aแอนเชี่ยนท์บลัดดราก้อนเลดี้ดูเหมือนกับว่ามีพลังที่จะใช้ทำลายท้องฟ้าและผืนดิน เพียงแค่เธอยกมือหรือเท้า เธอก็สามารถสยบศัตรูที่น่าสะพรึงกลัวได้ แต่ในความเป็นจริง เธอนั้นไร้ประโยชน์ หลังจากโจมตีไม่กี่ครั้ง เธอก็กลับกลายเป็นชิ้นปะการังโลหิตอีกครั้ง
ในตอนที่แอนเชี่ยนท์บลัดดราก้อนเลดี้กลายเป็นปะการังโลหิต ออร่าที่น่ากลัวของเธอก็หายไป ปีศาจสีเลือดจ้องมองไปที่ปะการังโลหิตอยู่สักพัก สติปัญญาของมันไม่ได้สูงอะไรมากนัก เมื่อมันรู้สึกตัวว่าไม่สามารถสัมผัสถึงออร่าของแอนเชี่ยนท์บลัดดราก้อนเลดี้ได้อีกต่อไป มันก็หันสายตากลับมาอยู่ที่หานเซิ่นอีกครั้ง
หานเซิ่นรู้สึกแย่ เขาคิดว่าแอนเชี่ยนท์บลัดดราก้อนเลดี้จะช่วยเขากำจัดมีดเทพนี้ไปได้ แต่ผลลัพธ์ที่ออกมาไม่ได้เป็นไปอย่างที่เขาหวังเอาไว้
แต่การปรากฏตัวของแอนเชี่ยนท์บลัดดราก้อนเลดี้ก็ไม่ได้ไร้ประโยชน์ซะทีเดียว อย่างน้อยแอนเชี่ยนท์บลัดดราก้อนเลดี้ก็ช่วยยืนยันข้อสงสัยของหานเซิ่นเกี่ยวกับมีดเทพนี้ มันเป็นเพียงแค่ซีโน่เจเนอิคจริงๆ มันแตกต่างไปจากสิ่งมีชีวิตที่เรียกตัวเองว่าพระเจ้า มันเป็นแค่สิ่งมีชีวิตที่สามารถโค้นล้มได้ด้วยการลองผิดลองถูกที่มากพอ
‘พระเจ้าเหล่านั้นต่อสู้ในจักรวาลจีโนไม่ได้ แต่มีดเทพนี้ทำได้ ดังนั้นมันไม่ได้เหมือนกับเจ้าของของมัน แต่ด้วยเหตุผลบางอย่างพระเจ้าเหล่านั้นสั่งให้กู่หว่านเอ๋อเลี้ยงดูซีโน่เจเนอิคที่น่าสะพรึงกลัวนี่… นั่นจะต้องหมายความว่ามันยังคงไม่เติบโตเต็มที่ เรายังมีโอกาสที่จะเอาชนะมันได้’ หานเซิ่นคิดกับตัวเอง เขาต้องการจะหาวิธีที่จะกำจัดมีดเทพนี้ให้ได้
แม้แต่แอนเชี่ยนท์บลัดดราก้อนเลดี้ก็มีพลังไม่เพียงพอที่จะทำลายมีดเทพนี้ เนื้อของมีดจะต้องเป็นอะไรที่พิเศษมากๆ และพลังประหลาดของมันก็ป้องกันหานเซิ่นจากการหลบหลีกได้
“ถ้ามันไม่ใช่สิ่งมีชีวิตที่ทรงพลังอย่างแปลกประหลาด พระเจ้าก็คงจะไม่จะเลี้ยงมันเอาไว้ แต่แอนเชี่ยนท์บลัดดราก้อนเลดี้ได้มอบคำใบ้ให้กับเราเรียบร้อยแล้ว มีดแสงของมันไม่ได้ไร้เทียมทานซะทีเดียว มันมีหนทางที่จะทำลายมีดแสงนั่นอยู่”
ขณะที่หานเซิ่นครุ่นคิดอยู่นั้น เจ้าปีศาจเงาสีเลือดก็หมดความอดทนและปลดปล่อยมีดแสงเพื่อโจมตีใส่หานเซิ่นอีกครั้ง
หานเซิ่นใช้การเทเลพอร์ตเพื่อหลบหลีกมันอีกครั้ง และเหมือนกับครั้งก่อนๆ ถึงแม้เขาจะหลบมีดแสงได้สำเร็จ แต่ในตอนที่มีดแสงไปถึงจุดที่เขาเคยอยู่ก่อนหน้านี้ บาดแผลก็จะปรากฏขึ้นบนร่างกายของเขา
“เข้าใจแล้ว! นี่จะต้องใช่แน่ๆ ที่มีดเทพใช้คือวิชาจีโนที่รวมกันระหว่างพลังธาตุกาลเวลาและธาตุอวกาศ”
หานเซิ่นทำการคาดเดาแบบนั้น ขณะที่เขาศึกษาการต่อสู้ระหว่างมีดเทพและแอนเชี่ยนท์บลัดดราก้อนเลดี้ ตอนนี้เมื่อเขาได้ประสบกับมันด้วยตัวเองอีกครั้ง เขาก็สามารถเปลี่ยนการคาดเดาให้กลายเป็นข้อเท็จจริงที่สามารถช่วยเหลือเขาได้
ปีศาจเงาสีเลือดกวัดแกว่งมีดในมือและส่งมีดแสงเข้าใส่หานเซิ่นอีกครั้ง
หานเซิ่นใช้วิชาจีโนทั้งสี่จนถึงขีดจำกัด ร่างต่อสู้ซีโน่เจเนอิคของเขาระเบิดด้วยพลังที่น่ากลัว ทักษะการเทเลพอร์ตและการเคลื่อนไหวของเขาถูกใช้ร่วมกัน แต่ที่สุดแล้วเขาก็ยังไม่สามารถหลบหลีกมีดแสงนั่นได้พ้น
หานเซิ่นเห็นบาดแผลปรากฏขึ้นบนอกของเขาอีกครั้ง แต่หานเซิ่นไม่ได้รู้สึกแปลกใจอะไร จริงๆแล้วเขารู้สึกดีใจที่เห็นแบบนั้น มีดแสงนั่นควรจะฟันถูกหัวของเขา แต่ตอนนี้มันแค่ถูกอกของเขา นั่นพิสูจน์ว่าการคาดเดาของเขานั้นถูกต้อง
“วิชาจีโนที่รวมธาตุกาลเวลาและอวกาศ มันเป็นพลังที่จะผ่านกาลเวลาและอวกาศ มันฟันถูกร่างกายของเราในตำแหน่งที่มันเคยอยู่ในอดีต เนื่องจากมันจะรู้เสมอว่าเรายืนอยู่ตรงไหนในอดีต การพยายามที่จะหลบหลีกจึงเป็นอะไรที่ไร้ประโยชน์ มันจะถูกตัวของเรา ไม่ว่าเราจะหนีไปที่ไหน ตราบใดที่มันจะโจมตีอดีตของเรา มันก็ไม่จำเป็นต้องสัมผัสร่างกายจริงๆของเรา ซุปเปอร์สเปชสแลซ มันเป็นวิชาจีโนที่น่ากลัว” หานเซิ่นสามารถมองทะลุถึงความลับพลังของมีดเทพ
แต่การมองทะลุถึงความลับของมันคือเรื่องหนึ่ง การที่จะป้องกันมันได้นั้นคืออีกเรื่อง
หานเซิ่นรู้ว่าการโจมตีนี้มีข้อจำกัดหลายอย่าง มันฟันอดีตที่ผ่านมาเพียงไม่นานเท่านั้น แต่ถึงจะรู้แบบนั้นหานเซิ่นก็หลบหลีกมันได้เพียงไม่กี่ครั้ง และมีดเทพก็จะพลาดไปฉิวเฉียดเท่านั้น เขาไม่สามารถหลบหลีกซุปเปอร์สเปชสแลซได้อย่างสมบูรณ์
ถ้ามันไม่ใช่เพราะอิมมอร์ทัลดราก้อนคอยรักษาร่างกายของหานเซิ่น เขาก็คงจะถูกฟันเป็นชิ้นๆไปนานแล้ว
“ไม่… มันยังไม่ได้ผล…”
นี่เป็นการต่อสู้ที่ยากที่สุดที่หานเซิ่นเคยประสบ เขารู้ถึงพลังของคู่ต่อสู้ แต่เขาไม่สามารถป้องกันมันได้ ร่างกายของเขายังคงได้รับบาดแผลอย่างต่อเนื่อง
“หยุดต่อสู้ได้แล้ว! เจ้าจำเป็นต้องหนีไป เจ้าเอาชนะมันไม่ได้ และเจ้าจะมาตายอยู่ที่นี่ไม่ได้!” กู่หว่านเอ๋อตะโกนใส่หานเซิ่นจากใกล้ๆกับรถม้า
หานเซิ่นเองก็อยากจะหนีไปเช่นกัน แต่เขาไม่สามารถไปจากดาวดวงนี้ได้ ดังนั้นมันไม่มีประโยชน์อะไรที่เขาจะพยายามหนีไป เขาจำเป็นต้องจัดการกับปัญหาตรงหน้า
“ฮ่า!” หานเซิ่นปล่อยเสียงคำราม มีดแสงนับไม่ถ้วนปรากฏในอากาศ สายธารของมีดดูเหมือนกับแม่น้ำในท้องฟ้าที่ไหลลงมาสู่ปีศาจเงาสีเลือด
หานเซิ่นไม่คิดว่ามีดสายธารจะทำลายมีดเทพได้ เขาแค่หวังว่ามันจะหยุดมีดเทพเอาไว้ได้นานพอ
แต่หานเซิ่นประเมินมีดเทพต่ำเกินไป มีดแสงสีเลือดของเจ้าปีศาจนั้นทะลุผ่านมีดแสงนับไม่ถ้วนและตรงเข้ามาหาหานเซิ่น
มีดแสงฟันมาถูกกล้ามเนื้อบริเวณคอของหานเซิ่น มันตัดคอของเขาเปิดออกและมีเลือดไหลทะลักออกมา
หานเซิ่นจำไม่ได้แล้วว่าตัวเองได้รับบาดเจ็บไปกี่ครั้งแล้ว ร่างกายของเขาทุกส่วนถูกโจมตีโดยศัตรู และหานเซิ่นพยายามใช้หลายวิธีที่จะหยุดซุปเปอร์สเปชสแลซของมีดเทพ แต่ไม่มีวิธีไหนที่ได้ผล
หานเซิ่นยังเคยพยายามที่จะใช้คัมภีร์นภาอำพัน เขาต้องการจะลดระดับพลังของมีดเทพลง แต่มันไม่ได้ผล วิชาจีโนนั้นไม่สามารถสัมผัสถูกร่างที่แท้จริงของมีดได้ หลังจากที่หานเซิ่นใช้พลังของคัมภีร์นภาอำพัน มีดเทพนั้นก็ยังคงฟันใส่ร่างในอดีตของเขา มันจึงไม่ได้ปะทะกันกับพลังของหานเซิ่น
อิมมอร์ทัลดราก้อนยังคงรักษาหานเซิ่นต่อไป ความสามารถในการรักษาที่สุดยอดของอิมมอร์ทัลดราก้อนนั้นเป็นเหตุผลเดียวที่ทำให้เขายังคงสามารถต่อสู้ต่อไปได้
“กู่หว่านเอ๋อ ตามข้ามา!” หานเซิ่นเทเลพอร์ตไปด้านข้างกู่หว่านเอ๋อและเรียกลูกบาศก์สี่แกะออกมา เขาคิดจะใช้ลูกบาศก์สี่แกะเพื่อหนีไป
ถึงแม้ปราสาทแห่งนั้นจะเป็นเหมือนกับคุก แต่มันก็ยังดีกว่าการที่ต้องเป็นอาหารของมีดประหลาดเล่มนี้
“ข้าไปไม่ได้ เจ้าควรจะรีบหนีไปจากที่นี่” กู่หว่านเอ๋อส่ายหัว
หานเซิ่นอยากจะถามว่าทำไม แต่เขาถูกฟันอีกครั้ง เขาส่งเสียงร้องออกมาขณะที่บินหนีไป
ปีศาจเงาสีเลือดพยายามจะไล่ตามหานเซิ่นไป แต่กู่หว่านเอ๋อเอาตัวเองเข้ามาขวางเอาไว้ หานเซิ่นมองดูสิ่งที่เกิดขึ้นด้วยความตกใจ
โชคดีที่มีดแสงของเจ้าปีศาจไม่ได้ฟันใส่เธอ มันไม่ต้องการจะฆ่ากู่หว่านเอ๋อ มันพยายามจะอ้อมผ่านกู่หว่านเอ๋อเพื่อเข้าไปโจมตีหานเซิ่น
แต่กู่หว่านเอ๋อยืนขวางระหว่างพวกเขา เธอใช้มือกำใบมีดของมีดเทพและเลือดจากมือของเธอก็ย้อมใบมีดเป็นสีแดง เลือดหลั่งไหลออกมาจากบาดแผลบนมือของเธอ และไม่กี่วินาทีต่อมาใบหน้าของกู่หว่านเอ๋อก็ดูซีดเซียว
“รีบหนีไปตอนนี้… มันยังจำเป็นต้องมีข้า… มันจะไม่ฆ่าข้า… แถมข้าก็มีร่างกายที่เป็นอมตะ… ข้าจะไม่ตาย… แต่เจ้าจะต้องตายถ้าเจ้ายังอยู่ที่นี่…”
กู่หว่านเอ๋อกำมีดเทพเอาไว้แน่นขณะที่ตะโกนออกมา เห็นได้ชัดว่าเธอตัดสินใจอย่างหนักแน่นที่จะไม่ปล่อยให้มันหลุดมือไปได้