“ข้าต้องกล่าวขออภัยทุกท่านที่มาในวันนี้ ข้าเสียใจที่ต้องแจ้งให้ทุกท่านทราบว่าแผนการของพวกเราถูกเปลี่ยนแปลง เพื่อหลีกเลี่ยงทุกคนจากการคิดว่าเผ่าฟลาวเวอร์ก็อตนั้นเชื่อถือไม่ได้ พวกเราจะขอให้ทุกท่านมากับพวกเราเพื่อที่พวกเราจะได้อธิบายให้ทุกท่านได้เห็นกับตาตัวเอง” คำพูดของไวโอเล็ตทำให้ทุกคนที่มารู้สึกแปลกใจ
“เกิดอะไรขึ้นกับเผ่าฟลาวเวอร์ก็อต? ข้าพอจะช่วยเหลืออะไรได้บ้างไหม?” องค์ชายไป๋ว่านเจี้ยของเอ็กซ์ตรีมคิงรีบพูดขึ้นมา
เขาเพิ่งจะกลายเป็นระดับเทพเจ้าเมื่อไม่นานมานี้ เขาจึงเป็นแค่ระดับเทพเจ้าขั้นพริมิทีฟเท่านั้น ดังนั้นเขาไม่ใช่คนที่แข็งแกร่งที่สุดในที่แห่งนี้ แต่ในฐานะรัชทายาทของเอ็กซ์ตรีมคิง เขาคือหนึ่งคนที่คู่ควรจะเป็นตัวแทนของคนที่มาเข้าร่วมงานในครั้งนี้
“ขอบคุณองค์ชายมากที่เป็นห่วง เผ่าของพวกเราจำเป็นต้องได้รับความช่วยเหลือ ข้าจึงอยากเชิญทุกท่านเข้าไปในสเปชการ์เด้นด้วยกัน”
ความเงียบเข้าปกคลุมงานเลี้ยง
เผ่าฟลาวเวอร์ก็อตนั้นไม่เคยเชิญให้คนนอกเข้าไปในสเปชการ์เด้น ผู้คนภายนอกรู้แค่ว่าสเปชการ์เด้นนั้นเต็มไปด้วยทรัพยากรสำหรับจีโนฟลูอิดระดับสูง ส่วนข้างในเป็นยังไงนั้นแทบไม่มีใครคนอื่นนอกจากคนของฟลาวเวอร์ก็อตที่เคยได้เห็นมัน
ตลอดประวัติศาสตร์ที่ยาวนาน มีคนนอกเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่ได้รับอนุญาตให้เข้าไปในสเปชการ์เด้น และพวกเขาก็เป็นคนที่ใกล้ชิดกับเผ่าฟลาวเวอร์ก็อตมากๆ แต่ยอดฝีมือระดับเทพเจ้าที่มารวมตัวกันที่นี่นั้นแทบจะไม่ได้มีความสัมพันธ์ใดๆกับเผ่าฟลาวเวอร์ก็อต ถึงแม้พวกเขาจะเรียกได้ว่าเป็นคนแปลกหน้า แต่เผ่าฟลาวเวอร์ก็อตก็เชิญพวกเขาเข้าไปในสเปชการ์เด้นอยู่ดี สถานการณ์ทั้งหมดนี่เป็นอะไรที่ค่อนข้างแปลก
ไวโอเล็ตดูเหมือนจะรู้ว่าทุกคนกำลังคิดอะไรอยู่ เขารีบพูดขึ้นมา
“พรสวรรค์ไม่ใช่แค่เหตุผลเดียวที่ทำให้พวกเราสร้างจีโนฟลูอิดที่พิเศษขึ้นมาได้ ความจริงแล้วเหตุผลหลักคือสเปชการ์เด้นนั้นมอบทรัพยากรที่พิเศษให้กับพวกเรา ด้วยเหตุนั้นมันจึงไม่มีใครลอกเลียนแบบจีโนฟลูอิดที่พวกเราสร้างขึ้นมาได้”
“เจ้ากำลังจะบอกว่ามีบางสิ่งเกิดขึ้นกับทรัพยากรที่ใช้สร้างจีโนฟลูอิดอย่างนั้นหรอ?” ดราก้อนวันถามไวโอเล็ต
หลังจากที่ได้ยินแบบนั้น ทุกคนก็คิดว่าที่ดราก้อนวันพูดนั้นฟังดูสมเหตุสมผล ถ้ามันไม่มีปัญหาอะไรกับทรัพยากรของสเปชการ์เด้น ไวโอเล็ตก็คงจะไม่ยอมเปิดเผยความลับของเผ่าฟลาวเวอร์ก็อตแบบนั้น
ไวโอเล็ตพยักหน้าและพูด “มันมีปัญหาที่ร้ายแรงมากๆ และถ้าพวกเราไม่แก้ไขมัน ข้ากลัวว่าฟลาวเวอร์ก็อตจะสร้างจีโนฟลูอิดแบบเดิมไม่ได้อีกแล้ว”
“ปัญหาคืออะไร? เจ้าบอกกับพวกเรามา มันมียอดฝีมืออยู่ที่นี่มากมาย และแม้แต่รัชทายาทของเอ็กซ์ตรีมคิงก็อยู่ด้วย พวกเราจะช่วยเหลือพวกเจ้า” เดียร็อบเบอร์พูด
“ใช่แล้ว พวกเราจะหาทางช่วยพวกเจ้าร่วมกัน พวกเราจะไม่ปล่อยให้จีโนฟลูอิดของเผ่าฟลาวเวอร์ก็อตต้องสูญสิ้น นั่นจะเป็นการสูญเสียครั้งใหญ่ของทั้งจักรวาล” ทุกคนต่างก็แสดงการสนับสนุน
แต่เหนือสิ่งอื่นใดพวกเขาแค่อยากจะรู้ความลับของเผ่าฟลาวเวอร์ก็อต พวกเขาแค่เสนอความช่วยเหลือเพราะผลประโยชน์ของตัวเอง มันไม่มีใครที่จะช่วยเผ่าฟลาวเวอร์ก็อตโดยไม่มีเหตุผล
ไวโอเล็ตถอนหายใจและพูด “ข้าอยากจะบอกเรื่องทั้งหมดกับทุกท่านเพื่อที่พวกเราจะได้แก้ไขปัญหานี้อย่างรวดเร็ว แต่ข้อมูลนี้ถือเป็นความลับสุดยอดของฟลาวเวอร์ก็อต ท่านผู้นำสั่งห้ามไม่ให้พวกเราบอกมันกับใคร ไม่อย่างนั้นพวกเราจะถูกเนรเทศ”
“ไวโอเล็ต นั่นมันหมายความว่ายังไง? เจ้าขอให้พวกเรามาที่นี่ แต่ตอนนี้เจ้าไม่คิดจะบอกอะไรกับพวกเรา แบบนั้นพวกเราจะช่วยเหลือพวกเจ้าได้ยังไง?” ระดับเทพเจ้าที่อารมณ์ร้อนพูดขึ้นมา
ใบหน้าของไวโอเล็ตดูหม่นหมอง เขาถอนหายใจและพูด
“เผ่าฟลาวเวอร์ก็อตต้องการให้ทุกท่านมาที่สเปชการ์เด้นเพื่อช่วยพวกเรา แต่ก่อนที่จะเข้าไปในสเปชการ์เด้น ข้าบอกทุกท่านไม่ได้ว่าเกิดอะไรขึ้นภายในนั้น ข้ารู้ว่านี่เป็นอะไรที่เสียมารยาท แต่พวกเราไม่มีทางเลือก สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นอะไรที่สำคัญสำหรับพวกเรา ดังนั้นพวกเราจะเสี่ยงแพร่งพรายความลับออกไปไม่ได้”
“เจ้าไม่บอกอะไรพวกเรา และเจ้ายังต้องการให้ความช่วยเหลือของพวกเรา? พวกเราจะรู้ได้ยังไงว่าพวกเราจะช่วยได้หรือไม่?” ไป๋ว่านเจี้ยพูด
“พวกเรารู้ว่านี่เป็นอะไรที่น่าอึดอัดสำหรับทุกท่าน ดังนั้นถ้าท่านไหนไม่ต้องการจะเข้าไป พวกเราจะไม่บังคับท่าน พวกเรายอมปล่อยให้ทรัพยากรของพวกเราถูกทำลายดีกว่าปล่อยให้ความลับแพร่งพรายออกไป” ไวโอเล็ตพูด
“สิ่งที่เจ้าพูดไม่สมเหตุสมผล ถึงแม้พวกเราจะไม่รู้ในตอนนี้ แต่พวกเราก็จะรู้ความลับของพวกเจ้าอยู่ดีหลังจากที่พวกเราเข้าไปข้างใน”
“ใช่แล้ว เจ้าควรบอกพวกเราในตอนนี้ แบบนั้นในตอนที่พวกเราเข้าไป พวกเราจะได้มีหนทางแก้ปัญหาเตรียมพร้อมไว้”
ไม่สำคัญว่าคนอื่นนั้นจะพูดยังไง ไวโอเล็ตก็ยังคงยืนกรานที่จะไม่บอกรายละเอียดอะไร
“มันไม่มีประโยชน์อะไรที่จะพูดคุยต่อไป ถ้าท่านไหนต้องการช่วยพวกเรา พวกเราจะทำทุกอย่างเพื่อตอบแทนบุญคุณ ถ้าท่านไหนไม่ยินดีจะช่วย นั่นก็ไม่เป็นอะไร แต่สถานการณ์ในตอนนี้สถานการณ์เร่งด่วน ข้าจำเป็นต้องกลับไปในสเปชการ์เด้นเดี๋ยวนี้ ท่านไหนยินดีจะช่วยพวกเรา ขอให้เดินทางเข้าไปในสเปชการ์เด้นร่วมกับข้าในตอนนี้ ไม่อย่างนั้นพวกเราก็คงจะต้องแยกทางกันที่นี่และหวังว่าสักวันหนึ่งพวกเราจะได้พบกันอีกครั้ง”
ทุกคนเริ่มปรึกษากันว่าควรจะทำยังไงกันดี พวกเขาไม่ได้คาดคิดว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น
แต่ไม่นานก็มีใครบางคนพูดขึ้นมาว่าเขาตกลงจะช่วยเผ่าฟลาวเวอร์ก็อต คนๆนั้นเดินไปเข้าร่วมกับไวโอเล็ต
หานเซิ่นและเซี่ยชิงมองหน้ากัน ดูเหมือนพวกเขาจะรู้ว่ามันจะเป็นแบบนี้ ทุกคนที่มานั้นสนใจความลับของเผ่าฟลาวเวอร์ก็อต ไม่อย่างนั้นพวกเขาก็คงจะไม่มาที่นี่ตั้งแต่แรก ตอนนี้มันมีโอกาสที่ได้เห็นความลับของเผ่าฟลาวเวอร์ก็อตกับตาตัวเอง ดังนั้นไม่มีใครที่อยากจะพลาดโอกาสแบบนี้ไป
ถึงแม้มันจะมีบางอย่างที่ไม่ชอบมาพากล แต่เผ่าฟลาวเวอร์ก็อตก็เป็นเพียงแค่เผ่าเล็กๆ พวกเขาไม่ได้มีระดับเทพเจ้า ดังนั้นพวกเขาไม่ได้กลัวอะไรที่เผ่าฟลาวเวอร์ก็อตอาจจะทำ
ถึงแม้เผ่าฟลาวเวอร์ก็อตจะวางแผนการร้ายบางอย่างเอาไว้ เหล่ายอดฝีมือก็เชื่อมั่นในพลังของตัวเอง
“พวกเราจะไปไหม?” หานเซิ่นถามเซี่ยชิง
“ไหนๆพวกเราก็มาถึงที่นี่แล้ว พวกเราไม่ควรกลับไปมือเปล่า พวกเราควรจะเข้าไปดูว่าดินแดนในอนาคตของพวกเราดูเป็นยังไง” เซี่ยชิงยักไหล่ขณะที่พูด
“นายพูดถูก” หานเซิ่นพยักหน้า เขามาที่นี่ในฐานะลูกน้องของเซี่ยชิง เขาไม่สามารถพูดขัดได้ ดังนั้นเขาปล่อยให้เซี่ยชิงเป็นคนตัดสินใจ
ไวโอเล็ตไม่ได้ปฏิเสธใคร เขายินดีรับทุกคนที่อาสาจะเข้าไปช่วยในสเปชการ์เด้น ไม่ว่าคนๆนั้นจะเป็นระดับราชันหรือระดับเทพเจ้า
ก่อนที่พวกเขาจะออกเดินทาง ไวโอเล็ตก็บอกกับพวกเขาว่าการเดินทางนี้เป็นการเดินทางที่อันตราย และพวกเขาจำเป็นต้องไตร่ตรองให้ดี
แต่ที่สุดแล้วยอดฝีมือทุกคนที่มาร่วมงานก็ตัดสินใจตามไวโอเล็ตไป พวกเขาทุกคนขึ้นยานรบของเผ่าฟลาวเวอร์ก็อตและเดินทางออกจากดวงดาวที่เป็นของเทาซันด์เทรเชอร์
หานเซิ่นและเซี่ยชิงเองก็ขึ้นยานรบไปเช่นกัน เนื่องจากมันมีเผ่าพันธุ์ต่างๆมากมาย ทั้งเผ่าชั้นสูงและเผ่าพันธุ์ชั้นต่ำปะปนกันอยู่บนยานรบ เซี่ยชิงและหานเซิ่นจึงไม่โดดเด่นมากจนเกินไป
ขณะที่หานเซิ่นและเซี่ยชิงกำลังกินอาหารอยู่ในยานรบ จู่ๆเดียร็อบเบอร์ก็เดินเข้ามา เขาดูตื่นเต้นที่ได้เห็นเซี่ยชิง
“ท่านคือผู้แต่งรักของท่านประธานผู้เอาแต่ใจ อาจารย์เซี่ยใช่ไหม?”
“ข้าคือเซี่ยชิง” เซี่ยชิงเคยชินกับเหตุการณ์แบบนี้แล้ว เขายิ้มอย่างเป็นมิตรขณะที่พูด
“ใช่อาจารย์เซี่ยจริงๆ! นี่มันเยี่ยมไปเลย ในที่สุดข้าก็ได้พบกับอาจารย์เซี่ย ข้าเป็นแฟนตัวยงของอาจารย์…” เดียร็อบเบอร์จับมือของเซี่ยชิงอย่างหลงไหล
หานเซิ่นรู้สึกแปลกใจ เดียร็อบเบอร์นั้นเป็นอนาคตของเผ่าเดสทรอยเยอร์ เขาคือคนที่สามารถฆ่าผู้คนด้วยการโบกมือ แต่เขาเป็นแฟนตัวยงของเซี่ยชิง มันเป็นอะไรที่หานเซิ่นไม่อาจจะเข้าใจได้
“นี่เขาพูดจริงงั้นหรอ?” หานเซิ่นสงสัย เขาไม่เคยคิดว่าคนอย่างเดียร็อบเบอร์จะชอบอ่านอะไรแบบนั้นด้วย เขาคิดว่าเผ่าเดสทรอยเยอร์คงจะหาข้ออ้างเพื่อเข้าใกล้เซี่ยชิงมากกว่า
“อาจารย์เซี่ย ข้าขอลายเซ็นของอาจารย์หน่อยได้ไหม?” เดียร็อบเบอร์ถามขณะที่นำเอากระดาษและปากกาออกมา
“ได้อยู่แล้ว” เซี่ยชิงพูดด้วยโทนเสียงที่เป็นมิตร เขาจับปากกาและเริ่มเขียนลายเซ็นของตัวเอง เขาเขียนชื่อของเขาเหมือนกับมังกรและฟีนิกซ์ที่บินไปด้วยกัน
‘ทำไมลายเซ็นของเขาถึงได้ดูเหมือนกับมังกรและฟีนิกซ์ที่กำลังเต้นระบำ?’
หานเซิ่นไม่สามารถบอกได้ว่าคำเหล่านั้นหมายความว่าอะไร หรือบางทีพวกมันอาจจะไม่ใช่ตัวอักษรด้วยซ้ำ พวกมันดูยุ่งเหยิงและน่าสบสัน หานเซิ่นเดิมพันว่าไม่มีใครสามารถอ่านสิ่งที่เซี่ยชิงเขียนลงไปได้
เดียร็อบเบอร์ดูเหมือนว่าเขาได้พบสมบัติที่ล้ำค่า เขารับมันไปอย่างระมัดระวังและเก็บซ่อนมันเอาไว้ในเสื้อผ้า