Super God Gene – ตอนที่ 2888 ไล้ต้อนเบิร์นนิ่งแลมป์

“โอ้มายก็อด! หานเซิ่นแข็งแกร่งถึงขนาดนั้นตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?”

“เขาสยบเบิร์นนิ่งแลมป์ที่มีอาวุธขั้นทรูก็อตได้ด้วยมือเปล่า นี่วันๆหนึ่งเขาทำอะไรกันแน่? ทำไมเขาถึงได้เพิ่มระดับขึ้นรวดเร็วขนาดนี้?”

“น่าเสียดายที่หานเซิ่นไม่ได้เข้าร่วมการประลองของบัญชีรายชื่อเทพเจ้าจีโน ถ้าเขาเข้าร่วมด้วย มันก็คงจะเป็นอะไรที่น่าตื่นเต้นยิ่งกว่าเดิม”

“ไม่แปลกใจเลยที่เขากล้าจะท้าสู้กับเผ่าบุดด้า เขาแข็งแกร่งจริงๆ”

“หานเซิ่นเป็นถึงบิดาของเทพทั้งปวง เขาจะทำในสิ่งที่ตัวเองไม่มั่นใจได้ยังไงกัน?”

บุดด้าทั้งหมดดูกังวลอย่างมาก ในตอนแรกไม่มีใครเชื่อว่าหานเซิ่นจะเอาชนะเบิร์นนิ่งแลมป์ที่ติดท็อปร้อยในบัญชีรายชื่อเทพเจ้าจีโนได้ ด้วยเหตุนั้นบุดด้าทุกคนต่างก็เชื่อในตัวเบิร์นนิ่งแลมป์ แต่มีดลมปราณที่หานเซิ่นปล่อยออกมานั้นได้ทำลายความภาคภูมิและความมั่นใจของพวกเขาจนหมดสิ้น

ใบหน้าของหานเซิ่นไม่เปลี่ยนแปลง เขาใช้ฝ่ามือเป็นเหมือนกับมีดและใช้กระบวนท่าต่างๆของวิชามีดเขี้ยวดาบ มีดลมปราณถูกปล่อยอวกาศออกไปราวกับอสูรร้ายที่สามารถบดขยี้ได้ทุกสิ่งทุกอย่าง

เดิมทีนี่จะเป็นการแสดงถึงความแข็งแกร่งของเบิร์นนิ่งแลมป์ แต่เบิร์นนิ่งแลมป์กลับตกเป็นฝ่ายที่เสียเปรียบอย่างสมบูรณ์ เขาไม่สามารถต้านมีดลมปราณของหานเซิ่นได้เลย เขาทำได้แค่พยายามหลบหลีก และในตอนที่เขาไม่สามารถหลบได้อีกต่อไป เขาก็ใช้มีดเหตุและผลเพื่อป้องกันมีดลมปราณของหานเซิ่น

มีดลมปราณพุ่งไปปะทะกับมีดเหตุและผล และส่งเบิร์นนิ่งแลมป์กับมีดของเขากระเด็นผ่านอวกาศไป ใบหน้าของเขาดูซีดเซียวจากความตกใจ

“พวกเขาทั้งคู่เป็นขั้นบัตเตอร์ฟลายเหมือนกัน แต่พลังของหานเซิ่นเหนือกว่าเบิร์นนิ่งแลมป์มาก เขาทำแบบนั้นได้ยังไงกัน?” ลุงสี่ของเอ็กซ์ตรีมคิงตกใจ

ลุงสองไป๋ปู้อีหัวเราะและพูด “หานเซิ่นยังไม่ควรจะดีใจเร็วเกินไป เขาแข็งแกร่งก็จริง แต่เขาไม่ได้แข็งแกร่งไปกว่านกยูงพลูโต เบิร์นนิ่งแลมป์ใช้มีดนั่นเอาชนะนกยูงพลูโตได้ มันจึงเป็นเรื่องยากที่หานเซิ่นจะเป็นฝ่ายชนะ เขาจำเป็นต้องรับมือกับมีดเล่มนั้น”

“หานเซิ่นบอกว่ามีดนั่นคือมีดเปล่าที่เบิร์นนิ่งแลมป์ขโมยไปจากเขา”
เหมิงเลี่ยถามด้วยความอยากรู้ “นั่นเป็นความจริงอย่างนั้นหรอ?”

“ใครจะไปรู้? บุดด้านั้นชอบเอาพลังของคนอื่นไปใช้เป็นของตัวเอง วิชาจีโนส่วนใหญ่ของเผ่าบุดด้าเองก็เป็นสิ่งที่ลอกเลียนมาจากเผ่าอื่นๆ มันจึงบอกได้ยาก” ไป๋ปู้อีพูด

“ตอนนี้มันขึ้นอยู่กับว่าหานเซิ่นจะทำลายพลังเหตุและผลของมีดนั่นได้หรือเปล่า ถ้าเขาทำลายมันไม่ได้ แบบนั้นมันก็ไม่สำคัญว่าเขาจะไล่ต้อนเบิร์นนิ่งแลมป์ยังไง ถ้าพลังของมีดนั่นทำงานขึ้นมา เบิร์นนิ่งแลมป์ก็จะใช้พลังสะท้อนกลับของมีดเพื่อพลิกสถานการณ์กลับได้” เหมิงเลี่ยมองไปที่หานเซิ่นด้วยดวงตาที่ลุกเป็นไฟ

มีดลมปราณของหานเซิ่นนั้นทรงพลังมากๆ มันไล่ต้อนเบิร์นนิ่งแลมป์จนทำให้เขาหายใจแทบไม่ทัน มันยิ่งยากขึ้นเรื่อยๆที่เขาจะป้องกันการโจมตีของหานเซิ่น

ที่สุดแล้วอกของเบิร์นนิ่งแลมป์ก็ถูกฟันเข้าไปโดยมีดลมปราณ เลือดไหลทะลักออกมาจากบาดแผลที่เขาได้รับ

มีดลมปราณของหานเซิ่นนั้นตัดเข้าไปถึงกระดูกซี่โครงข้างซ้ายของเบิร์นนิ่งแลมป์ และหักกระดูกของเขา

หานเซิ่นดูเหมือนกับปีศาจที่น่ากลัว เขาฟันใส่เบิร์นนิ่งแลมป์อย่างไม่หยุด ทำให้บนร่างกายของเบิร์นนิ่งแลมป์เริ่มจะมีบาดแผลมากขึ้นเรื่อยๆ บาดแผลเหล่านั้นกำลังลุกไหม้ด้วยเปลวไฟสีม่วง พวกมันกำลังฉีกบาดแผลของเบิร์นนิ่งแลมป์และทำให้เขาได้รับบาดเจ็บมากขึ้นเรื่อยๆ

ก่อนหน้านี้ไม่มีใครคิดว่าหานเซิ่นจะได้เปรียบมากขนาดนี้ ขณะที่เบิร์นนิ่งแลมป์ถูกไล่ต้อนอย่างยับเยิน

เหล่าบุดด้าทุกคนกัดฟันของพวกเขา พวกเขารู้สึกกังวลมากขึ้นเรื่อยๆ

แต่ทันใดนั้นบุดด้าระดับราชันคนหนึ่งก็ตะโกนขึ้นมา
“อัลฟ่ายังคงมีมีดเหตุและผลอยู่! หานเซิ่นไม่มีทางเอาชนะอัลฟ่าได้! ทันทีที่มีดเหตุและผลทำงาน หานเซิ่นก็จะเป็นฝ่ายแพ้!”

บุดด้าระดับราชันอีกคนพูดตามขึ้นมา “ใช่แล้ว แม้แต่นกยูงพลูโตก็ป้องกันพลังของมีดเหตุและผลไม่ได้ แบบนั้นหานเซิ่นจะทำอะไรได้”

เมื่อผู้นำปราสาทนภาได้ยินสิ่งที่เหล่าบุดด้าพูด เขาก็ส่ายหัว
“บุดด้ากำลังฝากความหวังทั้งหมดเอาไว้ที่สมบัติชิ้นหนึ่ง ถึงแม้พวกเขาจะจัดการหานเซิ่นได้ มันก็คงจะเป็นเรื่องยากที่พวกเขาจะรักษาฐานะเผ่าพันธุ์ชั้นสูงเอาไว้ได้ เบิร์นนิ่งแลมป์นั้นใกล้จะสิ้นอายุขัยแล้ว”

อี๋ซาจ้องมองไปที่หานเซิ่นโดยที่ไม่ได้พูดอะไร วิชามีดเขี้ยวดาบของหานเซิ่นนั้นไม่ได้อ่อนแอไปกว่าเธอเลย แต่ของหานเซิ่นเป็นวิชามีดเขี้ยวดาบล้วนๆ มันไม่เหมือนกับวิชามีดเขี้ยวดาบของอี๋ซาที่รวมเข้ากับพลังในการฉีกขาด

แม้แต่อี๋ซาเองก็ไม่แน่ใจว่าเธอจะเอาชนะวิชามีดเขี้ยวดาบของหานเซิ่นได้ด้วยวิชามีดเขี้ยวดาบของตัวเอง

“เวลาผ่านไปเร็วจริงๆ เขานั้นเติบโตขึ้นมาก เมื่อก่อนข้าไม่เคยคิดเลยว่าเขาจะกลายเป็นระดับเทพเจ้าได้” อี๋ซาพูดพร้อมกับถอนหายใจ

ผู้นำปราสาทนภาหัวเราะและพูด “ไม่ใช่แค่เจ้า เมื่อก่อนทั้งๆที่ข่งเฟยมอบขนนกระดับเทพเจ้าให้กับเขา แต่คนจากเผ่าพันธุ์ต่างๆก็ไม่แม้แต่จะเหลียวมองเขา ไม่มีใครคิดว่าเขาจะกลายเป็นระดับเทพเจ้าได้ โชคดีที่เจ้าเป็นคนฉลาด เจ้ารับตัวเขามาและช่วยส่งเสริมเขา ตอนนี้เมื่อหานเซิ่นประสบความสำเร็จมากขนาดนี้ ข้าเชื่อว่าคนอื่นๆคงจะรู้สึกเสียใจที่ไม่ได้รับตัวเขาไป”

รอยยิ้มแห้งๆปรากฏขึ้นบนใบหน้าของอี๋ซา เธอไม่ได้รับหานเซิ่นมา เพราะเห็นถึงพรสวรรค์ในตัวของเขา มันเป็นเพราะเธอได้เดิมพันกับหมอดูคนหนึ่งเอาไว้ เธอรู้สึกว่าตัวเองนั้นไม่คู่ควรต่อคำชมของผู้นำปราสาทนภา

ถึงอย่างนั้นอี๋ซาก็ดีใจกับความสำเร็จของหานเซิ่น เธอมอบทรัพยากรให้กับเขาเป็นจำนวนมาก มันเป็นเรื่องดีที่ได้เห็นว่าความพยายามทั้งหมดของเธอนั้นไม่ได้สูญเปล่า

“เขาจะไปได้ไกลแค่ไหนกัน?” อี๋ซาอยากจะรู้ถึงขีดจำกัดของหานเซิ่น เธอรู้สึกตื่นเต้นที่จะได้เห็นมัน

เลือดของเบิร์นนิ่งแลมป์ไหลออกมาเรื่อยๆ มีดลมปราณนั้นเป็นเหมือนกับเปลวเพลิงสีม่วงที่ฉีกบาดแผลของเบิร์นนิ่งแลมป์ให้กว้างขึ้นเรื่อยๆ แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังมองหน้าศัตรูด้วยดวงตาที่ลุกเป็นไฟ เขาไม่ได้หวาดกลัวหรือตื่นตระหนก

เบิร์นนิ่งแลมป์รู้ว่าตัวเองยังมีไพ่ตายอยู่ ดังนั้นมันยังมีโอกาสที่เขาจะชนะ

หานเซิ่นฟันถูกขาของเบิร์นนิ่งแลมป์และเกือบจะตัดขาของเขาจนขาด เบิร์นนิ่งแลมป์พยายามอดทนต่อความเจ็บปวดเอาไว้

“มาสิ! ฟันใส่ข้าอีก ทำให้ข้าบาดเจ็บมากกว่านี้ ทุกความบาดเจ็บที่ข้าได้รับจะย้อนกลับไปหาเจ้า” เบิร์นนิ่งแลมป์กำลังมีเลือดไหลท้วมตัว แต่ความเชื่อมั่นในชัยชนะของเขายังคงไม่สั่นคลอน

“ถ้ายังเป็นแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ ข้ากลัวว่าหานเซิ่นจะเป็นฝ่ายแพ้” หลี่เคอเอ๋อที่อยู่ในเผ่าเวรี่ไฮพูด

เอ็กซ์ควิสิทดูเป็นกังวล “มีดเหตุและผลนั้นจะดูดซับพลังและเอาไปใช้ได้ นอกซะจากหานเซิ่นจะฆ่าเบิร์นนิ่งแลมป์ในการโจมตีครั้งเดียว เบิร์นนิ่งแลมป์ก็จะโต้กลับด้วยอาวุธที่ทรงพลังที่สุด ในตอนที่พลังที่เก็บสะสมเอาไว้ถูกปลดปล่อยออกไป มันก็ไม่มีทางที่หานเซิ่นจะป้องกันมันได้”

ในตอนที่เบิร์นนิ่งแลมป์รู้สึกว่าร่างกายของเขาถึงขีดจำกัดและไม่สามารถทนรับบาดแผลได้อีกแล้ว เขาก็คำรามออกมาราวกับสิงโต แสงบุดด้าระเบิดออกมาจากตัวของเขา วินาทีต่อมาบาดแผลของเบิร์นนิ่งแลมป์ก็เปลี่ยนเป็นน้ำที่ไหลมาที่มีดเหตุและผล ขณะเดียวกันร่างกายที่ได้รับบาดเจ็บของเบิร์นนิ่งแลมป์ก็กลับเป็นปกติ เขาไม่มีบาดแผลใดๆเหลือให้เห็นอีกต่อไป

Super God Gene

Super God Gene

ในยุคสมัยที่วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของมนุษย์ถูกพัฒนาจนถึงระดับสูง ในที่สุดมนุษยชาติก็ได้ค้นพบวิธีการเทเลพอร์ต แต่เมื่อพวกเขาทดลองเทเลพอร์ต กลับพบว่าพวกเขาไม่ได้ถูกส่งไปในอนาคต อดีตหรือสถานที่อื่นๆที่มนุษย์รู้จัก แต่มันคือโลกที่แตกต่างโดยสิ้นเชิง สถานที่ลึกลับนี่ถูกเรียกว่า ‘ก็อด เเซงชัวรี่’ ที่นี่มีสิ่งมีชีวิตประหลาดอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก แต่เมื่อมนุษย์ลองกินสิ่งมีชีวิตประหลาดเข้าไป ร่างกายของพวกเขาพัฒนาขึ้นและยังเพิ่มอายุขัยขึ้นด้วย มันคือก้าวที่ยิ่งใหญ่ของมนุษย์ชาติในการวิวัฒนาการเพื่อสร้างยุคสมัยที่ยิ่งใหญ่ “ด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ถูกฆ่า คุณได้รับวิญญาณอสูรด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ เมื่อกินเนื้อของด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ คุณมีโอกาสได้รับ 0 ถึง 10 Geno Point โดยการสุ่ม” The future unfolded on a magnificent scale into the Interstellar Age. Humanity finally solved the space warp technology, but when humanity transported themselves into the other end, they discovered that place neither had a past nor future, nor was there any land under the starry skies…… The mysterious sanctuary was actually a world filled with countless tyrannical unusual organisms. Humanity faced their great leap in evolution, starting the most glorious and resplendant new era under the starry skies. “Slaughtered the God Blood organism ‘Black Beetle’. Received the God Blood Black Beetle’s Beast Soul. Used the God Blood Black Beetle’s flesh. Randomly obtaining 0 to 10 points of God Gene(s).”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset