โดเล็คถูกตัดจนขาดครึ่ง แต่มันไม่ได้ตายไป ร่างกายทั้งสองด้านของมันเริ่มจะบิดเบี้ยวไปมา จนกระทั่งพวกมันกลายเป็นโดเล็คที่มีขนาดเล็กกว่าสองตัว
“ฮ่า! ฮ่า! โดเล็คนั้นจะไม่ถูกฆ่าง่ายๆ การตัดร่างกายพวกมันมีแต่จะทำให้พวกมันมีจำนวนมากขึ้น”
“สเปชการ์เด้นนั้นไม่เคยมีระดับเทพเจ้ามาก่อน มันเป็นเรื่องปกติที่ผู้คนของพวกเขาจะไม่มีประสบการณ์ในเรื่องแบบนี้ ข้าเดิมพันว่านางคงจะไม่เคยได้ยินเกี่ยวกับโดเล็คมาก่อนด้วยซ้ำ ไม่อย่างนั้นทำไมนางถึงได้ตัดร่างกายของโดเล็คแบบนั้น? นี่นางคงจะไม่รู้ว่าในตอนที่ร่างกายของโดเล็คถูกตัดขาด มันจะแยกออกเป็นสอง ตอนนี้นางจะต้องต่อสู้กับโดเล็คถึงสองตัว และพลังของมันไม่ได้ถูกแบ่งคนละครึ่งด้วย โดเล็คทั้งสองตัวนั้นจะมีพลังเหมือนกับโดเล็คก่อนที่จะถูกแยกตัว นั่นหมายความว่านางมีคู่ต่อสู้ที่ต้องรับมือเพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งตัว”
“ใช่แล้ว เมื่อก่อนพลังในการแยกตัวของโดเล็คถือว่าเป็นอะไรที่น่ากลัวมากๆ พวกมันพัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็ว และพวกมันก็สร้างหายนะที่ใหญ่หลวงเอาไว้มากมาย สุดท้ายทางปราสาทนภาจำเป็นต้องกำจัดพวกมันด้วยตัวเอง ข้าไม่อยากเชื่อเลยว่ามันจะยังมีโดเล็คเหลือรอดอยู่อีก และมันยังกลายเป็นระดับเทพเจ้าเรียบร้อยแล้ว การเผชิญหน้ากับคู่ต่อสู้แบบนั้นถือเป็นโชคร้ายของควีน”
สีหน้าของหวงฟูจิ้งไม่เปลี่ยนแปลง ในตอนที่เธอเห็นโดเล็คแยกออกเป็นสองนั้น เธอก็ยกขาขึ้นและกวาดตัดลำตัวของโดเล็คทั้งสองตัวจนขาดครึ่งอีกครั้ง
โดเล็คถูกแยกออกเป็นสี่ตัวที่มีขนาดเล็กลงยิ่งกว่าเดิม ตอนนี้มันมีโดเล็คถึงสี่ตัว พวกมันคำรามขณะที่พุ่งตรงเข้าไปหาหวงฟูจิ้ง
“ควีนคนนี้เกินเยียวยาแล้ว นางไม่รู้หรือยังไงว่ายิ่งนางตัดร่างของโดเล็คมากเท่าไหร่ โดเล็คก็จะมีจำนวนเพิ่มมากเท่านั้น และนางก็จะตกอยู่ในอันตรายยิ่งกว่าเดิมน่ะ?”
“แต่ยังไงนางก็ทำอะไรไม่ได้อะไรอยู่ดี เมื่อก่อนทางปราสาทนภาส่งยอดฝีมือระดับเทพเจ้าขั้นบัตเตอร์ฟลายไปเผาผลาญเหล่าโดเล็ค เห็นได้ชัดว่าควีนไม่ได้มีธาตุไฟ นางจะไม่อาจจะรับมือกับโดเล็คได้เหมือนอย่างยอดฝีมือของปราสาทนภา”
“เจ้าพูดถูก นอกซะจากคนๆนั้นจะมีพลังธาตุที่โดเล็คแพ้ทางหรือมีพลังที่เด็ดขาด ระดับเทพเจ้าคนหนึ่งก็คงจะเอาชนะโดเล็คไม่ได้”
ขาของหวงฟูจิ้งเป็นเหมือนกับใบมีด เธอตัดร่างของโดเล็คซ้ำๆ ทำให้โดเล็คเพิ่มจำนวนสูงขึ้นเรื่อยๆ พลังของพวกมันแต่ละตัวนั้นไม่ได้ลดลงไป สถานการณ์ของหวงฟูจิ้งจึงกลายเป็นอะไรที่ยากขึ้นกว่าเดิม
ในตอนที่ทุกคนเห็นว่าหวงฟูจิ้งถูกล้อมและกำลังจะพ่ายแพ้ จู่ๆทุกคนก็เห็นว่าเธอหายตัวไป
ในจังหวะต่อมาทุกสิ่งมีชีวิตในจักรวาลก็ได้เห็นการฆ่าฟันที่น่าเหลือเชื่อ ร่างกายของหวงฟูจิ้งแว็บไปมาผ่านสนามประลอง เธอดูเหมือนกับเครื่องจักรสังหารที่เทเลพอร์ตได้ ที่ไหนก็ตามที่เธอปรากฏตัว ร่างกายของโดเล็คก็จะถูกตัดขาด
จำนวนของโดเล็คเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่ไม่ว่าโดเล็คจะเพิ่มจำนวนขึ้นมากขนาดไหน สำหรับหวงฟูจิ้งแล้ว มันก็เป็นอะไรที่ไร้ประโยชน์ เธอหายตัวไปโผล่ที่ต่างๆและฆ่าโดเล็คทุกตัวที่อยู่รอบๆ
มันเหมือนกับการที่ฝูงแกะอยู่ต่อหน้าเสือ มันไม่สำคัญว่าฝูงแกะจะมีจำนวนมากสักแค่ไหน มันก็ไม่สามารถทำร้ายอะไรเสือได้ พวกมันทั้งหมดจะถูกฆ่าตาย
“การเทเลพอร์ตอย่างต่อเนื่องไม่มีที่สิ้นสุด… มันไม่มีการทิ้งช่วงแม้แต่นิดเดียว… แม้แต่ขั้นทรูก็อตก็ทำอะไรแบบนี้ไม่ได้ถูกไหม?” ดราก้อนเอทตกใจ
“พวกเขาไม่ได้มีพรสวรรค์ในเรื่องนี้ แม้แต่ขั้นทรูก็อตก็ทำในสิ่งที่นางกำลังทำอยู่ไม่ได้” ดราก้อนวันกล่าวอย่างมั่นใจ
“ควีนคนนี้มาจากที่ไหนกัน? นางมีพลังในการเทเลพอร์ตอย่างไม่มีที่สิ้นสุดและวิชาสังหารที่สมบูรณ์แบบของเครื่องจักร นางเป็นเหมือนกับราชินีที่เกิดมาเพื่อฆ่าฟันศัตรู บนสนามรบถึงแม้มันจะมีศัตรูอยู่นับล้าน พวกมันทั้งหมดก็ต้องตาย ถ้านางต้องการให้พวกมันตาย”
สิ่งมีชีวิตปกติยิ่งกว่าตกใจกับสิ่งที่ได้เห็น ด้วยความสามารถที่น่าทึ่งและรูปลักษณ์ที่งดงามของหวงฟูจิ้ง พวกเขารู้สึกหลงไหล
“มันเป็นอะไรที่น่าเสียดาย ถ้านางไม่ได้เผชิญหน้ากับโดเล็ค ด้วยวิชาการเทเลพอร์ตอย่างไม่มีที่สิ้นสุดและวิชาสังหารที่สมบูรณ์แบบ ถึงแม้นางจะต้องต่อสู้กับสิ่งมีชีวิตระดับเทพเจ้าขั้นทรานส์มิวเทชั่น มันก็ไม่มีทางที่นางจะเป็นฝ่ายแพ้”
ดวงตาของบาร์เป็นประกาย เขาคิดเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่เขาจะมีพลังในการเทเลพอร์ตแบบนั้น เขาสงสัยว่าด้วยวิชาการระเบิดตัวเองร่วมกับมัน เขาจะสามารถเป็นอาวุธนิวเคลียร์เคลื่อนที่ได้ เขาสามารถจะระเบิดตัวเองตรงไหนก็ได้ที่เขาต้องการ
“มันเป็นอะไรที่น่าเสียดาย แต่ข้าไม่คิดว่านางเป็นหนึ่งในเผ่าฟลาวเวอร์ก็อต” เดียร็อบเบอร์พูดขณะที่มองไปที่สนามประลองด้วยความสับสน
หลังจากที่คิดอยู่ชั่วครู่ บาร์ก็พูดขึ้นมา “ข้าได้ยินมาว่าสเปชการ์เด้นนั้นถูกยึดครองโดยหานเซิ่น นางคงจะเป็นคริสตัลไลเซอร์เหมือนกับเขา”
“ข้าไม่คิดว่านอกจากหานเซิ่นแล้ว คริสตัลไลเซอร์จะมีอัจฉริยะคนอื่นอยู่อีก” เดียร็อบเบอร์ตอบ
“นี่เจ้าลืมไปแล้วหรือยังไง?” บาร์ถาม
“หานเซิ่นมีพลังในการอวยพร มันไม่สำคัญว่ายีนของคริสตัลไลเซอร์จะอ่อนแอขนาดไหน หลังจากที่หานเซิ่นอวยพร มันก็เป็นเรื่องง่ายที่พวกเขาจะกลายเป็นระดับเทพเจ้า”
บาร์เป็นหนึ่งในคนที่ได้รับผลประโยชน์จากกการอวยพรของหานเซิ่น เขาจึงรู้ดีว่ามันเป็นพลังที่มหัศจรรย์ขนาดไหน
“เจ้าพูดถูก” เดียร็อบเบอร์พูดพร้อมกับพยักหน้า
หลายๆคนก็กำลังคิดแบบเดียวกันกับบาร์และเดียร็อบเบอร์ พวกเขาทุกคนกำลังคิดเกี่ยวกับวิธีการที่จะให้หานเซิ่นมาช่วยอวยพรให้กับพวกเขา
แต่น่าเสียดายที่หานเซิ่นซ่อนตัวอยู่ในสเปชการ์เด้น การจะเข้าไปในสเปชการ์เด้นนั้นเป็นเรื่องที่แทบจะเป็นไปไม่ได้ แม้แต่สามเผ่าพันธุ์สูงสุดก็เข้าไปในนั้นไม่ได้ ซึ่งมันเป็นอะไรที่ยากยิ่งกว่าที่เผ่าพันธุ์อื่นจะเข้าไป
หลายคนต้องการจะไปหาโจรสลัดศักดิ์สิทธิ์เพื่อขอความช่วยเหลือ เพราะเขาสามารถเดินทางเข้าออกที่ต่างๆได้ตามใจชอบ แต่โจรสลัดศักดิ์สิทธิ์นั้นดูเหมือนจะหายตัวไป
การเทเลพอร์ตเพื่อฆ่าฟันศัตรูของหวงฟูจิ้งเป็นอะไรที่งดงาม แต่โดเล็คสามารถแยกตัวได้อย่างไม่จำกัด ไม่สำคัญว่าเธอจะฆ่าพวกมันสักเท่าไหร่ มันก็จะมีโดเล็คถูกสร้างขึ้นมามากขึ้นเท่านั้น
ในตอนนี้ทุกหนทุกแห่งในสนามประลองเต็มไปด้วยโดเล็ค ทุกคนคิดว่าที่สุดแล้วควีนจะเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ มันไม่สำคัญว่าเธอจะใช้พลังในการเทเลพอร์ตได้มากสักเท่าไหร่ เธอก็จะไม่เป็นฝ่ายชนะ
หลังจากนั้นจู่ๆหวงฟูจิ้งก็หยุดโจมตีและเทเลพอร์ตไปอยู่บนท้องฟ้า ในตอนที่ทุกคนคิดว่าควีนคงจะยอมแพ้แล้ว พวกเขาก็เห็นร่างกายของเธอเคลื่อนไหวอีกครั้ง
วินาทีต่อมา เงาของควีนหลายคนก็ปรากฏในท้องฟ้า มันเหมือนกับว่าควีนจำนวนนับไม่ถ้วนกำลังเคลื่อนที่ไปข้างหน้าเพื่อทำการโจมตีพร้อมๆกัน ทันใดนั้นโดเล็คทั้งหมดก็ถูกฆ่าซ้ำแล้วซ้ำเล่า จากร่างกายสู่ชิ้น จากชิ้นสู่แผ่น จากแผ่นสู่จุด และจากจุดสู่จุดที่เล็กลง ที่สุดแล้วพวกมันก็กลายเป็นแค่โมเลกุล
โดเล็คถูกควีนนับไม่ถ้วนตัดจนไม่เหลืออะไร ทุกคนตกตะลึงกับสิ่งที่กำลังเกิดขึ้น โดเล็คไม่สามารถกลับมามีชีวิตอีกครั้ง
“โอ้มายก๊อด นี่ข้าเพิ่งจะได้เห็นอะไรเนี่ย?” ในที่สุดคนๆหนึ่งก็ตะโกนขึ้นมา
“พวกมันไม่ควรจะเป็นแค่ร่างโคลน ทำไมพวกมันทั้งหมดถึงมีพลังในการต่อสู้เหมือนกับร่างจริงของนาง?”
“นั่นมันบ้าอะไรกันเนี่ย?”
ลุงสองอดไม่ได้ที่จะเบิกตากว้างและพูดออกมาด้วยความตกตะลึง
“พลังธาตุกาลเวลาและอวกาศ! พลังธาตุกาลเวลาและอวกาศอีกคนหนึ่ง!”