Super God Gene – ตอนที่ 2796

“ข้ามีรูปภาพผู้หญิงสวยอยู่มากมาย ถ้าเจ้ายอมปล่อยข้าไป ข้าจะมอบให้เจ้าสิบรูปภาพ ไม่สิ ข้าจะมอบให้เจ้าเป็นร้อยๆรูปภาพเลย”
เมื่อรู้ว่าตัวเองมีค่าแค่รูปภาพรูปหนึ่ง หานเซิ่นก็รู้สึกหดหู่

 

“เจ้าไม่รู้อะไร นี่คือภาพไหมนภาที่ถูกวาดโดยชาโดว์คิงของเผ่าเอ็กซ์ตรีมคิง รูปภาพนี้คือภาพความรักในชีวิตของชาโดว์คิง แต่น่าเสียดายที่เขาไม่ได้นางมา ชาโดว์คิงเห็นคนที่เขาหลงรักบินขึ้นไปสู่ท้องฟ้าและฝ่าประตูเข้าไปในจีโนฮอลล์ ซึ่งหมายความว่าเขารู้ว่าตัวเองจะไม่มีวันได้เห็นนางอีกครั้ง ในความโศกเศร้าที่ลึกซึ้ง เขาตัดสินใจวาดภาพไหมนภานี้ขึ้นมา”

 

หลังจากหยุดไปชั่วครู่ โจรสลัดศักดิ์สิทธิ์ก็พูดต่อไปว่า
“รูปภาพนี้แสดงถึงความคิดถึงที่ชาโดว์คิงมีต่อนาง นี่ไม่ใช่ภาพวาดธรรมดาๆ เจ้าไม่มีทางหาภาพวาดที่แฝงไปด้วยอารมณ์มากขนาดนี้… มันเป็นรูปภาพที่ดีมากๆ…”

 

โจรสลัดศักดิ์สิทธิ์นั้นไม่ได้มองมาที่หานเซิ่น เขายังคงมองไปที่รูปภาพไหมนภาและชื่นชมมันอย่างหลงไหล

 

“นี่ผู้คนของเอ็กซ์ตรีมคิงใช้รูปภาพนี้เพื่อแลกเปลี่ยนกับชีวิตของเราอย่างนั้นหรอ?” หานเซิ่นคาดเดา

 

“เจ้าแค่ต้องนั่งอยู่ที่นี่นิ่งๆ และข้าจะไม่ทำอะไรเจ้า แต่ถ้าเจ้าไม่เชื่อฟังข้าล่ะก็ ข้าจะจับตัวเจ้าไปขัง”
โจรสลัดศักดิ์สิทธิ์ยังคงไม่มองมาที่หานเซิ่น เขาเชื่อว่าตัวเองเก่งกาจขนาดที่หานเซิ่นไม่มีวันหนีไปจากเขาได้

 

“เจ้าเป็นใครกัน?” หานเซิ่นถาม

 

“เจ้าเคยได้ยินเกี่ยวกับโจรสลัดศักดิ์สิทธิ์ของเผ่าโจรสลัดไหม?” โจรสลัดศักดิ์สิทธิ์ดูภาคภูมิขณะที่พูดออกมา

 

“ข้าเคยได้ยินเกี่ยวกับเผ่าโจรสลัด แต่ข้าไม่เคยได้ยินเกี่ยวกับโจรสลัดศักดิ์สิทธิ์มาก่อน”
หานเซิ่นไม่ได้คิดจะทำให้ชายแก่โกรธ เขาไม่เคยได้ยินเกี่ยวกับชายแก่จริงๆ เพราะยังไงซะหานเซิ่นก็ไม่ได้รู้เกี่ยวกับจักรวาลจีโนมากนัก สำหรับคนอย่างโจรสลัดแล้ว ถ้าใครบางคนไม่พูดถึงเขาขึ้นมา หานเซิ่นก็ไม่มีทางจะรู้เกี่ยวกับเขา

 

“มันไม่สำคัญว่าเจ้าจะรู้หรือไม่ แค่นั่งอยู่เฉยๆและรออยู่ที่นี้”
โจรสลัดศักดิ์สิทธิ์พูด หลังจากนั้นเขาก็เลิกสนใจหานเซิ่น เขาหันไปชื่นชมรูปภาพไหมนภาต่อไป

 

หานเซิ่นพยายามจะถามคำถามชายแก่อีกหลายคำถาม แต่โจรสลัดศักดิ์สิทธิ์ไม่ตอบคำถามของเขาเลยสักคำถาม ชายแก่ดูจะหลงใหลกับรูปภาพไหมนภาอย่างหัวปักหัวปำ

 

หานเซิ่นเอนหัวไปใกล้ๆเพื่อมองดูมัน และเขาก็สังเกตเห็นว่าเหนือก้อนเมฆไปนั้นมีวิหารที่ดูเหมือนกับปราสาท มันดูเหมือนกับจีโนฮอลล์ที่เขาเคยเห็น

 

หานเซิ่นอยากจะถามว่าผู้หญิงที่อยู่ในรูปนั้นคือใครกัน เพราะยังไงซะเธอก็มีพลังพอที่จะเข้าไปในจีโนฮอลล์ เธอจะต้องเป็นยอดฝีมือที่ทรงพลังอย่างที่สุด

 

แต่โจรสลัดศักดิ์สิทธิ์เมินเฉยเขาอย่างสมบูรณ์ ชายแก่นั้นหลงไหลกับรูปภาพจนน้ำลายเกือบจะไหลออกมาจากปากของเขา

 

หานเซิ่นกินผลไม้สองลูกที่ได้รับมาเข้าไป มันหวานมากๆ และหลังจากที่กินมันเข้าไป ความรู้สึกอุ่นก็เริ่มจะแพร่กระจายภายในร่างกายของเขา เขาคิดว่ามันอาจจะเป็นบางสิ่งที่พิเศษ แต่สำหรับร่างกายของเขาในตอนนี้ ผลไม้แบบนั้นไม่ได้ช่วยอะไรเขาเลยสักนิดเดียว

 

‘ชายแก่ที่น่าขนลุกคนนี้เรียกตัวเองว่าโจรสลัดศักดิ์สิทธิ์ เขาเข้าไปในสเปชการ์เด้นได้อย่างอิสระ ดังนั้นระดับพลังของเขาคงจะค่อนข้างสูง ซึ่งในตอนนี้เราใช้พลังอะไรไม่ได้ และเราก็คงจะหนีไปไม่ได้’
หานเซิ่นคิด หลังจากนั้นเขาก็หันไปหาโจรสลัดศักดิ์สิทธิ์และพูด “ข้าขอไปเดินดูรอบๆหุบเขาได้ไหม?”

 

เมื่อเห็นว่าชายแก่ยังคงเมินเฉยใส่เขา หานเซิ่นก็ลุกขึ้นยืนและเดินออกจากบ้านไม้ไป เขาอยากจะรู้ว่าตัวเองอยู่ที่ไหนกันแน่

 

หุบเขาแห่งนี้ไม่ใช่สถานที่ที่ใหญ่โตอะไร นอกจากบ้านไม้ไม่กี่หลังแล้ว ในหุบเขามีดอกไม้และต้นหญ้าที่แปลกประหลาดอยู่เต็มไปหมด มันมีสัตว์อยู่ทุกหนทุกแห่ง มันเป็นสถานที่ที่ดีสำหรับคนที่ต้องการความเป็นส่วนตัว

 

ไม่นานหลังจากนั้นหานเซิ่นก็ไปถึงทางเข้าของหุบเขา เขามองออกไปและเห็นบางสิ่งที่แตกต่างออกไปโดยสิ้นเชิง ทรายสีเหลืองนั้นอยู่ทุกหนทุกแห่ง เหนือหุบเขาไปคือทะเลทรายที่รกร้างว่างเปล่าที่กว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตา มันแตกต่างจากโลกที่อุดมสมบูรณ์ของหุบเขาโดยสิ้นเชิง

 

หานเซิ่นไม่คิดจะหนีออกจากหุบเขาไป ดังนั้นเขาจึงหันหลังกลับและเดินลึกเข้าไปในหุบเขา

 

ในตอนที่หานเซิ่นเดินผ่านบ้านไม้หลังหนึ่ง เขาเห็นกำแพงของภูเขาที่แสดงภาพวาดภาพหนึ่ง ภาพวาดนั้นดูจะเป็นเกมส์กระดานเกมส์หนึ่งที่ถูกหยุดลงกลางคัน

 

ภาพวาดนี้ดูคล้ายกับหมากล้อม แต่กระดานหมากล้อมนั้นมีตารางขนาดสิบเก้าคูณสิบเก้าเท่านั้น แต่กระดานบนภาพวาดนี้มีตารางอยู่มากกว่านั้น เมื่อดูจากตำแหน่งสีดำและสีขาวของตัวหมากแล้ว มันดูเหมือนกับหมากล้อมไม่มีผิด ในตอนที่หานเซิ่นฝึกหมากล้อมสวรรค์นั้น เขาเคยได้ศึกษาเกี่ยวกับหมากล้อมอยู่บ้าง เขาไม่ใช่มืออาชีพ แต่เขาสามารถเล่นหมากล้อมได้ค่อนข้างดี

 

หลังจากที่จ้องมันอยู่สักพัก เขาก็ยืนยันได้ว่ากฎของมันเหมือนกับหมอกล้อม ภาพบนกำแพงแสดงเกมส์หมากล้อมที่ถูกหยุดลงกลางคัน

 

“นี่โจรสลัดศักดิ์สิทธิ์ชอบหมากล้อมอย่างนั้นหรอ? นั่นเป็นเหตุผลที่เขาสลักเกมส์หมากล้อมเอาไว้บนกำแพง? นี่เขาทำแบบนั้นก็เพื่อที่เขาจะได้มองดูมันทุกวันอย่างนั้นหรอ?”
หานเซิ่นตรวจดูมันอยู่สักพัก เขาอ่านหมากที่ถูกหยุดลงกลางคันนี้ได้ว่าหมากขาวเป็นฝ่ายที่กำลังได้เปรียบและน่าจะเป็นฝ่ายชนะ ขณะที่หมากดำกำลังถูกไล่ต้อน และดูเหมือนว่าหมากดำกำลังจะเป็นฝ่ายพ่ายแพ้

 

หานเซิ่นรักการเล่นหมากล้อม แต่เขาไม่มีอารมณ์จะมาเล่นมันในตอนนี้ เขาเดินลึกเข้าไปในหุบเขาต่อไป ไม่นานหลังจากนั้นหานเซิ่นก็เห็นภาพของเกมส์หมากล้อมที่ถูกหยุดลงกลางคันบนกำแพงอีกภาพ ในตอนที่หานเซิ่นเดินไปถึงส่วนที่ลึกที่สุดของหุบเขา เขาก็นับเกมส์หมากล้อมที่ถูกหยุดลงกลางคันได้ทั้งหมดสิบเจ็ดเกมส์

 

เกมส์หมากล้อมบนภาพวาดแต่ละภาะนั้นแตกต่างกันออกไป บางเกมส์เล่นไปจนเกือบจะจบเกมส์ ขณะที่บางเกมส์เพิ่งจะเริ่มต้นเท่านั้น

 

หานเซิ่นคิดว่าเกมส์หมากล้อมเหล่านี้คือตัวอย่างการศึกษาของโจรสลัดศักดิ์สิทธิ์ จากการตรวจดูพวกมันคร่าวๆ พวกมันดูเหมือนกับเกมส์หมากล้อมธรรมดาๆ พวกมันไม่ได้ดูมีค่าจนถูกสลักเอาไว้บนกำแพง

 

“นี่หมายความว่าจริงๆแล้วโจรสลัดศักดิ์สิทธิ์เล่นหมากล้อมไม่เก่งอย่างนั้นหรอ? นั่นเป็นเหตุผลที่เขาสลักเกมส์หมากล้อมง่ายๆเอาไว้บนกำแพงอย่างนั้นใช่ไหม?” หานเซิ่นไม่คิดว่านั่นจะเป็นไปได้

 

จิตใจของยอดฝีมือระดับเทพเจ้านั้นควรจะทำให้พวกเขาเก่งในการเล่นหมากล้อม ถึงแม้พวกเขาจะไม่มีพรสวรรค์ในการเล่มหมากล้อมเลยก็ตาม มันก็ไม่มีทางที่เกมส์หมากล้อมง่ายๆแบบนี้จะเป็นสิ่งที่ไม่สามารถเข้าใจได้ มันไม่มีความจำเป็นที่ต้องสลักตัวอย่างเกมส์หมากล้อมเหล่านี้เอาไว้บนกำแพงเพื่อมองดูพวกมันทุกๆวัน

 

นอกจากภาพวาดเกมส์หมากล้อมพวกนั้นแล้ว หานเซิ่นไม่เห็นอะไรอย่างอื่นในหุบเขา เขาไม่กล้าจะเข้าไปในบ้านไม้ ทั้งหุบเขาดูเหมือนจะเกิดขึ้นโดยธรรมชาติซะส่วนใหญ่ มันแทบไม่มีเส้นทางที่ถูกสร้างขึ้นด้วยมือคน

 

ในตอนที่หานเซิ่นกลับไปที่บ้านไม้ เขาก็เห็นว่าโจรสลัดศักดิ์สิทธิ์เก็บรูปภาพไหมนภาไปแล้ว เขาเอนตัวบนเก้าอี้อาบแดดตัวหนึ่ง เขาดูมีความสุขมากๆ

 

“ทำไม…โจรสลัดศักดิ์สิทธิ์…ถึงสลักภาพของกระดานหมากล้อมเอาไว้บนภูเขาอย่างนั้นหรอ?” หานเซิ่นพยายามจะถามแบบอ้อมๆโดยหวังที่จะหาทางโน้มน้ามให้โจรสลัดศักดิ์สิทธิ์พูดเกี่ยวกับมัน

 

เผ่าเอ็กซ์ตรีมคิงนั้นเกลียดชังเขามากๆ ถ้าเขาตกไปอยู่ในมือของเอ็กซ์ตรีมคิงล่ะก็ หานเซิ่นก็ไม่คิดว่าตัวเองจะปลอดภัย

 

โจรสลัดศักดิ์สิทธิ์พูดอย่างไม่ค่อยพอใจ “ถ้าข้ารู้ว่าเกมส์หมากล้อมพวกนั้นหมายถึงอะไร ข้าก็คงจะไม่มาอยู่ในสถานที่แบบนี้”

 

“นั่นหมายความว่ายังไง? นี่เจ้าไม่ได้เป็นคนที่สลักเกมส์หมากล้อมเอาไว้บนกำแพงหรอกหรอ?” หานเซิ่นมองไปที่โจรสลัดศักดิ์สิทธิ์ด้วยความแปลกใจ

 

“ข้าไม่มีเวลาจะมาทำอะไรแบบนั้น” โจรสลัดศักดิ์สิทธิ์พูด
“พวกมันถูกสลักเอาไว้โดยตาเฒ่าคนหนึ่ง เขาบอกว่าถ้าข้าไขความลับของเกมส์หมากล้อมได้ ข้าจะเจอสมบัติที่เขาทิ้งเอาไว้ ข้าศึกษาพวกมันมาหลายสิบปี แต่ข้าก็ยังไม่ค้นพบอะไร”

 

หัวใจของหานเซิ่นเต้นรัว เขามองไปที่โจรสลัดศักดิ์สิทธิ์และถาม
“ถ้าข้าช่วยเจ้าไขความลับของเกมส์หมากล้อมพวกนี้ได้ เจ้าจะยอมปล่อยข้าไปไหม?”

 

“อย่าเสียเวลาเปล่าเลย ข้ามีสมญานามในจักรวาลแห่งนี้ว่าราชาหมากล้อม แต่หลังจากที่ข้าตรวจสอบมันหลายสิบปี ข้าก็ยังไม่พบอะไร มันคงจะต้องเป็นคำโกหกที่ถูกแต่งขึ้นโดยตาเฒ่าคนนั้น”
โจรสลัดศักดิ์สิทธิ์รู้สึกตัวว่าเขาพูดบางสิ่งที่ไม่ควรพูดออกไป ดังนั้นเขาจึงหยุดพูดเพียงแค่นั้น

 

หานเซิ่นคิดว่าพวกมันเป็นแค่เกมส์หมากล้อมธรรมดาๆ ด้วยเหตุนั้นเขาจึงไม่ได้ตรวจดูพวกมันอย่างละเอียด แต่หลังจากที่เขาได้ยินแบบนั้น เขาก็คิดว่านี่อาจจะเป็นโอกาสดี ดังนั้นเขาจึงกลับไปเพื่อมองดูกระดานหมากล้อมบนกำแพงอีกครั้ง

 

ถึงแม้เขาจะไขความลับของเกมส์หมากล้อมพวกนี้ไม่ได้ นี่คือสิ่งเดียวที่หานเซิ่นทำได้ในตอนนี้ ถ้าเขาค้นพบความลับของเกมส์หมากล้อมขึ้นมา บางทีเขาอาจจะต่อรองกับโจรสลัดศักดิ์สิทธิ์ได้

 

หานเซิ่นตรวจเช็อคภาพวาดแต่ละภาพอีกครั้ง แต่มันก็เป็นเหมือนกับครั้งก่อน พวกมันดูไม่มีอะไรพิเศษ พวกมันก็เป็นแค่เกมส์หมากล้อมสิบเจ็ดเกมส์ที่ถูกหยุดลงกลางคัน

Super God Gene

Super God Gene

ในยุคสมัยที่วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของมนุษย์ถูกพัฒนาจนถึงระดับสูง ในที่สุดมนุษยชาติก็ได้ค้นพบวิธีการเทเลพอร์ต แต่เมื่อพวกเขาทดลองเทเลพอร์ต กลับพบว่าพวกเขาไม่ได้ถูกส่งไปในอนาคต อดีตหรือสถานที่อื่นๆที่มนุษย์รู้จัก แต่มันคือโลกที่แตกต่างโดยสิ้นเชิง สถานที่ลึกลับนี่ถูกเรียกว่า ‘ก็อด เเซงชัวรี่’ ที่นี่มีสิ่งมีชีวิตประหลาดอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก แต่เมื่อมนุษย์ลองกินสิ่งมีชีวิตประหลาดเข้าไป ร่างกายของพวกเขาพัฒนาขึ้นและยังเพิ่มอายุขัยขึ้นด้วย มันคือก้าวที่ยิ่งใหญ่ของมนุษย์ชาติในการวิวัฒนาการเพื่อสร้างยุคสมัยที่ยิ่งใหญ่ “ด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ถูกฆ่า คุณได้รับวิญญาณอสูรด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ เมื่อกินเนื้อของด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ คุณมีโอกาสได้รับ 0 ถึง 10 Geno Point โดยการสุ่ม” The future unfolded on a magnificent scale into the Interstellar Age. Humanity finally solved the space warp technology, but when humanity transported themselves into the other end, they discovered that place neither had a past nor future, nor was there any land under the starry skies…… The mysterious sanctuary was actually a world filled with countless tyrannical unusual organisms. Humanity faced their great leap in evolution, starting the most glorious and resplendant new era under the starry skies. “Slaughtered the God Blood organism ‘Black Beetle’. Received the God Blood Black Beetle’s Beast Soul. Used the God Blood Black Beetle’s flesh. Randomly obtaining 0 to 10 points of God Gene(s).”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset