Super God Gene – ตอนที่ 2853

 

พระเจ้ายิ้มให้กับหานเซิ่นและพูด “เจ้าพัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่ถ้าเจ้าต้องการจะเอาชนะข้า เจ้ายังต้องพยายามอีกมาก”

“ไว้พวกเราเล่นกันต่อทีหลัง สำหรับตอนนี้ข้าจำเป็นต้องไปฝึกวิชาและเตรียมตัวสำหรับการประลองรอบต่อไป”
หานเซิ่นต้องการจะเล่นหมากล้อมต่อ ยิ่งเขาพ่ายแพ้มากเท่าไหร่ เขาก็ต้องการจะเล่นอีกตามากเท่านั้น เขาต้องการจะเล่นจนกว่าเขาจะเอาชนะคู่ต่อสู้ได้

แต่ทว่าเมื่อคิดถึงเรื่องการวิวัฒนาการไปสู่ขั้นบัตเตอร์ฟลายขึ้นมาได้ หานเซิ่นก็ห้ามตัวเองเอาไว้

“ข้าขอดูฝักมีดนั่นได้ไหม?” พระเจ้าถาม

“มันก็แค่ฝักมีดธรรมดาๆ มันไม่มีอะไรให้เจ้าดู” หานเซิ่นลุกขึ้นและเตรียมจะไปที่ปราสาทไนน์ดีเฟ้นส์

“ถ้าข้าคาดเดาได้ถูกต้อง เจ้าเป็นคนที่ฆ่าสกายไวน์แรดิชอย่างนั้นสินะ”
พระเจ้าพูดขึ้นมาอย่างเป็นกันเอง “เจ้าควรจะครอบครองสิ่งประจำตัวของพระเจ้าอยู่ ถ้าเจ้ายอมให้ข้าดูฝักมีดนั่น ข้าจะบอกเจ้าถึงวิธีใช้สิ่งประจำตัวของสกายไวน์แรดิช”

“ถ้าเจ้าอยากจะเห็นมันมากขนาดนั้น ก็เชิญเอามันไป มันก็เป็นแค่ฝักมีดธรรมดาๆ มันมีอะไรน่าดูหรือยังไง?” หานเซิ่นเอาฝักมีดออกมาให้พระเจ้าดู

ตอนนี้หานเซิ่นมีสิ่งประจำตัวของพระเจ้าอยู่สองชิ้น แต่เขาไม่รู้วิธีที่จะใช้พวกมัน ซึ่งถ้าเขารู้วิธีใช้พวกมันขึ้นมา มันก็จะเป็นอะไรที่ดีมากๆสำหรับเขา

พระเจ้ารับฝักมีดไปและวิเคราะห์มันอยู่สักพักก่อนที่จะพูดขึ้นมา
“มันคืออาวุธที่ทำขึ้นจากสิ่งประจำตัวของพระเจ้าที่ไม่สมบูรณ์ และนี่ควรจะเป็นสิ่งประจำตัวของพระเจ้าแห่งนภา”

หานเซิ่นคาดเดาเอาไว้แล้วว่ามันทำขึ้นมาจากสิ่งประจำตัวของพระเจ้า แต่เขาไม่ได้คาดคิดว่ามันจะเป็นสิ่งประจำตัวของพระเจ้าที่ไม่สมบูรณ์และมันก็เป็นของพระเจ้าแห่งนภา

หลังจากที่ดูมันเสร็จแล้ว พระเจ้าก็ส่งฝักมีดคืนให้กับหานเซิ่น เขายิ้มและพูด
“ข้าขอแนะนำอะไรเจ้าอย่างหนึ่ง ถ้าเจ้าได้พบกับพระเจ้าแห่งนภา อย่าได้เปิดเผยฝักมีดนี้กับเขา”

“ข้าคิดว่าพระเจ้านั้นทำอะไรสิ่งมีชีวิตในจักรวาลไม่ได้ซะอีก” หานเซิ่นพูด

“ตามทฤษฎีล่ะก็นะ มันมีกฎที่ห้ามเรื่องนั้นอยู่ แต่มันก็ไม่ใช่ว่ากฎจะห้ามซะทุกอย่าง” พระเจ้าพูดอย่างคลุมเครือ

“เจ้าจะบอกว่าพระเจ้าแห่งนภาจะมาหาข้าและพยายามชิงเอาฝักมีดกลับคืนไปอย่างนั้นหรอ?” หานเซิ่นถาม

“ยังไงซะเจ้าก็ควรระวังตัวเอาไว้” พระเจ้าไม่ได้พูดไปมากกว่านั้น และเขาก็หันไปพูดว่าจำเป็นต้องเตรียมอะไรบางอย่าง เขาจะบอกถึงวิธีใช้สิ่งประจำตัวของพระเจ้ากับหานเซิ่นในภายหลัง

หานเซิ่นเดินทางไปที่ปราสาทไนน์ดีเฟ้นส์เพื่อเตรียมตัวจะวิวัฒนาการไปสู่ขั้นบัตเตอร์ฟลาย

เมื่อเห็นหานเซิ่นเดินจากไป พระเจ้าก็มองขึ้นไปที่บัญชีรายชื่อเทพเจ้าจีโน เมื่อเห็นคู่ต่อสู้คนต่อไปที่หานเซิ่นจะต้องเจอ พระเจ้าก็พูดด้วยสีหน้าแปลกๆ
“มันมีอบิสไนท์แค่หนึ่งเดียวในเหวไร้ก้นบึ้ง ด้วยนิสัยของพระเจ้าแห่งนภา เขาจะต้องพยายามสิงร่างของอบิสไนท์นี่ เขาจะพยายามเอาสิ่งประจำตัวของพระเจ้าของเขากลับไปด้วยการเข้าร่วมการประลองบัญชีรายชื่อเทพเจ้าจีโนด้วยตัวเอง นั่นหมายความว่าการต่อสู้รอบต่อไปจะเป็นอะไรที่น่าสนใจ”

ในปราสาทไนน์ดีเฟ้นส์ หานเซิ่นเปิดปราสาทที่ว่างเปล่าและเข้าไปข้างใน เขารีบปิดประตูให้สนิท เขาไม่รู้ว่าจะหลีกเลี่ยงการจับตามองของพระเจ้าได้ไหม แต่นั่นคือทั้งหมดที่เขาทำได้

“ร่างต่อสู้กำลังวิวัฒนาการ…”

หลังจากที่หานเซิ่นตั้งใจจะเลื่อนระดับขึ้น เขาก็รู้สึกราวกับว่าเซลล์ทั้งร่างกายกำลังเปลี่ยนแปลง มันเหมือนกับว่ากระแสไฟฟ้านับไม่ถ้วนกำลังไหลผ่านเซลล์ของเขา มันทำให้ร่างกายของเขารู้สึกชาไปทั้งตัว มันเหมือนกับว่ากระดูกของเขากำลังเปราะ

หานเซิ่นดูเหมือนจะได้ยินเสียงกระดูกของตัวเองกำลังแตกหัก ซึ่งทำให้เขาแปลกใจ เขารีบดูภายในร่างกายของตัวเองและสังเกตเห็นว่าพวกมันไม่ได้กำลังแตกหัก จริงๆแล้วกระดูกของเขากำลังเติบโตขึ้น มันเหมือนกับกระดูกของเด็กที่กำลังเติบโต เพียงแต่ว่าความเร็วในการเจริญเติบโตนั้นถูกเร่งให้เร็วขึ้นอย่างมาก

มันไม่ใช่แค่กระดูกเท่านั้นที่เติบโตขึ้น ส่วนอื่นๆในร่างกายของหานเซิ่นเองก็เช่นกัน รูปลักษณ์ภายนอกที่เหมือนกับเด็กนั้นเริ่มจะดูเหมือนกับผู้ใหญ่ แต่มันยังไม่จบเพียงแค่นั้น

โอเวอร์แบริ่งอายของเอ็กซ์ตรีมคิงที่รวมเข้ากับดวงตาของหานเซิ่นก็เริ่มจะเปลี่ยนแปลงด้วยเช่นกัน

แต่การเปลี่ยนแปลงของมันไม่ได้เหมือนกับความเปลี่ยนแปลงทางร่างกายซะทีเดียว โอเวอร์แบริ่งอายของเอ็กซ์ตรีมคิงนั้นเป็นถึงขั้นทรูก็อต การเปลี่ยนแปลงของมันจึงกระตุ้นคลื่นพลังที่เข้ามาท่วมร่างกายของหานเซิ่น

ในตอนแรกที่หานเซิ่นรวมเข้ากับโอเวอร์แบริ่งอายของเอ็กซ์ตรีมคิงนั้น เขาไม่ได้สังเกตเห็นถึงความเปลี่ยนแปลงอะไรกับดวงตาของตัวเอง และเขาก็ไม่สามารถใช้พลังของโอเวอร์แบริ่งอายได้เช่นกัน

แต่ตอนนี้โอเวอร์แบริ่งอายของเอ็กซ์ตรีมคิงกำลังเปลี่ยนแปลงในตัวของหานเซิ่น มันทำให้เขารู้สึกราวกับว่ากำลังจมในพลังของโอเวอร์แบริ่งอาย ทุกอย่างที่เขาเห็นนั้นกลายเป็นสีดำและขาว

มันไม่สำคัญว่าจะเป็นกำแพงโลหะสีเหลืองหรือเสาสีแดง สีทุกสีในดวงตาของหานเซิ่นกลายเป็นสีขาว มันเหมือนกับว่าเขาเข้ามาอยู่ในโลกการ์ตูนสองมิติ

มันแตกต่างไปจากก่อนหน้านี้ ดวงตาของหานเซิ่นแสดงสิ่งต่างๆเป็นสีดำและขาวเท่านั้น ตอนนี้เมื่อหานเซิ่นมองไปที่ซีโน่เจเนอิค เขาก็เห็นว่าซีโน่เจเนอิคนั้นมีความโลภ ความสิ้นหวัง ความเกลียดชัง ความอิจฉาและความภาคภูมิ เขามองเห็นอารมณ์ด้านลบทั้งหมด

ไม่นานหลังจากนั้นหานเซิ่นก็เข้าใจว่ามันมีบางสิ่งผิดปกติ ในปราสาทรอบๆเขาควรจะไม่มีซีโน่เจเนอิคหลงเหลืออยู่แล้ว ซีโน่เจเนอิคที่อยู่ใกล้เขามากที่สุดนั้นอยู่ห่างจากเขาไปถึงเจ็ดปราสาท ตอนนี้เขามองเห็นซีโน่เจเนอิคที่อยู่ห่างออกไปได้อย่างชัดเจน มันเป็นอะไรที่แปลกมากๆ

หานเซิ่นมองออกไปในอีกทิศทางหนึ่ง และเขาก็เห็นซีโน่เจเนอิคในปราสาทอื่นๆ ในดวงตาของหานเซิ่น พวกมันเป็นสีดำ บางตัวเป็นสีดำที่เข้มมากๆขณะที่บางตัวมีสีดำที่อ่อนกว่า

ทันใดนั้นหานเซิ่นก็รู้สึกตัวว่าสีดำของซีโน่เจเนอิคแต่ละตัวนั้นหมายถึงบาปของพวกมัน ยิ่งสีดำของพวกมันเข้มมากขึ้นเท่าไหร่ มันก็หมายความว่าซีโน่เจเนอิคตัวนั้นมีบาปหน่ามากเท่านั้น

หานเซิ่นมองตัวเองและรู้สึกตัวว่าร่างกายของเขาโปร่งใส เขาไม่เห็นว่าตัวเขาเป็นสีขาวหรือสีดำ

“ดูเหมือนว่าตัวผู้คุมกฎจะมีสิทธิพิเศษไม่ว่าจะยุคสมัยไหน” หานเซิ่นพูดเพื่อเย้นหยันตัวเอง

“ร่างต่อสู้เลื่อนระดับสู่ขั้นบัตเตอร์เสร็จสิ้น… ร่างต่อสู้กำลังวิวัฒนาการ…”

“ทำไมมันถึงยังวิวัฒนาการอีก…” หานเซิ่นประหลาดใจ เขาเพิ่งจะกลายเป็นระดับเทพเจ้าขั้นบัตเตอร์ฟลาย และเขายังไม่ได้ดูดซับยีนซีโน่เจเนอิคเข้าไปเพิ่มเลย แบบนั้นเขาจะวิวัฒนาการต่อได้ยังไง

“ดูเหมือนจะเป็นผลกระทบจากโอเวอร์แบริ่งอายของเอ็กซ์ตรีมคิง”
หานเซิ่นรู้ว่าร่างกายของเขายังคงเปลี่ยนแปลงต่อไป แต่มันแตกต่างไปจากการเปลี่ยนแปลงครั้งก่อน ตอนนี้การเปลี่ยนแปลงนั้นทำให้หานเซิ่นรู้สึกว่าร่างกายของเขาเชื่อมต่อกับจักรวาลมากขึ้นเรื่อยๆ

มันไม่ใช่ทั้งจักรวาลซะทีเดียว ถ้าให้พูดอย่างถูกต้อง มันคือพลังแห่งกฎของจักรวาลมากกว่า เนื่องจากอิทธิพลของโอเวอร์แบริ่งอาย หานเซิ่นกำลังวิวัฒนาการเข้าหากฎและกลายเป็นขั้นทรูก็อตเพราะมัน

แสงสีดำและสีขาวในดวงตาของหานเซิ่นแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ แสงแห่งกฎสีดำและขาวนั้นกำลังทำลายมิติและขึ้นไปสู่ท้องฟ้า ทั้งร่างกายของหานเซิ่นเต็มไปด้วยพลังแห่งกฎ

ตอนนี้หานเซิ่นรู้สึกว่าเขากำลังควบคุมพลังที่มหัศจรรย์อยู่ มันเป็นพลังที่ทำให้เขาสามารถตัดสินบาปของสิ่งมีชีวิตอื่นได้ตามใจชอบ

แต่พลังนี้เป็นอะไรที่แปลกมากๆ ความแข็งแกร่งของมันไม่ได้ขึ้นอยู่กับพลังของหานเซิ่น มันจะขึ้นอยู่กับบาปของคู่ต่อสู้ ยิ่งคู่ต่อสู้มีบาปหนามากแค่ไหน พลังที่หานเซิ่นจะใช้เพื่อตัดสินอีกฝ่ายก็จะมากขึ้นเท่านั้น

ในตอนนี้ดวงตาของหานเซิ่นข้างที่เกิดความเปลี่ยนแปลงนั้นแตกต่างไปจากดวงตาอีกข้างอย่างเห็นได้ชัด เขารู้สึกได้ถึงความแตกต่างของพลังมากจนยากจะหยั่งถึง

“นี่คือพลังของขั้นทรูก็อต?” หานเซิ่นรู้สึกว่าการเปลี่ยนแปลงของดวงตานั้นแพร่กระจายไปยังส่วนอื่นๆ ดูเหมือนกับว่ามันกำลังจะทำให้ร่างกายของเขากลายเป็นขั้นทรูก็อตไปด้วย

แต่วินาทีต่อมา หานเซิ่นก็รู้สึกได้ถึงการสั่นไหวและพลังที่แพร่กระจายจากดวงตาก็ไหลกลับไปสู่ดวงตาเหมือนกับคลื่น การเปลี่ยนแปลงทั้งหมดถูกหยุดอย่างกะทันหัน

เสียงประกาศดังขึ้นในหัวของหานเซิ่น “การเพิ่มระดับร่างต่อสู้ล้มเหลว”

Super God Gene

Super God Gene

ในยุคสมัยที่วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของมนุษย์ถูกพัฒนาจนถึงระดับสูง ในที่สุดมนุษยชาติก็ได้ค้นพบวิธีการเทเลพอร์ต แต่เมื่อพวกเขาทดลองเทเลพอร์ต กลับพบว่าพวกเขาไม่ได้ถูกส่งไปในอนาคต อดีตหรือสถานที่อื่นๆที่มนุษย์รู้จัก แต่มันคือโลกที่แตกต่างโดยสิ้นเชิง สถานที่ลึกลับนี่ถูกเรียกว่า ‘ก็อด เเซงชัวรี่’ ที่นี่มีสิ่งมีชีวิตประหลาดอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก แต่เมื่อมนุษย์ลองกินสิ่งมีชีวิตประหลาดเข้าไป ร่างกายของพวกเขาพัฒนาขึ้นและยังเพิ่มอายุขัยขึ้นด้วย มันคือก้าวที่ยิ่งใหญ่ของมนุษย์ชาติในการวิวัฒนาการเพื่อสร้างยุคสมัยที่ยิ่งใหญ่ “ด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ถูกฆ่า คุณได้รับวิญญาณอสูรด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ เมื่อกินเนื้อของด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ คุณมีโอกาสได้รับ 0 ถึง 10 Geno Point โดยการสุ่ม” The future unfolded on a magnificent scale into the Interstellar Age. Humanity finally solved the space warp technology, but when humanity transported themselves into the other end, they discovered that place neither had a past nor future, nor was there any land under the starry skies…… The mysterious sanctuary was actually a world filled with countless tyrannical unusual organisms. Humanity faced their great leap in evolution, starting the most glorious and resplendant new era under the starry skies. “Slaughtered the God Blood organism ‘Black Beetle’. Received the God Blood Black Beetle’s Beast Soul. Used the God Blood Black Beetle’s flesh. Randomly obtaining 0 to 10 points of God Gene(s).”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset