ในตอนที่เหล่าองค์ชายและองค์หญิงก้าวเข้าไปในปราสาท พวกเขาก็พยายามรวบรวมพลังของตัวเอง ไม่มีใครกล้าจะเล่นตลกกับชีวิตของตัวเอง
หานเซิ่นเองก็รวบรวมพลังอย่างลับๆ เขามองไปรอบๆวิหารแดง แต่เขาไม่เห็นแท่นบูชาอะไร นั่นทำให้หานเซิ่นรู้สึกโล่งใจขึ้นมา
แต่ทว่าหานเซิ่นเห็นกล่องโลหะที่ดูเหมือนกับโลงศพวางอยู่อย่างเงียบๆภายในวิหารแดง
กล่องนั้นดูเหมือนกับว่าถูกทำขึ้นมาจากโลหะสีแดง ด้านหนึ่งนั้นค่อนข้างใหญ่ ขณะที่อีกด้านหนึ่งค่อนข้างเล็ก มันสูงสามฟุตและยาวหกฟุต มันดูเหมือนกับโลงศพที่ใหญ่เป็นพิเศษ
นอกจากโลงศพแล้ว วิหารแดงนั้นว่างเปล่า มันไม่มีอะไรอย่างอื่นให้พบเห็น
ก่อนจะมาที่นี่ไม่มีใครบอกเหล่าองค์ชายและองค์หญิงว่ามีอะไรอยู่ภายในสตาร์ทเตอร์คิงส์แลนด์ พวกเขาจึงสับสนมากๆ มันไม่มีใครกล้าจะทำอะไรบุ่มบ่าม
หลังจากนั้นก็มีเสียงดังออกมาจากวิหารแดงอีกครั้ง ฝาของโลงศพโลหะกำลังถูกเปิดออกด้วยตัวของมันเอง
ก่อนที่หานเซิ่นและเหล่าองค์ชายและองค์หญิงจะเห็นสิ่งที่อยู่ข้างในโลงศพโลหะ มันก็มีบางสิ่งออกมาจากโลงศพโลหะนั้น
หานเซิ่นเห็นว่าสิ่งที่ออกมาจากโลงศพโลหะนั้นคือคนๆหนึ่ง แต่ร่างกายของคนๆนั้นไม่ได้ประกอบไปด้วยเนื้อหนัง ร่างกายของเขาเป็นคริสตัลกึ่งโปร่งใสแทน
ตัวร่างกายที่เป็นคริสตัลนั้นไม่มีสี แต่ภายในคริสตัลมีเส้นเลือดและอวัยวะภายในที่ส่องแสงสีแดงออกมา มันทำให้ทั้งร่างกายส่องแสงสีแดงไปด้วย
“นั่นมันอะไร?” ไป๋หลิงซวงถามพร้อมกับขมวดคิ้ว
ก่อนที่จะมีใครตอบอะไร สิ่งมีชีวิตประหลาดนั้นก็ลืมตาขึ้นมา ทันทีที่มันลืมตาขึ้น มันก็พุ่งออกไปข้างหน้าราวกับแสงเลเซอร์ พร้อมกับชกหมัดที่ห่อหุ้มไปด้วยแสงสีแดงไปใส่ไป๋ชางลังที่อยู่ด้านหน้าสุด
ไป๋ชางลังหยิบมีดออกมาและฟันออกไปในทิศทางของสิ่งมีชีวิตที่กำลังเข้ามา
มีดของไป๋ชางลังเป็นเหมือนกับคลื่นทะเล ในช่วงเวลาสั้นๆไม่มีใครรู้ว่าเขาฟันออกไปทั้งหมดกี่ครั้ง หลังจากนั้นการฟันทั้งหมดก็รวมเข้าด้วยกันเป็นมีดแสงหนึ่งเดียวที่มีพลังเทียบได้กับขั้นทรานส์มิวเทชั่น
ปัง!
แต่เมื่อมีดแสงปะทะเข้ากับแสงสีแดง มีดแสงก็ถูกทำลาย ไป๋ชางลังรู้สึกตกใจ ถึงอย่างนั้นเขาก็สามารถหลบหลีกหมัดที่เข้ามาได้ทัน
เหล่าองค์ชายและองค์หญิงเริ่มปลดปล่อยพลังของพวกเขาออกมา ไป๋หลิงซวงปล่อยแสงที่หนาวเย็นออกมา เขาต้องการจะแช่แข็งศัตรูที่เข้ามา แต่เมื่อมันไปปะทะกับแสงสีแดง แสงที่หนาวเย็นของไป๋หลิงซวงก็ถูกละลาย มันไม่สามารถทำอะไรอีกฝ่ายได้
เหล่าองค์ชายและองค์หญิงร่วมมือกันต่อสู้กับศัตรู แต่ถึงพวกเขาจะร่วมมือกัน พวกเขาก็ฆ่าศัตรูคนนี้ไม่ได้ ร่างกายของมันเรืองแสงสีแดงที่ดูเหมือนกับว่าจะทำลายพลังทุกรูปแบบที่มาสัมผัสได้ แค่หมัดหนึ่งของมันก็สามารถสยบองค์ชายและองค์หญิงได้มากมาย แม้แต่ไป๋ว่านเจี้ยก็ทำอะไรมันไม่ได้
“ทำไมวิชาหมัดของมันถึงได้คล้ายคลึงกับหมัดช็อกกิ้งสกายของเอ็กซ์ตรีมคิง?” ไป๋เวยถามขึ้นมา
ทุกคนสามารถบอกได้ว่าวิชาที่อีกฝ่ายใช้นั้นคล้ายคลึงกับหมัดช็อคกิ้งสกายของเอ็กซ์ตรีมคิง แต่ในตอนที่อีกฝ่ายใช้มันนั้น มันให้ความรู้สึกที่แตกต่างออกไป มันดูเป็นอะไรที่ชั่วร้ายกว่ามาก
“ดูเหมือนว่านี่จะเป็นบททดสอบที่ท่านอัลฟ่ามอบให้กับพวกเรา ข้างในนี้มันแคบเกินกว่าจะทำการต่อสู้แบบเป็นกลุ่ม ในตอนนี้พวกเราควรถอยออกไปก่อน” ไป๋ว่านเจี้ยพูดและรีบถอยออกไปจากปราสาท
คนอื่นๆก็ออกมาจากปราสาทเช่นกัน สิ่งมีชีวิตประหลาดนั้นไล่ตามพวกเขาออกไปข้างนอก ร่างกายของมันดูคล้ายคลึงกับเอ็กซ์ตรีมคิงและมนุษย์ แต่ร่างกายของมันทำขึ้นมาจากคริสตัล และบนหัวของมันก็ไม่มีเส้นผม มันดูเหมือนกับรูปปั้นคริสตัล
หานเซิ่นยังไม่ได้ทำอะไร เขาแค่มองดูเหล่าองค์ชายและองค์หญิงอยู่ห่างๆ สิ่งมีชีวิตประหลาดนี้เป็นเพียงแค่ขั้นพริมิทีฟเท่านั้น ถึงแม้มันจะเป็นขั้นพริมิทีฟระดับท็อป แต่ไป๋ว่านเจี้ยและคนอื่นๆก็ควรจะรับมือกับมันได้
“พี่น้องทุกท่าน ได้โปรดถอยออกไป” องค์ชายชิงเสียพูด
“ให้ข้าเป็นคนสู้กับมอนสเตอร์นี่”
องค์ชายชิงเสียถูกกล่าวขานว่าเป็นองค์ชายที่งดงามที่สุด เขาเคยต่อสู้กับหานเซิ่นโดยใช้เฮเทร็ดไทม์เท็น
แต่เมื่อก่อนเฮเทร็ดไทม์เท็นขององค์ชายชิงเสียนั้นยังไม่เสร็จสมบูรณ์ ตอนนี้เมื่อเขาเป็นระดับเทพเจ้าขั้นพริมิทิฟ เขาก็สามารถฝึกวิชาจีโนนั่นจนถึงขั้นสูงสุด
ในตอนที่องค์ชายชิงเสียปลดปล่อยโซ่สสารสีเขียวออกมา เขาก็ชกหมัดออกไปปะทะกับหมัดของศัตรู
ปัง!
แสงสีเขียวและแสงสีแดงปะทะกัน มันไม่สามารถบอกได้ว่าฝ่ายไหนชนะ เพราะแสงของทั้งสองฝ่ายถูกทำลายไปทั้งคู่
“วิชาเฮเทร็ดไทม์เท็นของน้องชิงเสียนี้ร้ายกาจจริงๆ”
ไป๋ว่านเจี้ยพูดขึ้นมา “ข้าเดิมพันว่านั่นจะต้องเป็นสิ่งมีชีวิตขั้นพริมิทีฟระดับท็อป น้องชิงเสียเพิ่งจะกลายเป็นขั้นพริมิทีฟ แต่เขาก็ต่อสู้กับสิ่งมีชีวิตนั่นได้อย่างสูสี นั่นเป็นอะไรที่หาได้ยาก”
“ร่างกายของน้องชิงเสียอ่อนแอ แต่เขากลับเรียนรู้วิชาจีโนที่แข็งกร้าวอย่างเฮเทร็ดไทม์เท็น มันเป็นอะไรที่หาได้ยากจริงๆนั่นแหละ” ไป๋หลิงซวงพูด
ในตอนแรกพวกเขารู้สึกตกใจกับสิ่งมีชีวิตประหลาดที่ออกมาจากโลงศพ และความแคบของห้องโถงก็ยังทำให้พวกเขาตื่นตระหนก พวกเขาจึงไม่สามารถรับมือกับมันได้อย่างเต็มที่
ตอนนี้เมื่อเห็นว่าศัตรูเป็นแค่สิ่งมีชีวิตขั้นพริมิทีฟระดับท็อปที่ดูเหมือนจะใช้ได้แค่วิชาที่หมัดช็อกกิ้งสกายของเอ็กซ์ตรีมคิง พวกเขาก็ไม่ได้รู้สึกตื่นตระหนกอีกและเริ่มหันมาชื่นชมการต่อสู้
หานเซิ่นที่อยู่ใกล้ๆกำลังจับจ้องไปยังสิ่งมีชีวิตประหลาดที่ออกมาจากโลงศพ มันทำให้หานเซิ่นรู้สึกแปลกๆ มันดูไม่เหมือนกับซีโน่เจเนอิค ความจริงแล้วมันให้ความรู้สึกที่คุ้นเคย แต่หานเซิ่นแน่ใจว่าเขาไม่เคยเห็นสิ่งมีชีวิตแบบนี้มาก่อน
“แปลกจริงๆ ความรู้สึกที่คุ้นเคยนี่มาจากไหนกัน?” หานเซิ่นลูบคางอย่างครุ่นคิด
หานเซิ่นตรวจเช็คมันอย่างละเอียด แต่เขาก็ไม่สามารถบอกได้ว่าทำไมมันถึงให้ความรู้สึกที่คุ้นเคย
ปัง!
ถึงแม้สิ่งมีชีวิตประหลาดนั้นจะแข็งแกร่ง แต่มันก็ค่อนข้างโง่ มันใช้ได้แค่วิชาจีโนที่คล้ายกับหมัดช็อคกิ้งสกายของเอ็กซ์ตรีมคิง ขณะที่องค์ชายชิงเสียสามารถปรับเปรียนการใช้วิชาจีโนของเขาได้ เขาชกไปถูกร่างของศัตรูด้วยเฮเทร็ดไทม์เท็น โซ่สสารสีเขียวของเขาทำลายร่างคริสตัลที่โปร่งใสของอีกฝ่ายจนแตกกระจาย
ร่างกายที่แตกกระจายไปนั้นละเหยเหมือนกับน้ำและกลายเป็นอากาศธาตุ
“เดี๋ยวก่อนนะ…ความรู้สึกนี้…นี่มัน…” หานเซิ่นมองไปยังสิ่งมีชีวิตคริสตัลที่สลายไป และหัวของเขาก็รู้สึกเหมือนถูกสายฟ้าผ่าใส่
หัวใจของเขาเต้นรัว เขาวิ่งไปที่ประตูของวิหารแดง เขาต้องการจะมองผ่านประตูไปเพื่อยืนยันสิ่งที่คิด
ก่อนที่เขาจะไปถึงประตู มันก็มีเสียงดังขึ้นมาจากภายในวิหารแดง มันเป็นเสียงที่เหมือนกับเสียงของหุ่นยนต์
“อันเดดระดับเริ่มต้นถูกฆ่า”
หลังจากที่ได้ยินเสียงนั้น หานเซิ่นก็รู้สึกได้ถึงการสั่นไหวที่รุนแรง มีสะพานผุดขึ้นมาจากทะเลด้านหลังวิหารสีแดง มันทอดยาวไปสู่ขอบฟ้า