หานเซิ่นรู้ว่ามีบางสิ่งผิดปกติเกี่ยวกับอบิสไนท์ เขาคิดกับตัวเอง
‘ออร่าของอบิสไนท์กับฝักมีดนั้นคล้ายคลึงกัน และฝักมีดก็ทำขึ้นมาจากสิ่งประจำตัวพระเจ้าที่ถูกตัดออกมา นั่นหมายความเขาจะต้องเป็นพระเจ้าเกราะนภาที่เป็นเจ้าของสิ่งประจำตัวพระเจ้าที่ถูกใช้ทำฝักมีดขึ้นมา”
“ไม่แปลกใจเลยที่พระเจ้าบอกกับเราว่าไม่ควรนำฝักมีดออกมาในตอนที่เผชิญหน้ากับพระเจ้านภา มันเป็นเพราะแบบนี้เองสินะ แต่คำแนะนำนั่นเป็นอะไรที่ค่อนข้างไร้ประโยชน์ เราจะรู้ได้ยังไงว่าเมื่อไหร่ที่พระเจ้าเกราะนภาจะมาต่อสู้กับเรา? เราคงจะเก็บซ่อนฝักมีดเอาไว้ตลอดโดยที่ไม่นำออกมาใช้เลยไม่ได้ แบบนั้นการเป็นเจ้าของฝักมีดนี้จะไปมีประโยชน์อะไร?”
หลังจากที่คาดเดาถึงตัวตนของพระเจ้านภาได้แล้ว หานเซิ่นก็ไม่อยากจะถอยออกไป เขายังคงมองพระเจ้าเกราะนภาที่กำลังถือฝักมีดอยู่
ถึงแม้พลังของเขาจะประสานเข้ากับฝักมีดได้อย่างง่ายดาย แต่ฝีดมีดก็ถูกสร้างขึ้นมาด้วยมือคน ดังนั้นมันจะใช้เวลาอีกสักพักก่อนที่มันจะรวมเป็นหนึ่งกับสิ่งประจำตัวพระเจ้าอีกครั้ง นอกจากนั้นพระเจ้าเกราะนภาไม่ต้องการจะเปิดอกของตัวเองในที่สาธารณะและใส่กระดูกกลับคืนไปข้างใน
สำหรับตอนนี้พระเจ้าเกราะนภาจึงแค่ถือฝักมีดเอาไว้ เปลวเพลิงสีม่วงดำบนร่างกายของเขาลุกโชนขึ้นขณะที่เขาจ้องมองไปที่หานเซิ่น
มันไม่ใช่ตัวเลือกสำหรับเขาที่จะขอยอมแพ้และออกไปจากสนามประลองอวกาศทั้งอย่างนั้น นั่นเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ พระเจ้านั้นมีศักดิ์ศรีของตัวเองอยู่ ถึงแม้พระเจ้าเกราะนภาต้องการจะออกไป เขาก็ต้องออกไปจากสนามประลองในฐานะผู้ชนะ
“เนื่องจากเจ้าเอาสิ่งประจำตัวพระเจ้าของข้าไป นี่ก็ถือเป็นโชคร้ายของเจ้า”
พระเจ้าเกราะนภายกฝักมีดขึ้นและมองไปที่หานเซิ่นอย่างดูถูก “เพื่อเป็นรางวัลที่เจ้าคืนฝักมีดให้กับข้า ข้าจะให้เจ้าได้ตายโดยฝักมีดนี่”
หลังจากนั้นพระเจ้าเกราะนภาก็แกว่งฝักมีดและปล่อยมีดแสงสีม่วงดำออกไปหาหานเซิ่น
มีดแสงนั้นเหมือนกับขะแยกอวกาศออกเป็นสองส่วน มันทรงพลังขนาดที่ทำให้ผู้คนใจสั่น ในตอนที่เห็นการฟันครั้งนี้ สีหน้าของยอดฝีมือระดับเทพเจ้าหลายคนก็เปลี่ยนไป
ร่างกายของหานเซิ่นแว็บหายไปอย่างรวดเร็ว เขาสามารถหลบหลีกมีดแสงนั้นไปได้ ในตอนที่เขาปรากฏตัวอีกครั้ง เขาก็อยู่ที่อีกด้านหนึ่งของอวกาศ
หานเซิ่นได้ฝึกวิชาการเทเลพอร์ตมาเป็นเวลายาวนาน และในที่สุดเขาก็สามารถใช้กาแล็กซี่เทเลพอร์ตเทชั่นได้ แต่หานเซิ่นได้ปรับแต่งวิชาการเทเลพอร์ตให้เหมาะสมกับร่างกายของตัวเอง
ด้วยพลังเสริมจากอาณาเขตตงเสวียน การเทเลพอร์ตของหานเซิ่นจึงรวดเร็วยิ่งกว่าวิชาก็อตส์วอนเดอร์ของเวรี่ไฮซะอีก ในตอนนี้เขาสามารถใช้กาแล็กซี่เทเลพอร์ตเทชั่นเหมือนการเทเลพอร์ตธรรมดาๆ มันรวดเร็วยิ่งกว่าการเทเลพอร์ตในระยะใกล้ของวิชาเทเลพอร์ตทั่วไปซะอีก
ไม่มีใครคาดคิดว่าหานเซิ่นจะหลบหลีกการฟันนั่นได้ หลังจากนั้นพระเจ้าเกราะนภาก็แกว่งฝักมีดอีกครั้งหนึ่ง ครั้งนี้เขาฟันใส่หานเซิ่นอย่างรุนแรงและรวดเร็วยิ่งกว่าเดิม มันฉีกอวกาศและมาปรากฏตรงหน้าของหานเซิ่นในฉับพลัน
แต่ร่างกายของหานเซิ่นหายไปในชั่วพริบตา และมีดแสงนั้นก็พลาดเป้าหมายไปอีกครั้ง
“เจ้าจะหลบได้อีกนานแค่ไหนกัน?” พระเจ้าเกราะนภาถามและเริ่มฟันฝักมีดในความเร็วที่สูงยิ่งกว่าเดิม
พระเจ้าเกราะนภาฟันหลายสิบครั้งติดต่อกัน ซึ่งการฟันแต่ละครั้งจะหนักหน่วงและรวดเร็วยิ่งกว่าครั้งก่อน การฟันของเขาทิ้งรอยแผลลึกเอาไว้มากมายในอวกาศอันกว้างใหญ่
แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่มีครั้งไหนที่สร้างความเสียหายกับหานเซิ่น
“นั่นเป็นวิชาการเทเลพอร์ตที่รวดเร็วมากๆ ดูเหมือนมันจะรวดเร็วยิ่งกว่าก็อตส์วอนเดอร์ของเผ่าเวรี่ไฮซะอีก ดอลลาร์คนนี้ไม่ใช่คู่ต่อสู้ที่จะเอาชนะได้ง่ายๆ” ผู้นำปราสาทนภาตกใจกับความสามารถของหานเซิ่น
“พลังของเทพสปิริตที่รวมเข้ากับร่างกายของสิ่งมีชีวิตในจักรวาลนั้นต่อกรกับขั้นทรูก็อตได้ และบางทีอาจจะแข็งแกร่งกว่าด้วยซ้ำ การที่ดอลลาร์หลบหลีกการโจมตีของอีกฝ่ายได้นั้นถือเป็นเรื่องที่ไม่ธรรมดา แต่น่าเสียดายที่การหลบหลีกนั้นเป็นอะไรที่ไร้ประโยชน์ ในสุดเขาก็จะเป็นฝ่ายพ่ายแพ้” ผู้หญิงคนนั้นพูด
“การจะสังหารพระเจ้านั้นไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ถ้านี้เป็นโกลเด้นโกรวเลอร์ มันก็พอจะมีโอกาสเอาชนะศัตรูคนนี้ได้”
ผู้นำปราสาทนภามองไปที่หานเซิ่นและพูดต่อ “ความแข็งแกร่งของดอลลาร์นั้นถือว่าสูงมากๆ แต่เขายังเป็นแค่ขั้นบัตเตอร์ฟลายเท่านั้น ถ้าเขากลายเป็นขั้นทรูก็อตเมื่อไหร่ บางทีเขาอาจจะมีโอกาสสังหารพระเจ้าได้”
ยอดฝีมือของทุกๆเผ่าพันธุ์ต่างก็เข้าใจสถานการณ์ของหานเซิ่น ด้วยการพึ่งพาวิชาการเทเลพอร์ตที่รวดเร็ว เขาสามารถหลบหลีกการโจมตีของอบิสไนท์ได้ แต่โดยปกติแล้ววิชาเทเลพอร์ตนั้นใช้พลังงานสูงมากๆ การต้องเทเลพอร์ตอย่างต่อเนื่องแบบนั้นจะทำให้พลังของเขาหมดลงในที่สุด เมื่อเป็นแบบนั้นเขาก็จะเป็นฝ่ายพ่ายแพ้
“วิชาการเทเลพอร์ตของดอลลาร์สุดยอดมากๆ ดูเหมือนว่าเขาจะใช้มันเมื่อไหร่ก็ได้ เขาไม่จำเป็นต้องเตรียมตัว และเขาก็ใช้มันได้อย่างต่อเนื่อง นั่นเหนือกว่าก็อตส์วอนเดอร์ของเผ่าเวรี่ไฮซะอีก” ลุงสองของเอ็กซ์ตรีมคิงชื่นชมความสามารถของหานเซิ่น
ราชาไป๋มองไปที่สนามประลองโดยไม่พูดอะไร ดวงตาของเขาดูแปลกๆ ในหัวใจของเขากำลังรู้สึกโกรธขึ้นมา
“เทพสปิริตจุติมาบนโลกนี้และใช้ร่างกายของอบิสไนท์เพื่อเข้าร่วมการประลองที่ถูกจับตามองโดยทุกๆคน นี่พวกเขาเริ่มจะกล้าขึ้นทุกที”
ราชาไป๋จดจำพระเจ้าเกราะนภาได้ เพราะยังไงซะพลังของเขาก็รวมเข้ากับพลังของฝักมีดรีเทิร์นเอมตี้ มันเป็นเรื่องง่ายที่จะคาดเดาตัวตนของเทพสปิริตคนนี้
มันไม่สำคัญว่าใครจะเป็นกษัตริย์ของเอ็กซ์ตรีมคิงในตอนนี้ เพราะพวกเขาทุกคนเกลียดชังพระเจ้าเกราะนภาเหมือนกันหมด นั่นรวมถึงราชาไป๋ด้วย ถ้าเขาทำได้ เขาก็อยากจะเป็นเหมือนราชาไนฟ์และตัดกระดูกของพระเจ้าเกราะนภาอีกครั้ง
พระเจ้าเกราะนภาคิดเหมือนกับคนอื่นๆว่าการเทเลพอร์ตจำเป็นต้องใช้พลังงานจำนวนมาก ดังนั้นทั้งหมดที่เขาจำเป็นต้องทำก็คือฟันใส่หานเซิ่นไปเรื่อยๆจนกระทั่งอีกฝ่ายหมดแรง เมื่ออีกฝ่ายไม่สามารถใช้การเทเลพอร์ตได้แล้ว เขาก็จะฆ่าอีกฝ่าย
หานเซิ่นใช้วิชาเทเลพอร์ตอย่างไม่ลดละ และเขาก็ไม่แสดงท่าทีที่จะชะลอความเร็วลงไปเลย นั่นทำให้พระเจ้าเกราะนภารู้สึกประหลาดใจ
ความจริงแล้วมันไม่ใช่แค่พระเจ้าเกราะนภาที่ประหลาดใจ แม้แต่พระเจ้าที่กำลังนั่งอยู่ในสวนเองก็ประหลาดใจเช่นกัน
“เขาใช้การเทเลพอร์ตอย่างต่อเนื่อง แต่ร่างกายของเขาดูเหมือนจะไม่เหนื่อยล้าเลยสักนิดเดียว มันไม่ใช่แค่พลังจากร่างกายของเขาเพียงอย่างเดียวเท่านั้น ดูเหมือนว่าร่างกายของเขากำลังดึงดูดพลังงานจากจักรวาลไปใช้ แม้แต่คนของเวรี่ไฮก็ทำอะไรแบบนั้นไม่ได้ ถึงแม้พวกเขาจะฝึกสกายแอนด์บีอิ้งคอมบิเนชั่นจนถึงขั้นสูงสุดก็ตาม นี่เขาเป็นแค่ระดับเทพเจ้าขั้นบัตเตอร์ฟลาย เขาก็ทำแบบนี้ได้เรียบร้อยแล้ว นั่นเป็นเพราะพรสวรรค์หรือเพราะเขาฝึกอย่างหนักกันแน่?”
สิ่งมีชีวิตระดับเทพเจ้าธรรมดาจะกลัวเรื่องการใช้พลังมากเกินไป แต่หานเซิ่นมีร่างซีโน่เจเนอิคที่รวมร่างยีนต่อสู้สี่ร่างเข้าด้วยกัน ร่างยีนต่อสู้ของศาสตร์ตงเสวียนนั้นสามารถดูดซับพลังงานจากจักรวาลโดยตรงได้ มันจะช่วยเติมเต็มพลังงานที่เขาสูญเสียไป ถ้าร่างกายของหานเซิ่นไม่ได้ถูกทำลาย เขาก็สามารถต่อสู้ได้เรื่อยๆโดยไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับความเหนื่อยล้า
พระเจ้าเกราะนภาเห็นถึงปัญหานั้นและเริ่มเปลี่ยนรูปแบบการโจมตี
“ถ้าเป็นอย่างนั้นข้าจะทำให้เจ้าหนีไปไหนไม่ได้อีก”
ฝักมีดฟันออกไปราวกับเงา มีดแสงมากมายสร้างรอยแยกในอวกาศ เขาจะขังหานเซิ่นเอาไว้ภายในรอยแยกของอวกาศ
กาแล็กซี่เทเลพอร์ตเทชั่นเป็นการเคลื่อนไหวผ่านอวกาศ ถ้าพระเจ้าเกราะนภาสร้างรอยแยกของอวกาศรอบๆตัวหานเซิ่นได้ ถึงแม้วิชาการเทเลพอร์ตของหานเซิ่นจะสุดยอดสักแค่ไหน เขาก็ไม่สามารถเทเลพอร์ตหนีไปไหนได้อีก
ขณะที่หานเซิ่นยังคงเทเลพอร์ตต่อไป รอยแยกก็ปรากฏขึ้นในอวกาศมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งทำให้เขามีสถานที่ที่จะเทเลพอร์ตหนีไปน้อยลงกว่าเดิม
สนามประลองอวกาศนั้นไม่ใช่อวกาศของจักรวาลจริงๆ มันเป็นแค่อวกาศที่มีพื้นที่ที่จำกัด มันไม่ได้มีพื้นที่ให้หานเซิ่นเทเลพอร์ตหนีไปเรื่อยๆ
แต่หานเซิ่นไม่ได้คิดจะหนีไปตลอด การเทเลพอร์ตนั้นคือหนทางซื้อเวลาให้เขาได้มีเวลาสังเกตคู่ต่อสู้ เขาต้องการจะเรียนรู้เกี่ยวกับพลังของพระเจ้าเกราะนภา
หานเซิ่นฆ่าพระเจ้ามาสองคนแล้ว ดังนั้นเขาไม่รังเกียจที่จะทำแบบนั้นอีกครั้ง แต่เขาจำเป็นทำให้แน่ใจว่ามันจะประสบความสำเร็จ เขาไม่สามารถโจมตีมั่วๆได้
“ทีนี้เจ้าก็หนีไปไหนไม่ได้อีกแล้ว” พระเจ้าเกราะนภาพูดหลังจากที่ทำการฟันใส่หานเซิ่น
ตอนนี้หานเซิ่นถูกล้อมด้วยรอยแยกของอวกาศจากทุกทิศทาง เขาถูกขังอยู่ในบริเวณของอวกาศที่ยังไม่ได้ถูกทำลาย แต่พื้นที่ที่เขาอยู่นั้นถูกตัดขาดจากโลกภายนอก ดังนั้นไม่ว่าเขาจะใช้วิชาการเทเลพอร์ตที่ทรงพลังขนาดไหน เขาก็ไม่สามารถเทเลพอร์ตหนีไปได้อีก
ในพยุหะโลหิต โหลวเลี่ยมองไปที่พระเจ้าเกราะนภาด้วยดวงตาที่ลุกเป็นไฟ เขารู้ถึงตัวตนของพระเจ้าเกราะนภา
“มันจบแล้ว ดอลลาร์นั้นแข็งแกร่ง แต่การต่อสู้กับพระเจ้าเป็นอะไรที่มากเกินไป น่าเสียดายที่มันไม่ใช่ข้าที่ต้องเจอกับพระเจ้าคนนี้ ไม่อย่างนั้นข้าก็อาจจะฆ่าเขาได้”