ในตอนที่หานเซิ่นวิวัฒนาการไปสู่ขั้นบัตเตอร์ฟลาย เนื่องจากดวงตาข้างซ้ายของเขารวมเข้ากับโอเวอร์แบริ่งอายของเอ็กซ์ตรีมคิง เขาจึงถูกเลื่อนไปสู่ระดับเทพเจ้าขั้นทรูก็อตโดยอุบัติเหตุ
แต่น่าเสียดายที่เขาเลื่อนไปสู่ขั้นทรูก็อตไม่สำเร็จ แต่ถึงการเลื่อนระดับของเขาจะล้มเหลว โอเวอร์แบริ่งอายของเอ็กซ์ตรีมคิงก็ได้ดูดซับพลังซีโน่เจเนอิคของหานเซิ่นเข้าไป และส่งผลลัพธ์ให้มันเกิดความเปลี่ยนแปลงขึ้น มันได้รวมกับร่างซีโนเจเนอิคของหานเซิ่นโดยสมบูรณ์และเปลี่ยนดวงตาข้างซ้ายของเขาให้กลายเป็นระดับเทพเจ้าขั้นทรูก็อต
ตอนนี้ร่างกายของหานเซิ่นเป็นขั้นบัตเตอร์ฟลาย มีเพียงดวงตาข้างซ้ายของเขาเท่านั้นที่เป็นขั้นทรูก็อต ซึ่งมันเป็นอะไรที่ประหลาดมากๆ ดวงตาของซ้ายของเขาในตอนนี้มีพลังแห่งกฎอยู่ แต่ด้วยการที่รวมเข้ากับพลังซีโน่เจเนอิคของหานเซิ่น พลังของมันจึงแตกต่างออกไปจากพลังแห่งกฎของโอเวอร์แบริ่งอายเล็กน้อย
หานเซิ่นไม่รู้ว่าดวงตาขั้นทรูก็อตนี้จะทำอะไรพระเจ้าเกราะนภาได้ไหม แต่พระเจ้าตรงหน้าของเขานี้แตกต่างไปจากพระเจ้าที่กำลังอยู่ในสวน เขาเห็นสีดำที่เข้มมากๆภายในร่างกายของพระเจ้าเกราะนภา มันเป็นสีของบาปและมันดำสนิทราวกับหมึก ใครจะรู้ว่าพระเจ้าเกราะนภาก่อบาปเอาไว้มากขนาดไหนถึงทำให้เขาได้สีนี้มา
“ไม่สำคัญว่าเจ้าจะเป็นพระเจ้าตัวจริงหรือพระเจ้าตัวปลอม วันนี้ข้าจะตัดสินบาปของเจ้า” หานเซิ่นพูดขณะที่ดวงตาข้างซ้ายของเขาระเบิดพลังออกมา
ลำแสงสีดำและสีขาวระเบิดออกมาจากดวงตาของหานเซิ่น มันส่องไปที่พระเจ้าเกราะนภาโดยฉับพลัน พระเจ้าเกราะนภาไม่มีเวลาจะตอบสนองได้ทัน และร่างกายทั้งร่างของเขาก็ถูกปกคลุมด้วยลำแสงสีดำและสีขาว ลำแสงสีดำนั้นกลายเป็นโซ่ที่ล่ามพระเจ้าเกราะนภาเอาไว้ ขณะที่ลำแสงสีขาวกลายเป็นหนังสือที่ลอยอยู่ตรงหน้าพระเจ้าเกราะนภา
พระเจ้าเกราะนภาตกใจ เขาพยายามจะกำจัดโซ่สีดำที่ล่ามตัวเขาออกไป แต่เขาสังเกตเห็นว่าทั้งร่างกายของเขาถูกล็อคด้วยพลังประหลาดบางอย่าง เขาไม่สามารถขยับเขยื้อนได้
“นั่นเป็นไปได้ยังไง? ในจักรวาลนี้มีพลังที่จำกัดพลังของข้าได้ พลังนี้มันอะไรกัน?” พระเจ้าเกราะนภาตกตะลึง
หลังจากที่พระเจ้าเกราะนภาถูกพันด้วยโซ่สีดำ ชิ้นกระดูกที่ติดอยู่รอบๆตัวหานเซิ่นจึงเริ่มหลุดออกไปและสลายกลายเป็นผุยผง หานเซิ่นกลับมาเป็นอิสระอีกครั้งหนึ่ง
“ให้ข้าเห็นว่าเจ้าก่อบาปแบบไหนเอาไว้” หานเซิ่นยกมือขึ้นและลำแสงสีขาวที่กลายเป็นหนังสือก็บินมาอยู่ตรงหน้าของเขา
หานเซิ่นพลิกหน้าหนังสือและพบว่าข้างในนั้นมันว่างเปล่า มันไม่ได้มีอะไรเขียนเอาไว้ มันไม่ได้มีตาชั่งหรือตุ้มถ่วงน้ำหนักเหมือนกับตอนที่หานเซิ่นถูกตัดสินเช่นกัน
แต่ทว่าหลังจากที่หนังสือมาอยู่ในมือของหานเซิ่น มันก็มีรูปภาพมากมายเล่นในหัวของเขาราวกับเป็นภาพยนตร์ พวกมันทำให้หานเซิ่นเข้าใจบากสิ่ง
“พระเจ้าเกราะนภา เจ้าก่อบาปกรรมเอาไว้มาก”
หานเซิ่นเงยหน้าขึ้นมาและเห็นคำว่า “ตัดหัว” บนหนังสือ ทันใดนั้นคำว่า “ตัวหัว” ก็เริ่มเรืองแสงออกมา และจู่ๆหนังสือเริ่มบินออกจากมือของเขาไป มันกลายเป็นดาบของเพชฌฆาตที่บินไปเพื่อตัดหัวของพระเจ้าเกราะนภา
“สิ่งมีชีวิตชั้นต่ำอย่างเจ้ากล้าดียังไงมาติดสินพระเจ้าอย่างข้า”
พระเจ้าเกราะนภาโกรธจัด แต่ภายใต้การล่ามของโซ่สีดำ พระเจ้าเกราะนภาไม่สามารถเคลื่อนไหวร่างกายได้
ดาบของเพชฌฆาตถูกฟันลงมา มันตัดหัวของพระเจ้าเกราะนภา ซึ่งส่งผลให้เลือดกระเด็นออกมาเป็นจำนวนมาก ทุกสิ่งมีชีวิตในจักรวาลอึ้งไป พวกเขาไม่อยากจะเชื่อสิ่งที่ได้เห็น พระเจ้าเกราะนภาที่ก่อนหน้านี้ดูทรงพลังมากๆนั้นถูกตัดหัวไปง่ายๆแบบนั้น
ภายในปราสาทนภา ผู้หญิงคนนั้นอ้าปากค้างด้วยความตกใจ
“ข้า… นี่ข้าเห็นภาพหลอนอย่างนั้นหรอ? พระเจ้าเกราะนภาจะถูกฆ่าง่ายๆแบบนั้นได้ยังไง?”
“นั่นเหมือนกับพลังแห่งกฎ แต่มันมีความแตกต่างอยู่” ผู้นำปราสาทนภาเองก็ดูสับสน
ทางเผ่าเอ็กซ์ตรีมคิงก็ประหลาดใจอย่างมากเช่นกัน ไป๋ปู้อีพูด
“พลังนั้นดูเหมือนกับโอเวอร์แบริ่งอายของกษัตริย์องค์ที่สอง แต่มันแตกต่างออกไป มันน่ากลัวยิ่งกว่า”
“พลังแห่งกฎตัดสินเทพสปิริตได้อย่างนั้นหรอ? ถ้าพวกเรารู้แบบนั้น พวกเราก็ควรให้ลูกหลานของพวกเราเรียนรู้วิชาจีโนของกษัตริย์องค์ที่สอง”
“ดอลลาร์คนนี้เป็นใครกัน? เขาแปลกเกินไปแล้ว เขาฆ่าเทพสปิริตแบบนั้นได้ยังไงกัน?”
สิ่งมีชีวิตธรรมทั่วไปในจักรวาลนั้นไม่รู้ถึงความทรงพลังของเทพสปิริต สิ่งมีชีวิตจากสมัยโบราณและยอดฝีมือของเผ่าพันธุ์ชั้นสูงเท่านั้นที่รู้ถึงความน่ากลัวของเทพสปิริต พวกเขาทุกคนดูประหลาดใจอย่างมาก
เมื่อการประหารชีวิตสิ้นสุดลง โซ่สีดำและหนังสือสีขาวก็หายไป
หานเซิ่นยังไม่ได้รู้สึกผ่อนคลาย เขายังคงจ้องไปที่ร่างกายของพระเจ้าเกราะนภา เขาเห็นว่าร่างกายของพระเจ้าเกราะนภาภายในเกราะโครงกระดูกนั้นเริ่มกลับไปดูเหมือนกับอบิสไนท์อีกครั้งหนึ่ง หลังจากที่หานเซิ่นสังหารอีกฝ่ายได้แล้ว เสียงประกาศดังขึ้นว่าที่เขาฆ่าได้คืออบิสไนท์ระดับเทพเจ้าขั้นบัตเตอร์ฟลาย ไม่ใช่พระเจ้าเกราะนภา หานเซิ่นรู้ว่าทำไมมันถึงเป็นแบบนั้น บาปที่หานเซิ่นเห็นไม่ได้เป็นของพระเจ้าเกราะนภา มันเป็นของเจ้าของร่างกายที่แท้จริง ซึ่งก็คืออบิสไนท์ พลังแห่งกฎนั้นสามารถตัดสินอบิสไนท์ที่เป็นเจ้าของร่างเท่านั้น มันไม่สามารถฆ่าพระเจ้าเกราะนภาได้ แต่มันทำให้พระเจ้าเกราะนภาถูกแยกออกไปจากร่างกายอบิสไนท์ เขากลายเป็นเทพสปิริตที่คนทั่วไปมองไม่เห็น สิ่งมีชีวิตธรรมดานั้นจะเห็นแค่ว่าชุดเกราะโครงกระดูกสีม่วงค่อยๆหายไปในท้องฟ้า พวกเขาไม่เห็นเทพสปิริตที่อยู่ในชุดเกราะโครงกระดูกนั้น
“ดอลลาร์ มันจะไม่จบเพียงเท่านี้” พระเจ้าเกราะนภาพูดกับหานเซิ่น ก่อนที่จะส่งสิ่งประจำตัวประเจ้าของตัวเองกลับไปที่วิหารพระเจ้าเกราะนภา
หลังจากที่เทพสปิริตและสิ่งประจำตัวพระเจ้ารวมเข้ากับร่างของสิ่งมีชีวิตในจักรวาล พวกเขาจะไม่สามารถแยกตัวออกมาได้อีก พระเจ้าเกราะนภานั้นถูกบังคับให้แยกออกมา ซึ่งทำให้เขาได้รับความเสียหายอย่างหนัก มันสามารถพูดได้ว่าเขาตกอยู่ในสภาพที่ย่ำแย่ มันเลวร้ายยิ่งกว่าตอนที่ราชาไนฟ์ของเอ็กซ์ตรีมคิงตัดกระดูกซี่โครงของเขาไปซะอีก
นอกจากนั้นถ้าไม่มีร่างกายอยู่อีกแล้ว พระเจ้าเกราะนภาก็ไม่สามารถทำกับสิ่งมีชีวิตของจักรวาลได้ ด้วยเหตุนั้นมันจึงไม่มีประโยชน์อะไรที่เขาจะอยู่ต่อ
“มันจะไม่จบเพียงแค่นี้” หานเซิ่นพูด “มีแค่หนึ่งในพวกเราเท่านั้นที่จะมีชีวิตรอดไปจากที่นี่ได้”
พระเจ้าเกราะนภาไม่ได้สนใจที่หานเซิ่นพูด เขาแค่ต้องการจะกลับไปที่วิหารพระเจ้าเกราะนภาของตัวเอง
เขาไม่สามารถโจมตีสิ่งมีชีวิตของจักรวาลได้อีกแล้ว แต่สิ่งมีชีวิตของจักรวาลก็ไม่สามารถสร้างความเสียหายกับเขาได้เช่นกัน ด้วยเหตุนั้นพระเจ้าเกราะนภาจึงไม่กังวลว่าหานเซิ่นจะทำร้ายอะไรเขาได้
“ดอลลาร์ ข้าจะทำให้เจ้าไม่ได้ไปผุดไปเกิดอีก”
พระเจ้าเกราะนภาสาปแช่งหานเซิ่นในใจ เขาถูกบังคังให้แยกออกจากร่างของอบิสไนท์ ความเสียหายที่เขาได้รับนั้นเลวร้ายยิ่งกว่าตอนที่ราชาไนฟ์ตัดกระดูกซี่โครงของเขา
ขณะที่กำลังคิดแบบนั้นพระเจ้าเกราะนภาก็หันมามองหานเซิ่นเป็นครั้งสุดท้าย ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกตกใจอย่างที่สุด เขาเห็นว่ามีเทพสปิริตสีเขียวที่เหมือนกับยักษ์ปรากฎออกมาจากร่างกายของหานเซิ่น เทพสปิริตนั่นถือหอกสกายแรดิชก็อตเอาไว้และตรงเข้ามาหาเขา
“สกายไวน์แรดิช… ไม่!” พระเจ้าเกราะนภากรีดร้อง แต่เขาทำแค่ตะโกนว่าไม่เท่านั้น ก่อนที่เทพสปิริตสีเขียวจะแทงหอกสกายแรดิชก็อตทะลุผ่านร่างกายของเขาไป สิ่งประจำตัวพระเจ้าร่วงกลับลงมาหาหานเซิ่น
“เทพสปิริตถูกฆ่า ยีนเทพสปิริตถูกค้นพบ”
สิ่งมีชีวิตอื่นมองไม่เห็นเทพสปิริตของพระเจ้าเกราะนภาหรือเทพสปิริตของสกายไวน์แรดิช หลังจากที่เห็นหานเซิ่นตัดหัวของอบิสไนท์ พวกเขาก็เห็นแค่ว่าชุดเกราะโครงกระดูกสีม่วงนั้นลอยออกไปจากร่างกายของอบิสไนท์ และดูเหมือนว่าหานเซิ่นโยนหอกสีเขียวไปใส่ชุดเกราะโครงกระดูกสีม่วงเพื่อทำให้มันตกลงมาจากท้องฟ้า