Super God Gene – ตอนที่ 2811

“ข้าจะไปที่ระบบเรียลโอลด์กับเจ้าด้วยได้ไหม?” หานเซิ่นถาม
“ข้าเองก็อยากจะช่วยเหลือเอ็กซ์ตรีมคิงเช่นกัน”

 

“ถ้ามิสเตอร์โฮลี่เบบี้ต้องการจะไป ท่านจำเป็นต้องไปขอลุงสอง เขาเป็นคนที่รับผิดชอบในเรื่องนี้” เป่าอิงพูด

 

“โอเค พาข้าไปพบกับลุงสอง” หานเซิ่นไม่รู้ว่าเขาจะได้รับอนุญาตให้ออกไปจากเผ่าเอ็กซ์ตรีมคิงหรือเปล่า แต่เขาต้องการใช้โอกาสนี้เพื่อทดสอบขอบเขตอิทธิพลของราชาไป๋ นอกจากนั้นเขายังอยากจะรู้ว่าใครกันที่ปลอมตัวเป็นเขาและไปฆ่าระดับเทพเจ้าคนหนึ่งของเอ็กซ์ตรีมคิง

 

เป่าอิงไม่ได้ปฏิเสธคำขอของหานเซิ่น และเธอก็พาเขาไปพบกับลุงสอง

 

ลุงสองไม่ปฏิเสธคำขอของหานเซิ่นเช่นกัน เขาแค่บอกว่าจำเป็นต้องไปขออนุญาตจากราชาไป๋ซะก่อนถึงจะพาหานเซิ่นไปได้ ดังนั้นเขาจึงให้หานเซิ่นรอฟังข่าว

 

หานเซิ่นไม่คิดว่าราชาไป๋จะปล่อยให้เขาไป แต่น่าประหลาดใจที่ไม่นานหลังจากนั้นลุงสองก็กลับมาบอกให้เขาไปเตรียมตัวให้พร้อม พวกเขาจะออกเดินทางไปที่ระบบเรียลโอลด์ในตอนกลางคืน

 

หานเซิ่นไม่เข้าใจเลยจริงๆว่าราชาไป๋กำลังคิดอะไรอยู่
“ราชาไป๋ยอมปล่อยให้เราออกจากเผ่าเอ็กซ์ตรีมไป! เขาไม่กลัวว่าเมื่อเราออกไปแล้ว เราจะไม่กลับมาอีกหรือยังไง? เขาจะสูญเสียทุกสิ่งทุกอย่าง”

 

ถ้าราชาไป๋ยอมปล่อยเขาไป หานเซิ่นก็ไม่รังเกียจที่จะไปดูสถานที่ใหม่ๆ ในคืนนั้นเขาตามเป่าอิงไปยังจุดที่ลุงสองนัดรวมตัวกัน

 

จากคนที่ไปทั้งหมด ลุงสองคือคนที่แข็งแกร่งที่สุด หานเซิ่นได้ยินมาว่าลุงสองเป็นถึงยอดฝีมือระดับเทพเจ้าขั้นบัตเตอร์ฟลาย แต่นั่นเป็นเพียงแค่ข่าวลือที่เขาได้ยินมาเท่านั้น พลังของหานเซิ่นยังคงไม่กลับคืนมา ดังนั้นเขาไม่สามารถตัดสินอย่างถูกต้องได้

 

มันยังมีเป่าอิง เป่าฉิน เหมิงเลี่ยและยอดฝีมือระดับเทพเจ้าคนนอกอีกสี่คนเดินทางไปด้วย การเดินทางในครั้งนี้ทางเอ็กซ์ตรีมคิงส่งกองกำลังที่ประกอบไปด้วยยอดฝีมือระดับเทพเจ้าแปดคน ดูเหมือนว่าพวกเขาต้องการจะล่าตัวหานเซิ่นให้ได้

 

พวกเขาคงจะไม่เคยคิดว่าจริงๆแล้วหานเซิ่นที่พวกเขาออกเดินทางไปล่านั้นแฝงอยู่ในหมู่พวกเขาเรียบร้อยแล้ว

 

ในระหว่างทาง ลุงสองและคนอื่นๆไม่ได้พยายามจับตาดูหานเซิ่นเลยแม้แต่น้อย หานเซิ่นมั่นใจว่าถ้าเขาตัดสินใจหนีไป มันก็ไม่ใช่เรื่องยากอะไรเลย

 

หานเซิ่นคิดกับตัวเอง ‘ไอ้โจรสลัดศักดิ์สิทธิ์นั่นเชื่อไม่ได้จริงๆ เขาบอกว่าจะมาลักพาตัวเรากลับไป แต่เราไม่เคยเห็นเขาพยายามจะช่วยเราเลยสักนิด โชคดีที่เราไม่จำเป็นต้องพึ่งการช่วยเหลือของเขา’

 

เมื่อพวกเขาไปถึงระบบเรียลโอลด์แล้ว พวกเขาก็รู้สึกตัวว่าสถานที่แห่งนั้นตกอยู่ในความยุ่งเหยิง ประตูของซีโน่เจเนอิคสเปชถูกระเบิดและภายในก็มีร่องรอยการต่อสู้ครั้งใหญ่ ดวงดาวหลายดวงได้รับผลกระทบจากการต่อสู้ที่เกิดขึ้น

 

ทั้งระบบเรียลโอลด์นั้นถูกทำลาย มันมีคนอื่นที่ทางเอ็กซ์ตรีมคิงส่งมาล่วงหน้าเพื่อล่าตัวหานเซิ่น แต่ยังไม่มีใครหาตัวหานเซิ่นเจอเลย

 

พวกหานเซิ่นถือว่ามาสาย สถานที่ส่วนใหญ่ถูกทำลายไปหมดแล้ว โชคดีที่มันยังมีสมาชิกของเอ็กซ์ตรีมคิงหลงเหลืออยู่ พวกเขากระจายตัวกันออกไปเพื่อป้องกันจุดสำคัญ

 

ตอนนี้เมื่อลุงสองและคนอื่นๆมาถึง ปัญหาที่ใหญ่ที่สุดที่พวกเขาเผชิญนั้นไม่ใช่เรื่องที่พวกเขาจะเอาชนะหานเซิ่นได้ยังไง แต่มันเป็นเรื่องที่พวกเขาต้องหาตัวหานเซิ่นให้เจอ

 

ทีมที่ลุงสองพามาด้วยนั้นถนัดในเรื่องนั้น พวกเขาต่างใช้วิธีการแกะรอยของตัวเอง พวกเขาลงมาที่สนามต่อสู้และหานเซิ่นก็ต้องตกใจเมื่อได้เห็นสิ่งที่หลงเหลืออยู่

 

“วิชามีดใต้นภา? นั่นเป็นไปได้ยังไง?”
หานเซิ่นมองรอยมีดที่เกิดขึ้นด้วยความรู้สึกแปลกๆ มันไม่มีอะไรที่จะต้องสงสัย เขาสามารถบอกได้ว่าพวกมันเกิดจากการฟันของวิชามีดใต้นภา

 

และพวกมันไม่ใช่วิชามีดใต้นภาของปราสาทนภา พวกมันเป็นวิชามีดใต้นภาที่หานเซิ่นเป็นคนปรับแต่งด้วยตัวเอง

 

‘ไม่แปลกใจเลยที่ทุกคนจะเชื่อว่ามันเป็นฝีมือของหานเซิ่น ถ้าเราไม่ใช่หานเซิ่นล่ะก็ เราก็คงจะเชื่อแบบนั้นเหมือนกัน เจ้าตัวปลอมนี้เป็นใครกันถึงลอกเลียนแบบวิชามีดใต้นภาของเราได้?’ หานเซิ่นคิด

 

ลุงสองและคนอื่นๆรู้ว่ามันเกิดจากวิชามีดใต้นภาเช่นเดียวกัน พวกเขายังรู้อีกว่ามันถือเป็นวิชาประจำตัวของหานเซิ่น ดังนั้นพวกเขาไม่คิดว่ามันจะเป็นของหานเซิ่นตัวปลอม

 

วิชามีดใต้นภาของหานเซิ่นถือเป็นเอกลักษณ์ แม้แต่ปราสาทนภาที่มีวิชาใต้นภาต้นฉบับอยู่ก็ไม่สามารถลอกเลียนแบบวิชามีดใต้นภาที่หานเซิ่นใช้ได้

 

ลุงสองมองไปที่ยอดฝีมือระดับเทพเจ้าคนหนึ่งและถาม “เกอร์ เจ้าพบอะไรไหม?”

 

เกอร์นั้นมีพลังชาโดว์อาย ถึงแม้เขาจะมองไม่เห็นอนาคตหรืออดีต แต่เขาสามารถปะติดปะต่อสิ่งที่เกิดขึ้นผ่านชั้นบรรยากาศ เขามีความสามารถที่จะจำลองภาพของสิ่งที่เคยเกิดขึ้น มันคล้ายคลึงกับที่วิญญาณอสูรผีเสื้อเนตรม่วงสามารถทำได้

 

ดวงตาของเกอร์กระพริบแสงและวนเวียนภาพที่แตกต่างกันหลายภาพ หลังจากนั้นร่างกายของเขาก็เริ่มจะเคลื่อนที่ไปในทิศทางหนึ่ง

 

ลุงสองและคนอื่นๆตามเกอร์ไป เกอร์นำพวกเขาทุกคนออกไปจากระบบเรียลโอลด์

 

“นี่เขาออกไปจากระบบเรียลโอลด์แล้วอย่างนั้นหรอ?” เป่าฉินถามพร้อมกับขมวดคิ้ว
“นั่นหมายความว่าการจะตามหาตัวเขาจะเป็นอะไรที่ยากขึ้นกว่าเดิมมาก”

 

“เขากล้าฆ่าคนของข้าและทำลายซีโน่เจเนอิคสเปชของข้า” ลุงสองพูด
“ถึงแม้ข้าจะต้องไล่ตามเขาไปสุดขอบจักรวาล ข้าก็จะฆ่าเขาให้ได้”

 

“บางทีเขาอาจจะยังไปได้ไม่ไกล” จู่ๆเกอร์ก็พูดขึ้นมา

 

“เจ้าหมายความว่ายังไง?” เหมิงเลี่ยถาม

 

เหมิงเลี่ยถูกแช่แข็งเป็นหินในการเผชิญหน้ากับหานเซิ่นครั้งก่อน มันทำให้เผ่าเอ็กซ์ตรีมคิงต้องสูญเสียทรัพยากรจำนวนมากเพื่อช่วยเขา และเขาต้องพักฟื้นอยู่ในอาณาจักรกษัตริย์ตั้งแต่นั้นมา นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้ออกมาข้างนอกหลังจากที่หายดีแล้ว

 

เกอร์พูดขึ้นว่า “หานเซิ่นออกเดินทางไปอย่างช้าๆ ดูเหมือนกับว่าเขาไม่ได้รีบร้อนอะไร จากภาพที่ข้าเห็น นอกซะจากเขาจะใช้กาแล็กซี่เทเลพอร์ตเทชั่น ข้าไม่คิดว่าเขาจะไปได้ไกลจากที่นี่”

 

“เขาน่าจะได้เรียนรู้กาแล็กซี่เทเลพอร์ตเทชั่นจากเผ่าเวรี่ไฮ แต่กาแล็กซี่เทเลพอร์ตเทชั่นนั้นไม่ใช่สิ่งที่จะเรียนรู้ได้ในเวลาอันสั้น” ลุงสองพูด
“เขาคงจะใช้กาแล็กซี่เทเลพอร์ตเทชั่นในระยะไกลไม่ได้”

 

“มันไม่สำคัญว่าเขาจะหนีไปไกลแค่ไหน พวกเราต้องไล่ล่าเขาต่อไป”
เหมิงเลี่ยพูด การเผชิญหน้ากับหานเซิ่นในครั้งก่อนทำให้เขาอับอายอย่างมาก ครั้งนี้เขาขอเข้าร่วมเดินทางมาด้วยก็เพื่อที่เขาจะได้แก้แค้นหานเซิ่น

 

เกอร์เห็นด้วย เขานำทางทุกคนต่อไป พวกเขาเดินทางผ่านอวกาศโดยทิ้งระบบเรียลโอลด์เอาไว้เบื้องหลัง

 

“เดี๋ยวก่อน” ทันใดนั้นใบหน้าของลุงสองก็เปลี่ยนไป

 

ทุกคนหันมามองลุงสอง ลุงสองมองไปที่เกอร์และถาม “เกอร์ เจ้าแน่ใจหรือว่าหานเซิ่นบินออกมาทางนี้?”

 

“ถึงแม้ข้าจะเห็นเพียงแค่เสี้ยววินาที แต่มันต้องเป็นทางนี้ไม่ผิดแน่” เกอร์พูดหลังจากที่คิดอยู่ชั่วครู่

 

“นั่นเป็นอะไรที่แปลก” ลุงสองพูด
“ถ้าข้าดูไม่ผิดล่ะก็ ทางนี้จะนำไปสู่ระบบจักรวาลร้าง”

 

“พี่สอง พี่จำผิดไปหรือเปล่า? ที่นี่อยู่ห่างไปจากระบบจักรวาลร้าง” เหมิงเลี่ยมองไปที่ลุงสองด้วยความสับสน

 

“ไม่ผิดแน่นอน ถ้าพวกเรายังเดินทางต่อไปในทิศทางนี้ พวกเราจะไปถึงระบบจักรวาลเคออส ที่นั่นมีบริเวณที่อวกาศบิดเบี้ยว การตกลงไปในนั้นจะทำให้เจ้าหลงเข้าไปในระบบจักรวาลร้าง บริเวณอวกาศที่บิดเบี้ยวนั้นถูกรู้จักกันในชื่อลอสท์แลนด์” ลุงสองพูดด้วยความจริงจังอย่างที่สุด

 

เหมิงเลี่ยหันไปมองเกอร์และถาม “เกอร์ เจ้าแน่ใจใช่ไหมว่าหานเซิ่นหนีไปทางนี้?”

 

เกอร์ใช้พลังของเขาอีกครั้งเพื่อยืนยัน หลังจากนั้นเขาก็พยักหน้าและพูด
“ดูเหมือนเขาจะไปทางนี้ไม่ผิดแน่ แต่ข้าไม่รู้ว่าเขาเข้าไปในลอสท์แลนด์หรือเปล่า พวกเราจำเป็นต้องไปถึงที่นั่นก่อน ข้าถึงจะบอกอะไรเพิ่มเติมได้”

 

“โอเค พวกเราจะไปที่ลอสท์แลนด์และวางแผนการใหม่อีกครั้งเมื่อไปถึงที่นั่น”
ลุงสองคิดเกี่ยวมันอยู่ชั่วครู่ก่อนที่จะบอกให้เกอร์นำทางต่อไป

Super God Gene

Super God Gene

ในยุคสมัยที่วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของมนุษย์ถูกพัฒนาจนถึงระดับสูง ในที่สุดมนุษยชาติก็ได้ค้นพบวิธีการเทเลพอร์ต แต่เมื่อพวกเขาทดลองเทเลพอร์ต กลับพบว่าพวกเขาไม่ได้ถูกส่งไปในอนาคต อดีตหรือสถานที่อื่นๆที่มนุษย์รู้จัก แต่มันคือโลกที่แตกต่างโดยสิ้นเชิง สถานที่ลึกลับนี่ถูกเรียกว่า ‘ก็อด เเซงชัวรี่’ ที่นี่มีสิ่งมีชีวิตประหลาดอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก แต่เมื่อมนุษย์ลองกินสิ่งมีชีวิตประหลาดเข้าไป ร่างกายของพวกเขาพัฒนาขึ้นและยังเพิ่มอายุขัยขึ้นด้วย มันคือก้าวที่ยิ่งใหญ่ของมนุษย์ชาติในการวิวัฒนาการเพื่อสร้างยุคสมัยที่ยิ่งใหญ่ “ด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ถูกฆ่า คุณได้รับวิญญาณอสูรด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ เมื่อกินเนื้อของด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ คุณมีโอกาสได้รับ 0 ถึง 10 Geno Point โดยการสุ่ม” The future unfolded on a magnificent scale into the Interstellar Age. Humanity finally solved the space warp technology, but when humanity transported themselves into the other end, they discovered that place neither had a past nor future, nor was there any land under the starry skies…… The mysterious sanctuary was actually a world filled with countless tyrannical unusual organisms. Humanity faced their great leap in evolution, starting the most glorious and resplendant new era under the starry skies. “Slaughtered the God Blood organism ‘Black Beetle’. Received the God Blood Black Beetle’s Beast Soul. Used the God Blood Black Beetle’s flesh. Randomly obtaining 0 to 10 points of God Gene(s).”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset