“ทำไมข้าต้องหนีไปด้วย?” หานเซิ่นถามขณะที่ยืนนิ่งอยู่กับที่
“ข้าควบคุมมันได้ไม่นานนัก มันจะฆ่าเจ้า รีบหนีไป!” เด็กผู้หญิงพูดด้วยเสียงที่ดูตื่นตระหนก
หานเซิ่นมองเด็กผู้หญิงที่กำลังจับมีดเอาไว้ มือของเธอยังคงมีเลือดไหลออกมาเรื่อยๆ ขณะที่เลือดของเธอไหลออกมาสู่ใบมีด ออร่าของมีดก็จางลงไปเล็กน้อย แต่มันยังคงไม่ได้หายไป ออร่าของมีดยังอยู่ที่นี่และมันกำลังโหยหวนเบาๆ หานเซิ่นรู้ว่าถ้าเด็กผู้หญิงหยุดให้เลือดกับมันเมื่อไหร่ มีดก็จะไล่ล่าเขาอีกครั้ง
“ถ้าอย่างนั้นข้าจะไปตามที่เจ้าบอก แต่เจ้าช่วยบอกข้าได้ไหมว่าข้าจะออกไปจากดาวดวงนี้ได้ยังไง? อีกอย่างหนึ่งเจ้ามีชื่อว่าอะไรอย่างนั้นหรอ?”
หานเซิ่นรู้ว่าถ้าเขายังอยู่ที่นี่ต่อไป เขาก็จะสร้างความเจ็บปวดให้กับเธอยิ่งกว่าเดิม ด้วยเหตุนั้นเขาจึงหมอบลงเพื่อเตรียมตัวจะกระโดดขึ้นสู่ท้องฟ้า
เด็กผู้หญิงส่ายหัว “ข้าไม่รู้ แต่เจ้าจำเป็นต้องหนีไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุด”
“ข้าจะทำแบบนั้น ว่าแต่เจ้าช่วยบอกชื่อของเจ้าหน่อยได้ไหม?” หานเซิ่นถาม
“กู่หว่านเอ๋อ ตอนนี้เจ้าควรไปได้แล้ว ไปให้ไกลจากที่นี่และอย่าได้กลับมาจนกว่าข้าจะไปแล้ว” เด็กผู้หญิงพูด
หานเซิ่นเตรียมตัวจะจากไป แต่ในตอนที่เขาได้ยินชื่อของเธอ ร่างกายของเขาก็หยุดนิ่งไป เขามองไปที่เด็กผู้หญิงด้วยความแปลกใจและถาม
“ชื่อของเจ้าคือกู่หว่านเอ๋อ? เจ้ารู้จักไผ่เดียวดายไหม?”
หานเซิ่นจำได้ว่าครั้งหนึ่งไผ่เดียวดายเคยบอกว่าน้องสาวของเขามีชื่อว่าหว่านเอ๋อ และเนื่องจากเธอทำการอธิษฐานกับพระเจ้าและถูกพระเจ้าพาตัวไป นั่นเห็นเหตุการณ์ที่ชายคนนั้นไม่สามารถปล่อยไปได้
ถ้าหานเซิ่นจำได้ถูกต้อง น้องสาวของไผ่เดียวดายอายุราวๆสิบขวบในตอนที่เธอถูกพาตัวไป มันผ่านมาหลายปีแล้ว ดังนั้นน้องสาวของไผ่เดียวดายก็ควรจะโตขึ้นแล้ว การที่มาพบเธอในร่างเด็กนั้นเป็นอะไรที่น่าประหลาด
“เจ้า…เจ้ารู้จักพี่ชายของข้า…” รอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าของกู่หว่านเอ๋อขณะที่เธอมองมาที่หานเซิ่น
“ข้ารู้จักเขา พวกเราเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน ทำไมเจ้าถึงมาอยู่ที่นี่? และที่นี่คือที่ไหนกัน?” หานเซิ่นพูดและเหลือบมองไปที่มีดในมือของเธอ
หานเซิ่นจะจากไปถ้าพวกเขาเป็นแค่คนแปลกหน้า แต่ตอนนี้เมื่อเขารู้ว่าเด็กคนนี้เป็นน้องสาวของไผ่เดียวดาย เขาก็ไม่สามารถจากไปทั้งๆแบบนี้ได้
“ที่นี่คือฟาร์มของพระเจ้า มันเป็นเหมือนกับบุฟเฟ่ต์สำหรับมีดเทพ พระเจ้าพาข้ามาที่นี่เพื่อคอยดูแลมีด…” กู่หว่านเอ๋ออธิบาย หลังจากนั้นเธอก็รีบถาม “พี่ชายของข้าสบายดีไหม?”
ถึงแม้คำอธิบายของกู่หว่านเอ๋อจะสั้นมากๆ แต่หานเซิ่นก็เข้าใจ เธอถูกพาตัวมาโดยพระเจ้า หลังจากนั้นพระเจ้าก็มอบมีดเล่มนี้ให้กับเธอและมอบหมายให้เธอคอยดูแลมัน
มีดเทพเล่มนี้ดูเหมือนจะกินเลือดของสิ่งมีชีวิตเป็นอาหาร ที่แห่งนี้ถูกเรียกว่าฟาร์มของพระเจ้า แต่มันเป็นแค่หนึ่งในหลายๆที่ มันมีดวงดาวที่คล้ายคลึงกันอยู่มากมายในระบบจักรวาลแห่งนี้ และกู่หว่านเอ๋อก็จำเป็นต้องทำตามตารางเวลาอย่างเคร่งครัด เธอจะพามีดไปแต่ละดวงดาวตามเวลาที่ถูกกำหนดเอาไว้และปล่อยให้มีดเทพนี้ได้กินเลือดของสิ่งมีชีวิตต่างๆ
หานเซิ่นยังบอกได้อีกว่ามันมีช่องโหว่ในสิ่งที่เธอบอกกับเขา เธอปิดบังบางอย่างอยู่
“นอกจากเลือดของพวกซีโน่เจเนอิคแล้ว มันจำเป็นต้องกินเลือดของเจ้าด้วยถูกไหม?” หานเซิ่นถามกู่หว่านเอ๋อไปตรงๆ
กู่หว่านเอ๋อพยักหน้าและฝืนยิ้มออกมา “ข้าจำเป็นต้องให้เลือดของตัวเองกับมันทุกๆวัน แต่ไม่ต้องกังวล ข้ามีร่างกายที่เป็นอมตะ ในตอนที่ข้าหลับ ร่างกายของข้าก็จะฟื้นตัว ข้าไม่เป็นอะไร แต่พี่ชายของข้าล่ะ เขาสบายดีไหม? ถ้าเจ้าออกไปจากที่นี่ได้สำเร็จ อย่าบอกกับเขาได้ไหมว่าเจ้าพบกับข้า?”
“ไม่” หานเซิ่นรู้สึกแย่ ถึงแม้กู่หว่านเอ๋อจะไม่ได้พูดอะไรเกี่ยวกับตัวเองมากนัก แต่หานเซิ่นก็รู้ว่าพระเจ้าต้องทำบางสิ่งที่โหดร้ายกับเธอ พระเจ้าพากู่หว่านเอ๋อมาที่นี่และมอบร่างกายที่เป็นอมตะให้กับเธอเพื่อที่เธอจะได้มอบเลือดให้กับมีด
กู่หว่านเอ๋อถูกบังคับให้สังเวยเลือดของตัวเอง ซึ่งทุกวันเธอจะต้องมอบเลือดของตัวเองให้กับมีดโดยไม่มีข้อยกเว้น เธอไม่สามารถแม้แต่จะตายได้
“เจ้าหมายความว่ายังไงที่ว่าไม่? เกิดอะไรขึ้นกับพี่ชายของข้า? พระเจ้าให้สัญญากับข้าว่าถ้าข้าช่วยดูแลมีดนี่ เขาจะให้พี่ชายของข้ามีชีวิตที่ดี…” กู่หว่านเอ๋อดูซีดไป
ร่างกายของเธอมีขนาดเล็ก และเห็นได้ชัดว่าเธอไม่มีเลือดมากนัก เลือดของเธอไหลออกมานานเกินไปและร่างกายของเธอก็ไม่สามารถทนต่อไปได้แล้ว
“ถ้าเจ้าไม่ได้อยู่ด้วย โลกนี้ไม่มีความหมายอะไรกับเขา”
หานเซิ่นเดินมาตรงหน้ากู่หว่านเอ๋อและยื่นมือออกไปแย่งมีดมาจากมือของเธอ “มอบมีดนั่นมาให้กับข้า”
“ไม่ ไม่ ไม่ เจ้าควรไปได้แล้ว มันจะฆ่าเจ้า…” กู่หว่านเอ๋อก้าวถอยหลังไป
หานเซิ่นรู้ว่ากู่หว่านเอ๋อไม่ได้พูดโกหก ตั้งแต่ที่เขาสัมผัสมีดเล่มนั้น เขาก็รู้ว่ามันเป็นอาวุธที่โหดร้าย นั่นเป็นเหตุผลที่หานเซิ่นคิดจะหนีไปในตอนแรก เขาไม่อยากจะเอาตัวเองมาเสี่ยง
แต่ตอนนี้เมื่อเขารู้ว่าน้องสาวของไผ่เดียวดายอยู่ที่นี่ และเธอกำลังถูกทรมาน เขาก็ไม่สามารถปล่อยเธอไปตามชะตากรรมได้ เขาต้องช่วยเธอไม่ว่ายังไงก็ตาม เขาหวังที่จะพากู่หว่านเอ๋อไปจากที่นี่
“มันฆ่าข้าไม่ได้” หานเซิ่นเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วและแย่งมีดออกมาจากมือของกู่หว่านเอ๋อ
ดวงตาของกู่หว่านเอ๋อเบิกกว้างในตอนที่เธอเห็นว่ามีดไม่ได้อยู่ในมือของเธออีกแล้ว เธอพูดขึ้นว่า “รีบคืนมันให้กับข้าเดี๋ยวนี้! นี่คือมีดเทพ มันน่ากลัวมากๆ และมันจะฆ่าเจ้า”
หานเซิ่นเพิกเฉยต่อกู่หว่านเอ๋อ เขาถือมีดเอาไว้และสังเกตใบมีดอย่างระมัดระวัง เมื่อไม่มีเลือดของกู่หว่านเอ๋อ สีเลือดของโลหะก็เริ่มจางหายไป เงาของปีศาจเริ่มจะปรากฏขึ้นอีกครั้ง มันหันมามองที่หานเซิ่น และมีดก็เริ่มจะสั่นไหวในมือของเขา
ตูม!
ในตอนที่มีดรู้สึกตัวว่าหานเซิ่นกำลังจับมันอยู่ แสงสีเลือดก็ส่องสว่างรอบตัวมีด พลังของหานเซิ่นไม่เพียงพอจะจับมีดเอาไว้ได้ และมีดก็บินออกจากมือของเขาไป
เงาปีศาจของมีดก่อตัวเป็นร่างกายที่ทำขึ้นจากเปลวไฟสีเลือด มันก่อตัวเป็นรูปร่างของมนุษย์ที่กำลังลุกเป็นไฟ มันถือมีดเอาไว้ในมือ และดวงตาสีแดงที่กลวงโบ๋ของมันก็จ้องตรงมาที่หานเซิ่นราวกับว่ามันไม่ได้ต้องการอะไรมากไปกว่าการดื่มเลือดของเขา
เงาสีเลือดเริ่มเคลื่อนไหว มีดฉีกผ่านอวกาศขณะที่มันฟันออกไปเพื่อโจมตีหานเซิ่น
“อย่าฆ่าเขา!” กู่หว่านเอ๋อตะโกน เธอก้าวเข้ามาตรงหน้าหานเซิ่นและกางแขนออก
ก่อนที่มีดนั่นจะเข้ามาสัมผัสเธอได้ หานเซิ่นก็จับตัวเด็กผู้หญิงตัวน้อยมาอยู่ด้านหลัง เขาชกหมัดออกไปปะทะกับมีดพร้อมกับพูดว่า
“จำเอาไว้ว่า ไม่ว่าเมื่อไหร่หรือที่ไหน เด็กผู้หญิงควรจะอยู่หลังผู้ชายและถูกปกป้อง”
ตูม!
ขณะที่เขากำลังพูด กำปั้นและมีดก็ปะทะกัน ผลลัพธ์ก่อให้เกิดคลื่นกระแทกที่ฉีกเข้าไปในทุ่งหญ้ารอบๆตัวพวกเขาจนก่อให้เกิดหลุมขนาดใหญ่
แกะที่อยู่ใกล้เคียงถูกลูกหลงไปด้วย เมื่อแรงระเบิดซัดมาถูกพวกแกะ มันก็เหลือแค่เลือดนองอยู่บนพื้น
หานเซิ่นไม่ได้กระเด็นถอยไปด้านหลัง แต่เขารู้สึกว่าบางสิ่งฉีกขาดในอกของเขา เขารู้สึกอยากจะกระอักเลือดออกมา แต่เขาอดกลั้นเอาไว้
มีดเทพส่งเสียงคำรามราวกับอสูรที่ชั่วร้ายกำลังประกาศท้า วินาทีต่อมา วิชาจีโนทั้งสี่ของหานเซิ่นก็ทำงานภายในร่างกายของเขา เขารวมร่างกับมนตราและเข้าสู่โหมดร่างต่อสู้ซีโน่เจเนอิค