Super God Gene – ตอนที่ 2850

หานเซิ่นเคลื่อนไหวร่างกายหลบการโจมตีของอี๋ซาไปเรื่อยๆ ถ้าดาวเคราะห์ดวงหนึ่งถูกมีดลมปราณนั่นเข้า มันก็คงจะถูกตัดขาดครึ่งอย่างง่ายดาย มีดลมปราณนั้นจะฉีกทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่ใกล้เคียง ตอนนี้ในอวกาศเต็มไปด้วยมีดลมปราณสีม่วง มันเหมือนกับตาข่ายขนาดใหญ่ ทำให้หานเซิ่นมีพื้นที่ในการเคลื่อนไหวน้อยลงไปเรื่อยๆ อวกาศทุกหนทุกแห่งนั้นถูกฉีกขาด ถ้าร่างกายของหานเซิ่นสัมผัสกับอวกาศที่ฉีกขาดเหล่านั้น ร่างกายของเขาก็จะถูกฉีกไปด้วย

“ด้วยวิชามีดแบบนั้น… ข้าเชื่อว่าอันดับของเผ่ารีเบทจะสูงขึ้นอย่างมากในอนาคตข้างหน้า” เดียร็อบเบอร์พูด
“ลำพังแค่ราชินีแห่งมีด การจะติดอันดับหนึ่งในร้อยก็ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้”

“เป็นผู้หญิงที่น่ากลัวอะไรขนาดนี้ มีดลมปราณของนางดูเหมือนจะเป็นศัตรูที่น่ากลัวที่สุดกับร่างกายของข้า” บาร์พูดขณะที่จ้องมองไปที่อี๋ซา

เดียร็อบเบอร์พยักหน้าและพูด “ใช่แล้ว ร่างกายของเจ้าเป็นนั้นทรงพลังมากๆ แต่ถ้าเจ้าต้องเผชิญหน้ากับมีดลมปราณของนาง เจ้าก็จะสูญเสียความได้เปรียบไป เจ้าจะถูกฉีกขาดไปเรื่อยๆและตายไปในที่สุด ถ้าเจ้าต้องต่อสู้กับนาง เจ้าต้องระวังตัวให้มาก”

ในเวลาแบบนี้หานเซิ่นไม่มีอารมณ์จะมาสนใจถึงความน่ากลัวของมีดลมปราณอีกต่อไป ฝักมีดที่หักครึ่งในมือของเขากำลังปลดปล่อยคลื่นพลังประหลาดออกมา

หานเซิ่นรู้ว่านี่มันไม่ปกติ ถ้าฝักมีดถูกหักครึ่งโดยมีดลมปราณของอี๋ซา มันก็ควรจะถูกฉีกขาดไปเรื่อยๆ แต่ฝักมีดนี้แค่หักครึ่งเฉยๆ มีดลมปราณนั้นไม่ได้ดำเนินการแพร่กระจายต่อไป มันยังคงมีแสงบางอย่างส่องออกมาจากภายในฝักมีด และฝักมีดที่หักก็เริ่มจะสั่นอย่างรุนแรง ด้วยการสั่นที่รุนแรงขนาดนั้น ถ้าหานเซิ่นปล่อยมือจากมัน มันก็คงจะบินหายไป

“มันมีความลับบางอย่างซ่อนอยู่ในฝักมีดนี้อย่างนั้นหรอ?”
หานเซิ่นตกใจ เขาครอบครองฝักมีดนี้มาเป็นเวลานานแล้ว แต่นอกจากจิตแห่งมีดที่อยู่ภายในฝักมีด เขาก็ไม่ได้สังเกตเห็นถึงอะไรที่พิเศษ ด้วยเหตุนั้นความเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหันของฝักมีดจึงทำให้หานเซิ่นประหลาดใจอย่างมาก

ในตอนที่หานเซิ่นกำลังจะหลบมีดลมปราณของอี๋ซา จู่ๆก็มีพลังพุ่งออกมาจากภายในฝักมีดที่หัก มันเหมือนกับการปะทุของภูเขาไฟ

ทุกคนเห็นอี๋ซาทำการโจมตีใส่ดอลลาร์อย่างบ้าคลั่ง ซึ่งทำให้เขามีพื้นในการหลบหนีน้อยลงไปเรื่อยๆ และในจังหวะที่เขาไม่มีพื้นที่ให้หนีอีกแล้ว จู่ๆฝักมีดที่หักครึ่งในมือของเขาก็ปลดปล่อยลำแสงสีม่วงออกมา

ปัง!
ลำแสงสีม่วงปะทะกับมีดลมปราณของอี๋ซาและทำลายมัน แถมลำแสงสีม่วงยังพุ่งต่อไปและเปลี่ยนสนามประลองให้กลายเป็นทะเลสีม่วง อวกาศที่ถูกฉีกขาดโดยพลังของอี๋ซานั้นสมานกันด้วยลำแสงสีม่วงนั้น ในชั่วพริบตาทั้งอวกาศก็กลับมาเป็นสีดำอีกครั้ง นอกจากแสงสีม่วงจากฝักมีดแล้ว มันไม่มีสีม่วงของมีดลมปราณหลงเหลืออยู่อีก

“นี่มันอะไรกัน? สิ่งนั้นสมานอวกาศที่ฉีกขาดได้ในพริบตา มันกำจัดพลังของวิชามีดเขี้ยวดาบได้อย่างนั้นหรอ?” ผู้นำปราสาทนภาหลี่ตา เขามองหานเซิ่นที่กำลังถือลำแสงนั่นอยู่

ทุกสิ่งมีชีวิตในจักรวาลจ้องไปที่ลำแสงในมือของหานเซิ่น แม้แต่อี๋ซาเองก็หยุดโจมตีและจ้องมองไปที่สิ่งนั้นเช่นกัน

คนอื่นนั้นไม่รู้ แต่อี๋ซารู้ดีว่าฝักมีดนั้นถูกทิ้งเอาไว้โดยอัลฟ่าของเผ่ารีเบท อัลฟ่าของเผ่ารีเบทนั้นหวังว่าทายาทของเธอจะหาฝักมีดได้พบ ซึ่งนั่นเป็นเหตุผลที่อี๋ซาเสี่ยงเข้าไปในสุสานปีศาจเพื่อตามหาฝักมีดที่หายไป

แต่เธอนั้นโชคร้ายที่ไปเจอกับดอลลาร์ที่นั่น เขาได้ขโมยมันไปจากเธอ

อี๋ซารู้แค่ว่าฝักมีดนั้นเป็นโบราณวัตถุที่ครั้งหนึ่งเป็นของเผ่ารีเบท เธอไม่ได้รู้ถึงความลับที่ซ่อนอยู่ในฝักมีด ถ้าเธอรู้ เธอก็คงจะไม่ตัดฝักมีดจนขาดครึ่งแบบนั้น

นั่นเป็นเหตุผลที่อี๋ซาคิดว่านี่มันแปลกๆ พลังของเธอในตอนนี้เหนือกว่าอัลฟ่าของเผ่ารีเบทเรียบร้อยแล้ว แต่แสงที่ออกมาจากฝักมีดนั้นสามารถที่จะทำลายมีดลมปราณของเธอได้ นั่นเป็นสิ่งที่ทำให้เธอตกใจ พลังของอัลฟ่าเผ่ารีเบทไม่ควรจะมากขนาดนั้น

อี๋ซาไม่เชื่อว่าอัลฟ่าเผ่ารีเบทจะเป็นคนที่ทิ้งพลังเอาไว้ภายในฝักมีด

หลังจากที่แสงสีม่วงระเบิดออกมา ฝักมีดที่หักในมือของหานเซิ่นก็เริ่มละลายไปในแสงสีม่วง ฝักมีดที่มีสีดำถูกละลายไปและเผยให้เห็นฝักมีดที่เล็กกว่าที่ดูเหมือนกับว่ามันทำขึ้นมาจากทองแดงสีม่วง มันมีรอยแกะสลักที่ประหลาดและงดงามมากมายอยู่บนผิวของมัน ลำแสงสีม่วงนั้นออกมาจากรอยแกะสลักที่บนอยู่ฝักมีด

ในตอนที่สัญลักษณ์เรืองแสงออกมา ฝักมีดก็เริ่มขยายใหญ่ขึ้น มันกลายเป็นฝักมีดที่มีความยาวสามฟุตอย่างรวดเร็ว และแสงของฝักมีดก็เริ่มจะมัวลงไป

หลังจากที่แสงของฝักมีดดับไปแล้ว อี๋ซาและสิ่งมีชีวิตทั้งหมดในจักรวาลก็เห็นหานเซิ่นกำลังถือฝักมีดใหม่ที่มีสีม่วง มันแตกต่างไปจากฝักมีดสีดำก่อนหน้านี้

อี๋ซามองไปที่ฝักมีดสีม่วงด้วยไปหน้าที่เต็มไปด้วยความสับสน เธอไม่เคยได้ยินเกี่ยวกับเรื่องที่มีฝักมีดอีกอันซ่อนอยู่ภายในฝักมีดของอัลฟ่า

“นั่นคือ…ฝักมีดรีเทิร์นเอมตี้…” ในห้องโถงของเผ่าเอ็กซ์ตรีมคิง เอ็กซ์ตรีมคิงระดับเทพเจ้าคนหนึ่งที่มีเส้นผมและหนวดเคราสีขาวนั้นลุกยืนขึ้นมาด้วยความตกใจ เขาจ้องไปที่ฝักมีดสีม่วงในมือของหานเซิ่น

“ฝักมีดริเทิร์นเอมตี้!” ชื่อนั้นทำให้ทุกคนที่อยู่ในห้องโถงตกใจ

“ผู้อาวุโสเป่า เจ้าแน่ใจหรือว่านั่นคือฝักมีดริเทิร์นเอมตี้น่ะ?” ราชาไป๋มองไปที่เอ็กซ์ตรีมคิงคนนั้นด้วยใบหน้าที่จริงจัง

“ข้าไม่มีทางดูผิดไปได้ นี่คือฝักมีดรีเทิร์นเอมตี้ของราชาไนฟ์ไม่ผิดแน่ เมื่อก่อนนั้นราชาเป่าเคยพยายามค้นหาฝักมีดรีเทิร์นเอมตี้ แต่พวกเราหามันไม่เจอ ข้าไม่อยากเลยเชื่อว่ามันจะมาอยู่ในมือของดอลลาร์คนนี้ พวกเราต้องเอาฝักมีดรีเทิร์นเอมตี้กลับคืนมา” ผู้อาวุโสคนนั้นพูด

“ใช่แล้ว… ฝักมีดรีเทิร์นเอมตี้เป็นสมบัติของเอ็กซ์ตรีมคิง พวกเราจะปล่อยให้คนนอกครอบครองมันไม่ได้ พวกเราจะต้องเอามันกลับคืนมา”

“พวกเราต้องฆ่าดอลลาร์เพื่อเอาฝักมีดรีเทิร์นเอมตี้กลับคืนมา”

ตอนนี้เมื่อเผ่าเอ็กซ์ตรีมคิงรู้ว่าฝักมีดของหานเซิ่นนั้นคือฝักมีดรีเทิร์นเอมตี้ พวกเขาต่างก็อยากจะเข้าในสนามประลองเพื่อเอาฝักมีดรีเทิร์นเอมตี้กลับคืนมา

ชื่อของราชาไนฟ์ไม่ได้เป็นชื่อที่มีชื่อเสียงมากนักในจักรวาล ผู้คนจึงรู้แค่ว่าราชาไนฟ์เป็นหนึ่งในกษัตริย์ของเอ็กซ์ตรีมคิง ทุกคนนั้นไม่ได้รู้อะไรเกี่ยวกับเขามากไปกว่านั้น เพราะยังไงซะราชาไนฟ์ก็เป็นกษัตริย์ของเอ็กซ์ตรีมคิงแค่ช่วงสั้นๆ

แต่ในหมู่คนชั้นสูงของเอ็กซ์ตรีมคิง ชื่อเสียงของราชาไนฟ์นั้นเทียบได้กับกษัตริย์องค์แรกของเผ่าเอ็กซ์ตรีมคิง บางทีอาจจะสูงยิ่งกว่าด้วยซ้ำ

แต่เรื่องของราชาไนฟ์นั้นเป็นหนึ่งในความลับของเผ่าเอ็กซ์ตรีมคิง ซึ่งมีเพียงแค่ไม่กี่คนเท่านั้นที่รู้เกี่ยวกับมัน แม้แต่ในหมู่เอ็กซ์ตรีมคิงก็มีแต่คนที่อยู่ตำแหน่งสูงๆเท่านั้นที่จะรู้ถึงเรื่องนี้ ความลับนั้นเป็นเหมือนกับความอับอายของเผ่าเอ็กซ์ตรีมคิง

ในประวัติศาสตร์ของเอ็กซ์ตรีมคิง มันมีอยู่ช่วงหนึ่งที่กษัตริย์ของเอ็กซ์ตรีมคิงตกเป็นหุ่นเชิด และคนที่อยู่เบื้องหลังเรื่องทั้งหมดก็คือพระเจ้าที่ถูกรู้จักกันในชื่อพระเจ้าแห่งนภา

ถึงแม้มันจะมีแค่สมาชิกชั้นสูงของเอ็กซ์ตรีมคิงเท่านั้นที่รู้เกี่ยวกับพระเจ้าแห่งนภา แต่สำหรับเอ็กซ์ตรีมคิงแล้ว มันก็ยังคงเป็นเรื่องที่น่าอัปยศที่สุดในประวัติศาสตร์ของเผ่าเอ็กซ์ตรีมคิง

พวกเขาตกอยู่ภายใต้การควบคุมของพระเจ้าแห่งนภาจนกระทั่งราชาไนฟ์ถือกำเนิดขึ้นมา เขาเกิดขึ้นมาในอวกาศ การฟันครั้งเดียวของเขาสามารถตัดฝ่าทั้งเก้าชั้นของท้องฟ้า เขาสามารถเอาชนะพระเจ้าแห่งนภาและช่วยเผ่าเอ็กซ์ตรีมคิงหนีจากการควบคุมของพระเจ้าได้สำเร็จ

แต่เนื่องจากเขาได้รับบาดเจ็บหนักเกินไปในการต่อสู้กับพระเจ้าแห่งนภา อายุขัยของราชาไนฟ์จึงสั้น เขากลายเป็นกษัตริย์ของเอ็กซ์ตรีมคิงที่ครองบัลลังก์เป็นระยะเวลาที่สั้นที่สุด

เอ็กซ์ตรีมคิงไม่ต้องการจะเปิดเผยประวัติศาสตร์ที่น่าอัปยศนี้ออกไป ด้วยเหตุนั้นมันจึงมีแค่คนที่มีตำแหน่งสูงของเผ่าเอ็กซ์ตรีมคิงเท่านั้นที่รู้ถึงวีรกรรมของราชาไนฟ์

Super God Gene

Super God Gene

ในยุคสมัยที่วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของมนุษย์ถูกพัฒนาจนถึงระดับสูง ในที่สุดมนุษยชาติก็ได้ค้นพบวิธีการเทเลพอร์ต แต่เมื่อพวกเขาทดลองเทเลพอร์ต กลับพบว่าพวกเขาไม่ได้ถูกส่งไปในอนาคต อดีตหรือสถานที่อื่นๆที่มนุษย์รู้จัก แต่มันคือโลกที่แตกต่างโดยสิ้นเชิง สถานที่ลึกลับนี่ถูกเรียกว่า ‘ก็อด เเซงชัวรี่’ ที่นี่มีสิ่งมีชีวิตประหลาดอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก แต่เมื่อมนุษย์ลองกินสิ่งมีชีวิตประหลาดเข้าไป ร่างกายของพวกเขาพัฒนาขึ้นและยังเพิ่มอายุขัยขึ้นด้วย มันคือก้าวที่ยิ่งใหญ่ของมนุษย์ชาติในการวิวัฒนาการเพื่อสร้างยุคสมัยที่ยิ่งใหญ่ “ด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ถูกฆ่า คุณได้รับวิญญาณอสูรด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ เมื่อกินเนื้อของด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ คุณมีโอกาสได้รับ 0 ถึง 10 Geno Point โดยการสุ่ม” The future unfolded on a magnificent scale into the Interstellar Age. Humanity finally solved the space warp technology, but when humanity transported themselves into the other end, they discovered that place neither had a past nor future, nor was there any land under the starry skies…… The mysterious sanctuary was actually a world filled with countless tyrannical unusual organisms. Humanity faced their great leap in evolution, starting the most glorious and resplendant new era under the starry skies. “Slaughtered the God Blood organism ‘Black Beetle’. Received the God Blood Black Beetle’s Beast Soul. Used the God Blood Black Beetle’s flesh. Randomly obtaining 0 to 10 points of God Gene(s).”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset