Super God Gene – ตอนที่ 2826

หานเซิ่นคิด ‘นี่ม้วนกระดาษนี่บันทึกรายชื่อของยอดฝีมือที่เคยฆ่าพระเจ้าเอาไว้อย่างนั้นหรอ?’

 

แต่หานเซิ่นคิดว่ามีบางสิ่งผิดปกติเกี่ยวกับเรื่องนี้
“ผู้นำเซเคร็ดนั้นทำการวิจัยอยู่เป็นเวลานาน แต่เขาก็ยังฆ่าพระเจ้าไม่ได้ แบบนั้นทำไมเพอเพิลไฟต์ที่เป็นลูกน้องของเขากลับฆ่าพระเจ้าได้สำเร็จ? นั่นเป็นอะไรที่แปลก แถมผู้หญิงคนนั้นและฮอไรซอนทอลอีวิลเคยบอกว่าถ้าไม่มีสุดยอดยีน มันก็เป็นไปไม่ได้ที่จะฆ่าพระเจ้า แม้แต่ผู้นำเซเคร็ดก็หาสุดยอดยีนมาไม่ได้ แบบนั้นเพอเพิลไฟต์ไปหาสุดยอดยีนมาได้ยังไง?” ในหัวของหานเซิ่นเต็มไปด้วยคำถาม

 

เพื่อจะหาคำตอบในม้วนกระดาษนี้ หานเซิ่นส่งแรงเข้าไปในมือมากขึ้นเพื่อจะดึงม้วนกระดาษให้เปิดกว้างขึ้นกว่าเดิม

 

ม้วนกระดาษนั้นเป็นอะไรที่ยากจะเปิดออกราวกับว่ามันทากาวเอาไว้ มันต้องใช้พลังจำนวนมากเพื่อเปิดมันออก และการเปิดมันให้กว้างขึ้นนั้นเป็นอะไรที่ยากขึ้นเรื่อยๆ แม้แต่พลังขั้นลาร์วาของหานเซิ่นก็เกือบจะเปิดมันไม่ออก

 

“ฮอไรซอนทอลอีวิล… ฆ่าพระเจ้า…” ในตอนที่หานเซิ่นเห็นชื่อนั้น เขาก็แข็งทื่อไป

 

ฮอไรซอนทอลอีวิลเป็นอัลฟ่าของเผ่าเบรกสกาย ก่อนหน้านี้หานเซิ่นได้เห็นเขาถูกตรึงอยู่กับภูเขาและถูกทรมาน ฮอไรซอนทอลอีวิลเคยบอกหานเซิ่นว่าเขาไม่มีพลังที่จะฆ่าพระเจ้า ซึ่งขัดกับสิ่งที่บันทึกอยู่บนม้วนกระดาษนี้

 

จู่ๆหานเซิ่นก็เกิดคิดว่าม้วนกระดาษนี้อาจจะเป็นแค่การเล่นตลกของกิเลนศักดิ์สิทธิ์ ไม่อย่างนั้นการเขียนรายชื่อพวกนี้มันจะไปมีประโยชน์อะไร? มันคิดจะมอบความผิดให้กับเพอเพิลไฟต์ ฮอไรซอนทอลอีวิลและคนอื่นๆอย่างนั้นหรอ?

 

ถึงแม้หานเซิ่นจะเริ่มสงสัยในความน่าเชื่อถือของม้วนกระดาษนี้ เขาก็ยังคงพยายามเปิดมันต่อไป เขาอยากจะเปิดดูต่อให้จบ

 

แต่ทว่าในตอนที่เขาพยายามจะดึงมันให้เปิดออกเพิ่มขึ้นอีก เขาก็พบว่าพลังที่จำเป็นต้องใช้นั้นมากเกินไป และเขาไม่สามารถเปิดม้วนกระดาษให้กว้างมากไปกว่านี้ได้

 

“เปิด!” หานเซิ่นกัดฟัน วิญญาณอสูรกริฟของหมาป่าสกายสตาร์เรืองแสงขึ้นบนร่างกายของเขา ซึ่งมอบพลังให้กับเขาอีกนิดเพื่อจะเปิดม้วนกระดาษ

 

เส้นเลือดปูดขึ้นมาบนแขนของหานเซิ่น โซ่สสสารมายมายแว็บขึ้นรอบๆมือของเขา เขาบังคับให้ม้วนกระดาษเปิดออกทีละนิดๆ

 

“หานอวี้เฟย… ดูหมิ่นต่อพระเจ้า… ถูกส่งไปในวังวนที่ไม่มีวันได้ไปเกิดใหม่อีกครั้ง…” ในที่สุดหานเซิ่นก็เห็นความผิดที่แตกต่างออกไป แต่มันทำให้หานเซิ่นรู้สึกสงสัยยิ่งกว่าเดิม

 

ในหัวของหานเซิ่นเต็มไปด้วยคำถาม “หานอวี้เฟย? นั่นควรจะเป็นชื่อของผู้หญิง แต่เธอเป็นใครกัน? เธอเกี่ยวข้องยังไงกับเซเคร็ด? เธอดูหมิ่นต่อพระเจ้าอย่างนั้นหรอ? นั่นไม่น่าจะเป็นอะไรที่เลวร้ายไปกว่าการฆ่าพระเจ้า แต่ทำไมคนอื่นๆไม่ได้ถูกลงโทษ ขณะที่ผู้หญิงคนนี้ถูกส่งไปในวังวนที่ไม่มีวันได้ไปเกิดใหม่?”

 

ปัง!

พลังของหานเซิ่นไม่สามารถเปิดม้วนกระดาษต่อไปได้อีก แท่งทั้งสองของม้วนกระดาษนั้นเด้งกลับเข้าตำแหน่งดั้งเดิมของพวกมันและหน้ากระดาษก็ถูกม้วนกลับไปอย่างที่มันเคยเป็น หลังจากนั้นม้วนกระดาษก็พยายามจะบินหนีไป

 

หานเซิ่นจับม้วนกระดาษเอาไว้และเอามันไปเก็บไว้ในหอคอยแห่งโชคชะตา

 

“เกิดอะไรขึ้นกันแน่? ทำไมมันถึงได้มีคนหลายคนที่ฆ่าพระเจ้าได้สำเร็จ?” หานเซิ่นรู้สึกสงสัยอย่างมาก แต่เขามีข้อมูลไม่เพียงพอ

 

“ดูเหมือนว่าเราจำเป็นต้องรอจนกระทั่งพลังของเราแข็งแกร่งกว่านี้ เมื่อถึงเวลานั้นเราจะเปิดม้วนกระดาษอย่างสมบูรณ์และเรียนรู้ถึงความหมายของรายชื่อในม้วนกระดาษ” หานเซิ่นตัดสินใจว่าจะเลิกคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ไปก่อน

 

ตอนนี้เมื่อหานเซิ่นกลายเป็นผู้ใหญ่อีกครั้ง ถึงแม้มันจะไม่มีใครบอกได้ว่าเขาคือหานเซิ่น มันก็ไม่เหมาะสมนักที่เขาจะอยู่ในเผ่าเอ็กซ์ตรีมคิงต่อไป ดังนั้นหานเซิ่นจึงตัดสินใจเทเลพอร์ตกลับเข้าไปในก็อตแซงชัวรี่

 

หานหลิงเอ๋อกำลังหัดวาดภาพอยู่ในสวน เมื่อเธอเห็นหานเซิ่นปรากฏตัวขึ้นมาอย่างกะทันหัน เธอเอนหัวไปด้านข้างขณะที่มองไปที่เขาและถาม
“คุณเป็นหัวขโมยอย่างนั้นหรอ?”

 

“ถ้าฉันเป็นหัวขโมย หนูจะทำอะไร?” หานเซิ่นยิ้มขณะที่มองไปที่หานหลิงเอ๋อ เขาต้องการจะแกล้งเธอ

 

หานหลิงเอ๋อกระพริบตาปริบๆ “คุณหัวขโมยสุดหล่อ คุณดูดีมากๆ ถ้าคุณไปซะตอนนี้ หนูจะแกล้งทำเป็นว่าหนูไม่เคยเห็นคุณ”

 

หานเซิ่นรู้สึกเครียดขึ้นมา “หลิงเอ๋อยังตัวเล็กแค่นิดเดียว เธอก็หลงไหลกับรูปลักษณ์ภายนอกซะแล้ว เราควรจะสอนเธอว่าผู้ชายที่หน้าตาดีนั้นเชื่อไม่ได้”

 

“หลิงเอ๋อ หนูจำพ่อไม่ได้อย่างนั้นหรอ?” หานเซิ่นถาม เขาดูหดหู่

 

“พ่อ?” หานหลิงเอ๋อมองหานเซิ่นด้วยท่าทางสับสน หลังจากผ่านไปสักพัก เธอก็วิ่งเข้ามาจับมือของหานเซิ่นอย่างร่าเริง
“พ่อ? ตั้งแต่เมื่อไหร่กันที่พ่อหล่อขนาดนี้?”

 

หานเซิ่นอยากจะพูดบางสิ่ง แต่เขาได้ยินเสียงจีเหยียนหรันเดินเข้ามา เธอมองหานเซิ่นอยู่สักพักก่อนที่จะถามด้วยความประหลาดใจ
“หานเซิ่น ทำไมตอนนี้นายถึงดูดีขึ้นกว่าเดิม?”

 

หานเซิ่นอธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นให้จีเหยียนหรันและหลิงเอ๋อฟัง เขาสังเกตได้ว่าฐานะของตัวเองภายในบ้านนั้นดีขึ้นกว่าเดิมมาก เมื่อก่อนในตอนที่เขามาถึงที่บ้าน เขาก็ได้กินแค่อาหารธรรมดาๆ แต่ตอนนี้จีเหยียนหรันทำอาหารจานพิเศษให้กับเขา

 

หลิงเอ๋อก็วนเวียนอยู่รอบๆตัวเขาและเกือบจะไม่ปล่อยมือจากเขา เธอเรียกเขาเพื่อขอหอมแก้มครั้งแล้วครั้งเล่า

 

“แม่ลูกคู่นี้นี่…” หานเซิ่นสังเกตได้ว่าการจะเพิ่มฐานะในครอบครัวของเขา พละกำลังเป็นอะไรที่ไร้ประโยชน์ และหน้าตาคืออาวุธที่มีประสิทธิภาพที่สุด

 

“ใบหน้าเดิมของฉันก็ไม่ได้แย่อะไร” หานเซิ่นรู้สึกเศร้าใจ ถึงใบหน้าของเขาจะไม่ได้หล่อเหลาอะไรมากนัก แต่ร่างกายของเขาก็กำยำสมชายชาตรี เขาไม่ได้แย่ไปกว่านายแบบคนหนึ่ง แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ไม่เคยถูกปฏิบัติดีแบบนี้มาก่อน

 

วันรุ่งขึ้นหลังจากที่พักผ่อนได้หนึ่งวัน หานเซิ่นก็ตื่นขึ้นมาจากเสียงร้องของจีเหยียนหรัน

 

“เกิดอะไรขึ้นอย่างนั้นหรอ? มันยังเช้าตรู่อยู่เลย”
หานเซิ่นลุกขึ้นมาและรู้สึกว่ามันมีบางสิ่งผิดปกติกับร่างกายของเขา เมื่อเขามองดูดีๆ เขาก็พบว่าร่างกายตัวเองกลับกลายเป็นเด็กอีกครั้ง

 

“นี่มันเกิดอะไรขึ้น? ทำไมฉันถึงเป็นแบบนี้อีกแล้ว? ฉันคิดว่าหลังจากที่วิวัฒนาการสู่ขั้นลาร์วา ฉันจะกลายเป็นปกติ” หานเซิ่นไม่เข้าใจ

 

“น่ารักอะไรขนาดนี้…” จีเหยียนหรันกอดหานเซิ่นในอ้อมแขน เธอใช้แก้มของเธอถูกับแก้มของหานเซิ่นและพูด “เสี่ยวฮวานั้นน่ารักแบบนี้ในตอนที่เขาเล็กเท่านี้”

 

หานเซิ่นไม่รู้จะพูดยังไง จีเหยียนหรันนั้นยอมรับความจริงที่ว่าสามีของเธอกลายเป็นเด็กคนหนึ่ง เธอดูไม่ได้กังวลอะไรกับเรื่องนั้นเลย

 

หานเซิ่นศึกษาเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่สักพัก และเขาก็พบว่าเป็นครั้งคราวเขาจะกลายเป็นผู้ใหญ่ได้ แต่เขาไม่สามารถคงร่างผู้ใหญ่เอาไว้ได้เป็นเวลานาน เขาสามารถคงร่างผู้ใหญ่เอาไว้ได้ราวๆสิบชั่วโมงเท่านั้น หลังจากนั้นเขาก็จะกลับไปเป็นเด็กอีกครั้ง

 

“อุส่ารีบวิวัฒนาการเป็นขั้นลาร์วา แต่เราก็ยังไม่กลับเป็นปกติ! ดูเหมือนเราจำเป็นต้องกลายเป็นขั้นบัตเตอร์ฟลายเพื่อกลับเป็นปกติจริงๆ”
หานเซิ่นกำลังคิดเกี่ยวกับเรื่องที่จะหนีจากเผ่าเอ็กซ์ตรีมคิงได้ยังไง แต่ในตอนนี้ดูเหมือนว่าเขาไม่จำเป็นต้องทำแบบนั้นแล้ว เขาตัดสินใจจะอยู่ในเผ่าเอ็กซ์ตรีมคิงต่อไปในฐานะโฮลี่เบบี้ และใช้ประโยชน์จากทรัพยากรของพวกเขาให้มากที่สุด

 

ขณะที่เขายังคงเป็นผู้ใหญ่ หานเซิ่นใช้ลูกบาศก์สี่แกะเพื่อเข้าไปในฟาร์มของพระเจ้า เขาต้องการดูว่าจะได้พบกับกู่หว่านเอ๋ออีกครั้งได้ไหม

 

ทันทีที่หานเซิ่นเข้าไปในฟาร์มของพระเจ้า เขาก็ได้เห็นกู่หว่านเอ๋อกำลังฆ่าพวกแกะด้วยมีดของเธอ นั่นทำให้เขารู้สึกดีใจ

 

“เราได้ศึกษาเกี่ยวกับวิธีการที่จะรับมือกับมีดเทพอยู่เป็นเวลานาน ตอนนี้เราจะลองนำมันมาใช้จริง”
หานเซิ่นเทเลพอร์ตไปตรงหน้ากู่หว่านเอ๋อ เขามองไปที่กู่หว่านเอ๋อและพูด “กู่หว่านเอ๋อ เธอถอยออกไป!”

Super God Gene

Super God Gene

ในยุคสมัยที่วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของมนุษย์ถูกพัฒนาจนถึงระดับสูง ในที่สุดมนุษยชาติก็ได้ค้นพบวิธีการเทเลพอร์ต แต่เมื่อพวกเขาทดลองเทเลพอร์ต กลับพบว่าพวกเขาไม่ได้ถูกส่งไปในอนาคต อดีตหรือสถานที่อื่นๆที่มนุษย์รู้จัก แต่มันคือโลกที่แตกต่างโดยสิ้นเชิง สถานที่ลึกลับนี่ถูกเรียกว่า ‘ก็อด เเซงชัวรี่’ ที่นี่มีสิ่งมีชีวิตประหลาดอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก แต่เมื่อมนุษย์ลองกินสิ่งมีชีวิตประหลาดเข้าไป ร่างกายของพวกเขาพัฒนาขึ้นและยังเพิ่มอายุขัยขึ้นด้วย มันคือก้าวที่ยิ่งใหญ่ของมนุษย์ชาติในการวิวัฒนาการเพื่อสร้างยุคสมัยที่ยิ่งใหญ่ “ด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ถูกฆ่า คุณได้รับวิญญาณอสูรด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ เมื่อกินเนื้อของด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ คุณมีโอกาสได้รับ 0 ถึง 10 Geno Point โดยการสุ่ม” The future unfolded on a magnificent scale into the Interstellar Age. Humanity finally solved the space warp technology, but when humanity transported themselves into the other end, they discovered that place neither had a past nor future, nor was there any land under the starry skies…… The mysterious sanctuary was actually a world filled with countless tyrannical unusual organisms. Humanity faced their great leap in evolution, starting the most glorious and resplendant new era under the starry skies. “Slaughtered the God Blood organism ‘Black Beetle’. Received the God Blood Black Beetle’s Beast Soul. Used the God Blood Black Beetle’s flesh. Randomly obtaining 0 to 10 points of God Gene(s).”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset