ทุกภาพวาดแว็บผ่านสมองของหานเซิ่นด้วยความกระจ่างของคริสตัล ซึ่งช่วยให้เขาเข้าใจเกี่ยวกับอนัตตามากขึ้นๆ
มันแตกต่างไปจากวิชาใต้นภา อนัตตาเป็นวิถีที่เป็นเอกลักษณ์ ถึงแม้หานเซิ่นจะศึกษาวิชาจีโนมามากมาย แต่วิชานี้ก็ยังเป็นอะไรที่แปลกใหม่และมหัศจรรย์ มันเหมือนกับการเปิดประตูสู่โลกใบใหม่
เอ็กซ์ควิสิทและหลี่เคอเอ๋อทั้งตกตะลึงและปลาบปลื้ม พวกเธอสัมผัสทุกสิ่งที่หานเซิ่นกำลังเรียนรู้ และพวกเธอก็ได้รับอะไรใหม่ๆทุกครั้งที่หานเซิ่นเข้าใจบางสิ่ง
พวกเธอยิ่งกว่ายินดีกับศักยภาพที่สุดยอดของอนัตตา พวกเธอทั้งคู่ฝึกเวรี่ไฮเซ้นส์ ดังนั้นพวกเธอรู้ดีว่าอนัตตานั้นเป็นสิ่งที่มีค่าขนาดไหน และในขณะเดียวกันพวกเธอก็รู้ว่ามันยากขนาดไหนที่จะเรียนรู้อนัตตา
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเวรี่ไฮที่ฝึกเวรี่ไฮเซ้นส์ สำหรับพวกเขาแล้วการเรียนรู้อนัตตาเป็นสิ่งที่เรียกได้ว่าเป็นไปไม่ได้ ตลอดประวัติศาสตร์ที่ยาวนาน เวรี่ไฮที่มีพรสวรรค์นับไม่ถ้วนต่างก็ไม่สามารถเรียนรู้วิชาจีโนนี้ได้ถึงแม้มันจะมาอยู่ตรงหน้าพวกเขาก็ตาม
อัลฟ่าของเผ่าเวรี่ไฮนั้นมีเหตุผลที่ไม่ได้จดบันทึกอนัตตาลงในประวัติศาสตร์ของเผ่าเวรี่ไฮ ถ้าคนที่ศึกษาเวรี่ไฮเซ้นส์มาฝึกอนัตตา ผลลัพธ์ที่ออกมาจะเป็นหายนะสำหรับพวกเขาส่วนใหญ่ นอกซะจากพวกเขาจะก้าวข้ามขั้นลาร์วาและกลายเป็นเจ้าขั้นบัตเตอร์ฟลาย การเรียนรู้อนัตตาก็อาจจะสร้างความเสียหายกับพวกเขา ดังนั้นอัลฟ่าของเผ่าเวรี่ไฮจึงไม่ได้ทิ้งวิชาที่เขาคิดค้นมาใหม่นี้เอาไว้ เขาวาดมันลงไปบนกำแพงโดยหวังว่าสักวันหนึ่ง เวรี่ไฮที่มีคุณสมบัติครบถ้วนจะได้เรียนรู้มัน
ถึงแม้อนัตตาจะแตกแขนงมาจากเวรี่ไฮเซ้นส์ แต่มันก็เป็นอะไรที่ดูแตกต่างไปจากวิชาจีโนที่เป็นต้นกำเนิด นอกซะจากคนที่ฝึกจะเข้าใจอนัตตาอย่างแท้จริง ไม่อย่างนั้นวิชาจีโนทั้งสองก็จะเกิดความขัดแย้งกันเอง
เป้าหมายสุดท้ายของเวรี่ไฮเซ้นส์คือการบรรลุสกายแอนท์บีอิ้งคอมบิเนชั่น ผู้ฝึกเวรี่ไฮเซ้นส์ทุกคนต้องการทำให้ตัวเองรวมเป็นหนึ่งเดียวกับจักรวาล เพื่อที่พวกเขาจะได้เข้าใจทุกสิ่งทุกอย่างระหว่างท้องฟ้าและผืนดิน พวกเขาต้องการจะควบคุมและปกครองทั้งจักรวาล
แต่อนัตตาแตกต่างไปโดยสิ้นเชิง ผู้ที่ฝึกมันจะแสวงการลืมสิ่งต่างๆ พวกเขาจะปล่อยวางจากจักรวาล ท้องฟ้าและผืนดินรอบๆตัว เมื่อพวกเขาปล่อยวางจากทุกสิ่งแล้ว พวกเขาถึงจะเป็นอิสระจากข้อจำกัดทั้งปวง
เนื่องจากหานเซิ่นเพิ่งจะเรียนรู้เกี่ยวกับวิชาจีโนใหม่นี้ เขาจึงไม่แน่ใจว่าจะเกิดอะไรขึ้นในตอนที่เขาใช้มัน ความจริงแล้วหานเซิ่นและพวกเธอทั้งสองยังไม่รู้ว่าอนัตตานั้นจะมอบประโยชน์อะไรให้กับพวกเขา
แต่สิ่งหนึ่งที่เอ็กซ์ควิสิทรู้อย่างแน่ใจก็คือว่าถ้าเธอเรียนรู้วิชาจีโนนี้ด้วยตัวเธอเอง อนัตตาและเวรี่ไฮเซ้นส์ก็คงจะขัดแย้งกันเอง เธอจะถูกทำลายขณะที่วิชาจีโนทั้งสองทำสงครามกันภายในตัวของเธอ
การเรียนรู้อย่างถ่องแท้เป็นหนทางเดียวที่จะได้รู้ว่าอนัตตาคือเวรี่ไฮเซ้นส์ในทางกลับตาลปัตร ในตอนที่พวกมันถูกผลัดดันจนถึงขีดสุด วิชาจีโนทั้งสองก็กลายเป็นวิชาที่มีแก่นแท้เดียวกัน
เอ็กซ์ควิสิทและหลี่เคอเอ๋อยังคงเรียนรู้ต่อไปและยิ่งพวกเธอได้เรียนรู้มากขึ้น พวกเธอก็ยิ่งรู้สึกตกใจกับสิ่งที่อัลฟ่าทำได้สำเร็จ มันไม่มีใครคนอื่นที่จะคิดค้นวิชาจีโนที่เรียกว่าอนัตตาขึ้นมาได้นอกจากเขา
หานเซิ่นมองไปที่ภาพวาดภาพสุดท้าย และหลังจากที่เขาทำแบบนั้น เขาก็รู้สึกราวกับว่าทั้งร่างกายของเขาเพิ่มระดับขึ้น ในตอนนี้ทุกสิ่งทุกอย่างในจักรวาลดูแตกต่างออกไปในสายตาของเขา
สิ่งดี สิ่งร้าย ความรัก ความเกลียดชัง ทุกอย่างนั้นสูญเสียความสำคัญของพวกมันไป ทุกอย่างดูสงบนิ่งจนไม่สามารถบรรยายออกมาเป็นคำพูดได้ มนุษย์นั้นถูกขังอยู่ในความเจ็บปวดของความรักและความเกลียดชังมาโดยตลอด มันเป็นเพราะว่าพวกเขาเป็นส่วนหนึ่งของเกมส์ พวกเขาไม่สามารถหนีไปจากมันได้
แต่ตอนนี้หานเซิ่นรู้สึกต่างออกไปเกี่ยวกับทุกสิ่ง มันเหมือนกับว่าเขาแยกตัวเองออกไปจากเกมส์ มันเหมือนกับว่าเขาเป็นมนุษย์คนหนึ่งที่กำลังมองลงไปที่กลุ่มมด และในระหว่างมดพวกนั้นก็มีความรักและความเกลียดชัง แต่สำหรับหานเซิ่นแล้ว พวกมันเป็นเพียงแค่สิ่งเล็กๆที่ไม่มีความสำคัญอะไร
ถ้าจิตใจของวิชาใต้นภาทำให้เขาดูเหมือนกับตัวหมาก แบบนั้นสิ่งที่เขาได้รับจากอนัตตาก็ทำให้เขาเป็นบุคคลที่กำลังเล่นเกมส์หมากรุก เขากระโดดออกไปจากกระดาน และตอนนี้เขาก็เป็นคนที่มองลงมายังชะตากรรมของหมากทั้งหมด
มันไม่ใช่ว่าแบบไหนผิด มันก็แค่มุมมองของเขาถูกเปลี่ยนไป วิชาใต้นภาของหานเซิ่นเกี่ยวกับการเป็นส่วนหนึ่งของโลกใบนี้ ขณะที่อนัตตาคือการมองลงมายังโลก มันแค่เป็นวิถีทางที่แตกต่างกันเท่านั้นเอง
แน่นอนว่าระดับพลังของหานเซิ่นต่ำกว่าอัลฟ่าของเวรี่ไฮคนนั้นมาก อัลผ่าคนนั้นไปถึงปลายเส้นทางแล้ว แต่หานเซิ่นเพิ่งจะเริ่มการเดินทางของเขาเท่านั้น
มันไม่มีเส้นทางที่ถูกต้อง เช่นเดียวกับที่มันไม่มีเส้นทางที่ผิด แต่มันมีความแตกต่างระหว่างผู้คน หานเซิ่นต้องการจะไปถึงระดับที่สูงเทียบเท่าอัลฟ่าคนนั้น แต่เขารู้ว่ายังคงมีหนทางอีกไกลก่อนที่เขาจะไปถึงจุดนั้น
แต่จิตใจของอัลฟ่าและอนัตตามอบโอกาสให้หานเซิ่นได้มองผ่านดวงตาของผู้อื่น มันยากจะคาดเดาได้ว่านั่นมอบประโยชน์อะไรให้กับเขา
“หลังจากผ่านยุคสมัยนับไม่ถ้วน ในที่สุดอนัตตาก็กลับคืนสู่เผ่าเวรี่ไฮ หานเซิ่น เจ้าคือคนที่ทำเรื่องนี้ ข้ารับประกันได้เลยว่าเจ้าจะได้รับรางวัลอย่างงาม”
ในตอนที่หานเซิ่นมองกลับมา เขาเห็นชายแก่เผ่าเวรี่ไฮคนหนึ่ง ชายแก่คนนั้นผอมจนเห็นกระดูก เขากำลังพูดด้วยท่าทางดีใจ
เมื่อเอ็กซ์ควิสิทและหลี่เคอเอ๋อเห็นชายแก่คนนั้น พวกเธอก็อึ้งไป พวกเธอรีบหันมาหาหานเซิ่นและพูด “รีบกล่าวขอบคุณลุงเก้า”
“ขอบคุณผู้อาวุโส” หานเซิ่นโค้งคำนับ เขาไม่ได้คิดว่าคำชมเชยของอีกฝ่ายเป็นสิ่งที่น่าดีใจอะไร ในตอนนี้เขาไม่มีความรู้สึกอะไรเป็นพิเศษเกี่ยวสิ่งต่างๆในโลก
ลุงเก้าไม่ได้ติดใจอะไรกับท่าทางของหานเซิ่น เวรี่ไฮที่ฝึกเวรี่ไฮเซ้นส์นั้นไม่ได้สนใจอะไรในเรื่องมารยาท ลุงเก้าเป็นถึงยอดฝีมือระดับเทพเจ้าขั้นบัตเตอร์ฟลาย ดังนั้นเขาไม่ได้รู้สึกอะไรกับเรื่องเล็กน้อยพวกนั้น
การกลับมาอีกครั้งของอนัตตาเป็นสิ่งที่ทำให้ทั้งเผ่าเวรี่ไฮตกตะลึง เวรี่ไฮมากมายที่รู้ข่าวพยายามจะศึกษาอนัตตา หลี่เคอเอ๋อและเอ็กซ์ควิสิทนั้นสอนมันให้กับเวรี่ไฮคนอื่น แต่เวรี่ไฮส่วนใหญ่ต้องผิดหวังกับผลลัพธ์ในการเรียนรู้ของพวกเขา อนัตตาขัดแย้งกับเวรี่ไฮเซ้นส์มากเกินไป นอกซะจากจิตใจของพวกเขาจะถึงระดับอัลฟ่าของเวรี่ไฮ พวกเขาก็ไม่สามารถฝึกวิชาจีโนทั้งสองร่วมกันได้
อัลฟ่าเรียกตัวเองว่าเป็นเวรี่ไฮสูงสุดที่อยู่ข้างใต้ผู้นำ ในตอนที่เขายังมีชีวิตอยู่ เขามองไปทั่วทั้งเผ่าเวรี่ไฮ แต่เขาก็ไม่พบสักคนเดียวที่มีจิตใจที่อยู่ในระดับเดียวกับเขา
ในตอนที่เหล่าเวรี่ไฮเรียนรู้วิชาจากหลี่เคอเอ๋อและเอ็กซ์ควิสิทไม่สำเร็จ เวรี่ไฮบางคนพยายามจะจำลองวิธีการของหานเซิ่นโดยศึกษาจากความรู้สึกบนกำแพงโบณาณ แต่ทว่าในตอนที่พวกเขาจ้องไปที่เนตรเวรี่ไฮ พวกเขาก็ไม่สามารถกระตุ้นจิตใจที่อยู่ภายในได้
นอกจากหานเซิ่น เอ็กซ์ควิสิทและหลี่เคอเอ๋อแล้ว ไม่มีใครในเผ่าเวรี่ไฮที่สามารถฝึกอนัตตาได้อย่างมีประสิทธิภาพ นั่นทำให้เวรี่ไฮมากมายรู้สึกเศร้าใจ
แต่อย่างน้อยเอ็กซ์ควิสิทและหลี่เคอเอ๋อก็ฝึกอนัตตาได้สำเร็จ และนั่นถือเป็นเรื่องดีมากสำหรับเผ่าเวรี่ไฮ พวกเขาดีใจกับเรื่องนั้น
เนื่องจากหานเซิ่นเป็นคนที่นำอนัตตากลับคืนสู่เผ่าเวรี่ไฮ เขาจึงได้รับรางวัลตอบแทน
แต่ในตอนที่หานเซิ่นรับรางวัล เขารู้สึกเสียใจ เขาคิดว่าจะได้รับยีนซีโน่เจเนอิคระดับเทพเจ้าหรือสมบัติบางอย่าง ถ้าเขาได้รับสิ่งของขั้นทรูก็อตมา นั่นจะเป็นอะไรที่ยอดเยี่ยมมากๆ
แต่ทางเวรี่ไฮนั้นมอบบัตรผ่านที่จะอนุญาตให้เขาไปที่เวรี่ไฮคอร์ทแทน
เวรี่ไฮคอร์ทคือคลังสมบัติที่เวรี่ไฮเก็บวิชาจีโนของพวกเขาเอาไว้ ในตอนที่หานเซิ่นได้รับบัตรผ่านมา เขาก็ได้รับสิทธิพิเศษเฉพาะของเวรี่ไฮคนหนึ่ง เขามีสิทธิ์ที่จะเข้าไปในเวรี่ไฮคอร์ทและสามารถฝึกวิชาจีโนที่อยู่ภายในนั้น แต่สำหรับหานเซิ่นแล้ว รางวัลนี้เป็นอะไรที่แย่กว่าสมบัติและยีนซีโน่เจเนอิค
เอ็กซ์ควิสิทและหลี่เคอเอ๋อมองหานเซิ่นอย่างเย้ยหยัน ในตอนที่พวกเธอสัมผัสได้ถึงความคิดของหานเซิ่น เขานั้นโชคดีมาก แต่ดูเหมือนเขาจะไม่รับรู้ในเรื่องนั้น