“รู้ไหมว่าทำไมเจ้าถึงเรียนรู้มันไม่สำเร็จ แต่ข้ากลับเรียนรู้มันได้?” หานเซิ่นมองไปที่ผู้นำเผ่าเวรี่ไฮ
“ทำไมกัน?” ผู้นำเผ่าเวรี่ไฮมองไปที่หานเซิ่นและถาม นี่เป็นคำถามที่อยู่ในใจของเขาเช่นกัน
“มันเป็นเพราะเจ้าไม่มีคุณสมบัติพอ” หานเซิ่นพูด
“ข้าไม่มีคุณสมบัติพอ?” ในตอนที่ผู้นำเผ่าเวรี่ไฮได้ยินคำพูดของหานเซิ่น เขาก็ตัวแข็งทื่อไป
ตั้งแต่ที่เขายังเล็ก ไม่ว่าจะเป็นสมาชิกในครอบครัวหรือผู้อาวุโสในตระกูลต่างก็ชื่นชมในความยอดเยี่ยมของเขา ไม่มีใครที่เคยพูดว่าเขาไม่มีคุณสมบัติพอ เขาไม่เคยได้ยินประโยคแบบนั้นถูกใช้พูดกับเขามาก่อน
“ใช่แล้ว” หานเซิ่นพูดด้วยความหนักแน่น
“มันเป็นเพราะเจ้าไม่มีคุณสมบัติพอ นั่นเป็นเหตุผลที่เจ้าเรียนรู้มันไม่ได้ แต่ข้ากลับเรียนรู้มันได้อย่างง่ายดาย”
หานเซิ่นไม่ต้องการให้ผู้นำเผ่าเวรี่ไฮคิดว่าที่เขาเรียนรู้สกายแอนด์บีอิ้งคอมบิเนชั่นขั้นสูงสุดไม่สำเร็จ นั่นเป็นเพราะเขามีความรัก ซึ่งอาจจะทำให้เขาพยายามจะฆ่าผีเสื้อสาว
ผู้คนปกติอาจจะไม่ทำอะไรแบบนั้น แต่หานเซิ่นไม่แน่ใจเกี่ยวกับคนของเผ่าเวรี่ไฮ ดังนั้นหานเซิ่นไม่สามารถปล่อยให้เขาได้คิดว่าความล้มเหลวของเขาเป็นเพราะผีเสื้อสาว
หานเซิ่นจำเป็นต้องทำให้เขาเชื่อว่าที่เขาล้มเหลวนั้นเป็นเพราะความสามารถของตัวเอง ถ้าเขาเชื่อแบบนั้น เขาก็จะไม่มีเหตุผลที่ต้องฆ่าผีเสื้อสาว นั่นหมายความว่าแผนการของพระเจ้าจะล้มเหลว
ผู้นำเผ่าเวรี่ไฮพูด “ถึงแม้ข้าจะไม่คิดว่าตัวเองเป็นอัจฉริยะที่เก่งกาจที่สุด แต่ข้าก็จะไม่อนุญาตให้ใครมาบอกว่าข้าไม่ดีพอ”
“นั่นขึ้นอยู่กับว่าเจ้าเปรียบเทียบกับใคร” หานเซิ่นพูด
“ถ้าเจ้าเปรียบเทียบกับคนหน้าโง่ข้างบ้าน มันก็ไม่สำคัญว่าผู้คนจะบอกว่าเจ้าดีสักแค่ไหน เพราะนั่นหมายความว่าเจ้าแค่ดีที่สุดในฝูงหมูเท่านั้นเอง”
“ถ้าอย่างนั้นข้าเป็นยังไงเมื่อเทียบกับเจ้า?” ผู้นำเผ่าเวรี่ไฮขมวดคิ้ว
“มันบรรยายได้ในสองคำ แย่มาก” หานเซิ่นพูด เขาต้องการทำให้อีกฝ่ายเชื่อว่าจริงๆแล้วมันเป็นความผิดของตัวเขาเอง
ผู้นำเผ่าเวรี่ไฮนั้นยังหนุ่ม เวรี่ไฮเซ้นส์ของเขาจึงยังไม่ถึงขั้นที่จะทำให้เขาไม่รู้สึกอะไร ด้วยเหตุนั้นหานเซิ่นจึงพยายามยั่วยุเขาและทำให้เขาต้องการจะเอาชนะ
ผู้นำเผ่าเวรี่ไฮไม่ได้สนใจสิ่งที่หานเซิ่นพูด เขามองไปที่หานเซิ่นและพูด
“เจ้าแค่เรียนรู้วิชาจีโนหนึ่งเร็วกว่าข้าเท่านั้น เจ้าไม่คิดว่าตัวเองด่วนสรุปเกินไปหน่อยหรอ?”
“มันไม่ใช่แค่ข้าเรียนรู้วิชาจีโนหนึ่งเร็วกว่าเจ้า มันเป็นวิชาจีโนที่เจ้าไม่มีวันจะเรียนรู้ได้ แต่สำหรับข้ามันเป็นเรื่องง่ายๆ มันขึ้นอยู่กับพรสวรรค์ของแต่ละคน วิชาจีโนบางวิชาเจ้าอาจจะใช้เวลานานเป็นปีเพื่อจะฝึก แต่ข้าใช้เวลาเพียงแค่วินาทีเดียว” หานเซิ่นมองผู้นำเผ่าเวรี่ไฮด้วยความดูถูก
“ข้าคิดว่าเจ้าพูดโม้เกินไปแล้ว” ผู้นำเผ่าเวรี่ไฮคิดว่าหานเซิ่นพูดจาไร้สาระ เขาไม่เชื่อหานเซิ่น
“ถ้าเจ้าไม่เชื่อ เจ้าก็ลองเลือกวิชาจีโนสักตัวที่เจ้าคิดว่าฝึกได้ยาก เจ้าแค่ต้องแสดงมันให้ข้าดูเพียงครั้งเดียว มันไม่มีความจำเป็นที่เจ้าต้องสอนข้า ข้าจะแสดงให้เจ้าเห็นถึงความแตกต่างระหว่างอัจฉริยะที่แท้จริงกับสามัญชน” หานเซิ่นพูดด้วยความมั่นใจเต็มเปี่ยม
ผู้นำเผ่าเวรี่ไฮนั้นรู้สึกหงุดหงิดกับสิ่งที่หานเซิ่นบอกกับเขา เขาพูดด้วยใบหน้าที่เย็นชา
“เอางั้นก็ได้ ข้าเองก็อยากจะเห็นเหมือนกันว่าเจ้าจะอัจฉริยะขนาดไหนกันเชียว”
พระเจ้ามองทั้งสองคนด้วยความสนใจ เขาไม่ได้เข้าไปหยุดหานเซิ่นและผู้นำเผ่าเวรี่ไฮจากการโต้เถียงกัน
ผู้นำเผ่าเวรี่ไฮคิดอยู่สักพัก ที่สุดแล้วเขาก็ยื่นมือออกมาข้างหน้า ลูกบอลแสงสีรุ้งเบลอๆปรากฏขึ้นในมือของเขา เขามองไปที่หานเซิ่นและพูด
“นี่คือวิชาจีโนที่มีชื่อว่าเซเว่นไลท์ มันเป็นวิชาจีโนสำหรับมือใหม่ นี่ข้าจำเป็นต้องสอนมันให้กับเจ้าไหม?”
“ไม่ต้อง” หานเซิ่นมองไปที่ลูกบอลแสงเบลอๆและใช้ศาสตร์ตงเสวียน ฟันเฟืองจักรวาลนับไม่ถ้วนหมุนในดวงตาของหานเซิ่น
“มันเป็นแค่วิชาจีโนสำหรับมือใหม่จริงๆ” หานเซิ่นพูดด้วยสีหน้าดูถูก
“มันเป็นอะไรที่ง่ายเกินไป ทำไมเจ้าไม่เปลี่ยนไปใช้วิชาที่มันยากกว่านี้?”
“เจ้าควรจะเรียนรู้วิชานี้ให้ได้ซะก่อน” ผู้นำเผ่าเวรี่ไฮพูด
“มันไม่สายเกินไปที่จะเรียนวิชาอื่นที่ยากกว่าในภายหลัง”
ถึงแม้มันจะเป็นวิชาจีโนสำหรับมือใหม่ แต่วิชาจีโนเซเว่นไลท์ก็ถือเป็นวิชาที่ยากจะฝึก แม้แต่ยอดฝีมือระดับเทพเจ้าขั้นบัตเตอร์ฟลายหรือขั้นทรูก็อตบางคนก็ไม่สามารถใช้มันได้
ที่วิชาจีโนเซเว่นไลท์ฝึกได้ยากนั้นเป็นเพราะว่ามันจำเป็นต้องใช้เจ็ดพลังที่แตกต่างกันเพื่อรวมกันเป็นหนึ่งเดียว สิ่งมีชีวิตธรรมดาไม่มีพลังธาตุถึงเจ็ดอย่าง แม้แต่ยอดฝีมือขั้นทรูก็อตที่มีพลังธาตุที่แตกต่างกันหลายอย่างก็ไม่สามารถใช้เซเว่นไลท์ได้
ถึงแม้จะในจักรวาลที่ใหญ่โตนี้ สิ่งมีชีวิตที่มีพลังธาตุถึงสองธาตุก็ถือว่าหาได้ยากแล้ว สามธาตุนั้นหาได้ยากยิ่งกว่าขนนกฟินิกซ์หรือเกล็ดของกิเลน เจ็ดธาตุเป็นสิ่งที่คนส่วนใหญ่นั้นไม่เคยได้ยินมาก่อน
เผ่าเวรี่ไฮนั้นมีวิชาพิเศษที่ช่วยในการฝึกเซเว่นไลท์ แต่ถึงอย่างนั้นพวกเขาก็ไม่ได้มีพลังธาตุถึงเจ็ดธาตุจริงๆ
“ถ้าอย่างนั้นเจ้าก็เปลี่ยนวิชาได้เลย” หานเซิ่นยกมือขึ้นมาแสดงลูกบอลแสงสีรุ้งเบลอๆในมือของเขา มันเหมือนกับเซเว่นไลท์ของผู้นำเผ่าเวรี่ไฮ
ผู้นำเผ่าเวรี่ไฮตกใจ เขาจ้องมองไปที่ลูกบอลแสงของหานเซิ่น เขาอยากจะรู้ว่าเซเว่นไลท์ของหานเซิ่นนั้นเป็นของจริงหรือเปล่า เพราะยอดฝีมือบางคนนั้นเก่งเรื่องการตบตาคนอื่นด้วยภาพมายา
หานเซิ่นรู้ว่าผู้นำเผ่าเวรี่ไฮกำลังคิดอะไร เขาจึงปล่อยเซเว่นไลท์ไปใส่ผู้นำเผ่าเวรี่ไฮ และนั่นทำให้ผู้นำเผ่าเวรี่ไฮเองก็ปล่อยเซเว่นไลท์ในมือออกมาเช่นกัน
ตูม!
เซเล่นไลท์ของทั้งสองฝ่ายปะทะกันในอากาศ และระเบิดออกมาเป็นวงแหวนสีรุ้งที่สว่างไสวราวกับดวงอาทิตย์ มันสว่างซะจนไม่มีใครมองเห็นได้ชั่วครู่ มันใช้เวลาสักพักก่อนที่ทุกอย่างจะกลับมาเป็นปกติ
“มันเป็นเซเว่นไลท์จริงๆ” ผู้นำเผ่าเวรี่ไฮมีสีหน้าที่ซับซ้อน
เขาจำได้ว่าในตอนที่เขายังเล็ก เขาใช้เวลาหนึ่งอาทิตย์เพื่อฝึกเซเว่นไลท์ เขาได้ทำลายสถิติของเผ่าเวรี่ไฮ
แต่ตอนนี้ผู้ชายตรงหน้าของเขาแค่มองดูมันเพียงแค่ครั้งเดียว เขาไม่จำเป็นต้องอ่านตำราหรือใช้เวลาฝึกฝนแม้แต่นิดเดียว ผู้นำเผ่าเวรี่ไฮไม่สามารถทำใจให้เชื่อในเรื่องนี้ได้
‘บางทีเขาอาจจะเคยเรียนรู้เซเว่นไลท์มาก่อนแล้ว’
นั่นคือสิ่งที่ผู้นำเผ่าเวรี่ไฮคิด เขาพูดกับหานเซิ่น “ถ้าเจ้าคิดว่าเซเว่นไลท์นั้นง่ายเกินไป ข้าจะเสนอบางสิ่งที่ยากกว่า”
“นั่นคือสิ่งที่ข้าพยายามจะบอกเจ้าเมื่อครู่นี้” หานเซิ่นยิ้มให้กับเขา
มันไม่สำคัญว่าผู้นำเวรี่ไฮจะเสนอวิชาจีโนอะไรให้กับหานเซิ่น เพราะตราบใดที่เขาแสดงมันออกมาให้หานเซิ่นดู หานเซิ่นก็สามารถวิเคราะห์และจำลองมันด้วยศาสตร์ตงเสวียน
ในตอนนี้ผู้นำเผ่าเวรี่ไฮยังเป็นแค่ระดับเทพเจ้าขั้นพริมิทีฟ แต่หานเซิ่นเป็นขั้นลาร์วา การจำลองวิชาของอีกฝ่ายจึงไม่ได้เป็นเรื่องที่ยากเย็นอะไร ถึงแม้มันจะไม่ได้เหมือนหนึ่งร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่การจะจำลองให้เหมือนราวแปดสิบถึงเก้าสิบเปอร์เซ็นต์นั้นเป็นเรื่องง่ายๆ
ผู้นำเผ่าเวรี่ไฮคิดกับตัวเอง ‘คนสองคนนี้แปลกมากๆ ไม่รู้ว่าพวกเขามาจากที่ไหนกันแน่ แต่ดูเหมือนว่าพวกเขาจะรู้เกี่ยวกับเผ่าเวรี่ไฮเป็นอย่างดี ถ้าเราเลือกใช้วิชาจีโนของเผ่าเวรี่ไฮ เขาก็อาจจะเคยเรียนรู้มันมาก่อน’
ทันใดนั้นดวงตาของผู้นำเผ่าเวรี่ไฮก็เป็นประกายขึ้นมา เขาหันไปหาผีเสื้อสาวและพูด
“เจ้าช่วยแสดงวิชาเงาผีเสื้อของเจ้าให้เขาดูหน่อยได้ไหม”
วิชาจีโนเงาผีเสื้อมีเพียงแค่ผีเสื้อสาวเท่านั้นที่รู้ มันไม่มีวิชาจีโนอื่นที่คล้ายคลึงกับมันในเผ่าเวรี่ไฮ ดังนั้นเขาไม่คิดว่าหานเซิ่นจะเคยเรียนรู้มันมาก่อน
ผีเสื้อสาวทำตามที่ผู้นำเผ่าเวรี่ไฮบอก เธอใช้วิชาเงาผีเสื้อและผีเสื้อจำนวนมากก็บินออกมาจากร่างกายของเธอจนเต็มท้องฟ้า พวกมันเป็นเหมือนกับกลีดดอกไม้นับไม่ถ้วน
“เจ้าอยากให้นางช่วยสอนเจ้าเกี่ยวกับวิชาเงาผีเสื้อไหม…”
ก่อนที่ผู้นำเผ่าเวรี่ไฮจะพูดจบ หานเซิ่นก็สะบัดมือและปล่อยผีเสื้อออกมาเต็มท้องฟ้าเหมือนกันกับวิชาเงาผีเสื้อของผีเสื้อสาว
“นั่นเป็นไปได้ยังไง?” ทั้งผีเสื้อสาวและผู้นำเผ่าเวรี่ไฮรู้สึกตกใจ มันเป็นอะไรที่ยากจะเชื่อได้