Super God Gene – ตอนที่ 2919 จับปลาเป็นตัวประกัน

หานเซิ่นอยู่ใกล้ปลาทองน้อยมากเกินไป ดังนั้นปลาทองตัวใหญ่จึงไม่สามารถตอบสนองได้ทัน หานเซิ่นอ้อมไปด้านหลังปลาทองน้อยและโจมตีที่หลังหัวของมันด้วยดาบโคลด์ไลท์ ปลาทองตัวน้อยไม่ได้แข็งแกร่งเหมือนกับปลาทองตัวใหญ่ ถึงอย่างนั้นมันก็เป็นระดับเทพเจ้าตั้งแต่กำเนิด ดังนั้นมันไม่ได้อ่อนแอ่

 

หานเซิ่นใช้พลังทั้งหมดแทงดาบโคลด์ไลท์เข้าไปในด้านหลังของปลาทองน้อย เจ้าปลาทองน้อยรู้สึกได้ถึงความเจ็บปวดในทันที มันพ่นฟองสบู่ออกมาและพยายามดิ้นรน แต่หานเซิ่นจับดาบเอาไว้แน่นไม่ยอมปล่อย เขาขึ้นขี่บนหลังของปลาทองน้อย ไม่สำคัญว่ามันจะดิ้นรนมากสักแค่ไหน หานเซิ่นก็ไม่ยอมปล่อยมันไป

 

เมื่อเห็นภาพที่เกิดขึ้น ปลาทองตัวใหญ่ก็โกรธ เกล็ดทั้งหมดของมันตั้งตรงขณะที่ปล่อยแสงแห่งเทพออกมา มันเหมือนกับท้องฟ้าเต็มไปด้วยมีดแสงที่ตรงเข้ามาหาหานเซิ่น พวกมันจะตัดร่างของเขาเป็นชิ้นๆ

 

หานเซิ่นไม่ได้ตื่นตระหนก เขาจับดาบโคลด์ไลท์และพยายามจะยกมันขึ้น ซึ่งสร้างความเจ็บปวดให้กับปลาทองน้อยยิ่งกว่าเดิม ปลาทองน้อยดิ้นไปมาอย่างควบคุมไม่ได้ ดาบนั้นยังคงแทงเข้าไปในร่างกายของปลาทองน้อย และตอนนี้ท้องของมันก็ถูกหงายขึ้นด้านบน มันทำให้เกล็ดสีทองนับหมื่นที่กำลังตรงเข้าไปหาหานเซิ่นนั้นพุ่งไปถูกท้องของปลาทองน้อยแทน

 

ปลาทองตัวใหญ่ตกใจและรีบดึงเกล็ดสีทองของมันกลับ เกล็ดสีทองถูกหยุดเอาไว้อย่างฉิวเฉียด พวกมันอยู่ห่างไปจากหน้าท้องของปลาทองน้อยเพียงแค่ไม่กี่ฟุต

 

หานเซิ่นขยับดาบโคลด์ไลท์ในมือ ซึ่งทำให้ปลาทองน้อยดิ้นไปดิ้นมาด้วยความเจ็บปวด

 

ปลาทองตัวใหญ่มองดูความโกรธ แต่มันไม่สามารถทำอะไรได้ ถ้ามันโจมตี หานเซิ่นก็จะใช้ปลาทองตัวน้อยเป็นโล่ป้องกัน ซึ่งปลาทองตัวใหญ่ไม่ต้องการให้เรื่องแบบนั้นเกิดขึ้น

 

“เจ้าปลาโง่! นี่พวกแกต้องการจะเปลี่ยนพวกข้าเป็นอาหารไม่ใช่หรอ? รีบเข้ามาสิ” หานเซิ่นยกร่างปลาทองน้อยชี้ไปที่ปลาทองตัวใหญ่เพื่อทำให้มันโกรธยิ่งกว่าเดิม

 

บาดแผลบนร่างกายของปลาทองน้อยกำลังมีเลือดไหลออกมา แต่เลือดของมันแปลกประหลาด ในตอนที่เลือดสีแดงของมันสัมผัสกับน้ำ มันจะเปลี่ยนเป็นโลหะที่เหมือนกับทองแดง

 

หานเซิ่นจงใจทำให้เจ้าปลาทองตัวใหญ่โกรธ ไม่สำคัญว่ามันจะเป็นสิ่งมีชีวิตแบบไหน ในตอนที่มันโกรธมากๆ มันก็ต้องเผยจุดอ่อนของตัวเองออกมา แม้แต่สิ่งมีชีวิตขั้นทรูก็อตก็ไม่เว้น ในตอนที่มันถูกความโกรธเข้าครอบงำ มันจะไม่ระวังตัวอีกต่อไป ซึ่งจะทำให้หานเซิ่นฆ่ามันได้ง่ายขึ้น

 

วิธีการนี้อาจจะเป็นอะไรที่ชั่วร้าย แต่กฎของจักรวาลจีโนคือปลาใหญ่กินปลาเล็ก มีเพียงแค่คนที่แข็งแกร่งที่สุดเท่านั้นถึงจะอยู่รอด ถ้าหานเซิ่นไม่แข็งแกร่งพอ เขาก็คงจะต้องกลายเป็นอาหารของเจ้าปลาทองน้อย ในเรื่องของความอยู่รอดมันไม่สำคัญว่าวิธีการที่ใช้จัดการกับศัตรูนั้นจะเป็นวิธีการแบบไหน

 

ถึงแม้ปลาทองตัวใหญ่จะถูกความโกรธเข้าครอบงำ แต่มันไม่ได้บุ่มบ่ามเข้ามาหาหานเซิ่น มันแค่จ้องมองไปที่หานเซิ่นด้วยดวงตาที่เบิกกว้างและเกล็ดที่ตั้งตรง

 

ทันใดนั้นปลาทองตัวใหญ่ก็พ่นฟองสบู่ออกมาหลายฟอง ฟองสบู่ที่มันพ่นออกมานั้นแตกต่างไปจากครั้งก่อน ฟองสบู่นี้ไม่ได้บินเข้ามาหาหานเซิ่น พวกมันแค่ระเบิดตรงหน้าเขาแทน

 

ในตอนที่ฟองสบู่พวกนั้นแตก พวกมันก็สร้างโทนเสียงสูงและโทนเสียงต่ำที่แตกต่างกันออกไป หานเซิ่นรู้สึกแปลกใจเมื่อค้นพบว่าเสียงพวกนั้นไม่ใช่แค่เสียงแตกของฟองสบู่ธรรมดาๆ แต่มันเป็นภาษา

 

ปลาทองตัวใหญ่ดูเหมือนกับว่ามันต้องการจะพูดอะไรบางอย่าง ถึงแม้หานเซิ่นจะพอเข้าใจ แต่เขาไม่ได้เข้าใจทั้งหมด เขาไม่เข้าใจว่าเจ้าปลาทองตัวใหญ่พยายามจะบอกอะไรกับเขา

 

หานเซิ่นใช้ศาสตร์ตงเสวียนเพื่อมองเข้าไปในจิตใจของเจ้าปลาทองตัวใหญ่ ถึงแม้จิตใจของเจ้าปลาทองตัวใหญ่จะแข็งแกร่งมาก แต่หานเซิ่นก็ยังเข้าใจถึงสิ่งที่มันกำลังคิด

 

“ปล่อยลูกของข้าไป! ข้ายินดีจะมอบสมบัติให้กับเจ้าเพื่อแลกกับชีวิตของเขา…” หานเซิ่นรู้ว่านั่นคือสิ่งที่ปลาทองตัวใหญ่พยายามจะบอกกับเขา

 

หัวใจของหานเซิ่นเต้นรัว เขามองไปที่ปลาทองตัวใหญ่และถาม “สมบัติอะไร?”

 

หานเซิ่นไม่แน่ใจว่ามันเข้าใจคำพูดของเขาหรือเปล่า เพราะยังไงซะทุกสิ่งมีชีวิตก็มีภาษาของตัวเอง ภาษาสากลของจักรวาลนั้นถูกใช้โดยสิ่งมีชีวิตส่วนใหญ่ แต่ไม่ใช่ว่าทุกสิ่งมีชีวิตจะพูดได้

 

หานเซิ่นไม่ได้คาดคิดว่าปลาทองตัวใหญ่จะเข้าใจ แต่มันพ่นฟองสบู่ออกมาเพิ่ม เสียงในจิตใจของมันดังขึ้นกว่าเดิม

 

“สมบัติที่ใหญ่มากๆ…” หานเซิ่นสัมผัสถึงสิ่งที่ปลาทองตัวใหญ่พยายามจะบอกได้แค่นั้น มันยังไม่ชัดเจน

 

“สิ่งนั้นคืออะไร?” หานเซิ่นถาม ปลาทองตัวใหญ่คิดอย่างรวดเร็วและรีบร้อนเกินไป ซึ่งทำให้ศาสตร์ตงเสวียนของหานเซิ่นไม่สามารถอ่านจิตใจของมันได้ทั้งหมด เขายังไม่รู้ว่าสมบัติที่ปลาทองตัวใหญ่พูดถึงคืออะไร

 

หานเซิ่นหยุดขยับดาบโคลด์ไลท์ชั่วคราว และทำให้ความเจ็บปวดที่ปลาทองน้อยได้รับบรรเทาลงไป เมื่อเห็นว่าลูกของมันไม่ได้ดิ้นรนอย่างทุกข์ทรมานอีก เจ้าปลาทองตัวใหญ่ก็เริ่มใจเย็นลง

 

ถึงอย่างนั้นหานเซิ่นก็ยังไม่เข้าใจว่ามันพยายามจะบอกอะไร เขาอ่านได้แค่ความคิดที่แสดงออกมาอย่างชัดเจน ซึ่งก็คือเรื่องที่มันยินดีจะมอบสมบัติให้กับเขาเพื่อแลกกับชีวิตลูกของมัน แต่หานเซิ่นยังคงไม่รู้ว่ามันเป็นสมบัติแบบไหน

 

เป่าเอ๋อฟังอยู่สักพักหนึ่งและหันมาพูดกับหานเซิ่น “มันบอกว่าสมบัตินั่นทรงพลังมากๆ การมีสมบัตินั่นจะทำให้พ่อไม่ต้องกลัวใคร”

 

“หนูเข้าใจที่มันบอกอย่างนั้นหรอ?” หานเซิ่นดีใจ

 

“หนูพอจะเข้าใจนิดหน่อย” เป่าเอ๋อพูดพร้อมกับพยักหน้า

 

“เยี่ยมเลย! หนูช่วยพ่อถามมันได้ไหมว่าสมบัตินั้นใช้ทำอะไรได้และพ่อจะหามันได้จากที่ไหน?” หานเซิ่นพูด

 

ปลาทองตัวใหญ่ดูเหมือนจะเข้าใจสิ่งที่หานเซิ่นพูด หลังจากเจ้าปลาทองตัวใหญ่ได้ยินสิ่งที่เขาพูด มันก็พ่นฟองสบู่ออกมาเพิ่มเพื่อตอบกลับ

 

“มันบอกว่าสมบัตินั่นจะปกป้องชีวิตของพ่อและทรงพลังมากๆ ด้วยสมบัตินั่นพ่อจะเดินทางมาที่นี่ได้อย่างอิสระ”

เป่าเอ๋อหยุดไปชั่วครู่และสังเกตฟองสบู่อีกครั้ง หลังจากนั้นเธอก็พูดต่อ “มันบอกว่าสมบัตินั่นอยู่ในที่ที่ไกลออกไป แต่มันจะบอกวิธีการไปเอาสมบัตินั่นกับพ่อ”

 

“เจ้าไปเอาสมบัตินั่นมาให้กับข้า และข้าจะไว้ชีวิตลูกของเจ้า” หานเซิ่นพูดกับปลาทองตัวใหญ่

 

ปลาทองตัวใหญ่รีบพ่นฟองสบู่ออกมาอย่างรีบร้อน มันพ่นฟองสบู่อยู่นาน ราวกับว่ามันพยายามจะอธิบายอะไรบางอย่าง

 

เป่าเอ๋อมองดูมันอยู่สักพัก ในตอนที่ฟองสบู่แตกจนหมดแล้ว เธอก็พูดขึ้นว่า “มันบอกว่ามันไปเอาสมบัตินั่นไม่ได้ พวกเราต้องไปด้วยตัวเอง”

 

หานเซิ่นมองไปที่ปลาทองตัวใหญ่และถาม “นี่เจ้าพยายามจะหลอกพวกเราอย่างนั้นหรอ? ถ้ามันไม่มีอันตรายอะไร ทำไมเจ้าถึงไปเอามันมาให้พวกเราไม่ได้?”

 

ปลาทองตัวใหญ่พ่นฟองสบู่ออกมาเพิ่มอีก เป่าเอ๋อช่วยแปลให้หานเซิ่นฟัง

“มันบอกว่าสมบัตินั้นมีสิ่งมีชีวิตที่น่ากลัวคอยเฝ้าอยู่ ถ้ามันไปเอง สิ่งที่น่ากลัวนั่นจะเห็นมันจากระยะไกล และถ้ามันเข้าไปใกล้ มันก็จะถูกฆ่าตาย แต่ถ้าพวกเราไปเอง มันมีหนทางที่จะทำให้สิ่งที่น่ากลัวนั้นหาพวกเราไม่พบ แบบนั้นพวกเราจะเอาสมบัติมาได้”

 

“จริงอย่างนั้นหรอ?” หานเซิ่นมองไปที่ปลาทองตัวใหญ่ เขารู้สึกสงสัยเกี่ยวกับเรื่องทั้งหมดนี่ แต่หลังจากที่เขาคิดเกี่ยวกับมันดูดีๆ ด้วยสมองและสติปัญญาของปลาทองตัวใหญ่นี้ มันไม่น่าจะรู้จักวิธีการพูดโกหก

 

“พ่อ หนูคิดว่าปลาตัวนี้เชื่อถือได้ ดูสิพวกมันน่าสงสารจะตาย! พ่อปล่อยพวกมันไปเถอะ” เป่าเอ๋อขอร้อง

 

“ก็ได้ ถ้าเจ้าบอกข้ามาตามตรงว่าข้าจะไปเอาสมบัตินั่นได้ยังไง ข้าจะไว้ชีวิตลูกของเจ้า” หานเซิ่นพูดขณะที่มองไปที่ปลาทองตัวใหญ่

 

ปลาทองน้อยเป็นแค่ขั้นลาร์วา ยังไงซะมันก็ไม่มีประโยชน์อะไรกับหานเซิ่น และเขาก็ไม่คิดว่าจะจัดการกับปลาทองตัวใหญ่ตัวนี้ได้ มันถือเป็นเรื่องดีที่เขาจะรอดจากสถานการณ์นี้ไปและได้ข้อมูลเกี่ยวกับสมบัติแถมมาด้วย

Super God Gene

Super God Gene

ในยุคสมัยที่วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของมนุษย์ถูกพัฒนาจนถึงระดับสูง ในที่สุดมนุษยชาติก็ได้ค้นพบวิธีการเทเลพอร์ต แต่เมื่อพวกเขาทดลองเทเลพอร์ต กลับพบว่าพวกเขาไม่ได้ถูกส่งไปในอนาคต อดีตหรือสถานที่อื่นๆที่มนุษย์รู้จัก แต่มันคือโลกที่แตกต่างโดยสิ้นเชิง สถานที่ลึกลับนี่ถูกเรียกว่า ‘ก็อด เเซงชัวรี่’ ที่นี่มีสิ่งมีชีวิตประหลาดอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก แต่เมื่อมนุษย์ลองกินสิ่งมีชีวิตประหลาดเข้าไป ร่างกายของพวกเขาพัฒนาขึ้นและยังเพิ่มอายุขัยขึ้นด้วย มันคือก้าวที่ยิ่งใหญ่ของมนุษย์ชาติในการวิวัฒนาการเพื่อสร้างยุคสมัยที่ยิ่งใหญ่ “ด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ถูกฆ่า คุณได้รับวิญญาณอสูรด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ เมื่อกินเนื้อของด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ คุณมีโอกาสได้รับ 0 ถึง 10 Geno Point โดยการสุ่ม” The future unfolded on a magnificent scale into the Interstellar Age. Humanity finally solved the space warp technology, but when humanity transported themselves into the other end, they discovered that place neither had a past nor future, nor was there any land under the starry skies…… The mysterious sanctuary was actually a world filled with countless tyrannical unusual organisms. Humanity faced their great leap in evolution, starting the most glorious and resplendant new era under the starry skies. “Slaughtered the God Blood organism ‘Black Beetle’. Received the God Blood Black Beetle’s Beast Soul. Used the God Blood Black Beetle’s flesh. Randomly obtaining 0 to 10 points of God Gene(s).”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset