“แปลงจริงๆ ทำไมร่างกายของเขาถึงได้ฟื้นตัวเร็วแบบนั้น?”
หานเซิ่นมองไปที่บาดแผลของนกยูงพลูโตที่เบิร์นนิ่งแลมป์หนีออกมา และเขาก็ต้องตกใจกับสิ่งที่ได้เห็น
แต่เดิมนั้นร่างกายของเบิร์นนิ่งแลมป์กลายเป็นเหมือนกับวิญญาณในยมโลก แต่ตอนนี้ร่างกายของเขากลับเป็นปกติ สีเขียวและสีฟ้าที่โปร่งใสนั้นหายไปแล้ว
ก่อนหน้านี้เบิร์นนิ่งแลมป์ไม่สามารถทนต่อพลังอาณาเขตยมโลกของนกยูงพลูโตได้ และเขาก็ถูกทำให้กลายเป็นส่วนหนึ่งของยมโลก หลังจากที่เขากลายเป็นส่วนหนึ่งของยมโลกแล้ว เขาก็ไม่ได้เป็นพิษเป็นภัยต่อนกยูงพลูโตอีกต่อไป เขาไม่สามารถสร้างความเสียหายใดๆกับนกยูงพลูโตได้
แต่ตอนนี้ไม่เพียงแค่เบิร์นนิ่งแลมป์จะกลับออกมาอย่างปลอดภัย ร่างกายของเขายังกลับเป็นปกติ ราวกับว่าเขาไม่เคยถูกพลังของนกยูงพลูโตมาก่อน ถ้าเบิร์นนิ่งแลมป์มีพลังนั้นอยู่ตั้งแต่แรก เขาจะลำบากปล่อยให้ตัวเองถูกนกยูงพลูโตกลืนเข้าไปทำไมกัน
“ดูเหมือนว่าปัญหาก็คือมีดเล่มนั้น” หานเซิ่นมองไปที่มีดขณะที่พูดกับตัวเอง
พระเจ้าที่อยู่ข้างๆพูดขึ้นว่า “มันเป็นเพราะพลังของมีดนั่นจริงๆนั่นแหละ ไม่อย่างนั้นเบิร์นนิ่งแลมป์ก็คงจะตายไปแล้ว”
“พลังของมีดนั้นคงไม่ได้เป็นการกลับตาลปัตรเหตุหรอกใช่ไหม?” หานเซิ่นถามหลังจากที่คิดอยู่ชั่วครู่
“มันไม่ถูกซะทีเดียว ถ้าจะพูดให้ถูกต้อง ทุกอย่างที่ถูกทำลงไปกับเบิร์นนิ่งแลมป์คือสาเหตุ หรือในที่นี้ก็คือการที่นกยูงพลูโตใช้พลังอาณาเขตยมโลกกับเบิร์นนิ่งแลมป์และกลืนเขาเข้าไป มีดนั่นจะดูดซับพลังเหตุเข้าไปและเปลี่ยนมันเป็นพลังของตัวเอง ซึ่งจะถูกย้อนกลับไปหาศัตรูที่ก่อมันขึ้นมา” พระเจ้าพูด
“ถ้าเป็นแบบนั้น การมีมีดนั้นอยู่ก็ทำให้เบิร์นนิ่งแลมป์ไร้เทียมทานน่ะสิ เพราะไม่ว่าคู่ต่อสู้จะแข็งแกร่งขนาดนั้น มีดก็จะดูดพลังเข้าไปและปล่อยมันกลับคืนไป แบบนั้นไม่ว่าคู่ต่อสู้จะแข็งแกร่งสักแค่ไหน เบิร์นนิ่งแลมป์ก็โต้กลับได้” หานเซิ่นพูด
“ตามทฤษฎีล่ะก็นะ แต่ก่อนอื่นผู้ใช้จำเป็นต้องมีร่างกายที่ทนต่อความเสียหายได้ ถ้าร่างกายของผู้ใช้ทนต่อความเสียหายไม่ได้ เขาก็จะถูกฆ่าตายไปก่อนที่มีดจะดูดซับพลังเข้าไป แบบนั้นมันก็ไม่สำคัญว่ามีดนั้นจะทรงพลังมากสักแค่ไหน” พระเจ้าหัวเราะ
“เจ้าพูดถูก ไม่แปลกใจเลยที่เบิร์นนิ่งแลมป์ติดร้อยอันดับแรกได้ ทั้งหมดมันเป็นเพราะมีดเล่มนั้น”
หานเซิ่นจ้องไปที่มีด ขณะที่คิดกับตัวเอง ‘ไม่สำคัญว่ามีดนั่นจะใช่มีดเปล่าของเราหรือเปล่า ในตอนที่เราทำลายเผ่าบุดด้า เราจะเอามีดนั่นมา ด้วยความแข็งแกร่งทางร่างกายของเราและมีดเล่มนั้น การจะต่อสู้กับขั้นทรูก็อตก็คงจะไม่ใช่เรื่องยากจนเกินไป’
นกยูงพลูโตได้รับบาดเจ็บหนัก มันปลดปล่อยอาณาเขตยมโลกออกมาอีกครั้ง แต่เนื่องจากมันได้รับบาดเจ็บมากเกินไป พลังของอาณาเขตยมโลกจึงลดลงไปมาก เบิร์นนิ่งแลมป์ใช้มีดโจมตีซ้ำไปที่บาดแผลของคู่ต่อสู้ มันทำให้นกยูงพลูโตโกรธยิ่งกว่าเดิม แต่บาดแผลของมันเลวร้ายขึ้นเรื่อยๆจนสุดท้ายมันก็ไม่มีทางเลือก นอกจากยอมแพ้และออกจากสนามประลองไป เบิร์นนิ่งแลมป์เป็นฝ่ายชนะการประลอง
หานเซิ่นครุ่นคิดเกี่ยวกับการต่อสู้ที่เพิ่งจะจบลงและเริ่มจะเข้าใจถึงการทำงานของมีดขึ้นมาบ้าง
“เบิร์นนิ่งแลมป์เป็นชายที่เล่ห์เหลี่ยมสูง มีดนั้นโจมตีกลับได้ทุกเมื่อ แต่เขารอคอยจนกระทั่งนกยูงพลูโตกลืนเขาเข้าไปก่อนที่จะโจมตี นั่นเป็นความอดทนที่ไม่ใช่ทุกคนจะมีได้”
มีดนั้นไม่ได้ดูดซับบาดแผลของเบิร์นนิ่งแลมป์ด้วยตัวของมันเอง มันจำเป็นต้องถูกเปิดใช้จากเบิร์นนิ่งแลมป์เพื่อที่พลังของมันจะเริ่มทำงาน หลังจากที่พลังเหตุถูกดูดซับเข้าไปหมดแล้ว ร่างกายของเบิร์นนิ่งแลมป์ก็จะกลับมาเป็นปกติอีกครั้งเหมือนกับว่าเขาไม่ได้รับบาดเจ็บตั้งแต่แรก
หลังจากนั้นมีดก็จะปลดปล่อยพลังเหตุที่ดูดซับมาออกไปเท่ากับความเสียหายที่เบิร์นนิ่งแลมป์ได้รับ
แต่พลังนั้นดูเหมือนจะมีข้อจำกัดอยู่ หนึ่งคือมันจำเป็นต้องใช้เวลาในการดูดซับพลัง ร่างกายของเบิร์นนิ่งแลมป์จำเป็นจะต้องได้รับบาดแผล พลังที่มีดจะปลดปล่อยกลับไปได้นั้นขึ้นอยู่กับบาดแผลที่เบิร์นนิ่งแลมป์ได้รับ นั่นเป็นเหตุผลที่เบิร์นนิ่งแลมป์ทนรับพลังอาณาเขตของนกยูงพลูโตและปล่อยให้ตัวเองถูกกลืนเข้าไป
หลังจากนั้นเบิร์นนิ่งแลมป์ก็ใช้มีดฟันใส่บาดแผลของนกยูงพลูโตซ้ำๆ แต่พลังของมันไม่ได้มากเหมือนกับครั้งแรก นั่นก็เพราะพลังเหตุที่มีดดูดซับเข้าไปนั้นน้อย มันจึงสร้างความเสียหายได้ไม่มาก เหมือนอย่างที่พระเจ้าพูด ยิ่งร่างกายของผู้ใช้ทนรับพลังได้มากเท่าไหร่ พลังที่มีดจะปลดปล่อยกลับไปได้ก็มากขึ้นเท่านั้น
“นี่มันมีดทรมานตัวเองชัดๆ ถ้าผู้ใช้ไม่ได้รับบาดเจ็บ มันก็จะไม่ทรงพลัง ยิ่งตัวเองได้รับบาดเจ็บมากเท่าไหร่ มันก็จะทรงพลังมากขึ้นเท่านั้น นี่เบิร์นนิ่งแลมป์ไปได้มีดเล่มนี้มาจากไหนกัน?” หานเซิ่นอดไม่ได้ที่จะบ่น
ยังไงก็ตามเบิร์นนิ่งแลมป์สามารถเอาชนะการประลองและสามารถรักษาอันดับที่แปดสิบสี่เอาไว้ได้ อันดับที่แปดสิบสี่นั้นไม่ใช่อันดับที่คนอื่นต้องการจะแย่งชิง และหลังจากที่เห็นเบิร์นนิ่งแลมป์ถูกกลืนเข้าไปโดยคู่ต่อสู้ แต่ก็สามารถรอดชีวิตกลับออกมาได้ มันก็ทำให้สิ่งมีชีวิตที่มีอันดับต่ำๆไม่กล้าจะท้าสู้กับเขา หลังจากการต่อสู้นี้ มันจึงไม่มีใครมาท้าสู่กับเบิร์นนิ่งแลมป์อีก
“ช่างเถอะ ในตอนนี้ปล่อยให้เขามีความสุขไปก่อน”
หานเซิ่นเองก็ไม่อยากจะท้าสู่กับเบิร์นนิ่งแลมป์เช่นกัน อันดับที่แปดสิบสี่นั้นต่ำเกินไป หานเซิ่นมีโอกาสไม่มากนักที่จะเอาชนะคนที่อยู่ในสิบอันดับแรก แต่ถ้าเขาท้าชิงคนที่อยู่ท็อปยี่สิบหรือสามสิบล่ะก็ เขาก็พอจะมีโอกาสอยู่ ซึ่งถ้าเขาทำได้สำเร็จ เขาก็จะได้รับรางวัลมากมาย นั่นทำให้หานเซิ่นไม่อยากจะเสียเวลาไปท้าชิงเบิร์นนิ่งแลมป์ที่อยู่อันดับที่แปดสิบสี่ แถมยังไงซะหานเซิ่นก็มีแผนจะไปเยือนเผ่าบุดด้าอยู่แล้ว ยิ่งเบิร์นนิ่งแลมป์ได้รับผลประโยชน์ในตอนนี้มากเท่าไหร่ หานเซิ่นก็จะได้รับผลประโยชน์มากเท่านั้นในตอนที่เขาไปเยี่ยมเยียน ดังนั้นมันไม่มีความจำเป็นที่เขาจะต้องไปชิงอันดับของเบิร์นนิ่งแลมป์ในตอนนี้ ในมุมมองของหานเซิ่น เบิร์นนิ่งแลมป์ก็ไม่ได้ต่างอะไรจากลูกจ้างของเขา
‘ถ้าอย่างนั้นเราควรจะท้าใครดี?’ หานเซิ่นคิดกับตัวเอง ถึงแม้หานเซิ่นอยากจะท้าสู่กับเดม่อนอัลฟ่า แต่เขาก็รู้ว่าถึงจะใช้พลังทั้งหมดของตัวเอง เขาก็อาจจะเอาชนะเดม่อนอัลฟ่าไม่ได้ เขาจึงรีบล้มเลิกความคิดนั้นไป ส่วนโหลวเลี่ยเป็นสมาชิกของพยุหะโลหิต พยุหะโลหิตนั้นเคยช่วยหานเซิ่นเอาไว้ ดังนั้นหานเซิ่นจึงไม่อยากจะต่อสู้กับพวกเขาเช่นกัน ส่วนผู้นำเผ่าเวรี่ไฮนั้นนอกซะจากเขาจะใช้โหมดเทพเจ้าสปิริตขั้นสุดยอด เขาก็ไม่มีความสามารถพอที่จะเอาชนะอีกฝ่ายได้ เขาจึงล้มเลิกความคิดนั้นไปเช่นกัน
หานเซิ่นมองไปที่สิบอันดับแรกและสังเกตเห็นว่ามันไม่มีอันดับไหนเลยที่จะเป็นการต่อสู้ที่ดี หานเซิ่นยังใช้ดวงตาแห่งกฎเพื่อดูบาปของพวกเขาแต่ละคน แต่บาปของพวกเขาไม่สูงพอที่จะตัดสินโทษตายได้
ด้วยเหตุนั้นการใช้ดวงตาแห่งกฎกับพวกเขาจึงไม่ใช่วิธีการที่มีประสิทธิภาพ
หานเซิ่นมองลงมาเรื่อยๆ และในที่สุดสายตาของเขาก็ไปหยุดอยู่ที่ซีโน่เจเนอิคที่อยู่อันดับที่ยี่สิบห้า มันเป็นซีโน่เจเนอิคที่ดูเหมือนกับช้าง มันมีชื่อว่าเทพช้างมาฮา แต่พลังหลักของมันคือแสงศักดิ์สิทธิ์ที่มีพลังในการรักษา
หานเซิ่นเคยเห็นเอ็กซ์ตรีมคิงคนหนึ่งท้าสู้กับมัน เขาใช้วิชาจีโนทุกอย่างเพื่อโจมตีเทพช้างมาฮา แต่เทพช้างนั้นแค่ยืนอยู่เฉยๆ มันแค่ปลดปล่อยแสงศักดิ์สิทธิ์ออกมาและภายในแสงศักดิ์สิทธิ์นั่นร่างกายของมันก็ถูกรักษารวดเร็วกว่าที่มันถูกทำร้าย ที่สุดแล้วนักสู้จากเอ็กซ์ตรีมคิงคนนั้นก็เหนื่อยจนสู้ต่อไปไม่ไหวและขอยอมแพ้ไป
ด้วยพลังในการรักษาที่สุดยอดขนาดนั้น แม้แต่ขั้นทรูก็อตก็ไม่สามารถทำอะไรกับมันได้ แต่มันเป็นอะไรที่สมบูรณ์แบบสำหรับหานเซิ่น เขามีหอกสกายไวน์แรดิชก็อตอยู่ พลังของมันถือเป็นที่สุด มีโอกาสสูงที่มันจะชนะพลังในการรักษาของเทพช้างมาฮา
แต่หานเซิ่นไม่รีบร้อน มันยังเหลือเวลาอีกหลายวัน ก่อนที่การท้าชิงจะจบลง หานเซิ่นมีแผนจะนั่งดูจนถึงวินาทีสุดท้าย
ทันใดนั้นก็มีแสงกระพริบขึ้นมาจากบัญชีรายชื่อเทพเจีโน และมีชื่อของคนสองคนปรากฏขึ้นมาให้เห็น เมื่อหานเซิ่นมองไปที่รายชื่อ เขาก็เห็นว่าหนึ่งในนั้นคือจางเสวียนเต้าที่เป็นผู้นำปราสาทนภา