หานเซิ่นคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่สักพัก ก่อนที่เขาจะรู้สึกตัวว่าตัวเองมองข้ามความจริงเรื่องหนึ่งไป
ร่างกายเทพเจ้าสปิริตขั้นสุดยอดนั้นจะทำให้เขาอยู่ยงคงกระพัน นั่นคือคุณสมบัติพิเศษของมัน มันสามารถกำจัดพลังงานด้านลบที่กำลังส่งผลกระทบต่อร่างกายของเขาได้ แต่ถ้าเขาได้รับผลกระทบจากพลังที่มาจากภายในตัว แทนที่จะเป็นสิ่งที่บุกรุกเข้ามาจากภายนอก ร่างกายเทพเจ้าสปิริตขั้นสุดยอดของเขาก็จะไม่ทำอะไรกับมัน
“นี่หมายความว่าจุดดำพวกนี้เกิดขึ้นจากการที่ร่างกายของเรากำลังเกิดความเปลี่ยนแปลงของตัวมันเองอย่างนั้นหรอ?” หานเซิ่นคำนึงถึงความเป็นไปได้นั้น แต่มันดูจะเป็นไปไม่ได้
“ร่างกายของเราไม่ควรจะก่อให้เกิดจุดดำพวกนี้ขึ้นมา นอกซะจากเราจะได้รับผลกระทบจากพลังภายนอก แต่ทำไมร่างกายเทพเจ้าสปิริตขั้นสุดยอดถึงไม่กำจัดพวกมันเหมือนทุกครั้งล่ะ?”
ถ้าจุดดำพวกนี้ไม่เป็นภัยตัวต่อหานเซิ่น แบบนั้นร่างกายเทพเจ้าสปิริตขั้นสุดยอดก็จะไม่ทำอะไรกับมัน ถึงแม้หานเซิ่นจะสันนิษฐานว่าจุดดำพวกนี้อาจจะเป็นบางสิ่งที่มีประโยชน์กับตัวเขา แต่เขาก็ไม่ชอบใจกับการที่ต้องถูกเปลี่ยนเป็นสัตว์ประหลาดที่ถูกปกคลุมด้วยเกล็ด
หานเซิ่นพยายามคิดเกี่ยวกับวิธีที่จะกำจัดพวกมัน แต่ก็ไม่มีวิธีไหนที่ประสบความสำเร็จ และจุดดำก็ยังคงแพร่กระจายไปมากขึ้นเรื่อยๆ จุดดำหลายจุดเริ่มจะชัดเจนและเกิดเป็นรูปเป็นร่างของเกล็ดงูแล้ว
หานเซิ่นคิดว่าการที่เขามีเกล็ดงอกขึ้นมานั้นอาจจะเป็นผลกระทบจากปะการังโลหิต ดังนั้นเขาจึงโยนมันกลับลงไปในทะเล
แต่ไม่นานหลังจากนั้น หานเซิ่นก็สังเกตว่าปะการังโลหิตประหลาดนั้นกลับมาหาเขา มันเหมือนกับมังกรดำที่รอคอยเขาอย่างเงียบๆ
หานเซิ่นพยายามจะโยนปะการังทิ้งไปหลายต่อหลายครั้ง แต่มันไม่ได้ผล และเกล็ดก็งอกขึ้นมามากขึ้นเรื่อยๆ มันทำให้เขาอยากจะร้องไห้
แต่สำหรับตอนนี้เกล็ดยังไม่ได้ส่งผลกระทบอะไรกับเขา จริงๆแล้วพวกมันเพิ่มการป้องกันของเขาให้สูงขึ้นอีกด้วย ในตอนที่การโจมตีมาถูกเกล็ดของเขา พวกมันก็จะช่วยรับความเสียหายกว่าแปดสิบเปอร์เซ็นต์ ถ้าเกล็ดงอกปกคลุมทั่วทั้งร่างกายของเขา พลังป้องกันทางกายภาพของเขาก็จะเป็นอะไรที่น่ากลัวมากๆ
แต่ถึงอย่างนั้นหานเซิ่นก็ไม่อยากจะกลายเป็นตัวประหลาดที่ปกคลุมไปด้วยเกล็ดอยู่ดี
คนเราไม่สามารถซ่อนเปลวไฟด้วยกระดาษ ดังนั้นในตอนที่เอ็กซ์ควิสิทกลับมา เธอก็เห็นว่าร่างกายของหานเซิ่นปกคลุมไปด้วยเกล็ด มันทำให้เธอรู้สึกสับสน
หานเซิ่นไม่ได้พยายามจะบิดบังอะไร เขาบอกทุกอย่างที่เกิดขึ้น ซึ่งรวมถึงเรื่องของปะการังโลหิตและร่างของมังกรที่ตายไป เขาไม่อยากจะกลายเป็นสัตว์ประหลาด ถึงแม้มันจะทำให้เขาแข็งแกร่งขึ้นก็ตาม เขาไม่สามารถกำจัดเกล็ดพวกนี้ออกไปได้ด้วยตัวเอง ดังนั้นเขาจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากขอความช่วยเหลือ
ในหมู่ของเวรี่ไฮมียอดฝีมืออยู่มากมาย พวกเขาทุกคนต่างก็เป็นผู้คนที่รอบรู้ พวกเขาศึกษาวิชาจีโนทั่วทั้งจักรวาล บางทีหนึ่งในพวกเขาอาจจะรู้วิชาที่จะกำจัดเกล็ดพวกนี้ไปได้
เอ็กซ์ควิสิทตกใจยิ่งกว่าเดิม ขณะที่หานเซิ่นเล่าเรื่องราวของเขา ดวงตาของเธอเบิกกว้าง และเธอก็จ้องไปที่ปะการังโลหิตที่ดูเหมือนกับมังกร
“มังกรขั้นทรูก็อตนั่น มันมีพลังแบบไหนกันแน่? ทำไมมันถึงได้ทำให้ร่างกายของข้ามีเกล็ดงอกออกมา? มันมีหนทางที่จะกำจัดพวกมันออกไปไหม?”
หานเซิ่นถามอย่างรีบร้อน เขาเกลียดเกล็ดพวกนี้มากๆ เขาจินตนาการไปว่าในตอนที่เขากลับบ้าน ลูกสาวของเขาอาจจะจำพ่อของเธอไม่ได้ด้วยซ้ำ
เอ็กซ์ควิสิทยืนนิ่งไป เธอไม่ได้มอบคำตอบให้กับหานเซิ่นในทันที แต่ใบหน้าของเธอดูเหมือนกำลังครุ่นคิด
“มีอะไรอย่างนั้นหรอ? นี่ช่วยพูดอะไรสักหน่อยได้ไหม?” หานเซิ่นร้องขอ
เอ็กซ์ควิสิทขยับริมฝีปากอยู่ชั่วครู่ หลังจากนั้นเธอก็พูดสิ่งที่หานเซิ่นไม่ได้คาดคิดเอาไว้
“ทะเลฝังมังกรไม่ได้มีมังกรขั้นทรูก็อตอะไรนั่นอยู่ นั่นเป็นเพียงแค่ตำนาน…” เอ็กซ์ควิสิทมองหานเซิ่นอย่างแปลกๆ
“ไม่มี?” หานเซิ่นตกตะลึง หลังจากนั้นเขาก็พูดขึ้นมา
“นั่นเป็นไปได้ยังไง? ถ้าอย่างนั้นป่าปะการังโลหิตและร่างของมังกรที่ข้าพบคืออะไรกัน?”
“ข้าไม่รู้ว่าป่าปะการังโลหิตหรือร่างของมังกรนั่นมาจากไหน แต่ข้ามั่นใจว่าทะเลฝังมังกรนั้นไม่ได้มีมังกรขั้นทรูก็อตอะไรนั่น หรืออย่างน้อยๆมันก็ไม่ได้มีซีโน่เจเนอิคขั้นทรูก็อตอยู่ ที่มันถูกเรียกว่าทะเลฝังมังกรก็เพราะว่ายอดฝีมือที่ถูกเรียกว่ามังกรเสียชีวิตที่นั่น หลังจากนั้นผู้คนก็เริ่มจะเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับสถานที่แห่งนั้น และที่สุดแล้วตำนานเกี่ยวกับมังกรชั่วร้ายขั้นทรูก็อตก็ถูกสร้างขึ้นมา” เอ็กซ์ควิสิทพูด
“ถึงแม้ตำนานนั่นจะเป็นแค่เรื่องแต่ง แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าทะเลฝังมังกรจะไม่ได้มีร่างของมังกรขั้นทรูก็อตอยู่” หานเซิ่นพูด
เอ็กซ์ควิสิทสัมผัสได้ถึงคำถามในจิตใจของหานเซิ่น ดังนั้นเธอจึงพูดต่อไปว่า
“เมื่อนานมาแล้วทะเลฝังมังกรนั้นไม่ได้มีอยู่ มันมียอดฝีมือที่ถูกเรียกว่ามังกรไปที่นั่นเพื่อต่อสู้ การต่อสู้นั้นได้ทำลายล้างภูมิประเทศแถบนั้นจนเกิดเป็นหลุมขนาดใหญ่ มันไม่ได้มีซีโน่เจเนอิคชั้นสูงอยู่ที่นั่น และเนื่องจากการต่อสู้ที่รุนแรง แม้แต่ทรัพยากรท้องถิ่นของพื้นที่นั้นก็ถูกทำลายไปด้วย มันไม่มีซีโน่เจเนอิคชั้นสูงตัวไหนที่จะไปที่นั่นด้วยตัวเอง ปลาไหลไฟฟ้าที่เจ้าฆ่าไปเป็นหนึ่งในซีโน่เจเนอิคที่ผู้อาวุโสของพวกเราจับไปปล่อยในทะเลเพื่อให้มันเติบโต ซีโน่เจเนอิคส่วนใหญ่ในทะเลก็ถูกพาตัวไปที่นั่นด้วยวิธีการแบบเดียวกัน ที่ผู้อาวุโสของพวกเรานำซีโน่เจอิคไปโยนลงในทะเลก็เพราะพวกเขาพยายามจะเพิ่มจำนวนซีโน่เจเนอิคในทะเลฝังมังกร ถ้าสิ่งมีชีวิตขั้นทรูก็อตเคยตกลงไปในทะเลฝังมังกรจริงๆ ทางเผ่าเวรี่ไฮก็คงจะไม่ลำบากทำอะไรแบบนั้น”
หลังจากที่หานเซิ่นได้ยินสิ่งที่เธอพูด เขาก็ยอมแพ้ เธอคงจะพูดถูก ถ้าสิ่งที่เธอพูดเป็นความจริง มันก็เป็นไปไม่ได้ที่ในทะเลจะมีร่างของซีโน่เจเนอิคขั้นทรูก็อตอยู่
“ถ้าเป็นไปไม่ได้ที่จะพบร่างของซีโน่เจเนอิคขั้นทรูก็อตที่นั่น แบบนั้นร่างกายที่เราเจอคืออะไรกัน? และยังป่าปะการังโลหิตนั่นอีก” หานเซิ่นรู้สึกสงสัย
เอ็กซ์ควิสิทสัมผัสได้ถึงคำถามของหานเซิ่น “ข้าเองก็ไม่แน่ใจ จากที่ข้ารู้เกี่ยวกับทะเลฝังมังกร มันไม่ควรจะมีสิ่งมีชีวิตที่ทรงพลังอยู่ที่นั่น…”
หานเซิ่นคิดอยู่สักครู่ หลังจากนั้นเขาก็ถามขึ้นว่า “ทำไมยอดฝีมือที่ถูกเรียกว่ามังกรคนนั้นถึงตายในทะเลฝังมังกร? เขาเป็นใครกัน? มันเป็นไปได้ไหมที่ป่าปะการังโลหิตและร่างของสิ่งมีชีวิตที่ข้าเจอจะเกี่ยวข้องกับเขา?”
เอ็กซ์ควิสิทยิ้มแห้งๆขณะที่สายหัว “ข้าไม่ได้รู้เกี่ยวกับเรื่องราวของเขามากนัก เพราะยังไงซะมันก็เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อนานมาแล้ว ข้ารู้แค่ว่ายอดฝีมือที่ถูกเรียกว่ามังกรที่ตายไปที่นั่นมาจากเซเคร็ด”
“เซเคร็ด?” หานเซิ่นตกใจ เขาพยายามควบคุมความคิดของตัวเอง ไม่อย่างนั้นเอ็กซ์ควิสิทก็อาจจะสัมผัสได้ถึงความจริงที่ว่าเขามีความเกี่ยวข้องบางอย่างกับเซเคร็ด
“เอาแบบนี้เป็นไง? ข้าจะพาเจ้าไปหาลุงเก้า เขาเป็นคนที่รับผิดชอบเรื่องการนำซีโน่เจเนอิคไปปล่อยลงในทะเลฝังมังกร บางทีเขาอาจจะรู้อะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้” เอ็กซ์ควิสิทพูดหลังจากที่คิดอยู่ชั่วครู่
หานเซิ่นไม่ปฏิเสธข้อเสนอแบบนั้น เขาและเอ็กซ์ควิสิทจึงรีบไปเยี่ยมเยือนลุงเก้าของเผ่าเวรี่ไฮ
ถึงแม้หานเซิ่นอยากจะรู้เกี่ยวกับคนที่ถูกเรียกว่ามังกรนี้ แต่เขาก็ไม่กล้าจะถามออกไป เขากลัวว่าอาจจะไม่สามารถควบคุมจิตใจไม่ให้คิดเกี่ยวกับเซเคร็ดได้ ถ้าเป็นแบบนั้น เอ็กซ์ควิสิทก็อาจจะรู้ว่าลูกชายของเขาอยู่ในเผ่าเซเคร็ดในตอนนี้
เอ็กซ์ควิสิทพาหานเซิ่นไปพบกับลุงเก้า ชายคนนั้นชอบหานเซิ่น ดังนั้นเขาดีใจที่เห็นหานเซิ่นมาเยือน ลุงเก้าดูเหมือนจะเป็นชายที่เบิกบาน แต่เมื่อเขาได้ยินเรื่องราวของหานเซิ่น ใบหน้าของเขาก็ดูถมึงทึง