มันมีบางสิ่งแปลกๆเกี่ยวกับรูปปั้น ดวงตาข้างหนึ่งของรูปปั้นปิดอยู่ ขณะที่ดวงตาอีกข้างนั้นเปิดออก แถมดวงตาที่เปิดอยู่นั้นยังดูแปลกประหลาดอีกด้วย
ดวงตานั้นเป็นสีดำและขาว แต่มันแตกต่างไปจากดวงตาปกติทั่วไปที่ลูกตาเป็นสีขาว ขณะที่รูม่านตาเป็นสีดำ ดวงตาของรูปปั้นเป็นสีดำครึ่งหนึ่งและสีขาวครึ่งหนึ่ง สีดำและสีขาวนั้นแยกออกไปกันคนละข้างจนเห็นได้อย่างชัดเจน
เมื่อหานเซิ่นได้เห็นดวงตาสีดำและขาว เขาก็เริ่มจะรู้สึกขนลุกขึ้นมา ดวงตาของรูปปั้นทำให้ทุกคนที่มองเห็นมันรู้สึกหนาวขึ้นมา มันเป็นดวงตาที่ตัดสินว่าพวกเขาทุกคนเป็นคนบาป
ใกล้ๆกับรูปปั้นของกษัตริย์องค์ที่สอง มีเสียงของคนๆหนึ่งดังขึ้นมา “องค์ชาย ทำไมองค์ชายถึงมาที่นี่?”
ทันใดนั้นหานเซิ่นก็สังเกตเห็นชายแก่คนหนึ่งกำลังนั่งคุกเข่าอยู่ตรงหน้ารูปปั้น หานเซิ่นไม่ได้เห็นว่าเขามีหน้าตาเป็นยังไง เนื่องจากเขากำลังคุกเข่าอยู่ เขาดูเหมือนกับคนที่กำลังภาวณาต่อเทพ แถมเขายังหันหน้าไปทางรูปปั้น
หานเซิ่นเห็นว่าเส้นผมของชายแก่คนนั้นซีดราวกับหิมะ แต่เขาไม่สามารถระบุอย่างอื่นได้ เพราะเส้นผมปกคลุมทั้งร่างกายของชายแก่ เขาเหมือนกับวานรหิมะที่กำลังคุกเข่า ซึ่งนั่นเป็นเหตุผลที่หานเซิ่นไม่ได้สังเกตเห็นเขาก่อนหน้านี้
“ไป๋ว่านเจี้ย คารวะผู้อาวุโสเถี่ย”
ฐานะภายในเอ็กซ์ตรีมคิงของไป๋ว่านเจี้ยนั้นถือว่าสูง แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังคารวะชายแก่ นั่นพิสูจน์ให้เห็นว่าชายแก่คนนี้จะต้องเป็นบุคคลที่พิเศษมากๆ
“โอ้ไม่! ข้าเป็นแค่ข้ารับใช้คนหนึ่ง ทำไมองค์ชายถึงมาที่โถงแห่งกฎอย่างนั้นหรอ?”
ชายแก่ยังคงคุกเข่าอยู่กับพื้นและไม่ได้เงยหน้าขึ้นมา ถ้ามีคนอื่นอยู่ที่นี่ด้วย มันก็คงจะไม่มีใครรู้ว่าเขากำลังพูดกับไป๋ว่านเจี้ย
“ข้าจับซีโน่เจเนอิคตัวหนึ่งมาได้” ไป๋ว่านเจี้ยพูดอย่างมีมารยาท
“ข้าต้องการจะควบคุมมัน แต่ร่างกายของมันแปลกประหลาดมากๆ มันเป็นครึ่งพืชครึ่งซีโน่เจเนอิคที่กำเนิดมาจากซีโน่เจเนอิคระดับเทพเจ้าขั้นทรูก็อต มันไม่มีวิชาไหนจะควบคุมจิตใจของมันได้ ด้วยเหตุนั้นข้าจึงต้องการจะใช้พลังแห่งกฎของโอเวอร์แบริ่งอายเพื่อควบคุมมัน”
“องค์ชายรู้ใช่ไหมว่าโอเวอร์แบริ่งอายของเอ็กซ์ตรีมคิงเป็นรากฐานของอาณาจักรกษัตริย์? องค์ชายคิดว่ามันเหมาะสมอย่างนั้นหรอที่จะทำให้พวกเราทุกคนต้องเสี่ยงกับเรื่องเล็กน้อยแค่นี้?” ชายแก่พูดขึ้นมา แต่เขายังคงคุกเข่าต่อหน้ารูปปั้นต่อไป
ไป๋ว่านเจี้ยไม่กล้าจะล่วงละเมิดชายแก่ เขาพูดอย่างมีมารยาท
“ผู้อาวุโสเถี่ย ถ้ามันเป็นแค่การควบคุมซีโน่เจเนอิคธรรมดา ข้าก็คงไม่กล้าจะมารบกวน แต่ซีโน่เจเนอิคตัวนี้เป็นกุญแจสำคัญในการควบคุมซีโน่เจเนอิคสเปชที่พิเศษ ซีโน่เจเนอิคสเปชนั่นสำคัญต่อข้ามากๆ มันจะตัดสินอนาคตของข้าในฐานะขั้นทรูก็อต ด้วยเหตุนั้นข้าหวังว่าผู้อาวุโสเถี่ยจะช่วยเหลือข้า”
ชายแก่ไม่ได้พูดอะไร หัวใจของไป๋ว่านเจี้ยรู้สึกห่อเหี่ยวเล็กน้อยเมื่อเห็นแบบนั้น ถ้ามันมีหนทางอื่นอยู่อีกล่ะก็ เขาก็คงจะไม่มาที่นี่
แต่หลังจากที่ผ่านไปสักพัก ชายแก่ก็พูดขึ้นมา “วางมันลงบนด้านซ้ายของตาชั่งแห่งกฎ”
ทันใดนั้นไป๋ว่านเจี้ยก็รู้สึกดีใจขึ้นมา เขาเอาหานเซิ่นไปวางลงบนตาชั่งที่รูปปั้นกษัตริย์องค์ที่สองกำลังถืออยู่
หานเซิ่นรู้สึกแย่กับเรื่องนี้ เขาไม่รู้ว่าโอเวอร์แบริ่งอายของเอ็กซ์ตรีงคิงนั้นจะทำอะไร หลังจากที่ไป๋ว่านเจี้ยปล่อยตัวเขาลงบนตาชั่ง เขาก็พยายามจะดิ้นรน
แต่เขาค้นพบว่าไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ มันเหมือนกับว่ามีพลังที่มองไม่เห็นล็อคตัวเขาเอาไว้บนตาชั่ง
ในตอนแรกหานเซิ่นคิดว่าตาชั่งเป็นเพียงแค่เครื่องประดับเท่านั้น เขาไม่ได้คิดว่าตาชั่งจะใช้งานได้จริงๆ หลังจากที่เขาถูกวางบนด้านซ้ายของตาชั่ง น้ำหนักของเขาก็ถ่วงจานข้างซ้ายของตาชั่งลง
ในตอนที่จานข้างซ้ายของตาชั่งถูกกดลง ดวงตาของกษัตริย์องค์ที่สองก็เริ่มเรืองแสงขึ้น แสงสีดำและสีขาวออกมาจากดวงตาของรูปปั้น แสงสีขาวนั้นส่องออกไปที่จานข้างซ้ายของตาชั่ง ขณะที่แสงสีดำส่องไปที่จานข้างขวาของตาชั่ง
แสงสีขาวส่องลงมาบนร่างกายของหานเซิ่น เขารู้สึกราวกับว่ามีพลังประหลาดรุกรานเข้าไปในร่างกายของเขา มันเป็นความรู้สึกที่แปลกประหลาด มันเหมือนกับว่าเขากำลังถูกสแกนหรือถูกเอ็กซเรย์ทุกส่วนของร่างกาย หานเซิ่นสัมผัสว่าการเอ็กซเรย์นั้นไม่ได้ใช้เพื่อส่องดูกระดูกของเขา พวกมันกำลังส่องดูยีนของเขา
ในตอนที่แสงสีขาวสแกนร่างกายของหานเซิ่น แสงสีดำก็ส่องสว่างไปที่จานด้านขวาของตาชั่ง และก่อตัวเป็นตุ้มถ่วงน้ำหนักสีดำ
ตุ้มถ่วงน้ำหนักสีดำนั้นแสดงตัวเลขที่กำลังเปลี่ยนแปลง มันเริ่มต้นจากเลขหนึ่งและเพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆ
“นี่มันเกิดอะไรขึ้น?” หานเซิ่นไม่ได้รู้สึกว่าร่างกายของตัวเองได้รับความเสียหายอะไร แต่ความรู้สึกแปลกๆทำให้เขาใจคอไม่ดี เขาไม่รู้ว่าตัวเลขพวกนั้นหมายความว่าอะไร
ชายแก่ยังคงก้มหน้าคุกเข่าต่อไป ดังนั้นเขาไม่ได้เห็นสิ่งที่กำลังเกิดขึ้น ไป๋ว่านเจี้ยจับจ้องไปที่ตัวเลขบนตุ้มถ่วงน้ำหนักสีดำ ซึ่งกำลังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆบนจานด้านขวาของตาชั่ง
ถึงแม้เผ่าเอ็กซ์ตรีมคิงจะเริ่มต้นจากอัลฟ่า แต่รากฐานอารยธรรมของเอ็กซ์ตรีมคิงนั้นถูกสร้างขึ้นโดยกษัตริย์องค์ที่สอง
มันเป็นเรื่องง่ายที่จะเริ่มต้นธุรกิจ แต่การจะทำให้มันดำเนินต่อไปนั้นเป็นอีกเรื่องหนึ่ง กษัตริย์องค์ที่สองสานต่อสิ่งที่อัลฟ่าได้เริ่มต้นและสร้างอารยธรรมที่คอยค้ำจุนเอ็กซ์ตรีมคิง มันเป็นสิ่งที่ทำให้เผ่าเอ็กซ์ตรีมคิงอยู่มาเป็นพันล้านปี
ตำนานบอกว่ากษัตริย์องค์ที่สองเป็นคนที่โหดเหี้ยมและเลือดเย็น เขาปฏิบัติกับสมาชิกในราชวงศ์ทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน เขาประหารแม้กระทั่งลูกชายของตัวเองที่ทำผิดกฎหมาย
โอเวอร์แบริ่งอายของเอ็กซ์ตรีมคิงคืออาวุธจีโนของเขา มันมีพลังประหลาดอยู่ภายในที่เรียกว่าซิน มันจะตัดสินว่าสิ่งมีชีวิตหนึ่งมีบาปหรือไม่
ถ้าสิ่งมีชีวิตนั่นมีบาปหนา พลังโอเวอร์แบริ่งอายของเอ็กซ์ตรีมคิงก็จะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ กษัตริย์องค์ที่สองตัดสินบาปของยอดฝีมือขั้นบัตเตอร์ฟลายคนหนึ่งในตอนที่เขาเพิ่งจะกลายเป็นระดับเทพเจ้าขั้นพริมิทีฟ เขาฆ่ายอดฝีมือขั้นบัตเตอร์ฟลายคนนั้นในการโจมตีเพียงครั้งเดียวโดยไม่ปล่อยให้อีกฝ่ายได้มีโอกาส
นั่นเป็นเหตุผลที่โอเวอร์แบริ่งอายของเอ็กซ์ตรีมคิงเริ่มกลายเป็นสิ่งที่มีชื่อเสียง มันกลายเป็นหนึ่งในอาวุธจีโนที่ทรงพลังที่สุด มันติดสิบอันดับสูงสุดในจักรวาลจีโน
ด้วยพลังของกษัตริย์องค์ที่สองของเอ็กซ์ตรีมคิง ทุกคนเชื่อว่าเขาจะใช้โอเวอร์แบริ่งอายเพื่อเข้าไปในจีโนฮอลล์และกลายเป็นเทพสปิริต
มันไม่มีใครคาดคิดว่ากษัตริย์องค์ที่สองจะทิ้งอาวุธจีโนเอาไว้เบื้องหลังเพื่อเผ่าเอ็กซ์ตรีมคิง ด้วยการทำแบบนั้นทำให้เขาสูญเสียโอกาสที่จะได้เข้าไปในจีโนฮอลล์
ตำนานหนึ่งกล่าวว่าถึงแม้โอเวอร์แบริ่งอายของเอ็กซ์ตรีมคิงจะทรงพลังมากๆ แต่มันใช้ไม่ได้ผลกับสิ่งมีชีวิตที่ไม่มีบาปติดตัว ถึงอย่างนั้นมันก็ไม่มีใครรู้ว่าโอเวอร์แบริ่งอายของเอ็กซ์ตรีมคิงนั้นตัดสินบาปของคนๆหนึ่งได้ยังไง
ในตอนที่กษัตริย์องค์ที่สองยังมีชีวิตอยู่ ไม่มีเผ่าพันธุ์ไหนที่กล้าบุกมาโจมตีอาณาจักรของกษัตริย์ กษัตริย์องค์ที่สองได้สร้างรากฐานที่คอยค้ำจุนเผ่าเอ็กซ์ตรีมคิงมาเป็นเวลากว่าพันล้านปี
ตอนนี้หานเซิ่นถูกล็อคเอาไว้บนตาชั่งด้วยพลังโอเวอร์แบริ่งอายของเอ็กซ์ตรีมคิง และตัวเลขบนตุ้มถ่วงน้ำหนักบนจานด้านขวาของตาชั่งก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ยิ่งตัวเลขสูงมากเท่าไหร่ บาปที่หานเซิ่นก่อเอาไว้ก็มากขึ้นเท่านั้น
ในตอนที่ตัวเลขบนตุ้มถ่วงน้ำหนักเท่ากันกับจำนวนบาปของหานเซิ่น ตาชั่งก็จะกลับมาสมดุลอีกครั้ง ในเวลานั้นโอเวอร์แบริ่งอายของเอ็กซ์ตรีมคิงก็จะตัดสินบาปของหานเซิ่น
ตอนนี้ตัวเลขบนตุ้มถ่วงน้ำหนักนั้นอยู่ที่สามสิบ แต่จานด้านซ้ายของตาชั่งที่มีหานเซิ่นอยู่นั้นยังคงต่ำกว่า มันยังคงไม่สมดุล
เมื่อเห็นตัวเลขบนตุ้มถ่วงน้ำหนักเพิ่มขึ้นเรื่องๆอย่างไม่มีวี่แววว่าจะหยุด ใบหน้าของไป๋ว่านเจี้ยก็ดูแปลกๆ
“มันเกินหนึ่งร้อยแล้ว แต่ตาชั่งก็ยังไม่สมดุล นี่ซีโน่เจเนอิคตัวนี้ไปทำอะไรเอาไว้ ถึงได้ถูกตัดสินว่ามีบาปหนาขนาดนี้?”