ในตอนที่หมัดของบาร์ปะทะกับหมัดของหานเซิ่น ร่างกายของเขาก็ระเบิดอีกครั้ง เขากลายเป็นดวงอาทิตย์สีดำ
หลังจากการระเบิด ร่างกายของบาร์จำเป็นต้องประกอบขึ้นใหม่ แต่ผู้ชมกลับได้เห็นสิ่งที่แปลกประหลาดแทน ดวงอาทิตย์สีดำที่ระเบิดออกนั้นถูกจับเอาไว้โดยหานเซิ่น
มันเหมือนกับว่าพลังงานที่เกิดขึ้นนั้นไม่ใช่แรงระเบิด แต่เป็นแค่ลูกบอลสีดำขนาดใหญ่ลูกหนึ่ง
หานเซิ่นใช้มือข้างเดียวจับลูกบอลสีดำลูกใหญ่เอาไว้และโยนมันเล่นสองครั้ง ผู้คนที่ดูอยู่อึ้งไป ขณะที่พวกเขาเห็นหานเซิ่นเล่นกับลูกบอลนั่น ผู้ชมก็ไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่
“พลังจากแรงระเบิดถูกแช่แข็งไป นั่นเป็นวิชาจีโนธาตุน้ำแข็งอย่างนั้นหรอ?”
“ข้าไม่คิดแบบนั้น พลังงานนั้นไม่ได้กลายเป็นน้ำแข็ง”
“หรือนี่คือวิชาการแช่แข็งกาลเวลาในตำนาน?”
“เจ้านี่ไม่รู้อะไรเลย การแช่แข็งเวลานั้นจะหยุดสิ่งต่างๆจากการเคลื่อนไหว แบบนั้นเขาจะเล่นกับมันได้ยังไงกัน?”
“บางทีมันอาจจะเป็นวิชาที่ผสมผสานระหว่างธาตุกาลเวลาและธาตุอวกาศเข้าด้วยกัน? นี่ดอลลาร์มีพรสวรรค์ทั้งธาตุกาลเวลาและธาตุอวกาศเลยอย่างนั้นหรอ?”
“เป็นไปไม่ได้ การจะมีพรสวรรค์ทั้งธาตุกาลเวลาและธาตุอวกาศนั้นเป็นอะไรที่หาได้ยากมากๆ มันจะมีโอกาสสักเท่าไหร่กันที่คนจากเผ่าพันธุ์เล็กๆคนหนึ่งจะมีพรสวรรค์ทั้งธาตุกาลเวลาและธาตุอวกาศ”
“ถ้าไม่ใช่เพราะความสามารถธาตุกาลเวลาและอวกาศ เขาจะเล่นกับมันแบบนั้นได้ยังไง?”
ยอดฝีมือระดับเทพเจ้ามากมายตกตะลึง แม้แต่ลุงสองของเอ็กซ์ตรีมคิงก็ยังตกตะลึง
“นี่เป็นพลังธาตุกาลเวลาและอวกาศจริงๆอย่างนั้นหรอ? ข้าคิดว่ามีแค่ผู้นำเซเคร็ดซะอีกที่จะมีทั้งพลังธาตุกาลเวลาและธาตุอวกาศ นี่ดอลลาร์คนนี้มีพรสวรรค์ทั้งธาตุกาลเวลาและธาตุอวกาศเหมือนกันอย่างนั้นหรอ”
“มันบอกได้ยาก แต่มันดูเหมือนกับพลังธาตุอวกาศและกาลเวลาจริงๆนั่นแหละ” อาวุโสของเอ็กซ์ตรีมคิงอีกคนพูดพร้อมกับขมวดคิ้ว
ในมุมมืดของปราสาทที่พังทลาย อีแร้งแก่ถามด้วยแปลกใจ
“เฒ่าแมว นี่เขามีพรสวรรค์ทั้งธาตุกาลเวลาและธาตุอวกาศจริงๆอย่างนั้นหรอ?”
“เป็นไปไม่ได้ ทั้งธาตุกาลเวลาและธาตุอวกาศนั้นเป็นอะไรที่หาได้ยาก”
แมวเก้าชีวิตพูด ใบหน้าของมันเต็มไปด้วยความสับสน
“แต่ไม่ว่าข้าจะดูยังไง นั่นก็เป็นพลังที่ดูเหมือนกับพลังธาตุกาลเวลาและธาตุอวกาศ” อีแร้งแก่
“มันบอกได้ยาก แต่มันไม่ควรจะเป็น…” แมวเก้าชีวิตยืนกราน
พวกเขาไม่ได้บอกว่าพลังของหานเซิ่นนั้นเป็นอะไรที่น่ากลัว พวกเขาแค่บอกว่าพรสวรรค์ทั้งธาตุกาลเวลาและธาตุอวกาศนั้นเป็นอะไรที่หายาก ถ้าหมูตัวหนึ่งมีพรสวรรค์แบบนั้น มันก็ถือเป็นเทพหมู
ภายในสวน พระเจ้าหลี่ตาลงขณะที่พูดกับตัวเอง
“เขาควบคุมฟันเฟืองจักรวาล นั่นเป็นพลังที่น่าสนใจมากๆ แม้แต่เวรี่ไฮเซ้นส์ของเผ่าเวรี่ไฮก็ทำแบบนั้นไม่ได้ เขาเป็นซีโน่เจเนอิคที่น่าสนใจจริงๆ”
หานเซิ่นโยนลูกบอลสีดำขึ้นสองครั้งก่อนที่จะขว้างมันออกไป ลูกบอลสีดำถูกโยนไปชนเข้ากับดาวดวงหนึ่ง และมันก็ระเบิดดาวดวงนั้นจนไม่เหลือซาก
บาร์ประกอบตัวเองขึ้นมาใหม่อีกครั้ง เขาโกรธและต้องการจะพุ่งเข้าจู่โจมหานเซิ่นอีก แต่หานเซิ่นพูดขึ้นมาก่อน
“ถ้าเจ้ายังเข้ามาหาข้าอีกครั้ง ข้าจะเปลี่ยนเจ้าเป็นลูกบอลไปตลอดการ”
บาร์รู้สึกหนาวขึ้นมา ถึงแม้เขาจะมีร่างกายที่เป็นอมตะ แต่การถูกเปลี่ยนเป็นลูกบอลไปตลอดการก็ฟังดูเหมือนกับชะตากรรมที่เลวร้ายยิ่งกว่าความตาย
“ในตอนนี้ข้ายังเป็นแค่ขั้นพริมิทีฟ ให้ข้ากลายเป็นขั้นทรานส์มิวเทชั่นก่อน ข้าจะกลับมาต่อสู้กับเจ้าอีกครั้ง”
บาร์กัดฟันพูด เขารู้ว่าไม่มีประโยชน์อะไรที่จะต่อสู้อีกต่อไป ด้วยเหตุนั้นเขาจึงตัดสินใจยอมแพ้และออกจากบัญชีรายชื่อเทพเจ้าจีโนไป
ชัยชนะของดอลลาร์ทิ้งคำถามที่ไม่มีคำตอบเอาไว้มากมาย มันทำให้ยอดฝีมือทั่วทั้งจักรวาลรู้สึกสงสัย แม้แต่สิ่งมีชีวิตจากโบราณกาลที่ซ่อนตัวอยู่ในความมืดก็อยากจะรู้ว่าดอลลาร์เป็นใคร แต่คำตอบเดียวที่พวกเขาได้รับในตอนนี้ก็คือ “เผ่ามนุษย์”
หานเซิ่นออกจากบัญชีรายชื่อเทพเจ้าจีโนในฐานะผู้ชนะ เขากลับไปที่สวนและกลับไปเป็นร่างเด็กอีกครั้งหนึ่ง เขาไม่อยากจะใช้พลังมากเกินไป
“วิชาจีโนนั้นมีชื่อว่าอะไร?” พระเจ้าถามด้วยรอยยิ้ม
“ทำไมข้าต้องบอกเจ้าด้วย?” หานเซิ่นรู้ว่าพระเจ้าเป็นคนยังไง เขาดูเหมือนเป็นคนที่ไม่รู้จักคำว่าโกรธ ถ้าผู้คนไม่รู้ว่าเขาคือพระเจ้า เขาก็คงจะถูกรังแกได้ง่ายๆ
พระเจ้าหัวเราะที่หานเซิ่นไม่ตอบคำถามของเขา และเขาก็ไม่ได้ถามขึ้นมาอีก เขาแค่หันกลับไปมองดูการประลองรอบต่อไปที่กำลังจะเริ่มต้นขึ้น
หานเซิ่นเอนตัวลงบนเก้าอี้ เขาเองก็อยากจะดูการต่อสู้เช่นเดียวกัน นั่นก็เพราะเขาอยากจะเห็นโกลเด้นโกรวเลอร์ มันจะทำการต่อสู้ในการประลองนัดที่สี่ หานเซิ่นอยากรู้ว่ามันจะใช้โกลเด้นโกรวเลอร์ของเขาไหม
หานเซิ่นไม่ได้สังเกตว่าใครกันที่ทำการประลองในนัดที่สอง แต่ในตอนที่เขาหันไปมอง เขาก็รู้สึกแปลกใจ
ระดับเทพเจ้าสองคนที่ทำการต่อสู้ในรอบที่สองนั้นด้านหนึ่งเป็นสิ่งมีชีวิตที่มาจากเผ่าที่หานเซิ่นไม่เคยได้ยินมาก่อนที่เรียกว่าเผ่าโดเล็ค หานเซิ่นไม่รู้ว่ามันคือใครกันแน่
ส่วนระดับเทพเจ้าอีกด้านหนึ่งนั้นมีชื่อว่าควีนของสเปชการ์เด้น
“สเปชการ์เด้น… มันมีสเปชการ์เด้นมากมายแค่ไหนกันในจักรวาลแห่งนี้? สเปชกาณ์เด้นของเราไม่มีควีนอยู่” หานเซิ่นรู้สึกแปลกๆ เขามองไปที่สนามประลองอวกาศภายในบัญชีรายชื่อเทพเจ้าจีโน
หลังจากนั้นหานเซิ่นก็เห็นคนๆหนึ่งเข้ามาในสนามประลอง ร่างกายของมันแปลกประหลาดมากๆ ร่างกายทั้งร่างของมันเป็นแสงสีฟ้าที่โปร่งใส เนื้อของมันเหมือนกับเป็นเยลลี่ที่ถูกฉายแสงใส่ รูปร่างของมันเหมือนกับยักษ์
ในตอนที่อีกฝ่ายหนึ่งปรากฏตัวขึ้นในสนามประลองอวกาศ หานเซิ่นก็เกือบจะส่งเสียงร้องตะโกนออกมา มันคือหวงฟูจิ้ง
“หวงฟูจิ้งกลายเป็นระดับเทพเจ้าขั้นพริมิทีฟเร็วขนาดนั้นเลย?”
หานเซิ่นตกใจ ไม่แปลกใจเลยที่เธอยินดีจะเรียกตัวเองว่าควีนของสเปชการ์เด้น หานเซิ่นได้เตือนพวกพ้องของเขาทุกคนว่าอย่าเรียกตัวเองว่ามนุษย์ เขาคาดเดาว่าหวงฟูจิ้งคงจะเข้าไปอยู่ในสเปชการ์เด้นเรียบร้อยแล้ว ซึ่งนั่นคงจะเป็นเหตุผลที่เธอใช้ชื่อนั้นในการเข้าร่วมการประลอง
ชื่อของสเปชการ์เด้นไม่ได้เป็นที่ดึงดูดมากนัก นั่นก็เพราะเผ่าฟลาวเวอร์ก็อตที่ครองสเปชการ์เด้นนั้นไม่ได้มีชื่อในเรื่องการต่อสู้ ในหมู่พวกเขาไม่มีระดับเทพเจ้าอยู่ด้วยซ้ำ และถึงแม้พวกเขาจะมีระดับเทพเจ้าคนหนึ่งอยู่ คนๆนั้นก็ไม่ได้โดดเด่นอะไรอยู่ดี
ส่วนทางด้านโดเล็คนั้นดึงดูดความสนใจของใครหลายๆคน
“เผ่าโดเล็ค ข้าไม่อยากเชื่อเลยว่าเผ่าพันธุ์นั้นจะยังคงมีอยู่ ข้าคิดว่าปราสาทนภาทำลายพวกมันไปแล้วซะอีก”
“ตั้งแต่เมื่อไหร่กันที่เผ่าโดเล็คถูกทำลายได้ง่ายๆ? พวกมันถูกคำนึงว่าเป็นหนึ่งเผ่าพันธุ์หนึ่งร่างกาย ตราบใดที่พวกมันตัวหนึ่งยังมีชีวิต พวกมันก็จะเพิ่มจำนวนและสร้างเผ่าพันธุ์ขึ้นมาใหม่ ดูเหมือนว่าโดเล็คตัวนี้จะยังเติบโตได้ไม่นาน ดูเหมือนมันจะเป็นแค่ขั้นพริมิทีฟเท่านั้น”
“เผ่าโดเล็คนั้นเก่งเรื่องการแบ่งพลังงาน ถึงแม้มันจะไม่เหมือนกับร่างกายที่เป็นอมตะของบาร์ แต่มันก็เป็นอะไรที่น่ากลัวไม่แพ้กัน ข้าเดิมพันว่าควีนของสเปชการ์เด้นคงจะเอาชนะมันไม่ได้”
“นี่คำว่าควีนจะถูกใช้โดยใครก็ได้หรือยังไง? คนๆนี้จะอวดดีเกินไปแล้ว”
ขณะที่ทุกคนกำลังพูดคุยกันเกี่ยวกับการต่อสู้ที่จะเริ่มขึ้น พวกเขาก็เห็นโดเล็คปลดปล่อยโซ่สสารสีฟ้าที่น่ากลัวออกมา มันชกหมัดเข้าใส่ควีนและปกคลุมทั้งฟ้าและผืนดินด้วยแสงสีฟ้า
เมื่อหวงฟูจิ้งมาอยู่ตรงหน้าร่างกายที่ใหญ่ยักษ์ของโดเล็ค เธอก็ดูตัวเล็กมากๆ แต่วินาทีต่อมา หวงฟูจิ้งก็ยกขาที่งดงามของเธอขึ้น มันเป็นเหมือนกับขวานที่ฟันออกไปใส่โดเล็ค
ปัง!
โซ่สสารที่เป็นเหมือนกับใบมีดตัดผ่านแสงสีฟ้าของโดเล็คไป และมันยังตัดร่างกายที่เหมือนเยลลี่ขนาดยักษ์ของอีกฝ่ายจนขาดครึ่ง