“พวกเขาเอาชนะเจ้าได้ยังไง?”
หานเซิ่นอดไม่ได้ที่จะถามขึ้นมา เขารู้ว่าตอนนี้ตัวเองเข้าใกล้ความจริงเบื้องหลังสิ่งที่เกิดขึ้นกับทีมเจ็ด พระเจ้าคนนี้คงจะเป็นพระเจ้าคนเดียวกับที่ทีมเจ็ดเจอ
“เจ้าคิดว่าข้าจะเปิดเผยจุดอ่อนของตัวเองอย่างนั้นหรอ?” พระเจ้าพูดพร้อมกับหัวเราะ
หานเซิ่นมองไปที่พระเจ้าอย่างแปลกๆ ถึงเขาจะเข้าสิงกู่หว่านเอ๋ออยู่ แต่พระเจ้าคนนี้ก็ให้ความรู้สึกเหมือนกับว่าเขาเป็นเพื่อนบ้านที่เป็นมิตรคนหนึ่ง เขาไม่ได้มีออร่าที่สูงส่งเหมือนอย่างราชาจุนและเทพสปิริตคนอื่นๆ เขาไม่ได้พยายามจะเสนอตัวว่าเขาเป็นเทพที่ไร้พ่ายเช่นกัน ถ้าหานเซิ่นไม่ได้รู้ว่าเขาเป็นพระเจ้าคนหนึ่ง หานเซิ่นก็จะไม่คิดว่าเขาเป็นสิ่งชีวิตที่ชอบเล่นกับชะตากรรมของคนอื่นๆ
เมื่อคิดเกี่ยวกับสิ่งเลวร้ายที่เกิดขึ้นกับคนในทีมเจ็ดแล้ว หานเซิ่นก็รู้ว่าท่าทีและออร่าของเขาไม่สามารถเชื่อได้ สิ่งมีชีวิตที่เรียกตัวเองว่าพระเจ้านั้นอาจจะดูเป็นมิตร แต่ลักษณะภายนอกนั้นเป็นอะไรที่เชื่อไม่ได้ ภายในนั้นพวกเขาเป็นปีศาจที่ชั่วร้าย
ขณะที่ทั้งสองคนพูดคุยกันอยู่ ผู้นำเผ่าเวรี่ไฮที่นั่งอยู่ใต้ต้นไม้ก็ลุกขึ้นมา เขามองไปยังหนึ่งในผลไม้ของต้นไม้ดารา
ตามธรรมชาติแล้ว ผลไม้ดาราแต่ละลูกนั้นยากจะเติบโตและตกลงมาบนพื้น มันเป็นกระบวนการที่ใช้เวลายาวนานเกินไป แม้แต่ผู้คนที่เฝ้าต้นไม้ดาราก็คงจะไม่มีความอดทนที่จะรอนานขนาดนั้น
แต่ตอนนี้มันมีผลไม้ลูกหนึ่งที่เติบโตจนเต็มที่ตามธรรมชาติ ผู้นำเผ่าเวรี่ไฮในวัยหนุ่มจ้องไปที่ผลไม้ลูกนั้นด้วยสีหน้าที่ดูจริงจัง
แน่นอนว่าผลไม้ดาราที่เติบโตเต็มที่นั่นย่อมมีซีโน่เจเนอิคระดับเทพเจ้าอยู่ภายใน และมันไม่ใช่แค่ขั้นพริมิทีฟหรือทรานส์มิวเทชั่น มันจะเป็นขั้นลาร์วาหรือขั้นบัตเตอร์ฟลายเป็นอย่างน้อย
ผู้นำเผ่าเวรี่ไฮยังหนุ่มมากๆ เขาเป็นแค่ระดับเทพเจ้าขั้นพริมิทีฟเท่านั้น แต่เขาก็ถูกคำนึงว่าเป็นอัจฉริยะที่หาได้ยากในหมู่ของเวรี่ไฮ ถึงอย่างนั้นความห่างชั้นระหว่างขั้นพริมิทีฟกับขั้นลาร์วาหรือขั้นบัตเตอร์ฟลายนั้นก็ถือว่ามากเกินไป
แต่ทว่าเขาไม่มีแผนจะหนีไปหรือไปตามเวรี่ไฮคนอื่นมาช่วย เขาแค่มองไปที่ผลไม้ดาราอย่างเงียบๆด้วยสายตาที่เปี่ยมไปด้วยความมั่นใจ
ผลไม้ดาราปล่อยแสงที่น่ากลัวออกมา มันเหมือนกับดวงอาทิตย์ที่ร้อนแรงเต็มขีดจำกัด เมื่อเวลาผ่านไปแสงของผลไม้ดาราก็อ่อนลงไปเรื่อยๆ มันเปลี่ยนแปลกจากสีขาวไปสู่สีเหลือง จากสีเหลืองไปสู่สีแดง จากสีแดงไปสู่สีแดงคล้ำและจากสีแดงคล้ำไปสู่สีดำ ที่สุดแล้วมันก็ดูดำสนิทเหมือนกับถ่าน
“เจ้ากับข้าต้องคาดเดาว่าผู้นำเผ่าเวรี่ไฮจะฆ่าซีโน่เจเนอิคได้สำเร็จหรือไม่” พระเจ้าพูด
เมื่อได้ยินแบบนั้นหานเซิ่นก็ขมวดคิ้ว นั่นเป็นคำถามที่ไม่ยาก ผลไม้ดารานั้นปลดปล่อยออร่าที่น่ากลัวมากๆออกมา มันแข็งแกร่งกว่าหานเซิ่นในตอนนี้เสียอีก
ส่วนทางด้านผู้นำเผ่าเวรี่ไฮนั้นเป็นแค่ระดับเทพเจ้าขั้นพริมิทีฟ พลังของเขาไม่เพียงพอจะต่อสู้กับซีโน่เจเนอิคที่อยู่ภายในผลไม้ดาราลูกนั้น และมันไม่มีเวรี่ไฮคนอื่นอยู่ที่นี่ มันเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะสังหารซีโน่เจเนอิคตัวนั้น
จากประสบการณ์การเฝ้าต้นไม้ดาราของหานเซิ่น เขาสามารถคาดเดาได้ว่าซีโน่เจเนอิคจะหนีออกไปได้สำเร็จ และผู้นำเผ่าเวรี่ไฮก็จะไม่สามารถทำอะไรเพื่อหยุดมันได้
ด้วยผลลัพธ์ที่ชัดเจนแบบนั้น มันเป็นไปไม่ได้ที่พระเจ้าจะไม่รู้เรื่องนั้นเรียบร้อยแล้ว แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็จงใจย้อนเวลามาที่เหตุการณ์นี้ มันยากที่จะเชื่อว่าพระเจ้านั้นมองความแตกต่างระหว่างพลังของทั้งสองฝ่ายไม่ออก
‘หรือพระเจ้าจะรู้ว่าเราจะเลือกว่าผู้นำเผ่าเวรี่ไฮจะฆ่าซีโน่เจเนอิคไม่ได้? แต่จริงๆแล้วเขาฆ่ามันได้สำเร็จอย่างนั้นหรอ?’ หานเซิ่นคิด
‘ไม่สิ พระเจ้าอาจจะพยายามหลอกให้เราคิดแบบนั้น และจริงๆแล้วซีโน่เจเนอิคหนีไปได้อย่างไม่มีปัญหาอะไร’
หลังจากนั้นหานเซิ่นก็รู้สึกตัวว่าตัวเองทำผิดพลาดครั้งใหญ่ การเดิมพันกับคนที่เป็นมืออาชีพในเรื่องการล่อหลอกผู้คนเป็นสิ่งที่เลวร้ายที่สุด เขาอาจจะเดินเข้าไปติดกับดักของอีกฝ่ายโดยที่ไม่รู้ตัว
หานเซิ่นรู้ว่าอีกฝ่ายนั้นเชี่ยวชาญในเรื่องแบบนี้ ดังนั้นเขาจึงรีบสงบจิตใจและวิเคราะห์ข้อมูลที่มีอย่างใจเย็น เขาทำการตัดสินใจจากข้อมูลทั้งหมดที่มี
“ผู้นำเผ่าเวรี่ไฮจะฆ่าซีโน่เจเนอิคไม่สำเร็จ”
หานเซิ่นทำการตัดสินใจแบบนั้นก็เพราะว่านี่เป็นสถานการณ์ที่เป็นไปได้มากที่สุด หานเซิ่นจำเป็นต้องเลือกตัวเลือกที่มีโอกาสสูงกว่า
“ตกลง ถ้าอย่างนั้นข้าจะเลือกว่าผู้นำเผ่าเวรี่ไฮสังหารซีโน่เจเนอิคได้สำเร็จ”
พระเจ้าพูดด้วยรอยยิ้ม มันไม่มีความผิดปกติอะไรปรากฏให้เห็นบนใบหน้าของเขา ดังนั้นหานเซิ่นไม่สามารถบอกได้ว่าตัวเองนั้นเลือกถูกต้องหรือไม่
ผลไม้ที่เปลี่ยนเป็นสีดำสนิทระเบิดออกมาและซีโน่เจเนอิคที่อยู่ภายในก็ร่วงออกมา
ปีกผีเสื้อกึ่งโปร่งใสที่ด้านหลังของซีโน่เจเนอิคกางออกอย่างสวยงามราวดับดอกไม้ที่เบิกบาน ตรงหน้าของปีกผีเสื้อนั้นคือหญิงสาวผิวหยกที่กำลังปกปิดส่วนสำคัญของเธอด้วยแขนและมือ เธอดูขี้อาย
หานเซิ่นไม่ได้คาดคิดว่าสิ่งที่ออกมาจากผลไม้ดาราจะเป็นซีโน่เจเนอิคแบบนั้น เขาคิดกับตัวเอง ‘เป็นซีโน่เจเนอิคที่สวยงามอะไรขนาดนี้ ฉันไม่คิดว่าผู้ชายอย่างผู้นำเผ่าเวรี่ไฮจะโหดร้ายพอที่จะทำร้ายอะไรแบบนั้น แถมพลังของเขาก็ยังต่ำกว่าซีโน่เจเนอิคนั่น เขาไม่มีทางฆ่ามันได้’
เป็นอย่างที่หานเซิ่นคาดคิด ผู้นำเผ่าเวรี่ไฮดูตกใจในตอนที่เขาเห็นซีโน่เจเนอิคที่สวยงามนั้น ใบหน้าที่เย็นชาเหมือนกับน้ำแข็งของเขาละลายเล็กน้อย
“ท่านเป็นอิจฉริยะของเวรี่ไฮ ข้านับถือท่านมาเป็นเวลานาน ตั้งแต่ที่อยู่ในผลไม้ ถ้าท่านไม่รังเกียจ ข้าอยากจะขอติดตามท่าน…”
สิ่งที่น่าประหลาดใจที่สุดนั้นเกิดขึ้น ซีโน่เจเนอิคมีสติปัญญาที่สูงมากๆ และเธอเป็นขั้นบัตเตอร์ฟลายเรียบร้อยแล้ว นอกจากนั้นเธอยังยินดีที่จะติดตามผู้นำเผ่าเวรี่ไฮที่เป็นแค่ขั้นพริมิทีฟ นั่นเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ยากมากๆ
‘ดูเหมือนผู้นำเผ่าเวรี่ไฮจะไม่ฆ่าเธอแล้ว’ หานเซิ่นคิดขณะที่มองดูสิ่งที่เกิดขึ้น แต่เขาสังเกตเห็ฯว่าพระเจ้ายังคงยิ้มออกมา มันเหมือนกับว่าทุกอย่างเป็นไปตามที่เขาคิดเอาไว้ มันทำให้หานเซิ่นรู้สึกใจคอไม่ค่อยดี ทุกอย่างเป็นไปอย่างราบรื่นจนน่าตกใจ
ตอนนี้ผู้นำเผ่าเวรี่ไฮยังเป็นแค่คนหนุ่ม เขาไม่ได้มีจิตใจที่ไร้ความรู้สึกเหมือนคนที่ฝึกเวรี่ไฮฟอร์เก็ตเลิฟจนถึงขั้นสูงสุด หลังจากที่ได้พบกับผีเสื้อสาวที่งดงาม เขาก็มีความรู้สึกแปลกๆขึ้นมา
ความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองนั้นพัฒนาอย่างรวดเร็ว และไม่กี่วันหลังจากนั้นพวกเขาก็จูบกันราวกับคู่รักเรียบร้อยแล้ว
“ตอนนี้ข้าคิดว่าเจ้าเป็นฝ่ายแพ้แล้ว” หานเซิ่นจ้องมองพระเจ้าอยู่ตลอด เขาจะไม่ปล่อยให้อีกฝ่ายทำลายความสัมพันธ์ระหว่างผู้นำเผ่าเวรี่ไฮและผีเสื้อสาว
“พรุ่งนี้ถ้าผู้นำเผ่าเวรี่ไฮยังไม่ฆ่าผีเสื้อสาว มันก็ถือว่าข้าเป็นฝ่ายแพ้” พระเจ้าพูดด้วยรอยยิ้ม
“โอเค” หานเซิ่นตกลง แต่เขาคิดกับตัวเอง ‘ตอนนี้พวกเขาหลงรักกัน ในเวลาเพียงแค่วันเดียวมันไม่มีทางที่พวกเขาจะกลายเป็นศัตรูและพยายามฆ่ากัน ถึงแม้พวกเขาจะต่อสู้กัน ผีเสื้อสาวก็แข็งแกร่งกว่าผู้นำเผ่าเวรี่ไฮมาก ถ้าเกิดพวกเขาต่อสู้กันขึ้นมาจริงๆ มันก็คงจะจบลงด้วยความตายของผู้นำเผ่าเวรี่ไฮ’
เพื่อป้องกันไม่ให้พระเจ้าเล่นตุกติกอะไร หานเซิ่นจ้องมองเขาอยู่ตลอดเวลา เขาจะไม่ปล่อยให้พระเจ้าเข้าไปรบกวนผู้นำเผ่าเวรี่ไฮและผีเสื้อสาว
คืนนั้นผู้นำเผ่าเวรี่ไฮและผีเสื้อสาวอดไม่ได้ที่จะกินผลไม้ต้องห้าม
หานเซิ่นถอนหายใจด้วยความโล่งใจ “ตอนนี้เมื่อมันเกิดขึ้น ผู้นำเผ่าเวรี่ไฮจะไม่ต้องการฆ่าผีเสื้อสาวถูกไหม?”
หานเซิ่นหันไปมองพระเจ้าที่กำลังนั่งอยู่บนกิ่งของต้นไม้ เขาจับคางขณะที่มองไปที่ผู้นำเผ่าเวรี่ไฮและผีเสื้อสาว มันดูเหมือนกับว่าพระเจ้าดีใจกับพวกเขาและพูด “มันเป็นความสัมพันธ์ที่ทำให้ผู้คนอิจฉา”
“ถ้าเจ้าคิดว่าความสัมพันธ์นี่มันดีมากๆ นั่นหมายความว่าพวกเราไม่ควรไปรบกวนพวกเขาถูกไหม? ทำไมพวกเราไม่จบการเดิมพันตรงนี้?”
หานเซิ่นจับจ้องไปที่พระเจ้า เขาไม่คิดว่าพระเจ้าจะยอมปล่อยให้ตัวเองแพ้ง่ายๆแบบนั้น มันขึ้นอยู่กับเวลาเท่านั้นก่อนที่พระเจ้าจะทำอะไรบางอย่าง
ดวงตาของพระเจ้าดูแปลกๆเล็กน้อยขณะที่เขาพูดขึ้นมา “ไม่ นี่มันเป็นแค่จุดเริ่มต้นของการเดิมพันของพวกเรา”
หลังจากนั้นพระเจ้าก็กระโดดลงจากต้นไม้และไปยืนอยู่ตรงหน้าของผู้นำเผ่าเวรี่ไฮและผีเสื้อสาว
หานเซิ่นรู้ว่าในที่สุดพระเจ้าก็จะลงมือทำอะไรบางอย่าง ดังนั้นเขาจึงรีบเข้าไปขวางพระเจ้าเอาไว้ ไม่ว่าพระเจ้ามีแผนที่จะทำอะไร เขาก็รู้ว่าจำเป็นต้องหยุดมัน