หานเซิ่นอยู่ใกล้ปลาทองน้อยมากเกินไป ดังนั้นปลาทองตัวใหญ่จึงไม่สามารถตอบสนองได้ทัน หานเซิ่นอ้อมไปด้านหลังปลาทองน้อยและโจมตีที่หลังหัวของมันด้วยดาบโคลด์ไลท์ ปลาทองตัวน้อยไม่ได้แข็งแกร่งเหมือนกับปลาทองตัวใหญ่ ถึงอย่างนั้นมันก็เป็นระดับเทพเจ้าตั้งแต่กำเนิด ดังนั้นมันไม่ได้อ่อนแอ่
หานเซิ่นใช้พลังทั้งหมดแทงดาบโคลด์ไลท์เข้าไปในด้านหลังของปลาทองน้อย เจ้าปลาทองน้อยรู้สึกได้ถึงความเจ็บปวดในทันที มันพ่นฟองสบู่ออกมาและพยายามดิ้นรน แต่หานเซิ่นจับดาบเอาไว้แน่นไม่ยอมปล่อย เขาขึ้นขี่บนหลังของปลาทองน้อย ไม่สำคัญว่ามันจะดิ้นรนมากสักแค่ไหน หานเซิ่นก็ไม่ยอมปล่อยมันไป
เมื่อเห็นภาพที่เกิดขึ้น ปลาทองตัวใหญ่ก็โกรธ เกล็ดทั้งหมดของมันตั้งตรงขณะที่ปล่อยแสงแห่งเทพออกมา มันเหมือนกับท้องฟ้าเต็มไปด้วยมีดแสงที่ตรงเข้ามาหาหานเซิ่น พวกมันจะตัดร่างของเขาเป็นชิ้นๆ
หานเซิ่นไม่ได้ตื่นตระหนก เขาจับดาบโคลด์ไลท์และพยายามจะยกมันขึ้น ซึ่งสร้างความเจ็บปวดให้กับปลาทองน้อยยิ่งกว่าเดิม ปลาทองน้อยดิ้นไปมาอย่างควบคุมไม่ได้ ดาบนั้นยังคงแทงเข้าไปในร่างกายของปลาทองน้อย และตอนนี้ท้องของมันก็ถูกหงายขึ้นด้านบน มันทำให้เกล็ดสีทองนับหมื่นที่กำลังตรงเข้าไปหาหานเซิ่นนั้นพุ่งไปถูกท้องของปลาทองน้อยแทน
ปลาทองตัวใหญ่ตกใจและรีบดึงเกล็ดสีทองของมันกลับ เกล็ดสีทองถูกหยุดเอาไว้อย่างฉิวเฉียด พวกมันอยู่ห่างไปจากหน้าท้องของปลาทองน้อยเพียงแค่ไม่กี่ฟุต
หานเซิ่นขยับดาบโคลด์ไลท์ในมือ ซึ่งทำให้ปลาทองน้อยดิ้นไปดิ้นมาด้วยความเจ็บปวด
ปลาทองตัวใหญ่มองดูความโกรธ แต่มันไม่สามารถทำอะไรได้ ถ้ามันโจมตี หานเซิ่นก็จะใช้ปลาทองตัวน้อยเป็นโล่ป้องกัน ซึ่งปลาทองตัวใหญ่ไม่ต้องการให้เรื่องแบบนั้นเกิดขึ้น
“เจ้าปลาโง่! นี่พวกแกต้องการจะเปลี่ยนพวกข้าเป็นอาหารไม่ใช่หรอ? รีบเข้ามาสิ” หานเซิ่นยกร่างปลาทองน้อยชี้ไปที่ปลาทองตัวใหญ่เพื่อทำให้มันโกรธยิ่งกว่าเดิม
บาดแผลบนร่างกายของปลาทองน้อยกำลังมีเลือดไหลออกมา แต่เลือดของมันแปลกประหลาด ในตอนที่เลือดสีแดงของมันสัมผัสกับน้ำ มันจะเปลี่ยนเป็นโลหะที่เหมือนกับทองแดง
หานเซิ่นจงใจทำให้เจ้าปลาทองตัวใหญ่โกรธ ไม่สำคัญว่ามันจะเป็นสิ่งมีชีวิตแบบไหน ในตอนที่มันโกรธมากๆ มันก็ต้องเผยจุดอ่อนของตัวเองออกมา แม้แต่สิ่งมีชีวิตขั้นทรูก็อตก็ไม่เว้น ในตอนที่มันถูกความโกรธเข้าครอบงำ มันจะไม่ระวังตัวอีกต่อไป ซึ่งจะทำให้หานเซิ่นฆ่ามันได้ง่ายขึ้น
วิธีการนี้อาจจะเป็นอะไรที่ชั่วร้าย แต่กฎของจักรวาลจีโนคือปลาใหญ่กินปลาเล็ก มีเพียงแค่คนที่แข็งแกร่งที่สุดเท่านั้นถึงจะอยู่รอด ถ้าหานเซิ่นไม่แข็งแกร่งพอ เขาก็คงจะต้องกลายเป็นอาหารของเจ้าปลาทองน้อย ในเรื่องของความอยู่รอดมันไม่สำคัญว่าวิธีการที่ใช้จัดการกับศัตรูนั้นจะเป็นวิธีการแบบไหน
ถึงแม้ปลาทองตัวใหญ่จะถูกความโกรธเข้าครอบงำ แต่มันไม่ได้บุ่มบ่ามเข้ามาหาหานเซิ่น มันแค่จ้องมองไปที่หานเซิ่นด้วยดวงตาที่เบิกกว้างและเกล็ดที่ตั้งตรง
ทันใดนั้นปลาทองตัวใหญ่ก็พ่นฟองสบู่ออกมาหลายฟอง ฟองสบู่ที่มันพ่นออกมานั้นแตกต่างไปจากครั้งก่อน ฟองสบู่นี้ไม่ได้บินเข้ามาหาหานเซิ่น พวกมันแค่ระเบิดตรงหน้าเขาแทน
ในตอนที่ฟองสบู่พวกนั้นแตก พวกมันก็สร้างโทนเสียงสูงและโทนเสียงต่ำที่แตกต่างกันออกไป หานเซิ่นรู้สึกแปลกใจเมื่อค้นพบว่าเสียงพวกนั้นไม่ใช่แค่เสียงแตกของฟองสบู่ธรรมดาๆ แต่มันเป็นภาษา
ปลาทองตัวใหญ่ดูเหมือนกับว่ามันต้องการจะพูดอะไรบางอย่าง ถึงแม้หานเซิ่นจะพอเข้าใจ แต่เขาไม่ได้เข้าใจทั้งหมด เขาไม่เข้าใจว่าเจ้าปลาทองตัวใหญ่พยายามจะบอกอะไรกับเขา
หานเซิ่นใช้ศาสตร์ตงเสวียนเพื่อมองเข้าไปในจิตใจของเจ้าปลาทองตัวใหญ่ ถึงแม้จิตใจของเจ้าปลาทองตัวใหญ่จะแข็งแกร่งมาก แต่หานเซิ่นก็ยังเข้าใจถึงสิ่งที่มันกำลังคิด
“ปล่อยลูกของข้าไป! ข้ายินดีจะมอบสมบัติให้กับเจ้าเพื่อแลกกับชีวิตของเขา…” หานเซิ่นรู้ว่านั่นคือสิ่งที่ปลาทองตัวใหญ่พยายามจะบอกกับเขา
หัวใจของหานเซิ่นเต้นรัว เขามองไปที่ปลาทองตัวใหญ่และถาม “สมบัติอะไร?”
หานเซิ่นไม่แน่ใจว่ามันเข้าใจคำพูดของเขาหรือเปล่า เพราะยังไงซะทุกสิ่งมีชีวิตก็มีภาษาของตัวเอง ภาษาสากลของจักรวาลนั้นถูกใช้โดยสิ่งมีชีวิตส่วนใหญ่ แต่ไม่ใช่ว่าทุกสิ่งมีชีวิตจะพูดได้
หานเซิ่นไม่ได้คาดคิดว่าปลาทองตัวใหญ่จะเข้าใจ แต่มันพ่นฟองสบู่ออกมาเพิ่ม เสียงในจิตใจของมันดังขึ้นกว่าเดิม
“สมบัติที่ใหญ่มากๆ…” หานเซิ่นสัมผัสถึงสิ่งที่ปลาทองตัวใหญ่พยายามจะบอกได้แค่นั้น มันยังไม่ชัดเจน
“สิ่งนั้นคืออะไร?” หานเซิ่นถาม ปลาทองตัวใหญ่คิดอย่างรวดเร็วและรีบร้อนเกินไป ซึ่งทำให้ศาสตร์ตงเสวียนของหานเซิ่นไม่สามารถอ่านจิตใจของมันได้ทั้งหมด เขายังไม่รู้ว่าสมบัติที่ปลาทองตัวใหญ่พูดถึงคืออะไร
หานเซิ่นหยุดขยับดาบโคลด์ไลท์ชั่วคราว และทำให้ความเจ็บปวดที่ปลาทองน้อยได้รับบรรเทาลงไป เมื่อเห็นว่าลูกของมันไม่ได้ดิ้นรนอย่างทุกข์ทรมานอีก เจ้าปลาทองตัวใหญ่ก็เริ่มใจเย็นลง
ถึงอย่างนั้นหานเซิ่นก็ยังไม่เข้าใจว่ามันพยายามจะบอกอะไร เขาอ่านได้แค่ความคิดที่แสดงออกมาอย่างชัดเจน ซึ่งก็คือเรื่องที่มันยินดีจะมอบสมบัติให้กับเขาเพื่อแลกกับชีวิตลูกของมัน แต่หานเซิ่นยังคงไม่รู้ว่ามันเป็นสมบัติแบบไหน
เป่าเอ๋อฟังอยู่สักพักหนึ่งและหันมาพูดกับหานเซิ่น “มันบอกว่าสมบัตินั่นทรงพลังมากๆ การมีสมบัตินั่นจะทำให้พ่อไม่ต้องกลัวใคร”
“หนูเข้าใจที่มันบอกอย่างนั้นหรอ?” หานเซิ่นดีใจ
“หนูพอจะเข้าใจนิดหน่อย” เป่าเอ๋อพูดพร้อมกับพยักหน้า
“เยี่ยมเลย! หนูช่วยพ่อถามมันได้ไหมว่าสมบัตินั้นใช้ทำอะไรได้และพ่อจะหามันได้จากที่ไหน?” หานเซิ่นพูด
ปลาทองตัวใหญ่ดูเหมือนจะเข้าใจสิ่งที่หานเซิ่นพูด หลังจากเจ้าปลาทองตัวใหญ่ได้ยินสิ่งที่เขาพูด มันก็พ่นฟองสบู่ออกมาเพิ่มเพื่อตอบกลับ
“มันบอกว่าสมบัตินั่นจะปกป้องชีวิตของพ่อและทรงพลังมากๆ ด้วยสมบัตินั่นพ่อจะเดินทางมาที่นี่ได้อย่างอิสระ”
เป่าเอ๋อหยุดไปชั่วครู่และสังเกตฟองสบู่อีกครั้ง หลังจากนั้นเธอก็พูดต่อ “มันบอกว่าสมบัตินั่นอยู่ในที่ที่ไกลออกไป แต่มันจะบอกวิธีการไปเอาสมบัตินั่นกับพ่อ”
“เจ้าไปเอาสมบัตินั่นมาให้กับข้า และข้าจะไว้ชีวิตลูกของเจ้า” หานเซิ่นพูดกับปลาทองตัวใหญ่
ปลาทองตัวใหญ่รีบพ่นฟองสบู่ออกมาอย่างรีบร้อน มันพ่นฟองสบู่อยู่นาน ราวกับว่ามันพยายามจะอธิบายอะไรบางอย่าง
เป่าเอ๋อมองดูมันอยู่สักพัก ในตอนที่ฟองสบู่แตกจนหมดแล้ว เธอก็พูดขึ้นว่า “มันบอกว่ามันไปเอาสมบัตินั่นไม่ได้ พวกเราต้องไปด้วยตัวเอง”
หานเซิ่นมองไปที่ปลาทองตัวใหญ่และถาม “นี่เจ้าพยายามจะหลอกพวกเราอย่างนั้นหรอ? ถ้ามันไม่มีอันตรายอะไร ทำไมเจ้าถึงไปเอามันมาให้พวกเราไม่ได้?”
ปลาทองตัวใหญ่พ่นฟองสบู่ออกมาเพิ่มอีก เป่าเอ๋อช่วยแปลให้หานเซิ่นฟัง
“มันบอกว่าสมบัตินั้นมีสิ่งมีชีวิตที่น่ากลัวคอยเฝ้าอยู่ ถ้ามันไปเอง สิ่งที่น่ากลัวนั่นจะเห็นมันจากระยะไกล และถ้ามันเข้าไปใกล้ มันก็จะถูกฆ่าตาย แต่ถ้าพวกเราไปเอง มันมีหนทางที่จะทำให้สิ่งที่น่ากลัวนั้นหาพวกเราไม่พบ แบบนั้นพวกเราจะเอาสมบัติมาได้”
“จริงอย่างนั้นหรอ?” หานเซิ่นมองไปที่ปลาทองตัวใหญ่ เขารู้สึกสงสัยเกี่ยวกับเรื่องทั้งหมดนี่ แต่หลังจากที่เขาคิดเกี่ยวกับมันดูดีๆ ด้วยสมองและสติปัญญาของปลาทองตัวใหญ่นี้ มันไม่น่าจะรู้จักวิธีการพูดโกหก
“พ่อ หนูคิดว่าปลาตัวนี้เชื่อถือได้ ดูสิพวกมันน่าสงสารจะตาย! พ่อปล่อยพวกมันไปเถอะ” เป่าเอ๋อขอร้อง
“ก็ได้ ถ้าเจ้าบอกข้ามาตามตรงว่าข้าจะไปเอาสมบัตินั่นได้ยังไง ข้าจะไว้ชีวิตลูกของเจ้า” หานเซิ่นพูดขณะที่มองไปที่ปลาทองตัวใหญ่
ปลาทองน้อยเป็นแค่ขั้นลาร์วา ยังไงซะมันก็ไม่มีประโยชน์อะไรกับหานเซิ่น และเขาก็ไม่คิดว่าจะจัดการกับปลาทองตัวใหญ่ตัวนี้ได้ มันถือเป็นเรื่องดีที่เขาจะรอดจากสถานการณ์นี้ไปและได้ข้อมูลเกี่ยวกับสมบัติแถมมาด้วย