“ซีโน่เจเนอิตตัวนี้แปลกจริงๆ นี่มันไขความลับของกระดานหมากล้อมได้จริงๆอย่างนั้นหรอ?” โจรสลัดศักดิ์สิทธิ์มองหานเซิ่นอย่างแปลกๆ
“เอาแบบนี้เป็นยังไง ข้าจะบอกเจ้าเกี่ยวกับความลับของกระดานหมากล้อม แต่เจ้าจะต้องปล่อยข้าไป” หานเซิ่นพูด
“เจ้าแค่แกล้งทำเป็นว่าไม่เคยเห็นข้ามาก่อน”
โจรสลัดศักดิ์สิทธิ์ส่ายหัว “แม้แต่หัวขโมยก็มีจรรยาบรรณ ข้ารับงานมาและรับรูปภาพไหมนภานี่มาแล้ว ข้าจะกลับคำพูดและผิดสัญญาที่ให้เอาไว้ไม่ได้”
หานเซิ่นรู้สึกหดหู่และคิด ‘นายมันก็เป็นแค่หัวขโมย อย่ามาพูดเรื่องจรรยาบรรณกับฉัน นี่สมองของนายมีปัญหาหรือยังไง?’
โจรสลัดศักดิ์สิทธิ์ไม่ต้องการจะกลับคำพูดเกี่ยวกับเรื่องที่ต้องส่งตัวหานเซิ่นไปให้กับเอ็กซ์ตรีมคิง นั่นทำให้หานเซิ่นหดหู่อย่างมาก
แต่ทันใดนั้นหานเซิ่นก็คิดไอเดียหนึ่งขึ้นมาได้
“ถ้าอย่างนั้น เจ้าก็ไม่จำเป็นต้องปล่อยข้าไป ข้าจะใช้ความลับของกระดานหมากล้อมแลกเปลี่ยนกับเจ้า”
“แลกเปลี่ยนแบบไหน?” โจรสลัดศักดิ์สิทธิ์มองหานเซิ่นด้วยความสนใจ ดูเหมือนเขาไม่ต้องการจะปล่อยให้ความลับของกระดานหมากล้อมหลุดมือไป
“ข้าจะขอจ้างให้เจ้าลักพาตัวข้าอีกครั้งหนึ่ง” หานเซิ่นพูด
โจรสลัดศักดิ์สิทธิ์เข้าใจในทันทีว่าหานเซิ่นหมายความว่ายังไง
“เจ้าต้องการให้ข้าลักพาตัวเจ้ามาจากเอ็กซ์ตรีมคิง หลังจากที่เจ้าถูกส่งตัวไปที่นั่นแล้วถูกไหม?”
“ถูกต้อง” หานเซิ่นพูดพร้อมกับพยักหน้า
“นั่นไม่ใช่เรื่องง่ายๆ” โจรสลัดศักดิ์สิทธิ์พูด
“เจ้าเข้าออกสเปชการ์เด้นได้อย่างง่ายดาย” หานเซิ่นพูด
“แบบนั้นการแอบเข้าไปในเผ่าเอ็กซ์ตรีมคิงจะเป็นเรื่องยากอะไร?”
“ในจักรวาลนี้ไม่มีใครเข้าออกสเปชการ์เด้นได้อย่างอิสระนอกจากข้า”
โจรสลัดศักดิ์สิทธิ์พูด “การเข้าไปในเอ็กซ์ตรีมคิงนั้นเป็นอะไรที่ง่ายกว่าการเข้าไปในสเปชการ์เด้นมาก แต่ในเผ่าเอ็กซ์ตรีมคิงนั้นมียอดฝีมืออยู่มากมาย และนั่นรวมถึงราชาไป๋ เขาเป็นถึงระดับเทพเจ้าขั้นทรูก็อต การลักพาตัวเจ้าภายใต้สายตายอดฝีมือจำนวนมากนั้นเป็นเรื่องที่ยากมากๆ ถ้าพวกเขาเกิดรู้ขึ้นมาว่าข้าลักพาตัวเจ้าออกมา ข้ากลัวว่าข้าจะต้องหนีเอาตัวรอดจากเอ็กซ์ตรีมคิงไปตลอดชีวิตที่เหลือของข้า”
“นี่เจ้าเป็นโจรสลัดศักดิ์สิทธิ์แน่หรอ เจ้าควรจะเปลี่ยนชื่อไปเป็นโจรสลัดใจเสาะซะดีกว่า” หานเซิ่นพูด
โจรสลัดศักดิ์สิทธิ์ไม่โกรธ เขาเงียบไปชั่วครู่ก่อนที่จะพูดขึ้นว่า
“เอางั้นก็ได้ ข้าอาจจะต้องยอมเสี่ยง แต่มันก็คุ้มค่าสำหรับความลับของกระดานหมากล้อม บอกข้ามาว่าความลับของกระดานหมากล้อมพวกนี้คืออะไร?”
“พวกเราจะแลกเปลี่ยนกันเมื่อเจ้าทำตามข้อตกลงแล้ว เมื่อเจ้าช่วยข้าออกมาจากเอ็กซ์ตรีมคิงได้แล้ว ข้าจะบอกเจ้าถึงสิ่งที่เจ้าจำเป็นต้องรู้”
หานเซิ่นไม่คิดจะบอกความลับของกระดานหมากล้อมกับโจรสลัดศักดิ์สิทธิ์ในตอนนี้
“ข้าจะไม่ผิดคำสัญญาที่ได้ให้เอาไว้ ทุกคนในจักรวาลนี้รู้ว่าข้าเป็นคนรักษาคำพูด” โจรสลัดศักดิ์สิทธิ์ลูบเคราและมองไปที่หานเซิ่น เขาดูโกรธขึ้นมา
“เจ้าเป็นหัวขโมยที่ลักพาตัวเด็กคนหนึ่งมา ทำไมข้าต้องเชื่อเจ้าด้วย?” หานเซิ่นถาม
โจรสลัดศักดิ์สิทธิ์พูดอะไรไม่ออก กฎของโจรสลัดสามข้อประกอบไปด้วยความจริงที่เขาจะไม่ลักพาตัวเด็กคนหนึ่ง แต่เขาไม่คำนึงว่าซีโน่เจเนอิคจะถูกนับ เพราะยังไงซะการล่าซีโน่เจเนอิคหรือกินซีโน่เจเนอิคก็เป็นเรื่องปกติในจักรวาล
“จะบอกก่อนหรือหลังจากที่ข้าไปช่วยเจ้ามันก็เหมือนกัน” โจรสลัดศักดิ์สิทธิ์พูด
“ใครกันที่เป็นคนทิ้งภาพวาดกระดานหมากล้อมพวกนี้เอาไว้บนกำแพง?” หานเซิ่นเปลี่ยนเรื่องและชี้ไปที่กระดานหมากที่อยู่บนกำแพง
“มอนสเตอร์เฒ่าคนหนึ่ง” โจรสลัดศักดิ์สิทธิ์ดูเหมือนจะอารมณ์ไม่ดี เขาไม่ตอบคำถามของหานเซิ่น เขาไปนอนหลับบนเก้าอี้โยกของเขาต่อ
หานเซิ่นตรวจสอบกระดานหมากต่อตามลำพัง หลังจากที่ศึกษาเกี่ยวกับพวกมันอยู่สักพัก เขาก็รู้ว่าไม่สามารถไขรหัสของกระดานหมากได้ทัน ด้วยเหตุนั้นเขาจำเป็นต้องจดจำพวกมันเอาไว้ก่อน
เช้าวันต่อมา มีคนๆหนึ่งมายืนตะโกนเรียกโจรสลัดศักดิ์สิทธิ์อยู่นอกหุบเขา ในตอนที่หานเซิ่นได้ยินเสียงของคนๆนั้น เขาก็รู้ในทันทีว่าอีกฝ่ายคือไป๋ว่านเจี้ย
‘เป็นเขาจริงๆ’ หานเซิ่นคิด ‘เป็นผู้ชายที่น่ารำคาญอะไรขนาดนี้ อย่าให้ฉันได้มีโอกาสนะ’
โจรสลัดศักดิ์สิทธิ์ยกตัวหานเซิ่นขึ้นมาและเทเลพอร์ตออกไปจากหุบเขา เขาโยนหานเซิ่นลงตรงหน้าไป๋ว่านเจี้ยและพูด
“นี่คือสิ่งที่เจ้าต้องการ ทีนี้การแลกเปลี่ยนก็ถือว่าเสร็จสิ้น”
ไป๋ว่านเจี้ยยกหานเซิ่นขึ้นมาด้วยความสับสนและถาม “ทำไมเขาถึงมีเส้นผมและดวงตาสีดำ? ที่ข้าต้องการคือเด็กหัวโล้นในชุดคลุมสีแดง”
“เขาเปลี่ยนชุดและมีเส้นผมงอกขึ้นมา” โจรสลัดศักดิ์สิทธิ์ตอบ
“แถมมันมีซีโน่เจเนอิคแค่ตัวเดียวในสเปชการ์เด้นที่ตรงกับที่เจ้าบอก ถ้าเจ้าหาซีโน่เจเนอิคอีกตัวที่เหมือนกันได้ เจ้ามาเอาหัวของข้าไปได้เลย”
“แน่นอนว่าข้าเชื่อท่านโจรสลัดศักดิ์สิทธิ์” ไป๋ว่านเจี้ยตรวจเช็คหานเซิ่น
ก่อนหน้านี้เขาเห็นแค่หานเซิ่นพาเด็กในชุดคลุมสีแดงไปเพื่อช่วยเหล่าฟลาวเวอร์ก็อต เขาไม่ได้เห็นรายละเอียดอะไรมากนัก
นอกจากชุดและเส้นผมแล้ว เด็กคนนี้ก็ดูเหมือนกับเด็กในชุดคลุมสีแดงคนนั้น เขามีร่างกายซีโน่เจเนอิคเหมือนๆกัน ด้วยเหตุนั้นไป๋ว่านเจี้ยจึงแยกหานเซิ่นกับเด็กในชุดคลุมสีแดงที่เขาต้องการไม่ออก
ไป๋ว่านเจี้ยมองหานเซิ่นและถาม “เจ้าคือเด็กในชุดคลุมสีแดงจากสเปชการ์เด้นสินะ?”
หานเซิ่นแค่มองด้วยสายตาเย็นชาและไม่ได้พูดอะไรกลับไป
ไป๋ว่านเจี้ยขมวดคิ้ว เขาต้องการทำอะไรบางอย่าง แต่โจรสลัดศักดิ์สิทธิ์พูดขึ้นมาก่อน “ตอนนี้พวกเจ้าไปได้แล้ว”
“ขอบคุณท่านโจรสลัดศักดิ์สิทธิ์มาก ข้าต้องขอตัวก่อน”
ไป๋ว่านเจี้ยไม่อยากจะล่วงละเมิดโจรสลัดศักดิ์สิทธิ์ เขายังคงรู้สึกสงสัย แต่เขาก็ยอมจากไปพร้อมกับหานเซิ่น
หลังจากที่พวกเขาเดินออกไปจากดวงดาวแล้ว ไป๋ว่านเจี้ยก็กลับไปที่ยานรบของเขาและนำตัวหานเซิ่นไปขังเอาไว้
ไป๋ว่านเจี้ยมองดูหานเซิ่นผ่านหน้าจออยู่สักพัก แต่เขาก็ยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าหานเซิ่นใช่เด็กในชุดคลุมสีแดงที่เขาเห็นในวันนั้นหรือเปล่า
“ดูเหมือนว่าเราจำเป็นต้องกลับไปที่อาณาจักรของกษัตริย์และลองอ่านความทรงจำของเขาดู”
ไป๋ว่านเจี้ยไม่คิดจะเสียเวลาตรวจสอบหานเซิ่นด้วยตัวเอง นั่นไม่ใช่สิ่งจำเป็นที่เขาต้องทำ มันมีผู้เชี่ยวชาญอยู่มากมายในเอ็กซ์ตรีมคิง
หานเซิ่นกังวลว่าไป๋ว่านเจี้ยอาจจะเลือกใช้การทรมานกับเขา ถ้าเป็นแบบนั้นเขาก็ต้องทุกข์ทรมานอย่างมาก แต่หลังจากที่ไป๋ว่านเจี้ยเอาตัวของเขาไปขังเอาไว้ ไป๋ว่านเจี้ยก็ไม่ได้กลับมาหาเขาอีก
“เมื่อไหร่กันนะที่โจรสลัดศักดิ์สิทธิ์จะมาช่วยเรา” หานเซิ่นไม่ได้ฝากความหวังเอาไว้กับโจรสลัดศักดิ์สิทธิ์มากนัก ถ้าโจรสลัดศักดิ์สิทธิ์หวาดกลัวเผ่าเอ็กซ์ตรีมคิง เขาก็จะรอคอยความช่วยเหลือที่จะไม่มีวันมาถึง
“ถ้าร่างกายของเราเป็นปกติ เราก็คงจะหนีไปจากที่นี่ได้อย่างไม่ยากเย็นอะไร” หานเซิ่นรู้สึกหดหู่ เขายังคงไม่สามารถใช้พลังใดๆได้
“โชคดีที่เรายังใช้วิญญาณอสูรได้ มันไม่ใช่ว่าไม่มีหนทางอยู่เลย” หานเซิ่นยังคงสงสัยว่ามีหนทางที่เขาจะหนีไปได้ไหม
แต่ก่อนที่หานเซิ่นจะมีโอกาส พวกเขาก็ไปถึงอาณาจักรของกษัตริย์เรียบร้อยแล้ว
นี่เป็นครั้งที่สองที่หานเซิ่นมาที่เผ่าเอ็กซ์ตรีมคิง และเขาก็เต็มไปด้วยอารมณ์ที่หลากหลาย เขาคาดคิดเอาไว้ว่าเขาจะกลับมาที่เผ่าเอ็กซ์ตรีมคิง แต่เขาจะกลับมาในฐานะผู้ปกครองคนใหม่ เขาจะทำให้เผ่าเอ็กซ์ตรีมคิงตกอยู่ภายใต้กำมือของเขา
เขาไม่ได้คาดคิดว่าตัวเองจะกลับมาที่เผ่าเอ็กซ์ตรีมคิงในฐานะนักโทษแทน ท้องฟ้าของเผ่าเอ็กซ์ตรีงคิงเป็นสิ่งที่หานเซิ่นคุ้นเคย และเขาก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจออกมา
“ไม่อยากจะเชื่อเลย นี่เราโชคร้ายอะไรขนาดนี้ เราเป็นแพะรับบาปแทนเด็กในชุดคลุมสีแดงนั่น เราถูกจับตัวและนำกลับมาที่เผ่าเอ็กซ์ตรีมคิง แถมในตอนนี้เรายังไม่มีพลังอยู่อีก”