กับพวกมัน เราแค่ต้องใช้ร่างปลอมและล่องหนไปทำให้นางสลบ”
ขณะที่แม็กแคกหกหูกำลังวางแผนการอยู่นั้น มันก็เห็นเป่าเอ๋อมองมาทางมัน
แม็กแคกหกหูรู้สึกตกใจ มันคิดว่าเป่าเอ๋อรู้สึกตัวว่ามันกำลังวางแผนการบางอย่าง แต่หลังจากนั้นมันก็ได้ยินเป่าเอ๋อพูดด้วยรอยยิ้ม
“หกน้อย ฉันต้องการผลไม้เพิ่มอีก”
แม็กแคกหกหูรู้สีกเกลียดชังชื่อหกน้อยอย่างมาก แต่เป่าเอ๋อกำลังเรียกหามัน นี่ถือเป็นโอกาสดี ด้วยเหตุนั้นแม็กแคกหกหูจึงรีบวิ่งเข้าไปหาเป่าเอ๋อ
“คุณหนูอยากกินผลไม้อะไรอย่างนั้นหรอ?” แม็กแคกหกหูมองเป่าเอ๋ออย่างระมัดระวัง ขณะที่นางเอนตัวนอนอย่างสบายใจ มันคิดในใจ
‘นี่สมบูรณ์แบบที่สุด เราไม่จำเป็นต้องล่องหนด้วยซ้ำ เราแค่ต้องนำผลไม้มาส่งให้กับนางและทำให้นางสลบไป หลังจากนั้นก็พานางไปซ่อนในที่ที่ไม่มีใครหาเจอ แบบนั้นหานเซิ่นก็ต้องทำลายพันธสัญญากับเรา’
“ฉันต้องการนั่น” เป่าเอ๋อชี้ไปที่ผลไม้ที่เธอต้องการ เธอกำลังสวมแว่นกันแดนขณะที่เอนตัวนอนบนเก้าอี้
แม็กแคกหกหูหยิบมีดปอกผลไม้ขึ้น มันตัดผลไม้เป็นชิ้นเล็กๆและนำมันมาให้กับเป่าเอ๋อ มันยื่นผลไม้มาตรงหน้าเธอพร้อมกับเตรียมตัวที่จะลงมือ
เป่าเอ๋อมองไปที่แม็กแคกหกหู เธอไม่ได้ยื่นมือออกมาเพื่อหยิบผลไม้ เธอยิ้มและพูด
“นี่ฉันบอกหรือว่าฉันต้องการกินมัน? มอบมันให้กับคนอื่นๆ คนละหนึ่งชิ้นไม่ขาดไม่เกิน”
คนอื่นที่เป่าเอ๋อกำลังพูดถึงคือเหล่าหมูน้อย พวกมันติดตามเป่าเอ๋อและกินของดีอยู่ทุกวัน แต่ขนาดตัวของพวกมันไม่เคยเปลี่ยนแปลง พวกมันยังคงตัวเล็กเหมือนเดิม
“ข้าจะตัดก้นของเจ้า” จู่ๆแม็กแคกหกหูก็ตะโกนขึ้นมา มันยกกรงเล็บขึ้นเพื่อจะจับตัวเป่าเอ๋อ
ในจังหวะที่กรงเล็บของแม็กแคกหกหูกำลังจะสัมผัสกับคอของเป่าเอ๋อ ร่างกายของเป่าเอ๋อก็เรืองแสงสีขาวออกมา กรงเล็บของแม็กแคกหกหูปะทะกับแสงนั้น กรงเล็บของเจ้าลิงไม่สามารถทะลวงผ่านการป้องกันนั้นได้ และการโจมตีของมันก็ถูกหยุดโดยสมบูรณ์
แม็กแคกหกหูรู้สึกตกใจ มันเอนตัวไปใกล้ๆเพื่อจะดูชัดๆ แสงนั่นไม่ได้มาจากเป่าเอ๋อ มันมาจากเหล่าหมูน้อยรอบตัวเธอ
ในตอนนี้หมูน้อยทั้งสิบหกตัวยืนอยู่รอบตัวเป่าเอ๋อ ดวงตาของพวกมันเบิกกว้าง ขณะที่จ้องไปที่แม็กแคกหกหู สัญลักษณ์ลึกลับเรืองแสงบนหน้าผากของพวกมัน
แสงศักดิ์สิทธิ์ของหมูน้อยทั้งสิบหกตัวรวมเข้าด้วยกันและเปลี่ยนเป็นโล่แสงที่กักขังแม็กแคกหกหูเอาไว้ภายใน
“พวกเจ้าเป็นเพียงแค่หมูตัวน้อยๆ! พวกแกหยุดข้าไม่ได้”
แม็กแคกหกหูคำรามออกมา ร่างกายของมันเรืองแสงสีทองขณะที่มันฟันใส่โล่แสงด้วยกรงเล็บ
ในเมื่อมันไม่สามารถจับตัวเป้าหมายอย่างเงียบๆได้ เจ้าลิงจึงต้องทำเรื่องนี้โดยใช้กำลังแทน แม็กแคกหกหูรู้ว่าหานเซิ่นจะไม่กลับมาเป็นเวลาหนึ่งเดือน และมันเดิมพันว่ามันมีเวลามากพอที่จะจับตัวเป่าเอ๋อ ส่วนในเรื่องซีโน่เจเนอิคตัวอื่นๆและหมูน้อยทั้งสิบหกตัว แม็กแคกหกหูนั่นไม่ได้สนใจอะไรพวกมัน
แต่ในตอนที่กรงเล็บของมันฟันใส่โล่แสง แม็กแคกหกหูก็สังเกตว่าพลังของมันไม่เพียงพอจะฉีกผ่านโล่แสงได้ หมูน้อยทั้งสิบหกตัวยังคงยืนปักหลักอยู่ด้านนอก ไม่มีพวกมันตัวไหนที่ได้รับบาดเจ็บ พวกมันทั้งหมดแค่จ้องมองมาที่เจ้าลิงด้วยความโกรธ
แม็กแคกหกหูรู้สึกตกใจอีกครั้ง มันพยายามจะโจมตีใส่โล่แสงซ้ำๆ แต่ไม่ว่าเจ้าลิงจะพยายามสักแค่ไหน มันก็ไม่สามารถทำลายโล่แห่งแสงได้ มันถูกกักขังอยู่ภายในนั้นจริงๆ
“หกน้อย นายช่างเป็นเด็กที่ซุกซนจริงๆ”
แม็กแคกหกหูเห็นเป่าเอ๋อลุกขึ้นมา เธอถอดแว่นกันแดดออกและเดินเข้ามาหาด้วยรอยยิ้ม
ด้วยเหตุผลบางอย่าง แม็กแคกหกหูรู้สึกหนาวจนถึงกระดูก มันรู้สึกสังหรณ์ใจไม่ดีเกี่ยวกับเรื่องนี้
…
ถังหมิงเอ๋อเพิ่งจะเข้ามาในเมืองสตาร์มูน ทันใดนั้นก็มีใครบางคนจำเธอได้
“ถังหมิงเอ๋อ เธอคือถังหมิงเอ๋อใช่ไหม?”
หนุ่มรูปงามที่สวมใส่ชุดเกราะเข้ามาหาเธอ เขากำลังขี่เสือที่เป็นวิญญาณอสูรประเภทสัตว์ขี่อยู่ เขานำหน้าอัศวินกลุ่มหนึ่งมา เขาดูประหลาดใจขณะที่หยุดลงตรงหน้าถังหมิงเอ๋อ
“ฉันคือถังหมิงเอ๋อ นายเป็นใครกัน?” ถังหมิงเอ๋อมองไปที่หนุ่มรูปงาม เธอพยายามจะนึกว่าเขาคือใคร แต่เธอจำเขาไม่ได้
“ฉันชื่อหนิงปู้อ้าว” หนุ่มรูปงามลงจากสัตว์ขี่และมองไปที่เธอด้วยความยินดี
“หนิงปู้อ้าว… นายเป็นลูกชายของลุงหนิงอย่างนั้นหรอ?”
ในที่สุดถังหมิงเอ๋อก็นึกออก เธอเคยเห็นหนิงปู้อ้าวหลายครั้ง แต่ในตอนนั้นเธออายุเพียงแค่เจ็ดขวบเท่านั้น เธอจำเขาได้ไม่ดีนัก แต่หนุ่มรูปงามตรงหน้าเธอก็ดูเหมือนกับเด็กที่เธอเคยรู้จักในฐานะหนิงปู้อ้าวจริงๆ
หนิงปู้อ้าวดูลุ่มหลงขณะที่พูดขึ้นว่า “หมิงเอ๋อ เธอมาถึงเมืองสตาร์มูนทั้งที ในเมื่อฉันอยู่ที่นี่ ฉันจะรับประกันความปลอดภัยของเธอเอง ถ้าเธอต้องการวิญญาณอสูรชนิดไหน แค่บอกฉันมา ฉันจะมอบวิญญาณอสูรนั้นให้กับเธอ ฉันมีแม้กระทั่งวิญญาณอสูรเลือดศักดิ์สิทธิ์”
“พี่หมิงเอ๋อ พวกพี่คุยกันไป ฉันรู้สึกเหนื่อย ฉันจำเป็นต้องพักผ่อน”
มีเสียงดังขึ้นจากด้านข้างของถังหมิงเอ๋อ หนิงปู้อ้าวสังเกตเห็นว่ามีเด็กผู้ชายคนหนึ่งอยู่ข้างๆเธอ
หนิงปู้อ้าวขมวดคิ้ว เด็กผู้ชายคนนั้นอายุราวๆสิบสามสิบสี่ปีเท่านั้น เขาดูไม่เหมือนกับคนที่จะเข้ามาในก็อตแซงชัวรี่ได้