หานเซิ่นเอามีดเหตุและผลออกมา แต่เขาไม่ได้คาดหวังที่จะใช้พลังของมีดเหตุและผล นั่นก็เพราะว่าแผ่นหินนั้นไม่สามารถทำการโจมตีได้ ด้วยเหตุนั้นพลังของมีดเหตุและผลจึงว่าเป็นอะไรที่ไร้ประโยชน์ หานเซิ่นแค่ต้องการบางสิ่งที่แข็งแรงมาถือเอาไว้ในมือ
ขณะที่ถือมีดเหตุและผลอยู่ ร่างกายของหานเซิ่นก็เดือดด้วยพลังประหลาด เขาฟันลงไปข้างล่าง แต่เขาไม่ได้เล็งไปที่แผ่นหิน เขากำลังฟันใส่อากาศ
มีดแสงพุ่งออกไปหยุดอยู่ในอากาศราวกับว่าถูกแช่แข็ง หานเซิ่นฟันออกไปเร็วขึ้นเรื่อยๆและทำให้มีดแสงสะสมรวมกันมากขึ้นเรื่อยๆ
ทุกคนรู้ว่าหานเซิ่นพยายามจะทำอะไร ในการต่อสู้เพื่อจุดดวงตะเกียงเผ่าพันธุ์ ทุกคนในจักรวาลได้เห็นวิชามีดใต้นภาของหานเซิ่น พวกเขารู้ว่าหานเซิ่นแค่จำเป็นต้องมีเวลาเพื่อจะรวบรวมมีดแสงที่มีพลังที่เทียบได้กับยอดฝีมือขั้นทรูก็อตระดับท็อป
ไป๋อู๋ซางขมวดคิ้ว เขาอยากจะเห็นวิชาที่สามารถลดระดับพลังคู่ต่อสู้ของหานเซิ่น เขาไม่ต้องการจะเสียเวลาดูวิชาที่ต้องใช้เวลาสะสมพลัง เพราะระดับเทพเจ้าขั้นทรูก็อตที่แท้จริงนั้นจะไม่ปล่อยให้หานเซิ่นได้มีเวลารวบรวมมีดแสงแบบนี้
แต่แผ่นหินนี่เป็นซีโน่เจเนอิคที่ประหลาด มันไม่สามารถทำการโจมตีได้ หานเซิ่นจึงมีเวลาที่จะสะสมพลังได้อย่างตามใจชอบ
คนอื่นๆก็มีวิชาจีโนที่สะสมพลังเช่นกัน แต่พวกมันไม่ได้คงอยู่เป็นเวลานาน ที่สุดแล้วพวกมันจะจางหายไป มันจึงเป็นเรื่องยากที่จะสะสมและควบคุมพลังเป็นจำนวนมากได้
แต่พลังที่ถูกทิ้งเอาไว้โดยวิชามีดใต้นภาของหานเซิ่นนั้นไม่ได้จางหายไป และมันก็ถูกควบคุมเอาไว้ได้อย่างไม่มีปัญหาอะไร ถึงแม้หานเซิ่นจะสะสมมีดแสงเป็นพันล้านเล่ม เขาก็สามารถควบคุมพวกมันได้เป็นอย่างดี
แน่นอนว่าถึงแม้ยอดฝีมือขั้นทรูก็อตคนหนึ่งจะควบคุมมีดแสงเป็นจำนวนมากได้ แต่พวกเขาก็คงจะหมดพลังก่อนที่จะปล่อยมีดแสงออกมามากมายขนาดนั้นได้ หานเซิ่นได้ใช้ตงเสวียนออร่าอย่างลับๆและใช้พลังงานในอวกาศเข้าช่วย นั่นเป็นเหตุผลที่เขาสามารถสะสมมีดแสงต่อไปได้
ในการต่อสู้จริงๆ มันเป็นเรื่องยากที่จะรวบรวมมีดแสงเป็นพันเป็นแสนเล่มเพื่อจะใช้งาน แต่สถานการณ์นี้หานเซิ่นสามารถสะสมมันได้เรื่อยๆ มีดแสงนั้นเพิ่มสูงขึ้นถึงขนาดที่ไม่สามารถนับได้ พวกมันก่อตัวเป็นสายธารมีดแสงเหมือนกับกาแล็กซี่ที่หมุนอยู่ในอวกาศ
เหล่าระดับเทพเจ้าขั้นพริมิทีฟรู้สึกตกใจและพากันถอยออกไปด้านหลังหลายพันไมล์
ถ้ามันมีมีดแสงแค่หนึ่งถึงสองเล่ม หรือแม้กระทั่งสิบถึงยี่สิบเล่ม พลังของเขาก็จะไม่ได้ดีเหมือนอย่างหมัดของไป๋อู๋ซาง แต่ตอนนี้มีดแสงนั้นสะสมกันเป็นเหมือนกับแม่น้ำ พลังของมันน่ากลัวยิ่งกว่าหมัดของไป๋อู๋ซางซะอีก
ไป๋อู๋ซางขมวดคิ้ว มันมีมีดแสงอยู่เป็นจำนวนมาก แม้แต่เขาก็ไม่มั่นใจว่าจะควบคุมพวกมันทั้งหมดได้ มันถือเป็นอะไรที่ไม่ธรรมดาที่หานเซิ่นสามารถควบคุมมีดแสงได้มากตามต้องการ มันไม่มีมีดแสงที่จางหายไป นั่นถือเป็นอะไรที่สุดยอดมากๆ มันไม่ใช่สิ่งที่จะทำสำเร็จได้เพราะโชคช่วย
หานเซิ่นยังคงปล่อยมีดแสงออกมาเพิ่มอีก เห็นได้ชัดว่าพลังในการควบคุมของเขานั้นยังไม่ถึงขีดจำกัด เขากำลังทำในสิ่งที่แม้แต่ยอดฝีมือขั้นทรูก็อตระดับท็อปหลายคนก็ยังทำไม่ได้
มันคงจะมีแค่ยอดฝีมือขั้นทรูก็อตอย่างผู้นำปราสาทนภาและผู้นำเผ่าเวรี่ไฮเท่านั้นที่จะทำอะไรแบบนี้ได้
หานเซิ่นไม่รู้ว่าเขาปล่อยมีดแสงออกมามากเท่าไหร่แล้ว มีดแสงนั้นปกคลุมทั้งท้องฟ้าและผืนดิน พวกมันดูเหมือนจะปกคลุมทุกอย่างที่อยู่รอบๆ
“นี่ควรจะมากพอแล้ว” หานเซิ่นรู้สึกว่าเขาเกือบจะถึงจุดแตกหัก ถ้าเขายังปล่อยมีดแสงออกมาเพิ่มอีก เขาก็อาจจะควบคุมพวกมันเอาไว้ไม่ได้
หานเซิ่นมองไปที่แผ่นหิน เขาไม่ลังเลและยกมีดเหตุและผลขึ้นเหนือหัว บนท้องฟ้าเต็มไปด้วยสายธารมีดแสง มันดูเหมือนกับวังวนที่ก่อตัวอยู่เหนือมีดเหตุและผล
ถึงแม้สายธารของมีดแสงจะทรงพลัง แต่แผ่นหินดูเหมือนจะมีพลังในการฟื้นตัวที่สุดยอด ถ้าเขาโจมตีมันทั้งๆแบบนี้ เขาอาจจะทำลายมันไม่ได้
หานเซิ่นมีแผนที่รวมมีดแสงทั้งหมดเข้าด้วยกันเพื่อสร้างเป็นมีดแสงที่ทรงพลังหนึ่งเดียวก่อนจะใช้ฟันใส่แผ่นหิน
ถึงแม้เขาจะไม่สามารถทำลายแผ่นหินได้ แต่อย่างน้อยๆเขาก็ควรจะทิ้งรอยตัดขนาดใหญ่เอาไว้ได้ อย่างไรก็ตามสิ่งที่เขาจะได้รับนั้นต้องเหนือกว่าโกลด์วิงบิ๊กก็อตเบิร์ดที่ไป๋อู๋ซางได้รับอย่างแน่นอน
ขณะที่มีดแสงค่อยๆรวมเป็นหนึ่งเดียว เหล่าระดับเทพเจ้าขั้นพริมิทีฟก็รู้สึกหวาดกลัวขึ้นเรื่อยๆ หน้าผากของพวกเขาชุ่มไปด้วยเหงื่อ พวกเขาอดไม่ได้ที่จะถอยออกไปอีก
แม้แต่ไป๋อู๋ซางก็ยังรู้สึกทึ่งที่ได้เห็นมีดแสงเป็นจำนวนมาก พลังโจมตีเต็มกำลังของเขานั้นยังด้อยกว่ามีดแสงที่ทรงพลังนี้
‘ถึงแม้วิธีการนี้จะใช้ในการต่อสู้จริงได้ยาก แต่การที่ควบคุมมีดแสงได้มากมายขนาดนี้ก็เป็นอะไรที่น่าตกใจ หานเซิ่นคนนี้น่ากลัวจริงๆ ถ้าเกิดปล่อยเขาไป ในอนาคตเขาจะเป็นภัยใหญ่หลวงต่อเอ็กซ์ตรีมคิง’
ตอนนี้ไป๋อู๋ซางเกรงกลัวต่อความสามารถของหานเซิ่นยิ่งกว่าเดิม
ในสายตาของไป๋อู๋ซาง ยิ่งหานเซิ่นแข็งแกร่งขึ้นเท่าไหร่ เขาก็จะเป็นภัยต่อเผ่าเอ็กซ์ตรีมคิงมากเท่านั้น มันจะเป็นการดีถ้ากำจัดเขาโดยเร็วที่สุด ถ้าเขากลายเป็นขั้นทรูก็อตและบุกมาโจมตี เผ่าเอ็กซ์ตรีมคิงก็คงจะประสบภัยพิบัติครั้งใหญ่
หานเซิ่นกำลังถือมีดด้วยสองมือ แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ยังคงสั่นอย่างรุนแรง เขารวบรวมมีดแสงเอาไว้มากเกินไป เขาแทบจะควบคุมมันเอาไว้ไม่อยู่ ถ้าไม่ใช่เพราะความจริงที่ว่ามีดเหตุและผลยากนั้นแข็งแรง เขาก็กลัวว่ามีดนั้นจะแตกเป็นเสี่ยงๆภายใต้น้ำหนักของมีดแสงจำนวนมากที่อยู่เหนือมัน
เมื่อเห็นมีดแสงรวมกันเป็นรูปร่างของใบมีดที่แหลมคมเรียบร้อยแล้ว หานเซิ่นก็ไม่มีรออีกต่อไป มันยังมีมีดแสงบางส่วนที่ไม่ได้เข้ามารวมเป็นหนึ่งเดียว แต่หานเซิ่นก็ไม่คิดจะมาสนใจพวกมันอีกแล้ว เขาฟันมีดแสงขนาดใหญ่ออกไปใส่แผ่นหิน
มีดแสงนั่นดูเหมือนกับว่าจะฉีกพื้นดินออกเป็นสอง มันฟันใส่แผ่นหินจากด้านบนและตัดมันเปิดออก มีดแสงนั้นตัดแผ่นหินเข้าไปทีละนิดๆ ฝุ่นหินกระจัดกระจายไปทั่วและแสงสีรุ้งก็ระเบิดออกมาจากแผ่นหินนั่น ระดับเทพเจ้าขั้นพริมิทีฟที่มองดูจากระยะไกลตกตะลึง มันเหมือนกับว่าทั้งจักรวาลกำลังถูกตัดขาด
ตูม! ตูม!
แผ่นหินทั้งแผ่นถูกตัดจนขาดครึ่ง มันล้มแยกกันออกไปคนละทาง มีดแสงบนมีดเหตุและผลของหานเซิ่นเกือบจะดับไป ฝุ่นผงกระจัดกระจายไปทั่ว ทุกคนตกตะลึง
ไป๋อู๋ซางทำได้แค่ทิ้งรอยหมัดเอาไว้บนแผ่นหิน แต่หานเซิ่นตัดมันจนขาดครึ่ง พลังของเขาน่ากลัวถึงขนาดไหนกัน?
ถึงแม้ว่ามันจะใช้เวลาในการเตรียมตัวนาน ซึ่งไม่สามารถใช้ในการต่อสู้จริงได้ การได้เห็นพลังมหาศาลแบบนั้นก็เป็นอะไรที่น่ากลัวอยู่ดี
ไป๋อู๋ซางและคนอื่นๆจ้องไปยังแผ่นหินที่ถูกตัดจนขาดครึ่ง พวกเขาอยากรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป
โดยปกติแล้วแผ่นหินจะให้กำเนิดนกซีโน่เจเนอิคธาตุหินตามขนาดของรอยที่ถูกทิ้งเอาไว้ แต่ตอนนี้ทั้งแผ่นหินถูกตัดจนขาดครึ่ง ด้วยเหตุนั้นมันบอกได้ยากว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป
หานเซิ่นขมวดคิ้ว เขามองไปยังแผ่นหินที่ล้มลงไปกับพื้น แต่เขาไม่ได้พูดอะไร
เขาไม่ได้ยินเสียงประกาศดังขึ้นมา นั่นหมายความว่าแผ่นหินยังไม่ถูกฆ่าตาย มันยังคงมีชีวิตอยู่
หานเซิ่นฟันมันด้วยมีดแสงที่น่ากลัวถึงขนาดนั้น แต่เขาก็ยังฆ่าแผ่นหินไม่ได้ แผ่นหินนั้นจะต้องเป็นซีโน่เจเนอิคขั้นทรูก็อตระดับท็อปไม่ผิดแน่ แต่น่าเสียดายที่โจมตีกลับไม่ได้ มันทำได้แค่รับการโจมตีเท่านั้น
ตูม!
แสงสีรุ้งระเบิดขึ้นมาจากแผ่นหินทั้งสองส่วน พวกมันพุ่งสูงขึ้นไปสู่ท้องฟ้าและเปลี่ยนทั้งท้องฟ้าให้กลายเป็นสีรุ้ง
ท่ามกลางแสงสีรุ้งนั้นมีเสียงร้องดังขึ้นมา หลังจากนั้นนกตัวหนึ่งก็ค่อยๆบินออกมาจากแสงสีรุ้ง