ไป๋ว่านเจี้ยใช้อาวุธระดับเทพเจ้าตัดผ่านสมองของฟลาวเวอร์ก็อตคนหนึ่ง แต่ถึงสมองจะถูกทำลาย ฟลาวเวอร์ก็อตคนนั้นก็ฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว
สเปชการ์เด้นที่กว้างใหญ่เต็มไปด้วยเสียงการฆ่าฟัน เหล่าราชันที่มานั้นตอนนี้ถูกฆ่าตายไปหมดแล้ว แม้แต่เหล่ายอดฝีมือระดับเทพเจ้าก็สถานการณ์ไม่ค่อยสู้ดีนัก เลือดกระจัดกระจายทุกหนทุกแห่ง
“ไปกันเถอะ!” หานเซิ่นมองไปที่ไผ่เดียวดายและเห็นว่าชายเผ่านภาที่มีพรสวรรค์คนนั้นยังมีพลังที่จะต่อสู้ต่อไป ด้วยเหตุนั้นหานเซิ่นจึงไม่ได้กังวลเกี่ยวกับชายคนนั้นมากนัก เขาคว้าแขนของเซี่ยชิงและบินตรงลึกเข้าไปในสเปชการ์เด้น
ส่วนลึกของสเปชการ์เด้นนั้นไม่ได้ปลอดภัยเช่นเดียวกัน แต่หานเซิ่นสัมผัสได้ถึงตัวตนของไวโอเล็ตที่ไหนสักแห่งบริเวณนั้น และดูเหมือนกับว่าเขาจะไม่ได้อยู่ตัวคนเดียว มันมีฟลาวเวอร์ก็อตคนอื่นอยู่กับเขาด้วย
เหล่าฟลาวเวอร์ก็อตหลายคนโผล่ขึ้นมาจากพื้นและพยายามจะหยุดหานเซิ่นเอาไว้ แต่หานเซิ่นชกใส่ฟลาวเวอร์ก็อตกระเด็นออกไปราวกับเป็นกระสอบทราย ไม่มีใครหยุดหานเซิ่นได้ เขาฟันฝ่าเหล่าฟลาวเวอร์ก็อตจนมาถึงส่วนที่ลึกที่สุดของสเปชการ์เด้น ที่นั่นเขาได้พบกับต้นไม้ต้นหนึ่ง เขาชกกำปั้นใส่ลำต้นของต้นไม้จนเกิดเป็นรูขนาดใหญ่ขึ้น ดูเหมือนว่าต้นไม้นั้นจะกลวงโบ๋ หานเซิ่นจึงพาเซี่ยชิงข้างใน เมื่อพวกเขาเข้าไปข้างใน เหล่าฟลาวเวอร์ก็อตที่ไล่ตามพวกเขามาก็ถอยออกไป
“ที่นี่ดูแปลกมากๆ” เซี่ยชิงพูดขึ้นมาขณะที่เดินตามหลังหานเซิ่น
“มันแปลกจริงๆนั่นแหละ” หานเซิ่นพยักหน้าเห็นด้วยขณะที่มองไปรอบๆอย่างระมัดระวัง
พวกเขาทั้งคู่เดินไปบนเส้นทางใต้ดิน แต่ผนังรอบๆตัวพวกเขาไม่ได้ทำขึ้นมาจากดินหรือหิน พวกมันเป็นเถาวัลย์ขนาดใหญ่ที่พันกันเป็นกำแพงที่แข็งแรง ยิ่งไปกว่านั้นเถาวัลย์ยังกึ่งโปร่งใส ซึ่งทำให้พวกมันดูเหมือนกับเส้นเลือด หานเซิ่นไม่สามารถบอกได้ว่าภายในเถาวัลย์นั้นคืออะไร แต่เขาสามารถบอกได้ว่ามีบางสิ่งกำลังเคลื่อนไหวอยู่ภายในนั้น
หลังจากที่เดินไปได้ไม่นานพวกเขาก็เห็นว่าทางข้างหน้าเริ่มเปิดกว้างมากขึ้น พวกเขาออกไปสู่พื้นที่ว่างขนาดใหญ่ เถาวัลย์นับไม่ถ้วนร่วมตัวกันเป็นกำแพงของโลกใต้ดินอันกว้างใหญ่
หานเซิ่นพบไวโอเล็ตและฟลาวเวอร์ก็อตคนอื่นที่นั่น พวกเขากำลังยืนอยู่หน้าเถาวัลย์ขนาดใหญ่ที่เชื่อมพื้นกับเพดาน
“ไวโอเล็ต เจ้าเป็นผู้ชายที่ชั่วร้ายมากๆ กลลวงของเจ้านำภัยมาสู่ผู้คนมากมาย เจ้าคิดว่าจะรอดตัวไปได้อย่างนั้นหรอ?” หานเซิ่นถามขณะที่เดินเข้าไปหาไวโอเล็ตอย่างช้าๆ
แต่ไวโอเล็ตและคนอื่นไม่แม้แต่จะชำเลืองมองหานเซิ่น มือของพวกเขาประสานในท่าสวดภาวนา และพวกเขาก็กำลังพึมพำกับตัวเอง
แต่ไวโอเล็ตนั้นตอบกลับหานเซิ่น “ถ้าพวกเราไม่ทำแบบนี้ ฟลาวเวอร์ก็อตก็จะต้องสูญพันธุ์ มันจะไม่มีอนาคตสำหรับพวกเรา”
ขณะที่ไวโอเล็ตพูด หานเซิ่นและเซี่ยชิงก็เดินมาถึง แต่ทั้งสองคนหันไปมองสิ่งที่กำกำลังดึงดูดความสนใจของพวกเขา และพวกเขาก็ได้เห็นสิ่งมีชีวิตหนึ่งอยู่ภายในเถาวัลย์ที่พัวพันกันอยู่ตรงใจกลาง มันดูเหมือนกับยักษ์
สิ่งมีชีวิตในเถาวัลย์นั้นมีความสูงหนึ่งร้อยเมตร และร่างกายทั้งร่างของมันก็ดูเหมือนกับหยก ผิวหนังของมันแวววาวราวกับคริสตัล เถาวัลย์จำนวนมากเชื่อมต่อกับร่างกายของมันจากจุดต่างๆ พวกมันกำลังดูดซับพลังงานออกจากร่างกายของยักษ์
“มันคืออะไร?” หานเซิ่นถามขณะที่มองไปที่รูปปั้นยักษ์หยก เขารู้สึกได้ถึงออร่าที่คุ้นเคยจากยักษ์ที่อยู่ตรงหน้า
“เขาคือพระเจ้า” ไวโอเล็ตตอบ
“พระเจ้า? เขาเป็นพระเจ้าแบบไหน?” หานเซิ่นถามพร้อมกับขมวดคิ้ว
“เขาไม่ได้เหมือนกับสิ่งมีชีวิตระดับเทพเจ้าเศษสวะพวกนั้น นี่คือพระเจ้าที่แท้จริง เขาคือพระเจ้าที่ทำได้ทุกสิ่ง” สีหน้าของไวโอเล็ตดูเหมือนกับคนบ้าที่ควบคุมตัวเองไม่ได้
“เจ้ารู้ได้ยังไงว่าเขาคือพระเจ้าจริงๆน่ะ?”
ในที่สุดหานเซิ่นก็เข้าใจว่าทำไมยักษ์นี่ถึงมีออร่าที่คุ้นเคย ถึงแม้ยักษ์นี่ดูเหมือนว่าตายไปแล้ว แต่ร่างกายของมันก็ยังคงให้ความรู้สึกที่หานเซิ่นเกลียด มันไม่ใช่พระเจ้า แต่มันเป็นสิ่งมีชีวิตที่อ้างตัวว่าเป็นพระเจ้าเหมือนอย่างราชาจุน
“ข้าแค่รู้ว่าเขาคือพระเจ้า” ไวโอเล็ตพูด หลังจากนั้นเขาก็อธิบายต่อ
“สเปชการ์เด้นที่พวกเจ้ารู้จักนั้นเคยเป็นเห็ดหลินจือเล็กๆ มันมีขนาดเท่ามือคนๆหนึ่ง แต่เนื่องจากอุบัติเหตุอย่างหนึ่ง สปอร์ของเห็ดหลินจือขนาดเล็กนั่นปลิวมาบนร่างของพระเจ้าที่ตายไป มันดูดซับพลังของพระเจ้าและเติบโตจนกระทั่งมันเป็นอย่างทุกวันนี้ เห็ดหลินจือใหญ่โตจนกลายเป็นซีโน่เจเนอิคสเปช และมันก็ให้กำเนิดพืชซีโน่เจเนอิคมากมาย… ถ้าสิ่งมีชีวิตนี้ไม่ใช่พระเจ้า แบบนั้นแล้วศพของสิ่งมีชีวิตอะไรที่จะมอบพลังแบบนั้นได้?”
หานเซิ่นมองไปที่ยักษ์หยก เท่าที่เขารู้พระเจ้าไม่สามารถโจมตีสิ่งมีชีวิตในจักรวาลจีโนได้ แต่สิ่งมีชีวิตของจักรวาลจีโนก็ไม่ควรจะแตะต้องพวกเขาได้เช่นกัน
ถ้ายักษ์หยกตัวนี้เป็นพระเจ้าเหมือนอย่างราชาจุนจริงๆ ถึงแม้เขาจะตายไป มันก็ไม่น่าเป็นไปได้ที่จะใช้ศพของเขาเป็นฐานสำหรับการเจริญเติบโตของสิ่งมีชีวิตอื่น
‘สิ่งนี้คืออะไรกันแน่? มันเป็นศพของพระเจ้าจริงๆอย่างนั้นหรอ?’ หัวใจของหานเซิ่นเต้นรัวขณะที่เขาพยายามคิด
ก่อนที่หานเซิ่นจะได้ถามอะไรไปมากกว่านั้น ไวโอเล็ตก็พูดต่อไปด้วยท่าทางตื่นเต้น
“บรรพบุรุษของพวกเราได้เป็นพยานต่อการเริ่มต้นของเห็ดหลินจือ และพวกเขาได้ปกป้องที่แห่งนี้ด้วยชีวิตของพวกเขา พวกเขาพยายามจะหาคำตอบว่าพระเจ้านี้คืออะไรกันแน่ แต่พวกเขาหาคำตอบไม่พบ แต่ทว่าเผ่าพันธุ์ของพวกเราเริ่มจะมีดอกไม้ขึ้นบนหัว ดอกไม้เหล่านั้นมอบความสามารถที่จะพัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็วให้กับพวกเรา แต่ถึงพวกเราจะพัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็ว พวกเราก็ไล่ตามสิ่งมีชีวิตอื่นในจักรวาลที่พัฒนามากว่าพันล้านปีไม่ได้ แต่ความเร็วในการพัฒนาของพวกเรานั้นถูกเร่งอย่างก้าวกระโดด”
“หลังจากที่ผ่านหลายช่วงอายุคน ในที่สุดพวกเราก็ค้นพบหนทางที่จะดูดซับพลังจากพระเจ้าโดยตรง… พวกเขาแค่จำเป็นต้องเปลี่ยนตัวเองเป็นพืช พวกเราลอกเลียนแบบสิ่งที่เห็ดหลินจือทำกับศพของพระเจ้า มันดูดซับพลังของศพของพระเจ้าเข้าไป และพวกเราก็มีเจตนาที่จะทำแบบเดียวกัน”
“ข้าไม่คิดว่าแผนของพวกเจ้าเป็นไปได้สวย เหล่าฟลาวเวอร์ก็อตนั้นแข็งแกร่งขึ้นก็จริง แต่ดูเหมือนว่าพวกเขาจะเป็นบ้ากันหมด”
ตอนนี้หานเซิ่นเข้าใจแล้วว่าทำไมจู่ๆเหล่าฟลาวเวอร์ก็อตถึงได้มีระดับพลังที่น่าสะพรึงกลัวแบบนั้น มันเป็นเพราะพวกเขาดูดซับพลังจากศพของพระเจ้าเข้าไป
“นั่นก็ใช่ แต่พวกเราเชื่อว่าพวกเราสำเร็จมากกว่าล้มเหลว ในตอนนี้พวกเราดูดซับพลังงานจากศพของพระเจ้าได้โดยตรง พวกเราไม่จำเป็นต้องกินพืชซีโน่เจเนอิคอีกต่อไปแล้ว การทำแบบนี้เป็นอะไรที่รวดเร็ว ความแข็งแกร่งของพวกเราเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งนั่นพิสูจน์ว่าทฤษฎีของพวกเรานั้นถูกต้อง”
“ในอดีต มันเป็นไปไม่ได้ที่พวกเราจะไปถึงระดับเทพเจ้า แต่ตอนนี้หลังจากที่ดูดซับพลังจากศพของพระเจ้าเข้าไปตรงๆ ทุกคนก็เริ่มกลายเป็นระดับเทพเจ้าราวกับว่ามันเป็นสิ่งที่ง่ายที่สุดในโลก”
ขณะที่ไวโอเล็ตพูดแบบนั้น ใบหน้าของเขาก็เต็มเปี่ยมไปด้วยความภาคภูมิ
“แต่มันเป็นอะไรที่น่าเสียดาย ในตอนนี้ภาวะแทรกซ้อนอย่างหนึ่งแสดงขึ้น พวกเขาทนรับพลังของพระเจ้าไม่ได้ ดังนั้นพวกเขาจึงเริ่มจะกลายเป็นพืช แม้แต่ความรู้สึกนึกคิดก็เริ่มจะสูญสิ้น พวกเขาแม้กระทั่งฝังตัวเองลงในพื้นดินเหมือนอย่างพืช… แต่ข้าแตกต่างออกไป…”
“ทำไมเจ้าถึงแตกต่างออกไป?” หานเซิ่นรู้ว่านี่คือจุดที่สำคัญที่สุด เขาจ้องมองไปที่ไวโอเล็ต ซึ่งดูเหมือนจะบ้าขึ้นเรื่อยๆ
ใบหน้าของไวโอเล็ตเต็มไปด้วยความภาคภูมิใจ
“ข้าคือคนที่ถูกเลือก ข้ารับพลังของพระเจ้าได้โดยที่ไม่กลายเป็นพืชเหมือนกับคนอื่นๆ แต่ทว่าข้ามีปัญหาอยู่อย่างหนึ่ง ข้าจำเป็นต้องผ่านการทดสอบที่พระเจ้ามอบให้กับข้า”