Super God Gene – ตอนที่ 2902 ไข่ในภูเขา

ไป๋ว่านเจี้ยและคนอื่นๆพยายามจะคาดเดาสิ่งที่อยู่ในไข่ขนาดยักษ์ ซึ่งนั่นทำให้หานเซิ่นสับสน ในสายตาของหานเซิ่นตัวไข่นั้นโปร่งใสและเขาก็เห็นได้อย่างชัดเจนว่ามันมีเด็กสาวผมสีทองหลับไหลอยู่ภายใน

หานเซิ่นขยี้ตาตัวเองเพื่อมองดูดีๆอีกครั้ง เขารู้ว่าตัวเองไม่ได้ตาฝาดไป ไข่ยักษ์นั้นโปร่งใสจริงๆ

‘มันเป็นแบบนี้ได้ยังไง? มันเกี่ยวข้องกับที่เรามีสายเลือดของคริสตัลไลเซอร์อย่างนั้นหรอ? หรือเป็นเพราะว่าหว่านเอ๋อร์อยู่ในหอคอยแห่งโชคชะตา ถึงทำให้เราเห็นเด็กสาวที่อยู่ในไข่แบบนี้’
หานเซิ่นไม่สามารถคิดหาเหตุผลอื่นได้ แต่เขาแน่ใจว่าสตาร์ทเตอร์คิงส์แลนด์นั้นไม่ได้ถูกสร้างขึ้นโดยเอ็กซ์ตรีมคิงอัลฟ่า เขาเดิมพันว่ามันจะต้องเกี่ยวข้องกับผู้นำเซเคร็ด หลังจากที่เซเคร็ดถูกทำลาย ด้วยเหตุผลบางอย่างมันก็ตกมาอยู่ในมือของเอ็กซ์ตรีมคิงอัลฟ่า เขาคงจะเปลี่ยนมันเป็นสตาร์ทเตอร์คิงส์เลนด์

หานเซิ่นอยากจะเอาเด็กสาวผมทองออกมาจากไข่เพื่อดูว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ แต่เขาไม่ได้รีบร้อนทำอะไรบุ่มบ่าม

เอ็กซ์ตรีมคิงนั้นคงจะมีไข่ใบนี้มานานแล้ว และมันก็ยังคงอยู่ที่นี่โดยที่ไม่ถูกทำลาย ด้วยเหตุนั้นหานเซิ่นจึงเชื่อว่ามันไม่ได้เป็นอะไรที่เรียบง่าย

ไป๋ว่านเจี้ยและคนอื่นๆดูกังวล พวกเขาไม่ได้เข้าไปในภูเขา พวกเขาเพียงแค่จ้องมองมันจากด้านนอก

“ข้ามีบางสิ่งที่ไม่เข้าใจ” ไป๋เวยพูด

“ไป๋เวย ถ้าเจ้าไม่เข้าใจอะไร เจ้าก็ถามออกมาได้เลย” ไป๋หลิงซวงพูดด้วยรอยยิ้ม
“ถ้าพวกเราทุกคนปรึกษากัน บางทีพวกเราอาจจะช่วยแก้ข้อสงสัยของเจ้าได้”

ไป๋เวยคิดอยู่ชั่วครู่และพูด “ทุกคนคงจะเคยได้ยินว่ามันมีองค์ชายและองค์หญิงต้องตายภายในสตาร์ทเตอร์คิงส์แลนด์ถูกไหม?”

“นั่นถูกต้อง ถึงแม้อัตราการตายภายในสตาร์ทเตอร์คิงส์แลนด์จะต่ำ แต่สิ่งที่แปลกก็คือทุกครั้งจะมีองค์ชายและองค์หญิงสองคนที่ตายในสตาร์ทเตอร์คิงส์แลนด์” ไป๋หลิงซวงพยักหน้า

“นั่นเป็นเรื่องแปลก” ไป๋เวยพูด “สตาร์ทเตอร์คิงส์แลนด์ถูกเปิดแค่ช่วงสั้นๆ และคนที่เข้ามาก็ออกไปไม่ได้ในตอนที่ทางเข้าถูกปิด เครื่องเทเลพอร์ตนั้นจะทำงานอีกครั้งในอีกหนึ่งเดือน จนกว่าจะถึงตอนนั้นไม่มีใครเข้าออกได้ ถ้าอย่างนั้นใครกันที่แบกร่างขององค์ชายและองค์หญิงที่ตายกลับไป?”

“แน่นอนว่ามันต้องเป็นองค์ชายและองค์หญิงที่เข้าไปในนั้นด้วย”
ไป๋หลิงซวงพูด แต่เธอก็รู้สึกตัวอย่างรวดเร็วว่ามันมีบางสิ่งผิดปกติ เธอขมวดคิ้วอย่างครุ่นคิด

ถ้าในสตาร์ทเตอร์คิงส์แลนด์มีอันตรายที่จะฆ่าองค์ชายและองค์หญิงได้ และทุกครั้งที่สตาร์ทเตอร์คิงส์แลนด์เปิดให้เข้ามา อันตรายก็ยังคงอยู่ แบบนั้นองค์หญิงและองค์ชายที่รอดนั้นนำร่างของคนที่ตายกลับไปได้ยังไง ถ้าอันตรายนั่นยังคงอยู่?

นี่เหล่าองค์ชายและองค์หญิงรักพวกพ้องขนาดยอมเสี่ยงชีวิตของตัวเองเพื่อนำศพของคนที่ตายกลับไปอย่างนั้นหรอ?

“น่าเสียดายที่พวกเราไม่ได้รู้อะไรเกี่ยวกับองค์ชายและองค์หญิงที่ตายไป ข้าไม่เคยคิดเกี่ยวกับเรื่องที่ร่างกายของพวกเขาถูกนำกลับไปหรือไม่มาก่อน” ไป๋หลิงซวงขมวดคิ้ว

ไป๋ว่านเจี้ยมองไปในภูเขา เขามองไปที่เครื่องมือต่างๆและไข่ใบใหญ่ก่อนจะพูดขึ้นมา
“มันมีความเป็นไปได้อยู่สองอย่าง อย่างหนึ่งคืออันตรายนั้นจะเกิดขึ้นเฉพาะตอนที่พวกเราทำอะไรบางอย่าง และมันจะหายไปหลังจากผ่านไปสักพัก ถ้าเป็นแบบนั้นเหล่าองค์ชายและองค์หญิงที่รอดชีวิตก็จะนำร่างของคนที่ตายกลับไปได้ หรือไม่บางที…”

ไป๋ว่านเจี้ยหยุดพูด แต่ทุกคนก็เข้าใจว่าเขาหมายถึงอะไร ไป๋อู๋ฉางพูดขึ้นมาแทน
“บางทีพวกเขาอาจจะไม่ได้นำร่างของคนที่ตายกลับไป แต่องค์ชายและองค์หญิงที่ตายไปนั้นอาจจะถูกกลืนกินโดยบางสิ่งและนั่นเป็นเหตุผลที่ไม่มีศพหลงเหลืออยู่”

ทุกคนมองไปที่ไข่ใบใหญ่ ถ้าความเป็นไปได้ที่สองเป็นความจริง มันก็จะเป็นอันตรายเกินไป ถ้าพวกเขาเข้าไปในภูเขา หานเซิ่นคิดว่าในอดีตมันก็ควรจะมีคนถูกส่งมาเพื่อคอยคุ้มกันเหล่าองค์ชายและองค์หญิงเหมือนกับเขา บางทีมันอาจจะเป็นผู้คุ้มกันที่นำร่างขององค์ชายและองค์หญิงที่ตายกลับออกไป

แต่เมื่อมาคิดดูดีๆ มันก็ไม่ถูกเท่าไหร่ ถ้ามันมีผู้คุ้มกันอยู่จริงๆ ทำไมองค์ชายและองค์หญิงหลายคนถึงยังถูกฆ่าตายล่ะ?

‘มันมีความเป็นไปได้สองอย่าง อย่างแรกคือมันไม่เคยมีผู้คุ้มกันถูกส่งเข้าไป ความเป็นไปได้ที่สองคือมันมีผู้คุ้มกันอยู่ แต่พวกเขาปกป้ององค์ชายและองค์หญิงเอาไว้ไม่ได้’ หลังจากที่หานเซิ่นคิดได้แบบนั้น เขาก็รู้ว่าจำเป็นต้องระมัดระวังยิ่งกว่าเดิม

พวกเขาแต่ละคนมองไปที่ไข่ขนาดใหญ่ในภูเขาด้วยสีหน้าที่ซับซ้อน ไม่มีใครกล้าเข้าไปข้างใน

“พวกเราคงจะยืนมองมันอยู่ที่นี่ไปตลอดไม่ได้ ให้ข้าลองดูว่าจะทำลายไข่ใบนั้นได้ไหม” ไป๋ว่านเจี้ยพูด

“ท่านพี่มีวิธีการอย่างนั้นหรอ?” ไป๋หลิงซวงและไป๋อู๋ฉางพูดออกมาในเวลาเดียวกัน

ไป๋ว่านเจี้ยพยักหน้า เขาเอาบางสิ่งที่มีขนาดพอๆกับกำปั้นออกมา มันดูเหมือนกับลูกบอลที่ถูกทำขึ้นมาจากเถาวัลย์

แต่เมื่อสังเกตดูใกล้ พวกเขาก็เห็นว่ามันไม่ใช่ลูกบอล มันเป็นสิ่งที่เหมือนกับกรงนก มีนกแก้วสีเขียวตัวหนึ่งอยู่ภายในกรงนั่น มันมีขาสี่ขาและใบหน้าของมันก็ดูเหมือนกับเสือ

“นี้คือซีโน่เจเนอิคระดับเทพเจ้าขั้นพริมิทีฟที่มีชื่อว่าไทเกอร์ก็อตอีเกิลหนิ” ไป๋หลิงซวงรู้ว่านกประหลาดนั่นคือตัวอะไร

ไป๋ว่านเจี้ยพยักหน้า “นี่คือกรงขังนกที่จะจับสัตว์ปีกไหนก็ได้ ยิ่งพวกมันถูกขังเอาไว้นานเท่าไหร่ พวกมันก็จะยอมเชื่อฟังมากเท่านั้น ความบ้าคลั่งของพวกเขาจะถูกทำให้เชื้องในที่สุด ข้าขังไทเกอร์ก็อตอีเกิลเอาไว้ในกรงนี้มาเป็นเวลาครึ่งปีแล้ว แต่มันก็ยังไม่เชื้อง แต่พวกเราใช้มันเพื่อไปสำรวจสิ่งที่อยู่ข้างล่างนั่นได้”

หลังจากนั้นไป๋ว่านเจี้ยก็โยนกรงขังนกที่มีไทเกอร์ก็อตอีเกิลอยู่ลงไปในภูเขา ในตอนที่กรงขังนกนั้นตกลงไปบนผิวของไข่ลูกใหญ่ คนอื่นๆก็คิดว่ามันคงจะไถลล่วงลงไป

แต่กรงขังนกนี้เป็นเหมือนกับแม่เหล็ก มันติดกับผิวของไข่ลูกใหญ่และไม่ได้ไถลตกลงไปข้างล่าง

หลังจากนั้นกรงขังนกก็เริ่มจะขยายใหญ่ขึ้น มันกลายเป็นกรงเถาวัลย์ที่สูงกว่าสามสิบฟุต ไทเกอร์ก็อตอีเกิลที่ดูตัวเล็กก่อนหน้านี้ ตอนนี้มันกลายเป็นอสูรตัวใหญ่ที่ดูน่ากลัว

ตอนนี้ไข่ดูเล็กลงไป มันดูเหมือนกับว่าไทเกอร์ก็อตอีเกิลนั้นฟักไข่ออกมา ไทเกอร์ก็อตอีเกิลจับไข่เอาไว้ด้วยอุ้งเท้าของมัน

หลังจากที่ไทเกอร์ก็อตอีเกิลถูกปล่อย กรงขังนกก็กลายเป็นเส้นเถาวัลย์ที่เลื้อยกลับไปสู่มือของไป๋ว่านเจี้ยเหมือนกับงู

หานเซิ่นและคนอื่นๆมองไทเกอร์ก็อตอีเกิลที่ถูกปล่อยเป็นอิสระ ขณะที่อุ้งเท้าของมันจับไข่เอาไว้ ไทเกอร์ก็อตอีเกิลกระพือปีก ทำให้เกิดเป็นพายุไต้ฝุ่นสีเขียวขึ้นมา ดูเหมือนว่ามันกำลังจะบินขึ้น

แต่ไม่สำคัญว่ามันจะกระพือปีกมากสักแค่ไหน เจ้าไทเกอร์ก็อตอีเกิลก็ไม่สามารถบินขึ้นได้ อุ้งเท้าของมันยังคงติดอยู่กับไข่

ไทเกอร์ก็อตอีเกิลส่งเสียงกรีดร้องและปลดปล่อยแสงสีเขียวออกมา โซ่สสารที่ทรงพลังก่อตัวเป็นสายลมเพื่อช่วยส่งให้มันบินขึ้นไป

แต่ความพยายามทั้งหมดของไทเกอร์ก็อตอีเกิลนั้นเป็นอะไรที่ไร้ประโยชน์ ไม่สำคัญว่ามันจะพยายามมากสักแค่ไหน มันก็บินหนีไปไม่ได้

สิ่งที่น่ากลัวที่สุดก็คือหานเซิ่นและคนอื่นๆเห็นว่าร่างกายของไทเกอร์ก็อตอีเกิลดูแก่ขึ้นเรื่อยๆ มันเหมือนกับว่าพวกเขากำลังมองดูชีวิตทั้งชีวิตของมันถูกดูดออกไปในเวลาไม่กี่นาที

ไม่นานหลังจากนั้นไทเกอร์ก็อตอีเกิลก็ไม่มีแรงจะดิ้นรนอีก ร่างกายที่แก่ชราของมันล้มลงไป แต่ตัวของมันยังคงติดอยู่กับไข่ที่ลอยอยู่ในอากาศ

ทุกคนรู้สึกตกใจ ถึงแม้ไทเกอร์ก็อตอีเกิลจะไม่ใช่ซีโน่เจเนอิคขั้นพริมิทีฟที่แข็งแกร่งที่สุด แต่มันก็ไม่ใช่ซีโน่เจเนอิคขั้นพริมิทีฟที่อ่อนแอเช่นกัน ถึงอย่างนั้นมันก็หนีจากไข่ไม่ได้ และพลังชีวิตของมันก็ถูกดูดไปจนหมด

ในตอนที่ร่างกายของไทเกอร์ก็อตอีเกิลไม่เหลือพลังชีวิตอีกแล้ว ร่างกายของมันก็หลุดออกจากไข่ มันร่วงลงไปสู่กงล้อคริสตัลที่อยู่ที่ก้นของภูเขา

Super God Gene

Super God Gene

ในยุคสมัยที่วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของมนุษย์ถูกพัฒนาจนถึงระดับสูง ในที่สุดมนุษยชาติก็ได้ค้นพบวิธีการเทเลพอร์ต แต่เมื่อพวกเขาทดลองเทเลพอร์ต กลับพบว่าพวกเขาไม่ได้ถูกส่งไปในอนาคต อดีตหรือสถานที่อื่นๆที่มนุษย์รู้จัก แต่มันคือโลกที่แตกต่างโดยสิ้นเชิง สถานที่ลึกลับนี่ถูกเรียกว่า ‘ก็อด เเซงชัวรี่’ ที่นี่มีสิ่งมีชีวิตประหลาดอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก แต่เมื่อมนุษย์ลองกินสิ่งมีชีวิตประหลาดเข้าไป ร่างกายของพวกเขาพัฒนาขึ้นและยังเพิ่มอายุขัยขึ้นด้วย มันคือก้าวที่ยิ่งใหญ่ของมนุษย์ชาติในการวิวัฒนาการเพื่อสร้างยุคสมัยที่ยิ่งใหญ่ “ด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ถูกฆ่า คุณได้รับวิญญาณอสูรด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ เมื่อกินเนื้อของด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ คุณมีโอกาสได้รับ 0 ถึง 10 Geno Point โดยการสุ่ม” The future unfolded on a magnificent scale into the Interstellar Age. Humanity finally solved the space warp technology, but when humanity transported themselves into the other end, they discovered that place neither had a past nor future, nor was there any land under the starry skies…… The mysterious sanctuary was actually a world filled with countless tyrannical unusual organisms. Humanity faced their great leap in evolution, starting the most glorious and resplendant new era under the starry skies. “Slaughtered the God Blood organism ‘Black Beetle’. Received the God Blood Black Beetle’s Beast Soul. Used the God Blood Black Beetle’s flesh. Randomly obtaining 0 to 10 points of God Gene(s).”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset