ผีเสื้อแห่งความตายนับไม่ถ้วนที่อยู่เต็มท้องฟ้านั้นเป็นเหมือนกับแม่น้ำจากยมโลกที่ไหลไปท่วมผู้นำเผ่าเวรี่ไฮ พวกมันลอกเนื้อหนังของเขา แม้แต่ร่างกายระดับเทพเจ้าของเขาก็ไม่สามารถทนต่อพลังของเงาผีเสื้อได้ ในเวลาชั่วครู่โครงกระดูกก็เผยออกมาให้เห็นทั่วร่างของผู้นำเผ่าเวรี่ไฮ
แต่หานเซิ่นไม่ได้ดีใจกับเรื่องนี้ ทุกอย่างเป็นไปอย่างราบรื่นเกินไป พระเจ้านั้นวางแผนการทุกอย่างเอาไว้ และเขาคงจะไม่พ่ายแพ้ด้วยผลลัพธ์ที่ออกมาง่ายๆแบบนี้
เลือดของผู้นำเผ่าเวรี่ไฮย้อมพื้นดินรอบๆเป็นสีแดง แต่ในจังหวะที่ผู้นำเผ่าเวรี่ไฮกำลังจะกลายเป็นกองกระดูก จู่ๆผีเสื้อสาวก็กระอักเลือดออกมา ดูเหมือนกับว่าเธอได้รับความเสียหายอย่างหนัก และตอนนี้เงาผีเสื้อที่อยู่เต็มท้องฟ้าก็หายไปแล้ว
หานเซิ่นไม่ได้ประหลาดใจ เขาจ้องมองไปที่ผีเสื้อสาวอย่างเงียบๆ เขาอยากเห็นว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป
ผีเสื้อสาวดูเหมือนจะประสบกับความเจ็บปวดที่แสนสาหัส เธอสร้างเงาผีเสื้อขึ้นมาเพื่อตัดร่างกายของผู้นำเผ่าเวรี่ไฮ แต่ทุกครั้งที่เงาผีเสื้อตัดร่างของผู้นำเผ่าเวรี่ไฮ ผีเสื้อสาวเองก็มีเลือดไหลออกมาด้วยเช่นกัน เธอได้รับความเสียหายไม่น้อยไปกว่าที่ผู้นำเผ่าเวรี่ไฮได้รับ
ร่างกายของผู้นำเผ่าเวรี่ไฮเกือบจะกลายเป็นโครงกระดูกที่ไม่มีเนื้อหนังหลงเหลืออยู่ แต่ถึงอย่างนั้นใบหน้าของเขาก็ยังคงไม่เปลี่ยนไป เขามองไปที่ผีเสื้อสาวและพูด
“เจ้าเป็นผีเสื้อที่มีความรัก ผีเสื้อจะตกหลุมรักเพียงแค่ครั้งเดียวในชีวิต พันธสัญญานั้นผูกมัดเจ้ากับข้าเอาไว้เรียบร้อยแล้ว นั่นหมายความว่าพวกเราจะอยู่และตายไปด้วยกัน การทำร้ายข้านั้นหมายความว่าเจ้าทำร้ายตัวเองไปด้วยเช่นกัน ทำไมเจ้าถึงทำแบบนี้?”
“เป็นอย่างที่ข้าพูด ถ้าท่านจะทอดทิ้งข้า พวกเราก็ไปลงนรกกันทั้งคู่!”
ผีเสื้อสาวพูดอย่างโศกเศร้า สีหน้าของเธอดูแน่วแน่อย่างประหลาด ราวกับว่ามันไม่มีหนทางอื่นให้เธอเลือกอีกแล้ว
เงาผีเสื้อหลายตัวบินเข้าไปหาผู้นำเผ่าเวรี่ไฮ พวกมันเฉือนร่างกายที่เหลืออยู่ของผู้นำเผ่าเวรี่ไฮ ยิ่งเวลาผ่านไปเลือดก็กระอักออกมาจากปากของผีเสื้อสาวอย่างควบคุมไม่ได้ เธอดูแย่ขึ้นเรื่อยๆ มันดูเหมือนกับว่าอาการบาดเจ็บของเธอไม่ได้น้อยไปกว่าผู้นำเผ่าเวรี่ไฮเลย
“ผีเสื้อตัวหนึ่งจะมีความสัมพันธ์เดียวตลอดชีวิตอย่างนั้นหรอ? ข้าไม่รู้ว่าควรจะเศร้าหรือชื่นชมในความซื่อสัตย์และความแน่วแน่ของคนที่ผูกพันกับบางสิ่งเป็นเวลายาวนาน”
พระเจ้ารู้สึกอินมากๆกับการมองดูคนรักฆ่ากันเอง เขาถอนหายใจและพูด “นี่มันเศร้ายิ่งกว่าอะไรทั้งนั้น”
หานเซิ่นคิดกับตัวเอง ‘นายเป็นคนที่ทำให้เรื่องทั้งหมดนี้เกิดขึ้นไม่ใช่หรือยังไง?’
ดูเหมือนพระเจ้าจะรู้ว่าหานเซิ่นกำลังคิดอะไร เขาพูดอย่างจริงจัง
“นี่คือการตัดสินใจของพวกเขา ข้าแค่มอบตัวเลือกให้กับพวกเขาเท่านั้น พวกเขาเลือกตอนจบที่ดีกว่านี้ได้ แต่น่าเสียดายที่พวกเขาเลือกเส้นทางที่เศร้ามากที่สุด”
“แต่เพราะแบบนั้นชีวิตจึงกลายเป็นอะไรที่มีความหมายมากขึ้น ชีวิตที่ปราศจากความรักและความเกลียดชังนั้นเป็นอะไรที่น่าเบื่อมากๆ” พระเจ้ายังคงถอนหายใจ
“นั่นก็เป็นแค่สิ่งที่เจ้าคิด” หานเซิ่นพูด
“ข้าแน่ใจว่าผู้คนส่วนใหญ่แค่ต้องการชีวิตที่ปลอดภัยและสงบสุข พวกเขาไม่ได้ต้องการความรักและความเกลียดชังอย่างที่เจ้าบอก”
พระเจ้าหันมามองหานเซิ่นและถาม “มันจะเป็นแบบนั้นจริงๆอย่างนั้นหรอ? ถ้ามันเป็นอย่างที่เจ้าบอก เจ้าก็แค่ต้องหาดวงดาวที่ห่างไกลสักดวง ด้วยพลังของเจ้า เจ้าควรจะมีชีวิตที่ปลอดภัยและสงบสุข ถ้ามันเป็นแบบนั้นจริงๆ ทำไมเจ้าถึงต้องเดินทางไปทั่วและประสบกับอันตรายต่างๆด้วย?”
เมื่อได้ยินแบบนั้นหานเซิ่นก็อึ้งจนพูดอะไรไม่ออก เขาไม่รู้ว่าจะตอบกลับไปยังไง
“ชีวิตนั้นสวยงามก็เพราะความโลภ ความรักและความเกลียดชังเป็นดอกไม้ที่งดงามที่สุดในต้นไม้แห่งความโลภ ที่เจ้าได้เห็นในตอนนี้ก็คือดอกไม้ของความโศกเศร้าที่กำลังจะเบิกบานในเร็วๆนี้ นั่นเป็นอะไรที่หาได้ยากมากๆ เจ้าควรจะชื่นชมมัน”
พระเจ้าหันความสนใจกลับไปที่ผู้นำเผ่าเวรี่ไฮและผีเสื้อสาวที่กำลังฆ่ากัน ใบหน้าของพระเจ้าดูจริงจัง มันเหมือนกับว่าเขากำลังดูตอบจบของภาพยนตร์ที่แสนเศร้า
หานเซิ่นไม่มีเวลามัวมาสนใจพระเจ้า ไม่อย่างนั้นสุดท้ายเขาก็คงจะได้เห็นน้ำตาไหลของพระเจ้า พระเจ้านั้นดูจะอินกับโศกนาฏกรรมที่กำลังเกิดขึ้นตรงหน้า
‘เราจะทำยังไงดี? ผีเสื้อสาวและผู้นำเผ่าเวรี่ไฮกำลังจะตายไปพร้อมๆกัน ผีเสื้อสาวนั้นจะถูกฆ่าตายเพราะผู้นำเผ่าเวรี่ไฮ ซึ่งนั่นจะถือว่าเราเป็นฝ่ายแพ้…’ หานเซิ่นพยายามใช้ความคิดเพื่อหาทางหยุดผู้นำเผ่าเวรี่ไฮและผีเสื้อสาวจากการตายไปด้วยกัน
แต่เมื่อดูจากใบหน้าของผีเสื้อสาวแล้ว เธอดูแน่วแน่ที่จะฆ่าผู้นำเผ่าเวรี่ไฮ เธอยอมทิ้งชีวิตของตัวเอง หานเซิ่นไม่รู้วิธีที่จะหยุดเธอ
เมื่อถึงจุดนี้หานเซิ่นก็ไม่ได้สนใจอะไรมากอีกต่อไป ร่างกายของเขาปล่อยแสงแห่งเทพออกมา เขาจะเข้าไปหยุดผีเสื้อสาวเอาไว้ เขาไม่สามารถปล่อยให้เธอตายไปพร้อมกับผู้นำเผ่าเวรี่ไฮได้
หานเซิ่นใช้พลังทั้งหมดเพื่อเทเลพอร์ตเข้าไปหยุดเธอ แต่ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกราวกับว่าร่างกายถูกจำกัดด้วยพลังบางอย่างที่มองไม่เห็น แม้แต่การจะก้าวไปข้างหน้าครึ่งก้าวก็กลายเป็นเรื่องยากแล้ว
“นั่นคือเวทีของพวกเขา ผู้ชมอย่างพวกเราควรนั่งดูอยู่เฉยๆ มันเป็นโศกนาฏกรรมที่สวยงามดังงานศิลปะ เจ้าไม่ควรไปทำลายมัน” พระเจ้าพูดขึ้นมา
ถึงแม้หานเซิ่นจะรู้ตั้งแต่แรกแล้วว่าพระเจ้าจะไม่ปล่อยให้เขาเข้าไปแทรกแซง แต่เขาก็ยังคงรู้ศึกเศร้าอยู่ดี
เมื่อเห็นสภาพของผีเสื้อสาวและผู้นำเผ่าเวรี่ไฮที่บาดเจ็บหนัก หานเซิ่นก็รู้ว่าอีกไม่นานพวกเขาก็จะต้องตาย ดังนั้นถึงหานเซิ่นจะเคลื่อนไหวร่างกายไม่ได้ แต่เขาก็ยังไม่ยอมแพ้ เขาตะโกนขึ้นว่า
“ผีเสื้อสาว! มันไม่สำคัญว่าเจ้าจะเกลียดหรือรักเขา แต่ในเมื่อเขาปฏิบัติกับเจ้าแบบนี้ เจ้าไม่คิดว่าการฆ่าเขาเป็นอะไรที่อ่อนโยนเกินไปหน่อยหรอ?”
แต่ผีเสื้อสาวดูเหมือนจะเป็นบ้าไปแล้ว นอกจากผู้นำเผ่าเวรี่ไฮ ดูเหมือนกับว่าเธอมองไม่เห็นหรือไม่ได้ยินอะไรทั้งนั้น
หานเซิ่นจึงรีบตะโกนต่อไปว่า “เจ้าดูเขาในตอนนี้! เจ้าคิดว่าเขาจะเสียใจกับสิ่งที่ทำลงไปไหม? เขาไม่ได้รู้ถึงความเจ็บปวดของเจ้า เขาไม่รู้ว่าความเจ็บปวดของเจ้าเป็นอะไรที่เลวร้ายยิ่งกว่าความตาย ถ้าเจ้าฆ่าเขาในตอนนี้ มันก็หมายความว่าเจ้าปล่อยเขาเป็นอิสระ เจ้าต้องการแบบนั้นจริงๆหรอ?”
ผีเสื้อสาวหยุดมือ ใบหน้าที่ดูเศร้าโศกและซีดเซียวของเธอค่อยๆหันมาหาหานเซิ่น เธอจ้องไปที่หานเซิ่นและถาม
“ข้าจะทำให้เขาเจ็บปวดเหมือนอย่างข้าได้ยังไง?”
เมื่อหานเซิ่นเห็นว่าผีเสื้อสาวหันมาตอบเขา เขาก็รู้สึกดีใจอย่างมาก แต่เขาไม่ได้รีบตอบเธอกลับไปในทันที เขาหยุดคิดอยู่ชั่วครู่และพูด
“ในหัวใจเจ้า เขาคือคนที่เจ้ารักมากที่สุด ความเจ็บปวดของการถูกเอาของที่รักไปนั้นคือสิ่งที่เจ้ากำลังรู้สึกในตอนนี้ เจ้าต้องทำให้เขารู้สึกถึงความเจ็บปวดแบบเดียวกัน แบบนั้นมันถึงจะสาสม”
“แต่ข้าไม่มีความหมายอะไรกับเขาอีกแล้ว ข้าจะทำให้เขารู้สึกถึงความเจ็บปวดได้ยังไง?” ผีเสื้อสาวพูดด้วยเสียงที่เต็มไปด้วยความอาฆาต
“เนื่องจากเจ้าไม่มีความหมายอะไรกับเขาอีกแล้ว แบบนั้นถึงเจ้าจะตายไป มันก็ไม่ได้สำคัญอะไรกับเขา เจ้าต้องเอาบางสิ่งที่เขารักมากที่สุดไปจากเขา มีเพียงแค่วิธีนั้นเขาถึงจะรู้สึกเจ็บปวดเหมือนกับเจ้า” หานเซิ่นพยายามจะล่อลวงเธอ
ดวงตาของผีเสื้อสาวเป็นประกาย เธอจ้องไปที่หานเซิ่นขณะที่ถามขึ้นว่า
“เจ้ารู้ไหมว่าอะไรที่เขารักมากที่สุด?”
“ข้ารู้” หานเซิ่นพูด “แน่นอนว่าข้ารู้ สิ่งที่เขารักมากที่สุดก็คือสิ่งที่เอาเขาไปจากเจ้าไม่ใช่หรอ?”
“เจ้าหมายถึงอะไร?” ผีเสื้อสาวไม่เข้าใจที่หานเซิ่นพูด
“เขาทอดทิ้งเจ้าก็เพราะสกายแอนด์บีอิ้งคอมบิเนชั่นขั้นสูงสุด ถ้าเจ้าตัดเส้นทางที่เขาต้องการจะก้าวไป นั่นจะไม่ทำให้เขาเจ็บปวดยิ่งกว่าการถูกฆ่าตายหรอกหรอ?” หานเซิ่นพูด
ผีเสื้อสาวกัดฟันขณะที่ถามขึ้นว่า “การฆ่าเขาไม่ได้เป็นการตัดเส้นทางนั่นหรือยังไง?”
“ไม่ ไม่ ถ้าเจ้าฆ่าเขา เขาจะไม่รู้สึกอะไร” หานเซิ่นพูด
“เจ้าจำเป็นต้องรักษาชีวิตของเขาเอาไว้ เขาต้องรู้สึกสิ้นหวังเหมือนกับที่เจ้ารู้สึกในตอนนี้ นั่นเป็นหนทางเดียวที่เขาจะรู้สึกเจ็บปวดเหมือนกับเจ้า”
ดวงตาของผีเสื้อสาวเป็นประกายขณะที่ถามขึ้นว่า “ข้าจะทำให้เขารู้สึกสิ้นหวังและเจ็บปวดได้ยังไง?”