เบิร์นนิ่งแลมป์ฟื้นฟูกลับไปเป็นปกติเหมือนกับว่าไม่ได้มีการต่อสู้เกิดขึ้น ขณะเดียวกับมีดเหตุและผลในมือของเขาก็กำลังเรืองแสงสว่างไสว ออร่าที่มีดปล่อยออกมานั้นทำให้ผู้คนตัวสั่น
ในตอนที่สัมผัสได้ถึงพลังที่อยู่ภายในมีดเล่มนั้น แม้แต่ยอดฝีมือระดับเทพเจ้าก็รู้สึกหนาวขึ้นมา
“เจ้าดูถูกบุดด้าของข้า! เจ้าจะต้องตาย!”
พลังของมีดเหตุและผลของเบิร์นนิ่งแลมป์นั้นรุนแรงขขนาดที่มันสามารถฝ่าครึ่งจักรวาลและอวกาศได้ และที่น่ากลัวก็คือมีดแสงจากมีดเล่มนั้นมีพลังในการฉีกขาดเหมือนกับวิชามีดเขี้ยวดาบ การฟันครั้งนี้ทรงพลังกว่าการโจมตีครั้งไหนๆของหานเซิ่นก่อนหน้านี้ มันทรงพลังมากกว่าการโจมตีของหานเซิ่นไม่รู้กี่เท่า
บุดด้าทุกคนดูดีใจ พลังของมีดนั้นทำให้พวกเขาตกใจ แต่มันก็ทำให้พวกเขารู้สึกดีใจอย่างมาก
“ตายซะ! เจ้ากล้ามาท้าสู้เผ่าบุดด้าของพวกเรา! เจ้าดูถูกอัลฟ่าของพวกเรา! เจ้าควรจะถูกฉีกเป็นชิ้นๆ!”
บุดด้ามากมายเต็มไปด้วยความเกลียดชัง พวกเขาต้องการจะเห็นหานเซิ่นถูกฉีกเป็นชิ้นๆในการฟันเพียงครั้งเดียว
เมื่อเห็นมีดแสงที่เข้ามาเหมือนกับจุดจบของโลกใบนี้ หานเซิ่นก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกชื่นชมมัน
“นั่นเป็นมีดเหตุและผลที่ทรงพลังมากๆ”
มีดแสงนี้ทำให้เขารู้สึกราวกับว่าไม่สามารถหลบหลีกได้ มันทรงพลังขนาดที่เขากลัวว่าแม้แต่ซีโน่เจเนอิคขั้นทรูก็อตก็ยากจะหนีจากมันได้
“แต่น่าเสียดายที่คู่ต่อสู้ของเจ้าคือข้า”
ทันใดนั้นพลังในร่างกายของหานเซิ่นก็เปลี่ยนไป เขาใช้ฝ่ามือเป็นเหมือนกับมีดและฟันออกไปปะทะกับมีดแสงที่เข้ามา
“เขาจะต่อสู้กับมันตรงๆอย่างนั้นหรอ?” เหมิงเลี่ยประหลาดใจ ไม่ว่าใครก็บอกได้ว่ามีดแสงของเบิร์นนิ่งแลมป์นั้นเป็นการรวมพลังของการโจมตีอย่างไม่หยุดของหานเซิ่นเอาไว้ มีดแสงนี่สามารถฆ่าระดับเทพเจ้าขั้นทรูก็อตคนหนึ่งได้เลย ถึงอย่างนั้นหานเซิ่นคิดจะใช้การโจมตีครั้งเดียวปะทะกับการโจมตีนับครั้งไม่ถ้วนของตัวเอง มันเป็นอะไรที่โง่เขลา
ไป๋ปู้อีส่ายหัว “มันไม่ใช่ว่าเขาไม่ต้องการจะหลบ แต่เขาหลบมันไม่ได้ ถึงแม้พลังของมีดเหตุและผลจะไม่ใช่พลังมารนภาของเผ่าเดม่อน แต่มันก็มีพลังเหตุและผลเหมือนกัน มีดเหตุและผลนั้นดูดซับความเสียหายทั้งหมดที่เบิร์นนิ่งแลมป์ได้รับจากหานเซิ่นก่อนหน้านี้ การโจมตีนั้นจะถูกตัวหานเซิ่นอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ ถึงแม้หานเซิ่นจะใช้วิชาเทเลพอร์ตเพื่อหนีออกไปยังระบบจักรวาลที่ห่างไกล ผลกรรมก็เป็นบางสิ่งที่เขาจะต้องรับ”
“ด้วยการโจมตีแบบนั้น หานเซิ่นจะรับมือกับมันได้ยังไง?” เหมิงเลี่ยแห้งๆ
เหมือนอย่างที่เหมิงเลี่ยคิด เอ็กซ์ควิสิท หลี่เคอเอ๋อ หานเหยียน ยวิ๋นซู่อี ถังเตียงลิ่วและคนอื่นๆทุกคนที่มีความสัมพันธ์กับหานเซิ่นต่างก็รู้สึกกังวลเกี่ยวกับเขา
หานเซิ่นฟันออกไป แต่ฝ่ามือของเขาไม่ได้ปลดปล่อยมีดลมปราณอะไรออกมา มันเหมือนกับว่าเขาฟันออกไปมั่วๆโดยที่ไม่ได้ใส่พลังอะไรเอาไว้
ทุกคนรู้สึกแปลกใจและสงสัยว่าหานเซิ่นตั้งใจจะทำอะไรกันแน่ ต่อหน้ามีดแสงที่กำลังเข้ามา เขากลับไม่ปลดปล่อยพลังอะไรออกไปตอบโต้
“ยอมแพ้แล้วอย่างนั้นสินะ?” บุดด้าทุกคนดูดีใจเมื่อเห็นมีดแสงที่น่ากลัวของเบิร์นนิ่งแลมป์กำลังจะถึงตัวหานเซิ่น
แต่วินาทีต่อมา ทุกคนก็ต้องตกตะลึง มีดแสงที่น่ากลัวหยุดอยู่ตรงหน้าหานเซิ่น มันกำลังสั่นไหวราวกับว่ามันหวาดกลัวอะไรบางอย่าง
ตูม!
ขณะที่ทุกคนกำลังตกตะลึงอยู่นั้น มีดแสงที่น่ากลัวก็แตกกระจายเป็นเสี่ยงๆตรงหน้าหานเซิ่น มันกลายเป็นมีดเส้นไหมสีม่วงที่ไหลย้อนกลับไปหาเบิร์นนิ่งแลมป์ราวกับสายธาร
ยวิ๋นซู่อีประหลาดใจ “วิชามีดใต้นภา!”
“เขาทำลายพลังเหตุและผลของมีดนั่นได้ยังไงกัน?” ยวิ๋นซู่ซางรู้สึกแปลกใจ
“ด้วยวิชาใต้นภา ทุกสิ่งทุกอย่างคือหมากตัวหนึ่ง หานเซิ่นสำเร็จวิชาใต้นภาแล้ว” ผู้นำปราสาทนภารู้สึกประทับใจ
สีหน้าของเบิร์นนิ่งแลมป์เปลี่ยนไปทันที ใบหน้าของเหล่าบุดด้าซีดไป มีดแสงที่พวกเขาฝากความหวังเอาไว้นั้นถูกย้อนกลับ พลังของมันในตอนนี้กลายเป็นของหานเซิ่น ไม่มีใครทำใจให้เชื่อในเรื่องนั้นได้
“เป็นไปไม่ได้… พลังเหตุและผลจะไม่ถูกควบคุม… นั่นเป็นไปไม่ได้”
คนที่ไม่อยากจะเชื่อมากที่สุดไม่ใช่ใครอื่นแต่เป็นตัวเบิร์นนิ่งแลมป์เอง แต่ที่สุดแล้วเขาก็ไม่มีตัวเลือกอื่นนอกจากเชื่อมัน
เมื่อเห็นสายธารของมีดแสงที่น่ากลัวไหลเข้ามา เบิร์นนิ่งแลมป์ก็รู้สึกตัวว่าไม่สามารถป้องกันมันได้ เขากัดฟันและตัดสินใจใช้ตุ๊กตาเทพ ตุ๊กตาเทพขยายใหญ่ขึ้นมาตรงหน้าของเขา มันกลายเป็นตุ๊กตาไม้สีดำที่เต็มไปด้วยสัญลักษณ์ที่ลึกลับ มันชกหมัดออกไปใส่สายธารมีดแสงที่น่ากลัว
ตูม!
พลังหมัดของตุ๊กตาสีดำนั้นชกสายธารมีดแสงแตกกระจายไป
ผู้นำปราสาทนภาดูตกใจ “ซีโน่เจเนอิคขั้นทรูก็อต! ไม่สิ นั่นไม่ใช่ซีโน่เจเนอิค… ดูเหมือนว่ามันจะเป็นสมบัติอย่างหนึ่ง…”
หานเซิ่นเองก็รู้ว่ามันไม่ใช่ซีโน่เจเนอิคแต่เป็นสมบัติชิ้นหนึ่ง เขามองไปที่ตุ๊กตาเทพและหัวเราะ
“นั่นคือสมบัติขั้นทรูก็อตที่เจ้าได้รับมาจากการประลองของบัญชีรายชื่อเทพเจ้าจีโนอย่างนั้นหรอ? มันเป็นอาวุธขั้นทรูก็อตที่น่าสนใจ ในเมื่อมันต่อสู้ด้วยตัวมันเอง แถมพลังของมันยังเทียบได้กับพลังของขั้นทรูก็อต มันเหนือกว่าเจ้าเป็นที่เจ้าของของมันมาก”
“พี่น้องบุดด้าทุกคนจงฟัง! เปิดใช้ตะเกียงเผ่าพันธุ์และฆ่าหัวขโมยคนนี้!” เบิร์นนิ่งแลมป์ออกคำสั่ง
บุดด้าทุกคนรับคำสั่งของเบิร์นนิ่งแลมป์ พวกเขาเลิกลังเลและระเบิดพลังภายในร่างกายออกมา มันไม่สำคัญว่าพวกเขาจะแข็งแกร่งหรืออ่อนแอ พลังของพวกเขานั้นเข้าไปรวมกันอยู่ในตะเกียงเผ่าพันธุ์
ตะเกียงเผ่าพันธุ์ส่องแสงสว่างไสว มันเหมือนกับภูเขาไฟที่กำลังปะทุ หลังจากนั้นเปลวไฟสีทองของตะเกียงก็กลายเป็นบุดด้ายักษ์สีทอง ดวงตาของเขาปล่อยแสงแห่งเทพออกมา มันเหมือนกับสปอร์ตไลท์ที่ส่องไปที่หานเซิ่น
บุดด้าทุกคนรวมพลังของพวกเขาเพื่อก่อสปิริตเผ่าพันธุ์ขั้นมา พลังของมันไม่ได้ด้อยไปกว่ายอดฝีมือระดับเทพเจ้า มันเข้าโจมตีหานเซิ่นร่วมกับตุ๊กตาเทพและเบิร์นนิ่งแลมป์
ถึงแม้จะถูกล้อมโดยศัตรูที่น่ากลัวถึงสามคน แต่ใบหน้าของหานเซิ่นก็ยังคงสงบนิ่ง มือของเขาเป็นเหมือนกับมีดที่ฟันออกไปอย่างลวกๆ
ด้วยการฟันของหานเซิ่น สายธารมีดแสงที่ถูกทำลายไปก็ปรากฏขึ้นมาอีกครั้ง ทั้งท้องฟ้าเต็มไปด้วยมีดแสงที่กลายเป็นสายธารไปเข้าต่อสู้กับศัตรูทั้งสามคน
ในบรรดาศัตรูทั้งสามคน ตุ๊กตาเทพแข็งแกร่งมากที่สุด มันทำลายสายธารมีดแสงอยู่เรื่อยๆ แต่เมื่อหานเซิ่นใช้ฝ่ามือของเขาฟันผ่านอวกาศไปอีกครั้ง สายธารมีดแสงก็จะก่อตัวขึ้นมาใหม่และมันก็ใหญ่โตขึ้นเรื่อยๆ
สิ่งมีชีวิตในจักรวาลรู้สึกตกใจกับสิ่งที่ได้เห็น หานเซิ่นกำลังต่อสู้กับตุ๊กตาเทพ เบิร์นนิ่งแลมป์และสปิริตเผ่าพันธุ์ของบุดด้าตามลำพัง ซึ่งพวกเขาสามคนควรจะฝ่ายที่ได้เปรียบ แต่จริงๆแล้วมันเป็นทางเบิร์นนิ่งแลมป์และเผ่าบุดด้าที่กำลังถูกไล่ต้อน ถึงแม้พวกเขาทั้งสามจะร่วมมือกันต่อสู้กับหานเซิ่น พวกเขาก็ไม่สามารถทำลายสายธารมีดแสงของหานเซิ่นได้
“ใต้นภา ทุกคนเป็นหมากตัวหนึ่ง” หานเซิ่นยืนอยู่กับที่ เขาดูเหมือนกับเทพ มือของเขาเป็นเหมือนกับมีดที่ฟันออกไป
ตอนนี้ทั้งจักรวาลปกคลุมไปด้วยมีดแสง มันไม่มีที่ไหนให้หลบหลีก ตุ๊กตาเทพถูกฟันจนกระเด็นออกไปด้านหลังหลายสิบไมล์ มีดแสงนั้นก่อตัวเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ พวกมันไม่สามารถถูกป้องกันได้ พวกมันฟันไปในทิศทางของสปิริตเผ่าพันธุ์ของบุดด้าและเบิร์นนิ่งแลมป์ที่กำลังตกตะลึง