“ด้วยร่างกายขั้นสุดยอดของหวงฟูจิ้งและวิชาการต่อสู้ของเธอ มันก็ทำให้เธอเป็นสิ่งมีชีวิตที่เหมือนกับราชินีแห่งการฆ่าฟัน” หานเซิ่นอดไม่ได้ที่จะชื่นชมหวงฟูจิ้ง
“เป็นพรสวรรค์ในการเคลื่อนไหวธาตุกาลเวลาและอวกาศที่น่าสนใจ ตั้งแต่เมื่อไหร่กันที่คริสตัลไลเซอร์มีพรสวรรค์ขนาดนี้?”
พระเจ้าหลี่ตา ขณะที่มองหวงฟูจิ้งที่เดินออกจากสนามประลองไปอย่างสง่างาม
หัวใจของหานเซิ่นเต้นรัวๆ เขาไม่ได้พูดอะไรออกไป เขารู้ว่ายิ่งพูดมากเท่าไหร่ เขาก็จะเปิดโปงความลับของตัวเองมากเท่านั้น
มันไม่รู้ว่าเป็นการจงใจหรือไม่ พระเจ้าก็ถามหานเซิ่นขึ้นมา “เจ้าคิดยังไง?”
“นั่นเป็นพรสวรรค์ที่น่าสนใจ แต่ระดับเทพเจ้าขั้นพริมิทีฟยังต่ำเกินไป” หานเซิ่นพูด
“ระดับพลังนั้นไม่ใช่เรื่องสำคัญอะไรกับสิ่งมีชีวิตที่น่าสนใจ”
พระเจ้าตอบ “ถึงแม้คนๆหนึ่งจะกลายเป็นขั้นทรูก็อตได้ แต่ผู้คนที่น่าเบื่อก็ยังคงเป็นคนที่น่าเบื่อ”
“บางทีอาจจะเป็นอย่างที่เจ้าพูด แต่ข้าไม่ได้สนใจสิ่งมีชีวิตอื่น”
หานเซิ่นพูด “ข้าแค่อยากจะรู้ว่าตัวเองจะติดอันดับหนึ่งในร้อยได้ไหม”
“ถ้าอย่างนั้นเจ้าก็คงจะต้องพยายามอย่างหนัก” พระเจ้าพูดพร้อมกับหัวเราะออกมา
“ไม่เห็นหรือยังไงว่าข้าพยายามอย่างหนักอยู่?”
หานเซิ่นหยิบชิ้นเนื้อของนกขนสีดำขึ้นมา และเขาก็ใส่มันเข้าไปในปาก หลังจากนั้นเขาก็ใช้วิชาคอนซูมเพื่อย่อยมัน
“วิชาคอนซูมเป็นวิชาจีโนของคอนซูมมิ่งแอนท์ มันน่าแปลกที่เจ้าใช้วิชาคอนซูมและกินยีนของซีโน่เจเนอิคเพื่อวิวัฒนาการ พลังในการวิวัฒนาการแบบนั้นเป็นอะไรที่หาได้ยากมากๆในจักรวาลแห่งนี้”
พระเจ้ามองไปที่หานเซิ่นด้วยความสนใจ
“มากินด้วยกันได้ถ้าเจ้าต้องการ” หานเซิ่นพูดด้วยรอยยิ้ม
“ถ้าอย่างนั้นข้าก็จะไม่ปฏิเสธ”
หานเซิ่นแค่พูดสนุกๆ แต่พระเจ้ากลับอยากจะลองกินดูจริงๆ พระเจ้าหยิบเนื้อของนกขนดำขึ้นมาและเริ่มกินมันเข้าไป ปากและมือของเขาเต็มไปด้วยไขมันของสัตว์ขณะที่เขาพูดขึ้นว่า “มันอร่อยมาก”
หานเซิ่นไม่ได้สนใจจะพูดอะไรกับพระเจ้า ในตอนที่เขาเห็นชื่อผู้ร่วมประลองในรอบที่สาม เขาก็รู้สึกอยากจะพ่นเนื้อที่เพิ่งจะกินเข้าไปออกมา
“สเปชการ์เด้น… แฟรี่แห่งดาบ…” หานเซิ่นคิดเกี่ยวกับบุคคลที่อาจจะใช้ชื่อแบบนั้น เขาคิดว่านอกจากกู่ชิงเฉิงแล้ว มันไม่น่าจะมีคนอื่นอีก
ไม่นานหลังจากนั้นกู่ชิงเฉิงที่สวมใส่ชุดสีเขียวก็ปรากฏตัวในสนามประลองจริงๆ เธอลอยในอากาศราวกับแฟรี่ คู่ต่อสู้ของเธอเป็นระดับเทพเจ้าของเอ็กซ์ตรีมคิง มันถือเป็นเรื่องบังเอิญที่ระดับเทพเจ้าของเอ็กซ์ตรีมคิงคนนั้นก็ใช้ดาบเช่นเดียวกัน แต่มันเป็นดาบใหญ่
“เฮ้ มันคือนางหรอเนี่ย?” เมื่อได้เห็นกู่ชิงเฉิง พระเจ้าก็ดูประหลาดใจ
หานเซิ่นรู้อยู่แล้วว่าพระเจ้ารู้จักกู่ชิงเฉิง แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังถามขึ้นว่า
“เจ้ารู้จักนางอย่างนั้นหรอ? นี่นางเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงหรือยังไง?”
“นางเป็นสิ่งมีชีวิตที่น่าสนใจมากๆ” พระเจ้าพูดด้วยรอยยิ้ม
“นางเป็นหนึ่งในไม่กี่คนที่ไม่ทำการอธิษฐานกับข้า ข้าไม่ได้คาดคิดว่านางจะปรากฏตัวที่นี่ นี่เป็นอะไรที่น่าสนใจไม่น้อย”
หานเซิ่นคิดตัวเอง ‘ดูเหมือนว่าเราจะคิดไม่ผิด พระเจ้าคนนี้คือพระเจ้าที่ทีมเจ็ดพบจริงๆนั่นแหละ’
ในตอนที่ผู้ชมทั่วจักรวาลได้ยินคำว่า “สเปชการ์เด้น” พวกเขาก็รู้สึกตื่นเต้นขึ้นมา
“สิ่งมีชีวิตระดับเทพเจ้าจากสเปชการ์เด้นอีกแล้วหรอ?”
“ในอดีตเผ่าฟลาวเวอร์ก็อตไม่มีระดับเทพเจ้า แต่ตอนนี้ทำไมมันถึงได้มีระดับเทพเจ้าปรากฏตัวขึ้นมาถึงสองคน?”
สิ่งมีชีวิตที่ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นเริ่มจะถามคนที่อยู่รอบๆ หลังจากนั้นพวกเขาก็ได้รู้ว่าหานเซิ่นได้เข้ายึดครองสเปชการ์เด้นเมื่อไม่นานมานี้
“ไม่แปลกใจเลยที่จู่ๆสเปชการ์เด้นก็มีสิ่งมีชีวิตระดับเทพเจ้าหลายคน ที่แท้มันก็เป็นเพราะบิดาของเทพทั้งปวงอยู่ที่นั่น”
“ก็อดฟาเธอร์หานแข็งแกร่งที่สุด พลังที่ทำให้คนอื่นกลายเป็นระดับเทพเจ้านั้นเป็นอะไรที่ไร้เทียมทาน”
“ทั้งบาร์และควีนต่างก็เป็นคนที่แข็งแกร่ง ดูเหมือนว่าระดับเทพเจ้าที่ได้รับการอวยพรจากหานเซิ่นจะแข็งแกร่งกว่าระดับเทพเจ้าปกติ”
“บางทีมันอาจจะเป็นแค่เรื่องบังเอิญ พวกเรามาดูกันดีกว่าฝีมือของแฟรี่แห่งดาบคนนี้จะเป็นยังไง ไม่มีทางที่ทุกคนที่หานเซิ่นอวยพรจะเป็นระดับเทพเจ้าที่แข็งแกร่งกว่าปกติทั้งหมด”
“ใครจะไปรู้? แต่ข้าคิดว่าก็อดฟาเธอร์หานนั้นทรงพลังมากๆ เขาทำให้ใครหลายๆคนกลายเป็นระดับเทพเจ้าได้”
“ข้ากลัวว่าการประลองนัดนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะเอาชนะ เพราะยังไงซะคู่ต่อสู้ก็เป็นถึงระดับเทพเจ้าของเอ็กซ์ตรีมคิง”
ในจังหวะที่ผู้คนพูดคุยกันจบ กู่ชิงเฉิงก็ดึงดาบออกมา หลังจากนั้นเธอก็ฟันดาบใส่ยอดฝีมือระดับเทพเจ้าของเอ็กซ์ตรีมคิง
“ไม่เลวหนิ!” ยอดฝีมือของเอ็กซ์ตรีมคิงยกดาบใหญ่ขึ้นขณะที่โซ่สสารก่อตัวขึ้นราวกับคลื่น พวกมันพุ่งตรงเข้าไปหากู่ชิงเฉิง
ดาบแสงของกู่ชิงเฉิงแว๊บผ่านอวกาศอย่างแปลกประหลาด สิ่งมีชีวิตธรรมดานั้นมองไม่ทันว่ามันเกิดอะไรขึ้น ในตอนที่พวกเขารู้ตัวอีกที บนอกของเอ็กซ์ตรีมคิงคนนั้นก็มีรอยแผลขนาดใหญ่ที่เผยให้เห็นซี่โครงของเขา เลือดไหลออกมาราวกับสายฝน สีหน้าของเอ็กซ์ตรีมคิงคนนั้นดูตกตะลึง เขาไม่ปล่อยให้กู่ชิงเฉิงมีโอกาสได้ฟันอีกครั้ง เขารีบยอมแพ้และออกจากสนามประลองไปทันที
“เจ้ารับการโจมตีของข้าโดยไม่ถูกฆ่าตาย เจ้าฝีมือไม่เลว” กู่ชิงเฉิงพูดก่อนที่จะเก็บดาบและบินออกจากสนามประลองไป
“โอ้มายก๊อด! นางเอาชนะยอดฝีมือระดับเทพเจ้าของเอ็กซ์ตรีมคิงได้ด้วยการฟันเพียงครั้งเดียว… นั่นเป็นอะไรที่สุดยอดเกินไปแล้ว”
“แฟรี่แห่งดาบคนนี้ก็แข็งแกร่งไม่แพ้กัน นี่สิ่งมีชีวิตระดับเทพเจ้าทุกคนที่ก็อดฟาเธอร์หานอวยพรจะแข็งแกร่งแบบนี้ทุกคนเลยอย่างนั้นหรอ?”
“ข้าไม่รู้ว่าก็อดฟาเธอร์หานอวยพรสิ่งมีชีวิตระดับเทพเจ้าไปมากขนาดไหน แต่ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป จักรวาลนี้ก็จะถูกยึดครองโดยเขา”
“หานเซิ่น! นี่เขามีพลังแบบไหนกันแน่? เขาทำให้คนอื่นกลายเป็นระดับเทพเจ้าง่ายๆแบบนั้นได้ยังไงกัน? แถมพวกเขาทุกคนยังแข็งแกร่งอย่างผิดปกติอีก”
“พวกเราต้องหาทางเข้าไปในสเปชการ์เด้นและจับตัวหานเซิ่นมาให้ได้ ไม่ว่าจะต้องแลกด้วยอะไรก็ตาม”
ไม่เพียงแค่สิ่งมีชีวิตธรรมดาๆเท่านั้นที่คิดแบบนี้ แม้แต่ผู้นำของเผ่าพันธุ์ชั้นสูงก็คิดเหมือนกัน พวกเขาต้องการไปที่สเปชการ์เด้นเพื่อจับตัวหานเซิ่น และบังคับให้หานเซิ่นทำให้คนของพวกเขากลายเป็นระดับเทพเจ้า
ภายในสเปชการ์เด้น ซินเสวียนรู้สึกกังวลขึ้นมา
“หานเซิ่นไม่อยากให้พวกเราทำตัวเป็นจุดเด่น แต่เมื่อพวกเจ้าเข้าร่วมการประลองแบบนั้น มันจะไม่เป็นปัญหาอย่างนั้นหรอ?”
หวังอวี่ฮังหัวเราะและพูด “ไม่ต้องกังวลไป พี่เซี่ยชิงได้ปล่อยข่าวว่าหานเซิ่นอยู่ในสเปชการ์เด้นออกไปเรียบร้อยแล้ว น้องหานเซิ่นจะเป็นแพะรับบาปแทนพวกเรา มันจะไม่เป็นอะไร”
“ฮ่า!” กู่ชิงเฉิงเพิ่งจะกลับมาจากบัญชีรายชื่อเทพเจ้าจีโนและได้ยินสิ่งที่หวังอวี่ฮังพูด เธอก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา
เซี่ยชิงหัวเราะออกมาเช่นกัน “ยังไงซะในอนาคตพวกเราก็ต้องสร้างชื่อให้กับสเปชการ์เด้นอยู่แล้ว แน่นอนว่าการที่พวกเราจะใช้โอกาสนี้เพื่อเพิ่มชื่อเสียงของสเปชการ์เด้นจึงไม่เป็นปัญหาอะไร ข้ามั่นใจว่าหานเซิ่นจะดีใจกับเรื่องนี้”
“ใช่ ใช่” เป่าเอ๋อกำลังถือผลไม้ลูกใหญ่อยู่ เธอกำลังกินมันขณะที่พยักหน้าเห็นด้วยกับสิ่งที่เซี่ยชิงพูด แต่เห็นได้ชัดว่าเธอแค่กลัวว่าโลกนี้จะไม่โกลาหลเพียงพอ เธอไม่ต้องการจะรู้สึกเบื่อ
แต่ตอนนี้ทางด้านหานเซิ่นไม่ได้รู้สึกดีใจกับเรื่องนี้เลยสักนิดเดียว ในการประลองสามรอบแรกนั้นเป็นมนุษย์ติดต่อกันถึงสามรอบ นั่นดูเป็นอะไรที่บังเอิญเกินไปหน่อย
‘นี่พระเจ้าจงใจจัดสายการต่อสู้พวกนี้ขึ้นอย่างนั้นหรอ?’
หานเซิ่นหันไปมองพระเจ้าที่กำลังกินเนื้ออยู่ แต่มันไม่ได้มีอะไรน่าสงสัยเกี่ยวกับพฤติกรรมของพระเจ้า เขาจึงคิดต่อไปว่า
‘ไม่น่าจะใช่ ไม่อย่างนั้นพระเจ้าก็คงจะไม่ประหลาดใจในตอนที่เขาได้เห็นกู่ชิงเฉิง บางทีมันอาจจะเป็นแค่เรื่องบังเอิญจริงๆ บางทีอาจจะมีแค่สองคนที่เข้าร่วมการประลองจากสเปชการ์เด้น’
เมื่อคิดเกี่ยวกับความเป็นไปได้นี้ หานเซิ่นก็รู้สึกแย่ เขาได้เตือนคนอื่นหลายครั้งแล้วว่าอย่าทำตัวให้เป็นจุดเด่นเกินไป
แต่เมื่อดูจากลักษณะนิสัยของพวกเขาแล้ว มันก็ดูจะไม่มีใครรู้จักคำว่าการทำตัวไม่ให้เป็นจุดเด่น แถมในสเปชการ์เด้นก็มีทรัพยากรสำหรับพวกเขาเป็นจำนวนมาก ตอนนี้พวกเขาจึงเพิ่มระดับขึ้นอย่างรวดเร็ว ดังนั้นมันไม่มีทางที่หานเซิ่นจะห้ามพวกเขาไม่ให้ทำอะไรได้
“ขอล่ะ อย่าให้มีใครรู้เลยว่าพวกเขาเป็นมนุษย์”
หานเซิ่นยังคงไม่รู้ว่าเขาได้กลายเป็นแพะรับบาปของสเปชการ์เด้น