หานเซิ่นกำลังถือกระดูกที่ดูเหมือนกับเถาวัลย์หยกอยู่ในมือ เขามองไปที่มันด้วยความสงสัย ในตอนที่สกายไวน์แรดิชระเบิดตัวเอง หานเซิ่นใช้ร่างกายเทพเจ้าสปิริตขั้นสุดยอดเพื่อเอาตัวรอดจากแรงระเบิดที่น่ากลัว
แต่สิ่งที่อยู่รอบๆตัวเขาไม่ได้โชคดีแบบนั้น ทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่รอบๆนั้นถูกทำลายด้วยแรงระเบิดนั่น มันไม่มีแม้แต่ฝุ่นที่หลงเหลืออยู่
มีเพียงแค่กระดูกที่ดูเหมือนกับหยกเท่านั้นที่เหลืออยู่ มันไม่ได้รับความเสียหายอะไรจากแรงระเบิดที่น่ากลัวนั่น มันเป็นกระดูกที่หานเซิ่นสันนิษฐานว่าเป็นจุดอ่อนของสกายไวน์แรดิช และเป็นยีนเทพสปิริตที่ประกาศในหัวของเขา
“ถ้ารู้ว่าการระเบิดตัวเองของสกายไวน์แรดิชจะระเหยเลือดไปจนหมด เราก็คงจะดื่มมันให้มากกว่านี้” หานเซิ่นพูดอย่างละโมบ
“มันไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะฆ่าเทพสปิริต และตอนนี้เราก็ได้แค่กระดูกชิ้นหนึ่งมา”
“โอ้ ไม่นะ! นี่เซี่ยชิงคงไม่ได้ตายไปในแรงระเบิดหรอกใช่ไหม?” หานเซิ่นนึกถึงเซี่ยชิงขึ้นมาได้
ก่อนที่หานเซิ่นจะได้ไปตามหาเซี่ยชิง เขาก็เห็นเซี่ยชิงโผล่ออกมาจากถ้ำด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยดิน เขาบินมาหาหานเซิ่นและพูด
“แรงระเบิดนั้นรุนแรงมาก มันเกือบจะฆ่าข้า”
หานเซิ่นรู้สึกโล่งใจขึ้นมา “โชคดีที่นายรีบหนีออกจากรัศมีของการระเบิดไปซะก่อน ไม่อย่างนั้นแม้แต่ยอดฝีมือระดับเทพเจ้าก็ทนต่อการระเบิดตัวเองนั่นไม่ได้”
เมื่อเห็นว่าเซี่ยชิงไม่เป็นอะไร ตอนนี้หานเซิ่นก็มีเวลาที่จะตรวจเช็คทะเลจิตของเขา มันมีร่างสปิริตของยักษ์ที่ดูเหมือนกับหยกอยู่ มันคล้ายคลึงกับร่างพระเจ้าของสกายไวน์แรดิช แต่ร่างจริงของสกายไวน์แรดิชนั้นมีรูปธรรม นี่เป็นแค่ร่างสปิริต
“ในตอนที่ซีโน่เจเนอิคธรรมดาตาย พวกมันจะทิ้งวิญญาณอสูรเอาไว้”
หานเซิ่นพูดขณะที่ตรวจสอบข้อมูลของร่างสปิริต “แต่สกายไวน์แรดิชนั้นทิ้งเทพสปิริตเอาไว้ มันแตกต่างกันยังไง?”
[สกายแรดิชก็อต: เทพสปิริตขั้นเดสทรัคชั่น]
“การเป็นขั้นเดสทรัคชั่นนั้นหมายความว่ายังไง?”
ในหัวของหานเซิ่นเต็มไปด้วยคำถาม ระดับขั้นของเทพสปิริตดูเหมือนจะแตกต่างไปจากวิญญาณอสูร และมันก็ไม่มีประเภทบ่งบอก มันมีเพียงแค่ระดับขั้นเท่านั้น และนี่เป็นขั้นเดสทรัคชั่น
หานเซิ่นลองเรียกสกายแรดิชก็อตออกมาเพื่อดูว่ามันทำอะไรได้
ร่างเทพสปิริตยักษ์ของสกายแรดิชปรากฎขึ้นตรงหน้าของหานเซิ่น ออร่าของมันเหมือนกับอสูรที่น่ากลัวอย่างที่สุด มันเหมือนกับว่ามันสามารถระเบิดโลกนี้ได้ด้วยหมัดเดียว
“สิ่งนี้เหมือนกับวิญญาณอสูรสัตว์เลี้ยงอย่างนั้นหรอ?”
หานเซิ่นทำการออกคำสั่งให้สกายแรดิชก็อตชกใส่กำแพงโดยใช้การความคิด
สกายแรดิชก็อตเชื่อฟังคำสั่งของหานเซิ่นและทำตามสิ่งที่เขาบอก แสงเทพสปิริตสีเขียวบนร่างกายของมันส่องสว่างออกมา ขณะที่มันชกใส่กำแพง
หานเซิ่นกังวลขึ้นมาเกี่ยวกับการที่สเปชการ์เด้นจะถูกทำลาย แต่ทันใดนั้นเขาก็อึ้งไป พลังของสกายแรดิชก็อตนั้นทะลุผ่านกำแพงไปราวกับว่าสกายแรดิชก็อตนั้นเป็นผี
“นี่เทพสปิริตเป็นเหมือนกับพระเจ้าอย่างนั้นหรอ? พวกเขาแตะต้องสสารของจักรวาลนี้ไม่ได้?” หานเซิ่นพยายามออกคำสั่งอีกหลายครั้ง แต่ไม่สำคัญว่าสกายแรดิชก็อตจะจะปลดปล่อยพลังออกมามากเท่าไหร่ มันก็ไม่สามารถทำลายใบไม้ที่เล็กที่สุดได้ หานเซิ่นรู้สึกผิดหวังกับเรื่องนั้น
“คิดว่านี่จะเป็นของดีซะอีก แต่มันแตะต้องอะไรไม่ได้ นี่เป็นแค่ขยะ”
หานเซิ่นคิด แต่เขาคิดต่อไปว่านั่นไม่ถูกต้อง “ถ้าเทพสปิริตเป็นเหมือนกับพระเจ้าที่แตะต้องสสารของจักรวาลไม่ได้จริงๆ มันก็พิสูจน์ว่าพวกมันเหมือนกัน นั่นหมายความว่าเทพสปิริตทำร้ายพระเจ้าได้อย่างนั้นหรอ?”
หานเซิ่นคิดว่านั่นอาจจะเป็นไปได้ แต่มันไม่มีพระเจ้าคนไหนที่จะมายืนเฉยๆให้เขาทดสอบ ด้วยเหตุนั้นหานเซิ่นจึงไม่สามารถยืนยันความคิดนั้นได้
“แต่ทำไมร่างจริงของสกายไวน์แรดิชถึงทำร้ายสิ่งมีชีวิตในจักรวาลจีโนอย่างเราได้? มันเป็นเพราะเขากำลังบาดเจ็บอย่างนั้นหรอ? หรือมันมีเหตุผลอื่นอยู่?” หานเซิ่นคาดเดาต่อไป เขาคิดว่าเรื่องทั้งหมดนี้ไม่ได้เป็นอะไรที่ง่ายแบบนั้น
เซี่ยชิงบินเข้ามาหาหานเซิ่นและมองเขาด้วยความสับสน
“นี่เจ้ากำลังทำอะไร? เจ้าเคลื่อนไหวขาและแขนไปๆมาๆ นี่แรงระเบิดทำลายสมองของเจ้าหรือยังไง?”
“นายไม่เห็นมันอย่างนั้นหรอ?” หานเซิ่นถามด้วยความสับสน
เซี่ยชิงมองไปที่หานเซิ่นและถาม “เห็นอะไร? เจ้าหมายถึงเถาวัลย์สีเขียวที่เจ้ากำลังถืออยู่อย่างนั้นหรอ?”
“นายไม่เห็นเขาหรือยังไง?” หานเซิ่นชี้ไปยังตำแหน่งที่สกายแรดิชก็อตอยู่
“มันมีใครอยู่ตรงนี้อย่างนั้นหรอ?” เซี่ยชิงยื่นมือออกไปเพื่อสัมผัสอะไรก็ตามที่อยู่ตรงนั้น แต่มันไม่มีอะไรให้สัมผัส มือของเขาทะลุผ่านร่างเทพสปิริตของสกายแรดิชก็อตไป
“มันมีวิญญาณอสูรที่นายสัมผัสไม่ได้อยู่ ฉันได้มันมาจากคนที่เรียกตัวเองว่าพระเจ้า” หานเซิ่นอธิบายสถานการณ์ของสกายแรดิชก็อตให้เซี่ยชิงฟัง
ในตอนที่เขาได้ยินแบบนั้น เซี่ยชิงก็เงียบไปชั่วครู่ก่อนที่จะพูดขึ้นมา
“เทพสปิริตที่เจ้าพูดดูคล้ายคลึงกับพระเจ้าอย่างนั้นหรอ? บางทีเจ้าอาจจะใช้มันต่อกรกับพระเจ้าได้”
“ฉันก็หวังแบบนั้น” หานเซิ่นพยักหน้า เขารู้สึกแย่มาโดยตลอดเกี่ยวกับการที่เขาไม่สามารถต่อสู้กับพระเจ้าได้ ถ้าเทพสปิริตต่อสู้กับพระเจ้าได้จริงๆ มันก็จะเป็นวิญญาณอสูรที่เขาหวงแหนยิ่งกว่าวิญญาณอสูรอื่นๆ
“เรื่องนั้นช่างมันก่อนเถอะ” เซี่ยชิงมองไปรอบๆและพูด
“พวกเราทำเสียงดังเกินไป ข้ากลัวว่ามันขึ้นอยู่กับเวลาเท่านั้นก่อนที่คนอื่นจะมาที่นี่ พวกเราควรรีบหนีไป”
หานเซิ่นพยักหน้า เขาเก็บกระดูกยีนเทพสปิริตเอาไว้ภายในหอคอยแห่งโชคชะตาและทำการหนีไปพร้อมกับเซี่ยชิง
หลังจากที่พวกเขาออกมาแล้ว พวกเขาก็เห็นจีโนฮอลล์ปรากฏขึ้นบนท้องฟ้า หานเซิ่นได้ยินเสียงดังมาจากจีโนฮอลล์ และเขาก็รู้สึกตัวอย่างรวดเร็วว่าสิ่งประจำตัวของพระเจ้าที่จีโนฮอลล์พูดถึงนั้นคงจะเป็นกระดูกยีนเทพสปิริตที่เขาได้มา
แต่หานเซิ่นไม่คิดจะเอายีนเทพสปิริตไปที่จีโนฮอลล์ เขาต้องการจะศึกษาเกี่ยวกับกระดูกก่อนเป็นอันดับแรก
หานเซิ่นคิดว่าสเปชการ์เด้นนั้นจะถูกทำลายโดยการระเบิดตัวเองของสกายไวน์แรดิช แต่เมื่อเขาดูดีๆแล้ว หานเซิ่นก็สังเกตเห็นว่าสเปชการ์เด้นไม่ได้ถูกทำลาย จริงๆแล้วมันมีขนาดใหญ่ยิ่งกว่าเดิม เขาไม่รู้ว่ามันใหญ่ขึ้นแค่ไหน แต่พืชซีโน่เจเนอิคในทุ่งดอกไม้นั้นเกิดการกลายพันธุ์ พวกมันกลายเป็นอะไรที่มีขนาดค่อนข้างใหญ่และแปลกประหลาด
ไม่ไกลจากพวกเขา หานเซิ่นเห็นต้นไม้ขนาดใหญ่ที่ดูเหมือนกับงูประหลาด มันปลดปล่อยออร่าที่น่ากลัวออกมา เขาสามารถบอกได้ว่ามันเป็นระดับเทพเจ้า
“ดูเหมือนว่าการระเบิดของสกายไวน์แรดิชจะกระจายพลังออกไป มันเป็นประโยชน์ต่อพืชซีโน่เจเนอิคที่อยู่รอบๆนี้ทั้งหมด และทำให้พวกมันวิวัฒนาการอย่างรวดเร็ว สเปชการ์เด้นในตอนนี้มีค่ามากกว่าสเปชการ์เด้นก่อนหน้านี้มาก มันเป็นอะไรที่เหมาะสมสำหรับพวกเราที่จะตั้งหลักปักฐาน น่าเสียดายที่ไวโอเล็ตถูกระเบิดเป็นชิ้นๆ นั่นหมายความว่าพวกเราไม่มีกุญแจที่จะเข้ามาในสเปชกาณ์เด้น” เซี่ยชิงดูเสียดายขณะที่เขาพูด
“มันต้องมีหนทางอยู่” หานเซิ่นเริ่มจะครุ่นคิด
“สเปชการ์เด้นนั้นคือซีโน่เจเนอิคเห็ดหลินจือขนาดยักษ์ ถ้ามันมีชีวิต นั่นหมายความว่าพวกเราพูดกับมันได้ แต่ฉันกลัวว่าสติปัญญาของเห็ดหลินจืออาจจะต่ำเกินไป ถ้ามันไม่เข้าใจคำพูดของพวกเรา มันก็อาจจะเป็นเรื่องยากที่จะโน้มน้าว”
ขณะที่หานเซิ่นกำลังคิด เขาก็ได้ยินเสียงผู้คนดังมาจากด้านซ้าย พวกเขากำลังทำการต่อสู้อยู่