Super God Gene – ตอนที่ 2916 ศัตรูที่น่ากลัว

“มันเกี่ยวข้องอะไรกับราชครูด้วยว่าข้าจะไปที่ไหน?” หานเซิ่นถาม

 

ราชครูกู่เยวียนไม่โกรธ เขายิ้มและพูด “เจ้าเข้าใจข้าผิด ข้าแค่จะถามเจ้าว่าเป้าหมายของพวกเรานั้นเหมือนกันหรือไม่?”

 

“ถ้าเหมือนกันแล้วจะทำไม? ราชครูจะฆ่าข้าอย่างนั้นหรอ?”

หานเซิ่นทำเป็นโมโห แต่เขาไม่ได้โมโหจริงๆ เขาแค่อยากดูว่าราชครูกู่เยวียนและคนของเขาจะยอมพูดมากแค่ไหน

 

“ถ้าจุดประสงค์ของพวกเราเหมือนกัน ทำไมพวกเราไม่มาร่วมมือกัน? พวกเราจะได้ลดความเสี่ยงลง เจ้าคิดว่ายังไง?”

ราชครูกู่เยวียนดูเหมือนกับคนที่ไม่เคยโกรธใครมาก่อน เขาพูดด้วยเสียงเบาอยู่เสมอ

 

“ร่วมมือกัน? พวกเราจะร่วมมือกันยังไง?”

หานเซิ่นแปลกใจ แต่นี่ถือเป็นเรื่องดีสำหรับเขา เขาไม่ได้รู้อะไรเกี่ยวกับที่นี่ ถ้าเขาได้ข้อมูลจากราชครูกู่เยวียนและคนอื่นๆ มันก็จะเป็นประโยชน์ต่อเขาอย่างมาก

 

“มันก็ขึ้นอยู่กับจุดประสงค์ที่เจ้ามาที่นี่” ราชครูกู่เยวียนยิ้ม

 

‘ราชครูกู่เยวียนเป็นจิ้งจอกเฒ่าจอมเจ้าเล่ห์’ หานเซิ่นรู้ว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะเอาข้อมูลจากอีกฝ่าย ดังนั้นเขาจึงหันไปในทิศทางที่ต้องการจะไปและพูด

“ข้าเองก็ไม่รู้ว่าราชครูมาที่นี่ด้วยจุดประสงค์อะไร ในเมื่อต่างฝ่ายต่างไม่ยอมพูด ข้าคิดว่าพวกเราควรจะแยกทางกันไป”

 

หลังจากที่พูดแบบนั้นหานเซิ่นก็เริ่มบินออกไปในทิศทางที่เขาต้องการ

 

ราชครูกู่เยวียนไม่ได้หยุดหานเซิ่นเอาไว้ เขาแค่ตามหานเซิ่นไปและพูด

“ถ้าพวกเรามีเส้นทางเดียวกัน อย่างน้อยพวกเราก็ควรไปด้วยกัน แบบนั้นพวกเราจะได้ดูแลกันและกัน ถ้ามีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้นกับพวกเรา บางทีพวกเราอาจจะร่วมมือกันได้”

 

“ข้าไม่ได้เป็นเจ้าของเส้นทางนี้ ถ้าราชครูต้องการจะไป นั่นก็ขึ้นอยู่กับราชครู” หานเซิ่นพาเป่าเอ๋อบินต่อไปเรื่อยๆโดยเมินเฉยต่อราชครูกู่เยวียนและคนอื่นๆ

 

ราชครูกู่เยวียนและเอ็กซ์ตรีมคิงอีกสี่คนตามหานเซิ่นไปจากด้านหลัง ราชครูกู่เยวียนนั้นเป็นคนที่ไม่เหมือนใคร ถึงแม้เอ็กซ์ตรีมคิงและหานเซิ่นจะบาดหมางกัน แต่เขาก็พูดกับหานเซิ่นเหมือนกับเป็นมิตรสหายคนหนึ่ง

 

มันไม่ใช่ว่าหานเซิ่นชอบที่จะพูดคุยกับเขา แต่ราชครูกู่เยวียนเป็นคนที่ฉลาดมากๆและเขารู้วิธีที่จะมีปฏิสัมพันธ์กับคนอื่น ขณะที่หานเซิ่นพูดกับราชครูกู่เยวียน มันเหมือนกับว่าเขากำลังพูดกับเพื่อนเก่า มันไม่ได้ทำให้เขารู้สึกไม่สบายใจแต่อย่างใด

 

สิ่งที่เขาพูดรวมถึงวิธีการพูดของเขาทำให้ผู้คนรู้สึกสนใจ ในตอนที่เขาพูดแม้แต่เรื่องที่ธรรมดาๆก็กลายเป็นเรื่องที่น่าสนใจขึ้นมา มันเหมือนกับว่าคำพูดของเขามีมนต์สะกด

 

ในระหว่างการเดินทาง ราชครูกู่เยวียนแนะนำหานเซิ่นเกี่ยวกับสิ่งที่พวกเขาได้พบเจอ หานเซิ่นและเป่าเอ๋อพบว่ามันเป็นอะไรที่น่าสนใจมากๆ หานเซิ่นไม่สามารถหลีกเลี่ยงการพูดคุยกับราชครูกู่เยวียนได้ บรรยากาศนั้นเป็นอะไรที่น่ารื่นรมย์ มันเหมือนกับว่าพวกเขาเป็นเพื่อนที่กำลังไปเที่ยวด้วยกัน

 

แต่เมื่อหานเซิ่นคิดเกี่ยวกับมัน สิ่งที่ราชครูกู่เยวียนพูดขึ้นมานั้นไม่ได้ช่วยเขาเลยแม้แต่นิดเดียว หานเซิ่นรู้สึกนับถือในเรื่องนั้น

 

ยิ่งคนๆหนึ่งพูดมากเท่าไหร่ มันก็เสี่ยงที่จะเปิดเผยข้อมูลที่ไม่ควรออกไป แต่ถึงราชครูกู่เยวียนจะพูดอย่างไม่หยุดเป็นเวลานาน เขาก็ไม่เคยหลุดพูดข้อมูลสำคัญอะไรออกมา และเขาก็ไม่ได้พยายามล้วงข้อมูลจากหานเซิ่นเช่นกัน มันทำให้ผู้ฟังรู้สึกสบายใจที่เขาไม่ถามซอกแซก นั่นเป็นบางสิ่งที่ผู้คนปกติไม่สามารถทำได้

 

“ราชครูกู่เยวียนคนนี้เป็นบุคคลที่พิเศษมากๆ” ตอนนี้หานเซิ่นระวังตัวยิ่งกว่าเดิม

 

การมีศัตรูนั้นไม่ใช่เรื่องน่ากลัวอะไร สิ่งที่น่ากลัวคือการที่ศัตรูคนหนึ่งมายืนอยู่ตรงหน้า แต่มันกลับทำให้เขารู้สึกสบายใจ ถึงแม้อีกฝ่ายจะทำให้รู้อย่างชัดเจนว่าเขาเป็นศัตรู ศัตรูแบบนั้นคือศัตรูที่น่ากลัวที่สุด

 

กลุ่มของพวกเขาบินต่อไปเป็นเวลาสิบวัน หานเซิ่นได้ความรู้เกี่ยวกับจักรวาลมากมายจากราชครูกู่เยวียน เขาได้รู้เกี่ยวกับตำนานของเซเคร็ดและยังตำนานอื่นอีกมากมาย

 

ทันใดนั้นหานเซิ่นก็เห็นว่าบริเวณนี้ดูเหมือนกับสถานที่ฝังกลบขยะ มันมีขยะมากมายนับไม่ถ้วนลอยเกลื่อนเต็มไปหมด มันเหมือนกับทะเลขยะที่ไม่มีที่สิ้นสุด

 

ขณะที่มองออกไปที่ขยะ ราชครูกู่เยวียนก็พูดขึ้นว่า “ที่นี่ใกล้กับบริเวณที่เมื่อก่อนเคยเป็นศูนย์กลางของเซเคร็ด ถ้าพวกเรายังมุ่งหน้าไปทางนี้ต่อ กาลเวลาและอวกาศจะเริ่มยุ่งเหยิง พลังงานต่างๆจะไหลเวียนอย่างอลหม่าน แม้แต่ยอดฝีมือขั้นทรูก็อตก็รู้สึกได้ถึงแรงกดดันภายในสถานที่แห่งนี้ แถมซีโน่เจเนอิคที่อยู่ที่นี่ทุกตัวต่างก็เป็นระดับท็อป ถ้าเจ้าจะเดินหน้าต่อไป เจ้าก็ควรระวังเอาไว้ให้มาก นอกจากนั้นเจ้ายังพาเด็กมาด้วย เจ้ายิ่งต้องระวังเป็นพิเศษ”

 

“จนถึงตอนนี้พวกเรายังไม่เจอซีโน่เจเนอิคเลยสักตัว ดูเหมือนว่าระบบจักรวาลร้างนี่จะไม่ได้น่ากลัวเหมือนอย่างที่ตำนานกล่าวขานเอาไว้” หานเซิ่นแกล้งพูดอย่างหยิ่งผยอง

 

ราชครูกู่เยวียนพูดเตือนด้วยสีหน้าที่จริงจิง

“ได้โปรดอย่าประมาท เหตุผลที่พวกเราเดินทางมาถึงที่นี่ได้อย่างปลอดภัย นั่นก็เพราะมันมียอดฝีมือมาที่นี่ก่อนหน้าพวกเรา เขาเก็บกวาดอันตรายที่อยู่ที่นี่ไปจนหมดแล้ว แต่หนทางข้างหน้านั้นต่างออกไป แม้แต่ยอดฝีมือขั้นทรูก็อตก็กำจัดอันตรายที่อยู่ข้างหน้าทั้งหมดไม่ได้”

 

“โอ้ มันเป็นแบบนั้นเองหรอ? ราชครูรู้ไหมว่ายอดฝีมือที่มาถึงที่นี่ก่อนพวกเราคือใครกัน?” หานเซิ่นถาม

 

“ข้าไม่รู้” ราชครูกู่เยวียนส่ายหัว

“ยอดฝีมือคนนั้นจงใจลบร่องรอยออกไปจนหมด ดังนั้นถึงพวกเราจะตามรอยของยอดฝีมือคนนั้นมา พวกเราก็บอกไม่ได้ว่าเขาเป็นใคร นั่นเป็นบางสิ่งที่ต้องระวังเอาไว้ ข้าหวังว่าเจ้าจะระวังเกี่ยวกับเรื่องนี้และอย่าได้นำภัยมาสู่เด็กคนนั้น”

 

“ขอบคุณราชครูที่เตือน ถ้ามันอันตรายขนาดนั้นจริง ข้าก็จะไม่ไปต่อ ข้าคิดว่าจะไปที่อื่น”

หานเซิ่นโค้งคำนับราชครูกู่เยวียน “ขอบคุณราชครูที่ดูแลพวกเรา พวกเราซาบซึ้งอย่างมาก พวกเราคงต้องแยกทางกันตรงนี้ หวังว่าพวกเราจะได้พบกันอีก”

 

หลังจากที่พูดแบบนั้น หานเซิ่นก็พาเป่าเอ๋อเดินทางไปอีกด้านของทะเลขยะ เขาเข้าใจว่าราชครูกู่เยวียนไม่ได้แค่เตือนให้เขาระมัดระวังตัว แต่พูดเป็นนัยๆว่าหนทางข้างหน้านั้นเป็นอันตรายเกินไปและคนที่ไม่เชื่อใจกันก็ไม่ควรเดินทางไปด้วยกัน

 

หานเซิ่นเข้าใจความหมายของราชครูกู่เยวียน ดังนั้นเขาจึงเลือกที่จะแยกตัวออกมา

 

หลังจากที่หานเซิ่นไปแล้ว เอ็กซ์ตรีมคิงระดับเทพเจ้าคนหนึ่งก็มองไปทางที่หานเซิ่นบินจากไปและถามขึ้นว่า

“ท่านราชครูคิดว่าหานเซิ่นมาที่นี่เพื่อเรื่องนั่นเหมือนกันใช่ไหม?”

 

ราชครูกู่เยวียนพูดขึ้นว่า “มันบอกได้ยาก แต่ที่ที่เขาจะไปนั้นอาจจะเป็นที่ที่พวกเรากำลังมุ่งหน้าไปเช่นกัน”

 

ยอดฝีมือระดับเทพเจ้าอีกคนถามขึ้นมา “ท่านราชครูคิดว่าพวกเราควรจัดการเขาก่อนเลยดีไหม?”

 

“ยังก่อน” ราชครูกู่เยวียนพูด

 

“ถ้าพวกเราไม่จัดการเขาในตอนนี้ ในตอนที่ไปถึงที่นั่น วิชาจีโนประหลาดของเขาอาจจะเป็นปัญหากับพวกเราได้” เอ็กซ์ตรีมคิงระดับเทพเจ้าพูด

 

“นั่นไม่เป็นอะไร ถึงแม้วิชาจีโนของเขาจะประหลาด แต่ข้ามีหนทางจะทำลายพวกมัน อย่าได้กังวลไป”

หลังจากหยุดไปชั่วครู่ ราชครูกู่เยวียนก็มองไปในทางที่หานเซิ่นจากไปและหลี่ตา “ไม่แน่บางทีเขาอาจจะช่วยพวกเราได้”

 

หานเซิ่นบินตามขอบทะเลขยะไปสักพัก และเขาก็ไปหยุดในตอนที่ไม่เห็นราชครูกู่เยวียนและคนอื่นๆแล้ว หลังจากนั้นเขาก็มองออกไปยังทะเลขยะที่ดูไร้ที่สิ้นสุด เขาไม่รู้เลยว่ามันกว้างใหญ่แค่ไหน

 

“พวกเราจะเข้าไปจากตรงนี้” หานเซิ่นพูดกับเป่าเอ๋อที่อยู่บนไหล่ของเขา

“เป่าเอ๋อ หนูอย่าได้ออกห่างจากพ่อเป็นอันขาด”

 

“เป่าเอ๋อเป็นเด็กดี” เป่าเอ๋อพูดพร้อมกับกระพริบตาปริบๆ “หนูจะไม่ออกห่างจากพ่อ”

 

Super God Gene

Super God Gene

ในยุคสมัยที่วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของมนุษย์ถูกพัฒนาจนถึงระดับสูง ในที่สุดมนุษยชาติก็ได้ค้นพบวิธีการเทเลพอร์ต แต่เมื่อพวกเขาทดลองเทเลพอร์ต กลับพบว่าพวกเขาไม่ได้ถูกส่งไปในอนาคต อดีตหรือสถานที่อื่นๆที่มนุษย์รู้จัก แต่มันคือโลกที่แตกต่างโดยสิ้นเชิง สถานที่ลึกลับนี่ถูกเรียกว่า ‘ก็อด เเซงชัวรี่’ ที่นี่มีสิ่งมีชีวิตประหลาดอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก แต่เมื่อมนุษย์ลองกินสิ่งมีชีวิตประหลาดเข้าไป ร่างกายของพวกเขาพัฒนาขึ้นและยังเพิ่มอายุขัยขึ้นด้วย มันคือก้าวที่ยิ่งใหญ่ของมนุษย์ชาติในการวิวัฒนาการเพื่อสร้างยุคสมัยที่ยิ่งใหญ่ “ด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ถูกฆ่า คุณได้รับวิญญาณอสูรด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ เมื่อกินเนื้อของด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ คุณมีโอกาสได้รับ 0 ถึง 10 Geno Point โดยการสุ่ม” The future unfolded on a magnificent scale into the Interstellar Age. Humanity finally solved the space warp technology, but when humanity transported themselves into the other end, they discovered that place neither had a past nor future, nor was there any land under the starry skies…… The mysterious sanctuary was actually a world filled with countless tyrannical unusual organisms. Humanity faced their great leap in evolution, starting the most glorious and resplendant new era under the starry skies. “Slaughtered the God Blood organism ‘Black Beetle’. Received the God Blood Black Beetle’s Beast Soul. Used the God Blood Black Beetle’s flesh. Randomly obtaining 0 to 10 points of God Gene(s).”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset