Super God Gene – ตอนที่ 2750

อาณาเขตตงเสวียนไม่สามารถเปิดเผยสิ่งที่อยู่ภายในป่าปะการังได้ ดังนั้นหานเซิ่นจึงลังเลขึ้นมาว่าจะไล่ตามปลาไหลไฟฟ้าเข้าไปในนั้นดีไหม แต่เขาก็ไม่อยากจะปล่อยมันไปเช่นกัน ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจที่จะลงไปในป่าปะการัง

 

‘ถ้าปลาไหลฟ้าฟ้าเข้าไปภายในนั้นได้ แบบนั้นทำไมเราจะเข้าไปไม่ได้?’ หานเซิ่นคิด เขาตั้งใจจะฆ่าเจ้าปลาไหลไฟฟ้านั่นให้ได้ไม่ว่ายังไงก็ตาม

 

หลังจากที่เตรียมตัวพร้อมแล้ว หานเซิ่นก็เข้าไปในป่าปะการัง ซึ่งหลังจากที่เข้าไปข้างใน ประสิทธิภาพของอาณาเขตตงเสวียนของเขาก็ลดลงอย่างมาก เขาไม่สามารถสัมผัสถึงอะไรได้นอกจากปะการังโลหิตรอบๆตัว

 

ปะการังโลหิตเป็นเหมือนกับเครื่องรบกวนสัญญา มันหยุดพลังของหานเซิ่นจากสัมผัสรอบๆตัว

 

หานเซิ่นเดินหน้าต่อไปขณะที่สังเกตปะการังโลหิตรอบๆอย่างระมัดระวัง ปะการังโลหิตนั้นดูเหมือนกับปะการังทั่วไป แต่ด้วยเหตุผลบางอย่าง พลังอาณาเขตตงเสวียนของหานเซิ่นไม่สามารถเข้าใกล้มันได้ แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ดูไม่เหมือนว่าปะการังโลหิตพวกนั้นจะเป็นสิ่งมีชีวิต

 

ถ้าพวกมันเป็นแค่ปะการังธรรมดาๆ แบบนั้นฝูงของสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กก็ควรจะมาสร้างบ้านภายในนั้น แต่น่าแปลกที่หานเซิ่นยังไม่พบสิ่งมีชีวิตอะไรเลย ทั้งๆที่เขาเข้ามาในป่าปะการังโลหิตนี้ได้สักพักหนึ่งแล้ว

 

“ที่นี่แปลกจริงๆ เราหาซีโน่เจเนอิคไม่เจอแม้แต่ตัวเดียว ที่นี่เป็นรังของเจ้าปลาไหลไฟฟ้าอย่างนั้นหรอ?” หานเซิ่นสงสัยกับตัวเอง

 

ป่าปะการังโลหิตมีความกว้างราวหมื่นไมล์ ดังนั้นมันไม่ได้ใหญ่จนเกินไป หานเซิ่นเดินทางเพียงไม่นานเขาก็สำรวจมันได้กว่าครึ่ง แต่เขายังคงหาเจ้าปลาไหลไฟฟ้าไม่เจอ จริงๆแล้วเขาไม่พบอะไรเลยสักอย่าง ป่าปะการังแห่งนี้เป็นเหมือนกับเขตมรณะที่เงียบสงบและไร้ซึ่งสิ่งมีชีวิต

 

ขณะที่หานเซิ่นกำลังครุ่นคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ ทันใดนั้นเขาก็เห็นแสงส่องออกมาจากภายในป่าปะการังโลหิต มันดูเหมือนกับพระอาทิตย์ที่เพิ่งจะขึ้นจากขอบฟ้าในรุ่งเช้า มันเป็นสีแดงแต่มันไม่ได้ส่องสว่างอะไรนัก มันแค่เรืองแสงเล็กน้อยราวกับโลหะร้อนๆ

 

“นั่นมันอะไร?” หานเซิ่นเห็นแสงนั่น แต่เนื่องจากปะการังโลหิต เขาไม่สามารถบอกได้ว่าแสงนั่นเกิดขึ้นจากอะไรกันแน่

 

ในเมื่อหานเซิ่นเพิ่งจะเข้ามาในป่าปะการังโลหิต และเขายังคงหาเจ้าปลาไหลไฟฟ้าไม่เจอ เขาจึงยังไม่สามารถเดินทางกลับได้ เขาจำเป็นต้องทำการสำรวจต่อไป

 

ขณะที่หานเซิ่นค่อยๆเข้าไปใกล้แสงที่ส่องมา แสงนั่นก็เริ่มจะดูสว่างขึ้นเรื่อยๆ และในที่สุดหานเซิ่นก็ค้นพบถึงแหล่งที่มาของแสงสว่างนั่น

 

มันเป็นชิ้นของปะการังโลหิตที่ปลดปล่อยแสงสีแดงออกมา แต่ทว่าปะการังโลหิตนี้ดูแตกต่างจากปะการังโลหิตอื่น

 

มันมีขนาดเล็กกว่าปะการังอื่นๆมาก โดยมีความสูงแค่สามถึงสี่เมตรเท่านั้น เมื่อเทียบกับปะการังโลหิตอื่นที่สูงถึงสิบเมตรแล้ว ปะการังโลหิตนี่ดูกระจิริดไปเลย

 

สีของมันยังเข้มยิ่งกว่าปะการังโลหิตอื่นอีกด้วย สีของมันดูเร้นลับและปลดปล่อยแสงสีแดงออกมา ชิ้นของปะการังทั้งชิ้นนี้ดูเหมือนจะเรืองแสง

 

นอกจากนั้นปะการังโลหิตนี่ยังมีรูปร่างที่แปลกประหลาด แทนที่จะมีกิ่งก้านมากมายเหมือนกับปะการังอื่นๆ ปะการังโลหิตนี่มีแค่กิ่งก้านเล็กๆไม่กี่กิ่ง และก้านหลักของมันก็ยังบิดเบี้ยวอีกด้วย

 

“ปะการังโลหิตนี่ ทำไมมันถึงได้ดูเหมือนกับ…เหมือนกับมังกร…”
หานเซิ่นมองไปที่ปะการังโลหิตขณะที่ความคิดนั้นแว็บเข้ามาในหัวของเขา

 

รูปร่างของปะการังนั้นคดเคี้ยวคล้ายงู มันดูเหมือนกับมังกรจีนที่บินอยู่ในหมู่เมฆ รูปร่างของมันบ่งบอกว่ามันต้องการจะทะยานไปให้สูงยิ่งกว่านี้ แต่มันเป็นเพียงแค่ชิ้นปะการัง ถึงอย่างนั้นมันก็ให้ความารู้สึกที่ประหลาดราวกับว่ามันกำลังจะเป็นอิสระจากผืนดินและบินขึ้นไปสู่ท้องฟ้า

 

‘แปลกจริงๆ ปะการังสีแดงประหลาดนี้คืออะไรกัน? มันดูมหัศจรรย์มากๆ แต่ดูไม่เหมือนว่ามันจะมีชีวิต…’ หานเซิ่นคิดกับตัวเอง

 

หานเซิ่นอยู่ห่างจากไปจากปะการังประหลาดนั้นพอสมควรและพยายามจะตัดสินใจว่าควรเข้าไปใกล้มันดีหรือไม่ แต่ทันใดนั้นเขาก็ได้ยินเสียงประหลาด

 

วา-ลา-ลา! วา-ลา-ลา!

หานเซิ่นหันมองไปทางที่เสียงดังขึ้นมา และเขาก็เห็นป่าปะการังโลหิตสั่นไหวอย่างบ้าคลั่ง ไม่นานหลังจากนั้นเขาก็เห็นปลาไหลไฟฟ้าโผล่ออกมาจากปะการัง

 

เนื่องจากร่างกายของมันใหญ่โตเกินไป ในตอนที่มันเคลื่อนที่ระหว่างปะการังโลหิต ร่างกายของมันจึงไปถูกับปะการัง

 

แต่ปะการังโลหิตไม่ได้ล้มหรือหัก เนื่องจากการเคลื่อนที่ของปลาไหลไฟฟ้า ความจริงแล้วขอบที่แหลมคมของปะการังเฉือนเข้าไปในผิวของเจ้าปลาไหล ทำให้เกิดเป็นบาดแผลเล็กๆมากมาย

 

แต่เจ้าปลาไหลไฟฟ้าดูเหมือนจะไม่ได้สนใจอะไรเกี่ยวกับบาดแผลที่มันได้รับ มันยังคงฝ่าดงปะการังเข้ามาอย่างรวดเร็ว ไม่กี่วินาทีต่อมามันก็มาถึงตรงหน้าปะการังประหลาดที่ดูเหมือนกับมังกร

 

ในตอนที่มันอยู่ห่างจากปะการังประหลาดนั่นไปเพียงแค่สิบเมตร เจ้าปลาไหลก็หยุดเคลื่อนที่ ดวงตาของมันจ้องไปที่ปะการังโลหิตตรงหน้าอย่างขะมักเขม้น มันไม่เคลื่อนไหวเป็นเวลาสักพัก

 

“ดูเหมือนว่าพลังในการสัมผัสสิ่งรอบๆตัวของเจ้าปลาไหลไฟฟ้าจะถูกลดลงไปด้วยเช่นเดียวกัน ไม่อย่างนั้นมันก็คงจะรู้สึกตัวว่าเราอยู่ใกล้มัน”
หานเซิ่นซ่อนตัวอยู่ด้านหลังปะการังขนาดใหญ่โดยที่เอนตัวออกมาด้านข้างเพื่อดูว่าเจ้าปลาไหลกำลังจะทำอะไร

 

ปลาไหลไฟฟ้ามองไปที่ปะการังโลหิตประหลาดอยู่สักพัก ที่สุดแล้วมันก็ค่อยๆเคลื่อนที่เข้าไปหาปะการัง มันอ้าปากกว้างและกลืนปะการังโลหิตประหลาดเข้าไป

 

ทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนหานเซิ่นไม่มีเวลาตอบสนองได้ทัน ในตอนที่เขาเห็นปลาไหลไฟฟ้ากินปะการังโลหิตนั่นเข้าไป เขาก็รู้สึกเสียใจขึ้นมาในทันที

 

“ดูเหมือนว่าชิ้นปะการังโลหิตนั่นจะเป็นของดี ถ้ารู้แบบนั้น เราก็คงจะเอามันไปตั้งแต่แรก” ทันใดนั้นอีกความคิดหนึ่งก็ผุดขึ้นมาในหัวของหานเซิ่น

 

“นี่คือทะเลฝังมังกร ตำนานบอกว่ามังกรระดับเทพเจ้าขั้นทรูก็อตตัวหนึ่งได้มาตายที่นี่ ปะการังโลหิตนั้นคงจะไม่ได้เกี่ยวข้องกับมังกรขั้นทรูก็อตตัวนั้นหรอกใช่ไหม? ถ้าเป็นแบบนั้นจริง เราก็พลาดบางสิ่งที่ล้ำค่ามากๆไป”

 

ขณะที่หานเซิ่นกำลังเสียใจกับการตัดสินใจของตัวเอง เขาก็เห็นปลาไหลไฟฟ้าเริ่มจะชักกระตุกและดิ้นไปดิ้นมา

 

ร่างกายของมันปะทุด้วยสายฟ้า แต่ในตอนที่สายฟ้าสัมผัสกับปะการังโลหิตที่อยู่ใกล้เคียง พวกมันก็ดับไป พวกมันไม่แม้แต่จะทิ้งรอยไหม้เอาไว้บนปะการังโลหิต

 

“ปะการังพวกนี้ทรงพลังจริงๆ! แม้แต่พลังสายฟ้าของเจ้าปลาไหลนั่นก็สร้างความเสียหายกับพวกมันไม่ได้หรอเนี่ย? ปะการังโลหิตพวกนี้ดูเหมือนจะแข็งแรงยิ่งกว่าสมบัติระดับเทพเจ้าขั้นพริมิทีฟซะอีก… และป่านี่มีปะการังอยู่เป็นจำนวนมาก ถ้าเรานำพวกมันทั้งหมดกลับไปและใช้พวกมันเพื่อสร้างปราสาทขึ้นมา มันก็จะเป็นปราสาทที่ป้องกันได้แม้แต่การบุกรุกของยอดฝีมือระดับเทพเจ้า”
หานเซิ่นเริ่มจะน้ำลายไหลขณะที่เขาคิดแบบนั้น เขามองไปที่ปะการังโลหิตด้วยตัณหา เขาเริ่มจะคิดแผนการที่จะเอาปะการังโลหิตพวกนี้กลับไป ในตอนที่เขามีซีโน่เจเนอิคสเปชเป็นของตัวเอง เขาก็จะใช้พวกมันเพื่อสร้างปราการขึ้นมา

 

ขณะเดียวกันปลาไหลไฟฟ้าดูเหมือนจะกำลังอยู่ในความเจ็บปวด ร่างกายของมันบิดเบี้ยวไปมา ขณะที่หางของมันฟาดใส่พื้นทรายซ้ำๆจนเกินเป็นหลุมขนาดใหญ่ เกล็ดที่เหมือนกับเพชรของมันเริ่มจะกลายเป็นสีแดง ดูเหมือนกับว่าเส้นเลือดทั้งหมดของเจ้าปลาไหลกำลังจะแตกและเลือดก็ย้อมผิวของมัน

 

“นี่มันอะไรกัน?” หานเซิ่นไม่ได้เสียเวลามองดูปลาไหลไฟฟ้าดิ้นไปมาด้วยความเจ็บปวด การดิ้นรนของมันได้เปิดรูบริเวณที่ปะการังโลหิตประหลาดนั่นเคยอยู่ และในรูนั่นดูเหมือนจะไร้ซึ่งเม็ดทราย แต่ทว่ามันมีบางสิ่งกำลังเรืองแสงสีแดงออกมา

Super God Gene

Super God Gene

ในยุคสมัยที่วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของมนุษย์ถูกพัฒนาจนถึงระดับสูง ในที่สุดมนุษยชาติก็ได้ค้นพบวิธีการเทเลพอร์ต แต่เมื่อพวกเขาทดลองเทเลพอร์ต กลับพบว่าพวกเขาไม่ได้ถูกส่งไปในอนาคต อดีตหรือสถานที่อื่นๆที่มนุษย์รู้จัก แต่มันคือโลกที่แตกต่างโดยสิ้นเชิง สถานที่ลึกลับนี่ถูกเรียกว่า ‘ก็อด เเซงชัวรี่’ ที่นี่มีสิ่งมีชีวิตประหลาดอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก แต่เมื่อมนุษย์ลองกินสิ่งมีชีวิตประหลาดเข้าไป ร่างกายของพวกเขาพัฒนาขึ้นและยังเพิ่มอายุขัยขึ้นด้วย มันคือก้าวที่ยิ่งใหญ่ของมนุษย์ชาติในการวิวัฒนาการเพื่อสร้างยุคสมัยที่ยิ่งใหญ่ “ด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ถูกฆ่า คุณได้รับวิญญาณอสูรด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ เมื่อกินเนื้อของด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ คุณมีโอกาสได้รับ 0 ถึง 10 Geno Point โดยการสุ่ม” The future unfolded on a magnificent scale into the Interstellar Age. Humanity finally solved the space warp technology, but when humanity transported themselves into the other end, they discovered that place neither had a past nor future, nor was there any land under the starry skies…… The mysterious sanctuary was actually a world filled with countless tyrannical unusual organisms. Humanity faced their great leap in evolution, starting the most glorious and resplendant new era under the starry skies. “Slaughtered the God Blood organism ‘Black Beetle’. Received the God Blood Black Beetle’s Beast Soul. Used the God Blood Black Beetle’s flesh. Randomly obtaining 0 to 10 points of God Gene(s).”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset