“เทพสปิริตของไวน์สกายแรดิช? เจ้าคือสิ่งมีชีวิตที่ฆ่าพระเจ้า? นี่เจ้าเป็นคนเอาเทพสปิริตของสกายไวน์แรดิชไป? ข้าไม่คิดเลยว่าสิ่งมีชีวิตชั้นต่ำคนหนึ่งจะทำแบบนั้นได้”
อีวิลโลตัสลุกกลับขึ้นมา เขายังคงกระอักเลือดออกมา แต่ดวงตาของเขาจ้องไปยังสกายไวน์แรดิสที่ยืนอยู่ตรงหน้าหานเซิ่น
ลุงสองและคนอื่นๆตกใจยิ่งกว่าเดิมเมื่อได้ยินแบบนั้น ในตอนที่ความเศร้าของพระเจ้าเกิดขึ้น มันเป็นหัวข้อที่ถูกพูดถึงไปทั่วจักรวาล ตอนนี้เมื่อมันถูกเปิดเผยออกมาว่าซีโน่เจเนอิคตรงหน้าพวกเขาคือคนที่ฆ่าพระเจ้า มันก็เป็นอะไรที่ยากจะเข้าใจได้
ใบหน้าของหานเซิ่นยังคงไม่เปลี่ยนแปลง เทพสปิริตของสกายไวน์แรดิชยังคงอยู่ใต้การควบคุมของเขา มันเข้าไปโจมตีร่างสปิริตสีม่วงของอีวิลโลตัสอย่างบ้าคลั่ง
หานเซิ่นใช้จิตใจเพื่อควบคุมเทพสปิริต แต่ร่างกายของอีวิลโลตัสดูเหมือนจะอยู่คู่ขนานกับร่างสปิริตที่ดูเหมือนกับภูติผีสีม่วง การเคลื่อนไหวของเขานั้นส่งผลกระทบต่อการเคลื่อนไหวของร่างสปิริต
หานเซิ่นมองดูการต่อสู้จากระยะไกล ขณะที่อีวิลโลตัสจำเป็นต้องต่อสู้ด้วยตัวเองอย่างสุดกำลัง และถ้าร่างสปิริตของเขาได้รับความเสียหาย ตัวอีวิลโลตัสเองก็จะได้รับความเสียหายไปด้วย
ร่างสปิริตสีม่วงต่อสู้กับเทพสปิริตของสกายไวน์แรดิชอย่างดุเดือด พลังที่เกิดขึ้นจากการต่อสู้นั้นรุนแรงขนาดที่สามารถทำลายทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่รอบๆ แต่น่าประหลาดใจที่ไม่มีสสารไหนในอวกาศที่ได้รับผลกระทบจากพลังนั้น นอกจากร่างสปิริตสีม่วงของอีวิลโลตัสและเทพสปิริตของสกายไวน์แรดิช
ลุงสองและคนอื่นๆไม่ได้เห็นการต่อสู้ที่เกิดขึ้น ทั้งหมดที่พวกเขามองเห็นคือหานเซิ่นลอยตัวอยู่นิ่งๆบนอากาศและมองไปที่อีวิลโลตัส ขณะที่อีวิลโลตัสกำลังชกใส่อากาศราวกับคนบ้า เขากระอักเลือดออกมาและถูกส่งกระเด็นออกไปด้านหลังหลายต่อหลายครั้ง
“โฮลี่เบบี้เป็นใครกันแน่?” ลอนโดพึมพำ
“เขาแข็งแกร่งเกินไปแล้ว เขาดูเหมือนกับพระเจ้ายิ่งกว่าอีวิลโลตัสซะอีก”
“บางทีมันคงจะมีแค่ราชาไป๋เท่านั้นที่รู้ว่าโฮลี่เบบี้มาจากที่ไหน และนั่นเป็นเหตุผลที่ราชาไป๋รับเขาเป็นลูกศิษย์ เขาต่อสู้กับพระเจ้าได้ ซึ่งมันมียอดฝีมือขั้นทรูก็อตแทบไม่กี่คนที่จะทำอะไรแบบนั้นได้” ลุงสองมองที่หานเซิ่นคนที่ลอยตัวอยู่บนฝ้าด้วยสีหน้าที่ซับซ้อน
สีหน้าของเกอร์ดูแปลกๆ “อีวิลโลตัสบอกว่าโฮลี่เบบี้ฆ่าพระเจ้า นั่นเป็นเรื่องจริงอย่างนั้นหรอ?”
ไม่มีใครตอบอะไร พวกเขาทุกคนก็อยากจะรู้คำตอบของเรื่องนั้นเช่นเดียวกัน
ถึงแม้หานเซิ่นจะกำลังเป็นฝ่ายที่ได้เปรียบ แต่พลังเทพสปิริตของสกายไวน์แรดิชนั้นไม่ได้แข็งแกร่งไปกว่าเทพสปิริตของอีวิลโลตัส พลังของพวกเขานั้นเกือบจะเท่ากัน
ถ้าหานเซิ่นไม่ได้ใช้ประโยชน์จากความพลาดพลั้งของอีวิลโลตัสในตอนแรก เขาก็คงจะไม่ได้เปรียบแบบนี้
“สิ่งมีชีวิตชั้นต่ำยังไงก็เป็นแค่สิ่งมีชีวิตชั้นต่ำ ถึงแม้เจ้าจะมีเทพสปิริต เจ้าก็ทำได้แค่ควบคุมมันจากภายนอก”
อีวิลโลตัสกำลังถูกไล่ต้อน แต่เขายังคงดูภาคภูมิใจในตัวเอง ดวงตาของเขาลุกโชนยิ่งกว่าเดิม และพวกมันก็เต็มไปด้วยความละโมบ เขามองไปที่เทพสปิริตของสกายไวน์แรดิชด้วยความโลภ
“มันเพียงพอที่จะฆ่าเจ้าละกัน” หานเซิ่นเองก็รู้สึกได้ถึงเรื่องนั้นเช่นกัน การที่อีวิลโลตัสและเทพสปิริตเป็นหนึ่งเดียวกันทำให้เขาควบคุมพลังของเทพสปิริตได้ดีกว่า มันไม่เหมือนกับการใช้จิตใจควบคุมจากภายนอกเหมือนอย่างหานเซิ่น ถึงแม้หานเซิ่นจะเป็นฝ่ายที่ได้เปรียบ แต่เขาก็ไม่สามารถฆ่าอีกฝ่ายได้
ในระหว่างที่ทำการต่อสู้ หานเซิ่นจับจ้องไปที่ร่างสปิริตสีม่วงของอีวิลโลตัส เขามั่นใจว่ามันคือเทพสปิริต แต่มันดูแตกต่างไปจากเทพสปิริตของสกายไวน์แรดิช แสงแห่งเทพสีเขียวของสกายไวน์แรดิชนั้นเห็นได้ชัดว่าเป็นพลังธาตุพืช ส่วนร่างสปิริตสีม่วงของอีวิลโลตัสนั้นเป็นอีกธาตุหนึ่ง ซึ่งหานเซิ่นยังไม่รู้ว่ามันคือธาตุอะไรกันแน่
‘นี่ร่างกายของเราจะรวมเป็นหนึ่งกับเทพสปิริตได้เหมือนกันหรือเปล่านะ?’ หานเซิ่นมองไปที่อีวิลโลตัส เขาอยากจะรู้ว่าตัวเขาเองสามารถรวมกับเทพสปิริตเพื่อต่อสู้ได้ไหม
อีวิลโลตัสพูดขึ้นมา “สิ่งมีชีวิตชั้นต่ำที่โง่เขลา พระเจ้าคนนี้จะทำให้เจ้าได้รู้ถึงพลังที่แท้จริงของเทพสปิริต”
หลังจากนั้นจู่ๆร่างสปิริตสีม่วงก็มีเครื่องหมายประหลาดปรากฏขึ้นบนหน้าฝากของมัน เครื่องหมายประหลาดนั้นดูเหมือนจะประกอบด้วยกฎนับไม่ถ้วนของจักรวาล มันเป็นแค่เครื่องหมายเล็กๆ แต่ดูเหมือนมันจะอัดแน่นไปด้วยปาฏิหาริย์ที่ไม่มีที่สิ้นสุดของจักรวาล
หานเซิ่นรู้สึกแย่ขึ้นมา ในตอนที่เครื่องหมายนั่นปรากฏขึ้น เขาก็สัมผัสได้ว่าพลังร่างสปิริตสีม่วงของอีวิลโลตัสนั้นเพิ่มสูงขึ้นอย่างมาก มันเหมือนกับว่าเขาได้รับพลังของจักรวาล
“รับบทลงโทษของพระเจ้าในนามของพระเจ้าอีวิลโลตัส!”
ในตอนที่เสียงของอีวิลโลตัสดังขึ้นมา ร่างสปิริตสีม่วงของเขาก็ประสานมือเหมือนกับพระพุทธเจ้า ใต้เท้าของเขามีดอกบัวสีม่วงปรากฏออกมา ในตอนที่ดอกบัวนั้นเริ่มบานออก หานเซิ่นก็รู้สึกว่าทั้งโลกเต็มไปด้วยดอกบัวสีม่วง มันเหมือนกับว่าเขาร่วงลงไปในสระดอกบัวที่กว้างใหญ่ไม่มีที่สิ้นสุด
หานเซิ่นมองไปที่พวกลุงสองและสังเกตเห็นว่าพวกเขาไม่มีปฏิกิริยาใดๆ มันเหมือนกับว่าพวกเขาไม่ได้เห็นสิ่งที่กำลังเกิดขึ้น
หานเซิ่นมีคำถามมากมายในหัว เขาคิดกับตัวเอง ‘ดูเหมือนว่าพลังของสกายไวน์แรดิชและอีวิลโลตัสนั้นเหมือนกับพระเจ้าเหล่านั้น มันไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งมีชีวิตของจักรวาล แต่ทำไมร่างกายของพวกเขาถึงแตกต่างไปจากพระเจ้าแห่งความว่างเปล่าและพระเจ้าคนอื่นๆ? นี่จริงๆแล้วพวกเขาเองก็ทำร้ายสิ่งมีชีวิตของจักรวาลได้เหมือนกันอย่างนั้นหรอ?”
อีวิลโลตัสไม่ได้หยุดให้หานเซิ่นได้มีเวลาคิด ในตอนที่ดอกบัวใต้เท้าของเขาบานออกอย่างเต็มที่ พลังมหาศาลก็ระเบิดจากตัวของเขาและส่งสกายไวน์แรดิชกระเด็นออกไป
อีวิลโลตัสเคลื่อนที่ไปพร้อมกับดอกบัวสีม่วง เขาโจมตีใส่ร่างเทพสปิริตของสกายไวน์แรดิชอย่างบ้าคลั่ง
ในตอนนี้พลังร่างสปิริตสีม่วงของอีวิลโลตัสนั้นเหนือกว่าสกายไวน์แรดิชมาก ภายใต้การโจมตีอย่างต่อเนื่องของร่างสปิริตสีม่วง แขนของสกายไวน์แรดิชก็ถูกทำลายในเวลาเพียงไม่นาน
หานเซิ่นไม่ได้รับบาดเจ็บจากเรื่องนั้น เขาแตกต่างจากอีวิลโลตัสที่เป็นหนึ่งเดียวกับเทพสปิริต สำหรับหานเซิ่นแล้ว ถึงแม้สถายไวน์แรดิชจะถูกฆ่าตาย มันก็ไม่ส่งผลกระทบอะไรต่อร่างกายของเขา แต่ถ้าสกายไวน์แรดิชถูกฆ่า หานเซิ่นก็จะไม่เหลืออะไรไปใช้ต่อสู้กับอีวิลโลตัส
ด้วยเหตุนั้นหานเซิ่นจึงเข้าไปร่วมต่อสู้ด้วย เขารู้ว่าจะพึ่งพาแค่เทพสปิริตของสกายไวน์แรดิชเพียงอย่างเดียวไม่ได้ เขาจำเป็นต้องร่วมมือกับสกายไวน์แรดิช ถ้าเขาต้องการจะชนะอีวิลโลตัส
เมื่อหานเซิ่นเริ่มเคลื่อนไหว อีวิลโลตัสก็รู้ว่าหานเซิ่นตั้งใจจะทำอะไร เขามองหานเซิ่นด้วยความดูถูกและพูด “สิ่งมีชีวิตชั้นต่ำที่โง่เขลา”
อีวิลโลตัสชกสกายไวน์แรดิชกระเด็นออกไปและหันไปชกใส่หานเซิ่นต่อทันที ร่างสปิริตสีม่วงนั้นเคลื่อนไหวตามและชกใส่หานเซิ่นเช่นเดียวกัน
หานเซิ่นโยนแคปซูลขึ้นและชกใส่เพื่อทำให้มันแตกกระจาย ผงรูปปั้นดินเผาพุ่งออกมาราวกับหมอกควันสีเทา
“กิเลนศักดิ์สิทธิ์นั้นแข็งแกร่ง แต่ถ้าเจ้าคิดว่ามันจะทำร้ายพระเจ้าได้ เจ้าก็ไร้เดียงสาเกินไปแล้ว”
อีวิลโลตัสยังคงชกต่อไปข้างหน้า หมัดของร่างสปิริตสีม่วงทะลุผ่านเศษเถ้าของกิเลนศักดิ์สิทธิ์ไป